บทที่ ๙
"อันวาร์ นั่นคุณหรือเปล่าคะ อันวาร์"
"......................"
ใครบางคนยืนถือโทรศัพท์ค้าง เสียงสั่นๆจากปลายสายนั้น มันอ่อน มันหวาน มันพร่าสั่นและมันบอกว่าใครคนนั้นกำลังหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย
อันวาร์... เรียกหาอันวาร์งั้นหรือ
คิ้วเข้มขมวดมุ่น สับสนกับเสียงภาษาอังกฤษที่สั่น หากก็หวานจนใจไหววูบ นึกอยากเห็นหน้า แต่ว่ายังไม่ทันจะตัดสินใจทำอย่างไรต่อไป ร่างสูงของใครอีกคนก็เปิดประตูกระจกก้าวพรวดเข้ามา
" Sir....."
โทรศัพท์ยังค้างอยู่ในมือเมื่อเจ้าตัวหันไปทางคนสนิทที่ท่าทางคงจะวิ่งหน้าตั้งมาจากข้างล่างแน่ๆ ก็เพิ่งจะขึ้นมาส่งเขาตามหน้าที่และเดินกลับลงไปได้ไม่กี่นาทีเองนี่นะ
คิ้วเข้มเลิกขึ้นน้อยๆ มือที่ถือโทรศัพท์ส่ายไปทางห้องเจ้าปัญหานั้น
" ขออภัยครับ ยามข้างล่างบอกว่าวันนี้มีแขกเข้าพักครับ "
" แขก?"
เจ้าของคิ้วเข้มมีนัยน์ตาขุ่นคลั่กทันควัน ก่อนจะเผลอวางโทรศัพท์ลงด้วยความหงุดหงิด
" ฉันเพิ่งรู้ ว่าห้องชุดนี้ อนุญาตให้คนนอกเข้าพักได้ด้วย "
คนตาขุ่นหงุดหงิดจัด ก็ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย และเรือนรับรองนี้นับได้ว่าเป็นเขตหวงห้าม เป็นที่ส่วนตัวที่มีไว้สำหรับผู้บริหารระดับสูงเข้าพักเท่านั้น แต่ไหนแต่ไร แขกสำคัญแค่ไหนก็ต้องไปเปิดโรงแรมในเมืองนอนทั้งนั้น จะเอาหรูหราแค่ไหนก็เปิดให้นอนไปสิ
หนุ่มผิวคล้ำหน้าตาคมคายยืนกระสับกระส่าย หากก็จำใจตอบ " ขอออภัยครับท่าน เป็นความผิดพลาดของผมเอง "
" นายทำอะไรผิดงั้นหรือ อาซิส "
ทำอะไรผิดงั้นหรือ อยากจะถอนใจสักเฮือกใหญ่ ซวยจริงหนออาซิส ใครจะไปคิดว่าเรือนรับรองบนดาดฟ้านี้ อยู่ดีๆจะมีคนอื่นเข้ามาพัก แถมเป็นผู้หญิงเสียด้วย ยังนึกถึงเมื่อชั่วครู่ ที่เจ้านายคนที่กำลังยืนหน้าบอกบุญไม่รับตอนนี้ ที่เมื่อสักครู่เจ้าประคุณพอลงจากรถได้ก็เดินลิ่วราวกับพายุขึ้นตึกมา ไอ้พวกข้างล่างตอนนี้คงหนาวๆร้อนๆ เพราะวิ่งมาบอกเขาไม่ทัน
" ก่อนหน้านี้ ผมได้เช็คแล้วว่าท่านไคเซอร์ และท่านชาห์จะฮานห์ อยู่ธากาครับ ไม่คิดว่า..."
" ใคร " คนตาขุ่นตวัดเสียงถาม
" แขกของท่านชาห์จะฮานห์ครับ อันวาร์เป็นคนดูแลเธอ"
" โทรหาอันวาร์ บอกให้โทรคุยกับคนในนั้น เขาจะได้ไม่ตกใจมากนัก"
" ครับ" อาซิสรับคำแล้วจัดการตามคำสั่งนั้นทันที ทิ้งให้คนสั่งยืนนิ่งหน้าบึ้งรอเพื่อสั่งการในขั้นต่อไป
" โทรไปเปิดโรงแรม แล้วเรียกคนขับรถมา"
"ครับผม"
...................
..... บังกลา ล่าหัวใจ .....(บทที่ ๙ )
"อันวาร์ นั่นคุณหรือเปล่าคะ อันวาร์"
"......................"
ใครบางคนยืนถือโทรศัพท์ค้าง เสียงสั่นๆจากปลายสายนั้น มันอ่อน มันหวาน มันพร่าสั่นและมันบอกว่าใครคนนั้นกำลังหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย
อันวาร์... เรียกหาอันวาร์งั้นหรือ
คิ้วเข้มขมวดมุ่น สับสนกับเสียงภาษาอังกฤษที่สั่น หากก็หวานจนใจไหววูบ นึกอยากเห็นหน้า แต่ว่ายังไม่ทันจะตัดสินใจทำอย่างไรต่อไป ร่างสูงของใครอีกคนก็เปิดประตูกระจกก้าวพรวดเข้ามา
" Sir....."
โทรศัพท์ยังค้างอยู่ในมือเมื่อเจ้าตัวหันไปทางคนสนิทที่ท่าทางคงจะวิ่งหน้าตั้งมาจากข้างล่างแน่ๆ ก็เพิ่งจะขึ้นมาส่งเขาตามหน้าที่และเดินกลับลงไปได้ไม่กี่นาทีเองนี่นะ
คิ้วเข้มเลิกขึ้นน้อยๆ มือที่ถือโทรศัพท์ส่ายไปทางห้องเจ้าปัญหานั้น
" ขออภัยครับ ยามข้างล่างบอกว่าวันนี้มีแขกเข้าพักครับ "
" แขก?"
เจ้าของคิ้วเข้มมีนัยน์ตาขุ่นคลั่กทันควัน ก่อนจะเผลอวางโทรศัพท์ลงด้วยความหงุดหงิด
" ฉันเพิ่งรู้ ว่าห้องชุดนี้ อนุญาตให้คนนอกเข้าพักได้ด้วย "
คนตาขุ่นหงุดหงิดจัด ก็ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย และเรือนรับรองนี้นับได้ว่าเป็นเขตหวงห้าม เป็นที่ส่วนตัวที่มีไว้สำหรับผู้บริหารระดับสูงเข้าพักเท่านั้น แต่ไหนแต่ไร แขกสำคัญแค่ไหนก็ต้องไปเปิดโรงแรมในเมืองนอนทั้งนั้น จะเอาหรูหราแค่ไหนก็เปิดให้นอนไปสิ
หนุ่มผิวคล้ำหน้าตาคมคายยืนกระสับกระส่าย หากก็จำใจตอบ " ขอออภัยครับท่าน เป็นความผิดพลาดของผมเอง "
" นายทำอะไรผิดงั้นหรือ อาซิส "
ทำอะไรผิดงั้นหรือ อยากจะถอนใจสักเฮือกใหญ่ ซวยจริงหนออาซิส ใครจะไปคิดว่าเรือนรับรองบนดาดฟ้านี้ อยู่ดีๆจะมีคนอื่นเข้ามาพัก แถมเป็นผู้หญิงเสียด้วย ยังนึกถึงเมื่อชั่วครู่ ที่เจ้านายคนที่กำลังยืนหน้าบอกบุญไม่รับตอนนี้ ที่เมื่อสักครู่เจ้าประคุณพอลงจากรถได้ก็เดินลิ่วราวกับพายุขึ้นตึกมา ไอ้พวกข้างล่างตอนนี้คงหนาวๆร้อนๆ เพราะวิ่งมาบอกเขาไม่ทัน
" ก่อนหน้านี้ ผมได้เช็คแล้วว่าท่านไคเซอร์ และท่านชาห์จะฮานห์ อยู่ธากาครับ ไม่คิดว่า..."
" ใคร " คนตาขุ่นตวัดเสียงถาม
" แขกของท่านชาห์จะฮานห์ครับ อันวาร์เป็นคนดูแลเธอ"
" โทรหาอันวาร์ บอกให้โทรคุยกับคนในนั้น เขาจะได้ไม่ตกใจมากนัก"
" ครับ" อาซิสรับคำแล้วจัดการตามคำสั่งนั้นทันที ทิ้งให้คนสั่งยืนนิ่งหน้าบึ้งรอเพื่อสั่งการในขั้นต่อไป
" โทรไปเปิดโรงแรม แล้วเรียกคนขับรถมา"
"ครับผม"
...................