จากตรงนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่คุณสุเทพพูดว่า ที่ กปปส.ออกมาชุมนุมต่อสู้เพื่อรักษาบ้านเมือง เนื่องจากการเมืองสร้างปัญหาให้กับประเทศนั้น คุณสุเทพตกไปคำหนึ่งจริงๆนะครับ คำนั้นก็คือคำว่า “พรรค”ไงครับ ถ้าเพียงแต่มีเพิ่มคำนี้เข้าไปอีกเพียงคำเดียว ก็จะกระจ่างชัดเจนในทุกเรื่องเลยครับ
ลองดูนะครับคุณสุเทพ “เนื่องจากพรรคการเมืองสร้างปัญหาให้กับประเทศ” มันก็จะให้คำตอบที่ชัดเจนอย่างไร
การปกครองที่ไม่ราบรื่น ก็เพราะมีพรรคการเมืองที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งแล้วไม่ยอมรับ และแทนที่จะไปสู้กันในรัฐสภา กับพามวลชนมาสู่ท้องถนน นี่คือต้นเหตุแห่งปัญหาหนึ่งล่ะ
รัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ ก็เพราะมีพรรคการเมืองหนึ่งที่อยากเป็นรัฐบาลจนตัวสั่น ถึงกับร่วมมือกับฝ่ายลากตั้ง ต่อต้านทุกการทำงาน ขัดขวางทุกนโยบาย และยังอาศัยอำนาจที่รัฐธรรมนูญมอบให้ ทำการระงับยับยั้งทุกเรื่องที่รัฐบาลอยากทำ ตัวอย่างก็เห็นกันชัดเจนอย่างรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่ต้องรอถนนดินลูกรังหมดประเทศก่อนไงครับ ปัญหาสองล่ะ
นักการเมืองไม่นับถือกฎเกณฑ์กติกาบ้านเมือง อันนี้ก็ชัดเจนครับ ถ้าเพียงแต่ไปตามระบบที่ควรเป็น ไม่มีพรรคการเมืองหน้ามืด อยากเป็นรัฐบาลถึงกับไปฉกเสียงจากฝั่งตรงข้าม ทำกันขนาดไปฟอร์มรัฐบาลในค่ายทหาร จนทำให้เกิดการต่อต้าน จนนำไปสู่การสูญเสียคนไทยร่วมร้อย บาดเจ็บอีกเกือบสองพัน กลายเป็นบาดแผลที่ติดตรึงอยู่ในใจของคนส่วนใหญ่ จนกลายเป็นความแตกแยกที่ไม่รู้จะผสานกันได้เมื่อไหร่ ปัญหาสามแล้วนะ
เหตุการณ์มาถึงขั้นนี้ นักการเมืองที่ขาดสำนึกรับผิดชอบต่อประชาชน ซึ่งอาจกลัวคดีร้ายแรงที่ต้องประสบในวันหน้า จึงต้องกระทำความผิดซ้ำเข้าไปอีก ไม่ต้องห่วงกันแล้วเรื่องกฎเกณฑ์ ไม่ต้องกังวลแล้วเรื่องกติกาบ้านเมือง จึงมีการปิดกรุงเทพ จับชาวบ้านเป็นตัวประกัน เพื่อบรรลุจุดประสงค์ทางการเมือง
และที่หนักข้อที่สุดในเรื่องการไม่นับถือกฎเกณฑ์กติกาบ้านเมืองนั่นคือ การขัดขวางการเลือกตั้ง เพื่อให้การเมืองวิกฤติจนนำมาสู่การยึดอำนาจ นี่ต่างหากที่เป็นการใช้อำนาจฝ่าฝืนระบบนิติธรรม นิติรัฐที่คุณสุเทพพูดถึง จากวิกฤติทางการเมืองกลายเป็นวิกฤติของประเทศไปเสียฉิบ ปัญหาหนักอึ้งเลยครับ
ส่วนประเด็นเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง ผมได้ยินมาบ่อยมาก เหมือนพรรคหนึ่งชนะเพราะซื้อเสียง แต่ความจริงที่ผมเห็น พรรคการเมืองที่เจอข้อหาซื้อเสียง กลับเป็นพรรคที่ชี้นิ้วด่าพรรคอื่น ที่ผมเห็นกลับเป็นสมาชิกของพรรคคุณสุเทพ ก็คุณอลงกรณ์ไงครับ ออกมายอมรับพรรคตัวเองใช้เงินมากกว่าพรรคตรงข้าม
และข้อสำคัญ หลักฐานที่คุณสุเทพเคยบอกว่า มีเงินหมื่นล้านส่งมาทางสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นท่อน้ำเลี้ยงนั้น จนป่านนี้หลักฐานดังกล่าวก็ยังไม่เคยปรากฏให้สาธารณะชนได้เห็น ตกลงแล้วมันมีหรือเปล่าครับ หรือเป็นแค่การกุเรื่องขึ้นมาหวังใส่ร้ายกันแน่ครับคุณสุเทพ ถ้าเป็นเพียงการใส่ร้าย แล้วเรื่องอื่นล่ะครับ จะเชื่อได้แค่ไหนกันครับ
เห็นหรือยังครับคุณสุเทพ ทุกประเด็น ทุกปัญหาที่คุณสุเทพยกมานั้น ล้วนมีคำตอบทั้งสิ้น มันมีความชัดเจนในตัว แค่เพิ่มคำว่า “พรรค”เข้าไปเท่านั้นเอง
สุดท้ายที่ขอเพิ่มเติมสักนิดนะครับ พรรคการเมืองที่ไม่ยอมเป็นของประชาชน ไม่ทำเพื่อประชาชนและไม่ศรัทธาอำนาจประชาชน หวังพึ่งแต่อำนาจนอกระบบ เมื่อหมดคุณค่า มันก็กลายเป็นสุนัขหัวเน่า เข้าตำรา “ทำนาให้นก” เอวังก็ด้วยประการฉะนี้แล 55555
คุณสุเทพครับ ผมคิดว่า คุณสุเทพพูดตกไปคำหนึ่งครับ-------------------ทวดเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่คุณสุเทพพูดว่า ที่ กปปส.ออกมาชุมนุมต่อสู้เพื่อรักษาบ้านเมือง เนื่องจากการเมืองสร้างปัญหาให้กับประเทศนั้น คุณสุเทพตกไปคำหนึ่งจริงๆนะครับ คำนั้นก็คือคำว่า “พรรค”ไงครับ ถ้าเพียงแต่มีเพิ่มคำนี้เข้าไปอีกเพียงคำเดียว ก็จะกระจ่างชัดเจนในทุกเรื่องเลยครับ
ลองดูนะครับคุณสุเทพ “เนื่องจากพรรคการเมืองสร้างปัญหาให้กับประเทศ” มันก็จะให้คำตอบที่ชัดเจนอย่างไร
การปกครองที่ไม่ราบรื่น ก็เพราะมีพรรคการเมืองที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งแล้วไม่ยอมรับ และแทนที่จะไปสู้กันในรัฐสภา กับพามวลชนมาสู่ท้องถนน นี่คือต้นเหตุแห่งปัญหาหนึ่งล่ะ
รัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ ก็เพราะมีพรรคการเมืองหนึ่งที่อยากเป็นรัฐบาลจนตัวสั่น ถึงกับร่วมมือกับฝ่ายลากตั้ง ต่อต้านทุกการทำงาน ขัดขวางทุกนโยบาย และยังอาศัยอำนาจที่รัฐธรรมนูญมอบให้ ทำการระงับยับยั้งทุกเรื่องที่รัฐบาลอยากทำ ตัวอย่างก็เห็นกันชัดเจนอย่างรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่ต้องรอถนนดินลูกรังหมดประเทศก่อนไงครับ ปัญหาสองล่ะ
นักการเมืองไม่นับถือกฎเกณฑ์กติกาบ้านเมือง อันนี้ก็ชัดเจนครับ ถ้าเพียงแต่ไปตามระบบที่ควรเป็น ไม่มีพรรคการเมืองหน้ามืด อยากเป็นรัฐบาลถึงกับไปฉกเสียงจากฝั่งตรงข้าม ทำกันขนาดไปฟอร์มรัฐบาลในค่ายทหาร จนทำให้เกิดการต่อต้าน จนนำไปสู่การสูญเสียคนไทยร่วมร้อย บาดเจ็บอีกเกือบสองพัน กลายเป็นบาดแผลที่ติดตรึงอยู่ในใจของคนส่วนใหญ่ จนกลายเป็นความแตกแยกที่ไม่รู้จะผสานกันได้เมื่อไหร่ ปัญหาสามแล้วนะ
เหตุการณ์มาถึงขั้นนี้ นักการเมืองที่ขาดสำนึกรับผิดชอบต่อประชาชน ซึ่งอาจกลัวคดีร้ายแรงที่ต้องประสบในวันหน้า จึงต้องกระทำความผิดซ้ำเข้าไปอีก ไม่ต้องห่วงกันแล้วเรื่องกฎเกณฑ์ ไม่ต้องกังวลแล้วเรื่องกติกาบ้านเมือง จึงมีการปิดกรุงเทพ จับชาวบ้านเป็นตัวประกัน เพื่อบรรลุจุดประสงค์ทางการเมือง
และที่หนักข้อที่สุดในเรื่องการไม่นับถือกฎเกณฑ์กติกาบ้านเมืองนั่นคือ การขัดขวางการเลือกตั้ง เพื่อให้การเมืองวิกฤติจนนำมาสู่การยึดอำนาจ นี่ต่างหากที่เป็นการใช้อำนาจฝ่าฝืนระบบนิติธรรม นิติรัฐที่คุณสุเทพพูดถึง จากวิกฤติทางการเมืองกลายเป็นวิกฤติของประเทศไปเสียฉิบ ปัญหาหนักอึ้งเลยครับ
ส่วนประเด็นเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง ผมได้ยินมาบ่อยมาก เหมือนพรรคหนึ่งชนะเพราะซื้อเสียง แต่ความจริงที่ผมเห็น พรรคการเมืองที่เจอข้อหาซื้อเสียง กลับเป็นพรรคที่ชี้นิ้วด่าพรรคอื่น ที่ผมเห็นกลับเป็นสมาชิกของพรรคคุณสุเทพ ก็คุณอลงกรณ์ไงครับ ออกมายอมรับพรรคตัวเองใช้เงินมากกว่าพรรคตรงข้าม
และข้อสำคัญ หลักฐานที่คุณสุเทพเคยบอกว่า มีเงินหมื่นล้านส่งมาทางสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นท่อน้ำเลี้ยงนั้น จนป่านนี้หลักฐานดังกล่าวก็ยังไม่เคยปรากฏให้สาธารณะชนได้เห็น ตกลงแล้วมันมีหรือเปล่าครับ หรือเป็นแค่การกุเรื่องขึ้นมาหวังใส่ร้ายกันแน่ครับคุณสุเทพ ถ้าเป็นเพียงการใส่ร้าย แล้วเรื่องอื่นล่ะครับ จะเชื่อได้แค่ไหนกันครับ
เห็นหรือยังครับคุณสุเทพ ทุกประเด็น ทุกปัญหาที่คุณสุเทพยกมานั้น ล้วนมีคำตอบทั้งสิ้น มันมีความชัดเจนในตัว แค่เพิ่มคำว่า “พรรค”เข้าไปเท่านั้นเอง
สุดท้ายที่ขอเพิ่มเติมสักนิดนะครับ พรรคการเมืองที่ไม่ยอมเป็นของประชาชน ไม่ทำเพื่อประชาชนและไม่ศรัทธาอำนาจประชาชน หวังพึ่งแต่อำนาจนอกระบบ เมื่อหมดคุณค่า มันก็กลายเป็นสุนัขหัวเน่า เข้าตำรา “ทำนาให้นก” เอวังก็ด้วยประการฉะนี้แล 55555