คำเตือน!!! ก่อนรับชมกระทู้นี้ โปรดตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของท่านได้เชื่อมต่อ WiFi แล้ว 
ณ หมู่บ้านเก่าแก่สุดทิศตะวันตกของเขตแดนสยามของจังหวัดที่แปลชื่อได้ว่า"เมืองแห่งทองคำ"
กาลครั้งหนึ่ง...เมื่อหลายสิบปีก่อน...ช่วงเวลาที่การทำเหมืองแร่ในพื้นที่นี้ก้าวไปถึงจุดรุ่งเรืองถึงขีดสุด เคยมีเหมืองแร่กว่า 40 เหมือง ยุคนั้นในหมู่บ้านเคยมีโรงภาพยนตร์ถึงสองโรง กับชุมชนที่เคยมีผู้อยู่อาศัยกว่าพันหลังคาเรือน จากความรุ่งเรืองนั้นจึงถูกขนานนามว่า "หมู่บ้านณัตเอ็งต่อง" หมายความถึง "บ้านเทพเจ้าแห่งขุนเขา" เมื่อกาลเวลาผ่านไปคำนี้จึงเพี้ยนมาเป็น "หมู่บ้านอีต่อง"ในปัจจุบัน
หมู่บ้านที่เคยมีเหมืองที่เรื่องเล่าว่าเคยเกิดการสู้รบขึ้นและมีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ด้วยบรรยากาศแห่งความตายในเวลานั้น จึงมีอีกสมญาว่า"เหมืองผีหลอก" ที่เมื่อผ่านหลายสิบปีไปก็เพี้ยนเป็นชื่อที่ได้ยินกันในตอนนี้
หมู่บ้านที่มียอดเขาที่เป็นที่หมายปองของนักท่องเที่ยวเชิงนิยมไพร กับเสียงลือเลื่องของสันเขาที่ว่ากันว่าหากพลาดพลั้งแล้ว..."ขวาตาย ซ้ายไม่รอด"
หมู่บ้านที่มีฐานปฏิบัติการณ์ของตำรวจตระเวณชายแดน ซึ่งอยู่บนเนินสูงที่มีจุดชมวิวภูเขาที่ว่ากันว่าในวันที่อากาศดีๆนั้น สามารถมองเห็นไปได้ไกลถึงทะเลอันดามัน
หมู่บ้านที่ว่ากันว่า แม้จะอยู่ท่ามกลางขุนเขา แต่คุณก็สามารถหาซื้อปูทะเลและกุ้งทะเลสดๆจากทะเลอันดามันมาลิ้มลองได้
หมู่บ้านที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาแห่งนี้ ว่ากันว่ามีอากาศเย็นสบายตลอดปี....
ฯลฯ
หลายตำนานด้านบนที่กล่าวขาน ทำให้ผมดั้นด้นไปเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ หากไม่นับรวมครั้งที่เขียนกระทู้นี้ ก็ผ่านไปสามคราแล้ว
การกลับไปเยือนในวาระที่สี่นี้ เต็มไปด้วยความคิดถึงบรรยากาศเย็นสบายท่ามกลางไอเมฆหมอกของฤดูฝน ด้วยความเชื่ออย่างแรงกล้าในจิตใจว่าไปกี่ทีกี่หนก็ไม่เคยเบื่อหน่าย
คิดถึงนะ คิดถึงมากๆเลย ทำอย่างไรดีถึงจะหายคิดถึง....เอาแบบนี้สิ ไปหา"เขา"ด้วยกันไง จะได้หายคิดถึง
[RIDE NOW]คิดถึง"เขา".....ก็ไปหา"เขา"
[SR] [RIDE NOW] คิดถึง"เขา"...ก็ไปหา"เขา" @บ้านอีต่อง by GPX RACING
กาลครั้งหนึ่ง...เมื่อหลายสิบปีก่อน...ช่วงเวลาที่การทำเหมืองแร่ในพื้นที่นี้ก้าวไปถึงจุดรุ่งเรืองถึงขีดสุด เคยมีเหมืองแร่กว่า 40 เหมือง ยุคนั้นในหมู่บ้านเคยมีโรงภาพยนตร์ถึงสองโรง กับชุมชนที่เคยมีผู้อยู่อาศัยกว่าพันหลังคาเรือน จากความรุ่งเรืองนั้นจึงถูกขนานนามว่า "หมู่บ้านณัตเอ็งต่อง" หมายความถึง "บ้านเทพเจ้าแห่งขุนเขา" เมื่อกาลเวลาผ่านไปคำนี้จึงเพี้ยนมาเป็น "หมู่บ้านอีต่อง"ในปัจจุบัน
หมู่บ้านที่เคยมีเหมืองที่เรื่องเล่าว่าเคยเกิดการสู้รบขึ้นและมีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ด้วยบรรยากาศแห่งความตายในเวลานั้น จึงมีอีกสมญาว่า"เหมืองผีหลอก" ที่เมื่อผ่านหลายสิบปีไปก็เพี้ยนเป็นชื่อที่ได้ยินกันในตอนนี้
หมู่บ้านที่มียอดเขาที่เป็นที่หมายปองของนักท่องเที่ยวเชิงนิยมไพร กับเสียงลือเลื่องของสันเขาที่ว่ากันว่าหากพลาดพลั้งแล้ว..."ขวาตาย ซ้ายไม่รอด"
หมู่บ้านที่มีฐานปฏิบัติการณ์ของตำรวจตระเวณชายแดน ซึ่งอยู่บนเนินสูงที่มีจุดชมวิวภูเขาที่ว่ากันว่าในวันที่อากาศดีๆนั้น สามารถมองเห็นไปได้ไกลถึงทะเลอันดามัน
การกลับไปเยือนในวาระที่สี่นี้ เต็มไปด้วยความคิดถึงบรรยากาศเย็นสบายท่ามกลางไอเมฆหมอกของฤดูฝน ด้วยความเชื่ออย่างแรงกล้าในจิตใจว่าไปกี่ทีกี่หนก็ไม่เคยเบื่อหน่าย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น