ปล่อยจิตให้คิด ฟุ้งซ่านหรือปัญญา

กระทู้สนทนา
‪#‎ปล่อยจิตให้คิด‬ ‪#‎เกิดความฟุ้งซ่านหรือเกิดปัญญา‬
...ความคิดที่จิตมันคิดขึ้นมาเอง เป็นวิตก สติรู้พร้อม เป็นวิจาร เมื่อจิตมีวิตก วิจาร ปีติและความสุขย่อมเกิดขึ้น ไม่มีปัญหา ผลที่จะเกิดจากการตามรู้ความคิด ความคิดเป็นอารมณ์สิ่งรู้ของจิต เป็นสิ่งระลึกของสติ เมื่อสติสัมปชัญญะดีขึ้น เราจะรู้สึกว่า...
‪#‎ความคิด‬ ‪#‎เป็นอาหารของจิต‬
#ความคิด ‪#‎เป็นการบริหารจิต‬
#ความคิด ‪#‎เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียด‬
#ความคิด ‪#‎เป็นนิมิตหมายให้เรารู้ว่าอะไรเป็นเรื่องทุกข์‬ ‪#‎เป็นอนัตตา‬
แล้วความคิดนี่แหละมันจะมายั่วยุให้เราเกิดอารมณ์ดี อารมณ์เสีย เมื่อเรามองเห็นอารมณ์ดี อารมณ์เสีย มองเห็นอิฏฐารมณ์ อนิฏฐารมณ์ ที่ก่อเป็นตัวกิเลส ทีนี้เมื่อจิตมีอิฏฐารมณ์ อนิฏฐารมณ์ มันก็มีสุขบ้างทุกข์บ้าง คละกันไป ในที่สุดก็มองเห็นทุกขอริยสัจ
...ถ้าจิตมันเกิดทุกข์ขึ้นได้ สติรู้พร้อม มองเห็นทุกขอริยสัจ ถ้าจิตมีปัญญารู้สึก มันจะบอกว่า อ้อ ! นี่คือทุกขอริยสัจที่พระพุทธจ้าตรัสรู้ แล้วมันจะดูทุกข์กันต่อไป
สุข ทุกข์ ทั้งสองอย่างเกิดขึ้นสลับกันไป อันนี้คือกฎอริยสัจ แล้วในที่สุดจิตมีสติปัญญาดีขึ้น มันจะกำหนดหมายรู้ว่า นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ แล้วจะมองเห็นว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นดับไป เกิดขึ้นดับไป อยู่อย่างนั้น
ยํ กิญฺจิ สมุทย ธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธ ธมฺมนฺติ ท่านอัญญาโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรมว่า สิ่งใดเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นดับไปเป็นธรรมดา ... คือจุดนี้
คัดจาก : หนังสือฐานิยปูชา ๒๕๔๔
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
เพจ : หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่