เรื่องเกิดขึ้นจากการที่น้องได้ไปคบกับผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วได้มาบอกว่าโปรไฟล์ตัวเองคือ
💉พยาบาล💉 เงินเดือน 30000
ทางครอบครัวไม่ได้ติดใจอยู่แล้วถ้าน้องจะคบใครเพราะ ในอาชีพเขา
เราเองก็ไม่ได้มองว่ามันสำคัญขนาดจะต้องคัดคนมาเป็นสะไภ้
และทางครอบครัวก็พอมีฐานะปานกลางไม่คาดหวังตรงนี้
แต่อยู่ไปสักพักเริ่มมีอะไรแปลกๆให้เราได้สงสัย เช่น

เวลาไปหาน้อง ก็จะพากันออกไปข้างนอก ไม่ค่อยอยู่คุยด้วย
หน้าตาอมทุขตลอดเวลา ทางบ้านเราก็คุยแบบปกติมาก

โกหกว่าอายุ 22 เพราะตอนเจอกันครั้งแรกพาไปกินข้าวแล้วคุยกัน
แต่ที่รู้ว่าโกหกเพราะ ไปเจอสำเนาบัตร ปปช ซึ่งเกิด พศ 2539

ความสงสัยจึงมามากยิ่งขึ้น เรื่องเป็นพยาบาล เพราะนางอายุแค่ 20
เองเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นพยาบาล เลยค้นเข้าไปดูในเฟสบุ๊ค พบว่าได้เรียนแค่
ผู้ช่วยพยาบาลเดาว่าน่าจะเป็นหลักสูตร 1 ปี เท่านั้น

เห็นใบเงินเดือนแปลกๆวางอยู่ ซึ่งเงินเดือนแค่นี้ผู้ช่วยพยาบาลก็ไม่น่าจะใช่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตอนคบกับน้องชายเงินเดือนมีกันทั้งคู่ ไม่มีภาระ บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ
แต่เงินไม่พอใช้ โทรเอากับพี่ กับพ่อ ตลอด

น้องสุดท้องเรียนจบ ม.6 จะมาหางานทำ เรื่องนี้ไม่ผ่านเราก่อนนะ
ถ้าผ่านไม่เสียเงินแน่เพราะเรามีความสงสัยในตัวนางอยู่แล้วคือตอนพ่อมาหาน้องเรา
ก็เจอกันคือก็ธรรมดาปกติ ก็ฝากฝั่งว่าฝากน้องด้วยนะ พาไปหางานหน่อย
เราเองก็อยู่ได้ยิน ณ ตอนนั้นเราคิดแค่ว่าเด็กจบ ม6 ทำอะไรก็ได้ให้หาประสบการณ์ไปก่อน
ไม่คิดถึงเรื่องฝากงานอะไรเลย แต่นางไปเสนอว่าฝากงานได้เราไม่รู้ พ่อเองก็จะอุ่นใจถ้าฝากได้จริง
น้องก็จะได้มีงานทำแบบสบายหน่อยไม่เหนื่อย ด้วยความคิดของคนเป็นพ่อะนะ ก็เลยจ่ายไป

นางบอกว่านางรู้จักคนในโรงพยาบาล
นางสามารถฝากงานให้ได้ แล้วนางก็ให้น้องโทรไปเอาเงินกับพ่อ และมีค่าใช้จ่ายดังนี้
-งานตำแหน่งประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล
-ค่าฝากงาน 5000
-ค้าประกันและตัดชุด 3000
ณ บัดนี้ก็ยังไม่เห็นชุด

นางนัดว่าวันที่ 25 คนจะออก และได้ทำงานวันที่ 28 พฤษภา แต่.....เงียบไม่ได้ทำ
สอบถามความจริงพบว่าน้องเราไม่รับโทรศัพท์เขา และทางน้องสะไภ้ก็บอกโทรมาบอกเด็กข้างบ้านให้มาบอกแล้ว
แต่น้องเราก็บอกไม่เห็นมีใครมาบอก สรุปครั้งนี้ผิดที่น้องเรา ในขณะนี้เราสงสัยกันหนักขึ้นไปอีก
แล้วนางก็บอกว่างั้นรอ 28 มิถุนานะ วันที่ 25 จะมีคนออกเหมือนเคย

ในระหว่างการรอทำงานนั้นมันก็มีเวลาเกือบเดือนที่จะว่างๆ และทางเราเองก็ดูจะสงสัยและ
นางก็เหมือนจะรู้ตัว นางก็เลยบอกว่าระหว่างรอให้ไปทำงานที่ห้องไต ฟอกไต (เราก็ไม่รู้ดีเทลมากนะว่าทำไรบ้าง)
ทำงานนี้รอไปก่อน ไม่มีการเขียนใบสมัคร ไม่มีการยื่นเอกสาร งานเหมือนเป็ฯรายวัน ทำเท่าไรได้เท่านั้น
และบอกว่าเงินออกทุกวันที่ 5 โดยการโอนเข้าบัญชี แต่.....เค้าไม่ได้เอาเอกสารไปเลยสักอย่างแม้แต่
หน้าบัญชี .... และยังจะมีหัวหน้างานที่รับทำบอกว่าถ้าทำไม่ครบเดือนจะไม่ได้ตังนะ(บอกน้องมาแบบนี้)
น้องเลยคิดว่าไม่ได้ตังก็ไม่ทำหรอก เพราะว่าถ้าทำรองาน ระยะเวลาในการทำมันไม่ถึงเดือนอยู่แล้ว
น้องเลยไม่ไปทำ

จนกระทั้งมาถึงวันที่นัดหมายทุกอย่างเงียบ ก็เลยถามไปน้องสะไภ้อีกทีว่าเกิดอะไรขึ้น
เหตุการณ์เหมือนเดิมคือ น้องเราไม่รับโทรศัพท์อีกเหมือนเดิม แต่ทางน้องสะไภ้เราตามเรื่องให้แล้ว
แล้วนางก็บอกว่านางต้องโดนพักงานหนึ่งเดือนเพราะเรื่องฝากน้อง หัวหน้าบอกว่านางเรื่องมาก
เรื่องฝากงานน้องไปเคลียร์กันให้รู้เรื่องเลยให้เวลา 1 เดือน (มันคือเหตุอันสมควรมั้ย?????????)

แล้วเราก็คุยกันกับน้องสะไภ้น้องสะไภ้พูดจาวกวนมาก และบอกว่าเค้าเรียกแล้วๆๆๆๆๆๆๆ
ซ้ำๆกัน แต่เค้าที่ว่าน่ะใครไม่มีคำตอบ แล้วก็บอกว่าเค้าเรียกตั้งนานแล้วแต่น้องไม่ไป น้องบอกน้องเหนื่อย
น้องไม่ทำแล้ว เอาก็อุตส่าโทรมาเรียกไปทำงานต่อน้องก็ไม่ไปทำ
แต่ที่พูดมานี่เราย้ำเลยว่าตำแหน่งประชาสัมพันธ์หรอ? นางบอกใช่..!!!
เราเลยพูดว่ามันจะใช่ตำแหน่งประชาสัมพันธ์ได้ไง ในเมื่อเรียกไปทำต่อ เพราะน้องมันยังไม่เคยทำตำแหน่ง
ประชาสัมพันธ์เลย นางก็อึงไปสักพัก แล้วต่อขึ้นมาว่า เขาเรียกแล้วพี่เสียดังๆมั่นๆ

สิ่งที่ได้จากการถามทั้งน้องเรา และน้องสะไภ้ คำตอบไม่ตรงกัน เลยจะนัดคุยกันต่อหน้า
(เราคาดว่าน้องสะไภ้อาจจะไม่มา)
มันมีรายละเอียดอีกเยอะมาก แต่นางพยายามแถแล้ว และไม่อยู่บ้านเลย ถ้าเราไปนางก็จะออกไม่ค่อยอยู่ด้วย
เราเลยมีคำถามว่า

เราจะเอาผิดเขาอย่างไรได้บ้างที่มาโกหกเอาเงินไปแบบนี้ แอบอ้างเป็นพยาบาล???????
อาจจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรนะ แต่เจ็บใจที่สุด อยากเอาให้จนมุม

กรณีฝากงานเขาแอบอ้างฝ่ายบุคคล อย่างนี้จะทำอะไรได้บ้าง???????

ที่เจ็บใจที่สุดคือ โทรไปเอาเงินจากพ่อ หลอกพ่อ เรื่องฝากงาน หลอกพ่อเรื่องหน้าที่การงานใันเสียความรู้สึก
บ้านเราเองก็มีสะไภ้ที่ไม่รวย เรียนน้อย แต่พ่อแม่เขาก็รักดี อยู่ด้วยกัน ให้ที่ทางทำกิน เลี้ยงหลานให้
บ้านนี้ไม่ได้เลือกสะไภ้เลยแต่ทำไมต้องมาหลอกกัน เจ็บใจตรงนี้

แล้วจะบอกว่าคนนี้ถ้าไม่มีหลักฐานแถไปทั่ว แถทั้งๆที่รู้ว่ามันตันแล้วก็ยังจะแถ ถ้าสารภาพมาก็ยังนับถือ
ในความสำนึกผิด แต่นี่ไม่สำนึกผิด แล้วก็มาโยนความผิดให้ฝั่งเราทุกครั้งที่มีเรื่อง
เจอคนหลอกลวงว่าเป็น 💉พยาบาล💉 เราควรเอาผิดทางกฎหมายอย่างไรได้บ้าง??
💉พยาบาล💉 เงินเดือน 30000
ทางครอบครัวไม่ได้ติดใจอยู่แล้วถ้าน้องจะคบใครเพราะ ในอาชีพเขา
เราเองก็ไม่ได้มองว่ามันสำคัญขนาดจะต้องคัดคนมาเป็นสะไภ้
และทางครอบครัวก็พอมีฐานะปานกลางไม่คาดหวังตรงนี้
แต่อยู่ไปสักพักเริ่มมีอะไรแปลกๆให้เราได้สงสัย เช่น
หน้าตาอมทุขตลอดเวลา ทางบ้านเราก็คุยแบบปกติมาก
แต่ที่รู้ว่าโกหกเพราะ ไปเจอสำเนาบัตร ปปช ซึ่งเกิด พศ 2539
เองเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นพยาบาล เลยค้นเข้าไปดูในเฟสบุ๊ค พบว่าได้เรียนแค่
ผู้ช่วยพยาบาลเดาว่าน่าจะเป็นหลักสูตร 1 ปี เท่านั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่เงินไม่พอใช้ โทรเอากับพี่ กับพ่อ ตลอด
ถ้าผ่านไม่เสียเงินแน่เพราะเรามีความสงสัยในตัวนางอยู่แล้วคือตอนพ่อมาหาน้องเรา
ก็เจอกันคือก็ธรรมดาปกติ ก็ฝากฝั่งว่าฝากน้องด้วยนะ พาไปหางานหน่อย
เราเองก็อยู่ได้ยิน ณ ตอนนั้นเราคิดแค่ว่าเด็กจบ ม6 ทำอะไรก็ได้ให้หาประสบการณ์ไปก่อน
ไม่คิดถึงเรื่องฝากงานอะไรเลย แต่นางไปเสนอว่าฝากงานได้เราไม่รู้ พ่อเองก็จะอุ่นใจถ้าฝากได้จริง
น้องก็จะได้มีงานทำแบบสบายหน่อยไม่เหนื่อย ด้วยความคิดของคนเป็นพ่อะนะ ก็เลยจ่ายไป
นางสามารถฝากงานให้ได้ แล้วนางก็ให้น้องโทรไปเอาเงินกับพ่อ และมีค่าใช้จ่ายดังนี้
-งานตำแหน่งประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล
-ค่าฝากงาน 5000
-ค้าประกันและตัดชุด 3000
ณ บัดนี้ก็ยังไม่เห็นชุด
สอบถามความจริงพบว่าน้องเราไม่รับโทรศัพท์เขา และทางน้องสะไภ้ก็บอกโทรมาบอกเด็กข้างบ้านให้มาบอกแล้ว
แต่น้องเราก็บอกไม่เห็นมีใครมาบอก สรุปครั้งนี้ผิดที่น้องเรา ในขณะนี้เราสงสัยกันหนักขึ้นไปอีก
แล้วนางก็บอกว่างั้นรอ 28 มิถุนานะ วันที่ 25 จะมีคนออกเหมือนเคย
นางก็เหมือนจะรู้ตัว นางก็เลยบอกว่าระหว่างรอให้ไปทำงานที่ห้องไต ฟอกไต (เราก็ไม่รู้ดีเทลมากนะว่าทำไรบ้าง)
ทำงานนี้รอไปก่อน ไม่มีการเขียนใบสมัคร ไม่มีการยื่นเอกสาร งานเหมือนเป็ฯรายวัน ทำเท่าไรได้เท่านั้น
และบอกว่าเงินออกทุกวันที่ 5 โดยการโอนเข้าบัญชี แต่.....เค้าไม่ได้เอาเอกสารไปเลยสักอย่างแม้แต่
หน้าบัญชี .... และยังจะมีหัวหน้างานที่รับทำบอกว่าถ้าทำไม่ครบเดือนจะไม่ได้ตังนะ(บอกน้องมาแบบนี้)
น้องเลยคิดว่าไม่ได้ตังก็ไม่ทำหรอก เพราะว่าถ้าทำรองาน ระยะเวลาในการทำมันไม่ถึงเดือนอยู่แล้ว
น้องเลยไม่ไปทำ
เหตุการณ์เหมือนเดิมคือ น้องเราไม่รับโทรศัพท์อีกเหมือนเดิม แต่ทางน้องสะไภ้เราตามเรื่องให้แล้ว
แล้วนางก็บอกว่านางต้องโดนพักงานหนึ่งเดือนเพราะเรื่องฝากน้อง หัวหน้าบอกว่านางเรื่องมาก
เรื่องฝากงานน้องไปเคลียร์กันให้รู้เรื่องเลยให้เวลา 1 เดือน (มันคือเหตุอันสมควรมั้ย?????????)
ซ้ำๆกัน แต่เค้าที่ว่าน่ะใครไม่มีคำตอบ แล้วก็บอกว่าเค้าเรียกตั้งนานแล้วแต่น้องไม่ไป น้องบอกน้องเหนื่อย
น้องไม่ทำแล้ว เอาก็อุตส่าโทรมาเรียกไปทำงานต่อน้องก็ไม่ไปทำ
แต่ที่พูดมานี่เราย้ำเลยว่าตำแหน่งประชาสัมพันธ์หรอ? นางบอกใช่..!!!
เราเลยพูดว่ามันจะใช่ตำแหน่งประชาสัมพันธ์ได้ไง ในเมื่อเรียกไปทำต่อ เพราะน้องมันยังไม่เคยทำตำแหน่ง
ประชาสัมพันธ์เลย นางก็อึงไปสักพัก แล้วต่อขึ้นมาว่า เขาเรียกแล้วพี่เสียดังๆมั่นๆ
(เราคาดว่าน้องสะไภ้อาจจะไม่มา)
มันมีรายละเอียดอีกเยอะมาก แต่นางพยายามแถแล้ว และไม่อยู่บ้านเลย ถ้าเราไปนางก็จะออกไม่ค่อยอยู่ด้วย
เราเลยมีคำถามว่า
อาจจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรนะ แต่เจ็บใจที่สุด อยากเอาให้จนมุม
บ้านเราเองก็มีสะไภ้ที่ไม่รวย เรียนน้อย แต่พ่อแม่เขาก็รักดี อยู่ด้วยกัน ให้ที่ทางทำกิน เลี้ยงหลานให้
บ้านนี้ไม่ได้เลือกสะไภ้เลยแต่ทำไมต้องมาหลอกกัน เจ็บใจตรงนี้
ในความสำนึกผิด แต่นี่ไม่สำนึกผิด แล้วก็มาโยนความผิดให้ฝั่งเราทุกครั้งที่มีเรื่อง