สวัสดีค่ะ กลับมาอีกแล้วกับการเดินทางท่องเที่ยวของพวกเรา จริงๆผ่านไปหลายทริปมากแล้ว แต่ขอตัดมาแค่ส่วนของ Piedmont หรือ Piemonte ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลีนะคะ เนื่องจากไม่เห็นมีการรีวิวมากนัก
ทริปนี้ 9 วัน จาก โดยเริ่มที่ Turin --> Langhe --> Milan --> Madrid --> Bordeaux
จะเห็นว่า ที่เราไปคือจุดที่เด่นเรื่องการผลิตไวน์ทั้งสิ้น เพราะ จุดประสงค์ของทริป คือการเยี่ยมชมไร่ไวน์ และการกินล้วนๆ มีของแถมเป็นการหาเห็ดทรัฟเฟิล ความสวยงาม และประวัติศาสตร์ รวมถึงมิตรภาพดีๆจากคนท้องถิ่น และผู้คนที่ได้พูดคุยค่ะ
Peidmont หรือ Piemonte คืออะไร?

Credit- pinterest
Piedmont เป็นรัฐทางตอนเหนือของอิตาลี มีขนาดใหญ่ลองจาก รัฐ Sicily จากกระทู้ก่อน คำว่า Piedmont เป็นภาษาละติน แปลว่า ตีนเขา เพราะฉะนั้นอากาศของที่นี่จะสบายตลอดปีค่ะ อาณาเขตใกล้กับสวิสฯและฝรั่งเศส มากกว่าที่จะเดินทางไป Rome เสียอีก
รัฐ Piedmont มีเมืองหลวงชื่อ Turin(ตูริน) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอิตาลีในช่วงสั้นๆค่ะ รวมทั้งขึ้นชื่อเรื่องความผสมผสานของศิลปกรรม จากการที่อยู่ติดสวิสฯและฝรั่งเศส หากพูดอย่างนี้ หลายๆท่านอาจจะยังไม่คุ้นหู แต่ถ้าบอกว่า เป็นเมืองของราชวงค์ซาวอย(Savoy) หรือจุดเริ่มต้นการรวมชาติของอิตาลีแล้ว ขาประวัติศาสตร์คงจะคุ้นขึ้นมาบ้างนะคะ สำหรับขาฟุตบอล ก็คงต้องบอกว่าทีมยูเวนตุส ส่วนขาไวน์และอาหารอย่างเราแล้ว เห็ดทรัฟเฟิลและไวน์จาก Baroloและ Barbaresco เท่านั้นคือเป้าหมายของทริปนี้
อ้อ จุดเด่นด้านขนมคือ Nutella และ Ferrero ค่ะ
การเดินทาง
สำหรับครั้งนี้ เราใช้ Ryan Air จากลอนดอน ใช้เวลาบินเกือบ 2 ชั่วโมง แต่หากต้องการบินมาลงอิตาลีแล้ว รถไฟจากมิลานมาตูริน มีเกือบทุกชั่วโมง และใช้เวลา 1-1.5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ หรือหากต้องการบินมาลงตูรินแล้ว เห็นว่ามีร่วม 10 สายการบินที่มีไฟลท์นะคะ
จาก สนามบิน สามารถซื้อตั๋วรถบัสได้ที่เครื่อง ภายในสนามบินเลยค่ะ 5.5 ยูโร ต่อคน และ 9 ยูโร สำหรับตั๋ว roundtrip จุดที่คนนิยมลง คือ Porta Susa ซึ่งเป็น สถานีรถไฟค่ะ ส่วน Porta Nuova ป้ายสุดท้ายสำหรับตัวสถานีรถไฟหลัก และเมืองตูริน โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนรถบนท้องถนน
ที่พัก
ด้วยความที่เราพักกันแค่ 1 คืน ก่อนที่จะตะลุยดินแดนแห่งไวน์ใน Langhe กัน พวกเราเลยต้องเลือกที่พักที่เดินทางสะดวกด้วยเท้าค่ะ (งก) เพราะจริงๆ ตูรินมีตั้งแต่ รถบัส รถราง รถใต้ดิน และจักรยานให้เช่นนะคะ
เราพัก Airbnb ที่อยู่ระหว่าง Porta Nuova และสวน Parco del Valentino ส่วนค่าที่พักสนนราคา คืนละ 50ยูโร และมี mattress ที่นอนสะบายที่สุดในโลก จนต้อง ถามเจ้าของห้องว่ายี่ห้ออะไร ทุกวันนี้ยังคงตื้อถามต่อไป ถึงแม้เค้าจะตอบแค่มันแพงมากก็ตาม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://www.airbnb.co.uk/rooms/12731584?eluid=0&euid=05808034-9b39-ff39-1288-824c90200727
Turin (ตูริน) เมืองหลวงของ Piedmont
อย่างที่บอกไปแล้วว่า ตูรินเคยเป็นเมืองหลวงของอิตาลี ในยุคสั้นๆ สถาปัตยกรรม รวมถึง city planning ของเมืองจึงเด่นไม่แพ้ เมืองใหญ่ในอิตาลีค่ะ

แผนที่จาก Pinterest
เมืองที่นี่ผังเมืองเหมือน New York City มั้ยคะ เดินง่ายไม่หลงแน่นอน หากไม่เดินตามสาวๆหนุ่มๆวัยรุ่น (ตูรินเป็นเมืองหลวงของภาพยนต์อิตาลีค่ะ เด็กๆจะแต่งตัวเต็มประมาณนึง) เราทราบมาว่า ถนนที่ตัดเฉียง เป็นถนนตัดใหม่ทั้งสิ้นค่ะ
ขอแอบแวะร้านข้างทางนิดนึง อร่อยและถูกมากกกก 18 ยูโร รวมเครื่องดื่ม สมกับเป็นเมืองหลวงแห่งอาหารจริงๆ

สถานที่ท่องเที่ยวมีมากมายค่ะ นอกจากพิพิฒพันธ์รถยนต์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงแล้ว พิพิฒพันธ์อียิปต์แห่งตูรินนั้นยังใหญ่เป็นอันดับ2ของโลกอีกด้วย แต่ด้วยเวลาจำกัด เราไม่สามารถไปเยี่ยมชมได้ค่ะ
Mole Antonelliana
ซึ่งอยู่ที่เดียวกับ National Museum of Film นะคะ หากเพียงแค่ต้องการขึ้นลิฟท์แก้ว ไปชมวิว 360 องศา ค่าตั๋วอยู่ที่ 7ยูโรค่ะ สำหรับวันฟ้าใสๆก็จะเห็นเทือกเขา alps ได้ค่อนข้างชัดเจน ส่วนวันอื่นๆก็จะเห็นผังเมืองที่เป็นระเบียบของเมืองค่ะ
วิวด้านบน สวยงามค่ะ เห็นสวยของราชวงศ์เขียวๆ




ส่วนการเดินเล่นในเมือง จะทำให้เราเห็น palazzo สำคัญๆ รวมถึงพระราชวังของราชวงศ์ซาวอยค่ะ (royal palace)
เห็นรูปแบบตึกราบ้านช่อง และ ห้างร้านที่ค่อนข้างแปลกออกไป
สวน Valentino ที่พูดถึงไปแล้ว เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่มาก มีสิ่งที่น่าสนใจต่างๆซ่อนอยู่ เพราะขนานกับแม่น้ำ Po รวมถึงพระราชวัง Valentino ซึ่งเป็น Unesco World Heritage สร้างในแบบฝรั่งเศส ช่วง 16 century และเคยถูกใช้เป็น โรงเรียนสัตวแพทย์ ก่อนจะเป็นส่วนนึงของโรงเรียนสถาปัตยากรรมค่ะ

โชคดีที่ตอนไป มีงานโชว์รถยนต์ พอดีค่ะ เลยมีของกินเยอะ นอกจาก gelato และชอคโกแลตที่แวะชิมมาตลอดทางแล้ว ของอีกอย่างที่มีแรงดึงดูดสุดๆ คือเนื้อค่ะ เนื้อร้านนี้มาจากประเทศอาเจนตินา
วันรุ่งขึ้น เราต้องไปรับรถ เพื่อที่จะไปท่องเที่ยว Langhe และอยู่แถบนั้น 2 คืนด้วยกันค่ะ สถานที่รับรถ tricky นิดนึง คือเค้าบอกว่า city centre office แต่เราต้องเดินไปรับตรง Porta Susa ค่ะ
[Italy] หลบมลพิษ ไปตามล่าเห็ด Truffle และตระเวณชิมไวน์ ที่ Piedmont
ทริปนี้ 9 วัน จาก โดยเริ่มที่ Turin --> Langhe --> Milan --> Madrid --> Bordeaux
จะเห็นว่า ที่เราไปคือจุดที่เด่นเรื่องการผลิตไวน์ทั้งสิ้น เพราะ จุดประสงค์ของทริป คือการเยี่ยมชมไร่ไวน์ และการกินล้วนๆ มีของแถมเป็นการหาเห็ดทรัฟเฟิล ความสวยงาม และประวัติศาสตร์ รวมถึงมิตรภาพดีๆจากคนท้องถิ่น และผู้คนที่ได้พูดคุยค่ะ
Peidmont หรือ Piemonte คืออะไร?
Credit- pinterest
Piedmont เป็นรัฐทางตอนเหนือของอิตาลี มีขนาดใหญ่ลองจาก รัฐ Sicily จากกระทู้ก่อน คำว่า Piedmont เป็นภาษาละติน แปลว่า ตีนเขา เพราะฉะนั้นอากาศของที่นี่จะสบายตลอดปีค่ะ อาณาเขตใกล้กับสวิสฯและฝรั่งเศส มากกว่าที่จะเดินทางไป Rome เสียอีก
รัฐ Piedmont มีเมืองหลวงชื่อ Turin(ตูริน) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอิตาลีในช่วงสั้นๆค่ะ รวมทั้งขึ้นชื่อเรื่องความผสมผสานของศิลปกรรม จากการที่อยู่ติดสวิสฯและฝรั่งเศส หากพูดอย่างนี้ หลายๆท่านอาจจะยังไม่คุ้นหู แต่ถ้าบอกว่า เป็นเมืองของราชวงค์ซาวอย(Savoy) หรือจุดเริ่มต้นการรวมชาติของอิตาลีแล้ว ขาประวัติศาสตร์คงจะคุ้นขึ้นมาบ้างนะคะ สำหรับขาฟุตบอล ก็คงต้องบอกว่าทีมยูเวนตุส ส่วนขาไวน์และอาหารอย่างเราแล้ว เห็ดทรัฟเฟิลและไวน์จาก Baroloและ Barbaresco เท่านั้นคือเป้าหมายของทริปนี้
อ้อ จุดเด่นด้านขนมคือ Nutella และ Ferrero ค่ะ
การเดินทาง
สำหรับครั้งนี้ เราใช้ Ryan Air จากลอนดอน ใช้เวลาบินเกือบ 2 ชั่วโมง แต่หากต้องการบินมาลงอิตาลีแล้ว รถไฟจากมิลานมาตูริน มีเกือบทุกชั่วโมง และใช้เวลา 1-1.5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ หรือหากต้องการบินมาลงตูรินแล้ว เห็นว่ามีร่วม 10 สายการบินที่มีไฟลท์นะคะ
จาก สนามบิน สามารถซื้อตั๋วรถบัสได้ที่เครื่อง ภายในสนามบินเลยค่ะ 5.5 ยูโร ต่อคน และ 9 ยูโร สำหรับตั๋ว roundtrip จุดที่คนนิยมลง คือ Porta Susa ซึ่งเป็น สถานีรถไฟค่ะ ส่วน Porta Nuova ป้ายสุดท้ายสำหรับตัวสถานีรถไฟหลัก และเมืองตูริน โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนรถบนท้องถนน
ที่พัก
ด้วยความที่เราพักกันแค่ 1 คืน ก่อนที่จะตะลุยดินแดนแห่งไวน์ใน Langhe กัน พวกเราเลยต้องเลือกที่พักที่เดินทางสะดวกด้วยเท้าค่ะ (งก) เพราะจริงๆ ตูรินมีตั้งแต่ รถบัส รถราง รถใต้ดิน และจักรยานให้เช่นนะคะ
เราพัก Airbnb ที่อยู่ระหว่าง Porta Nuova และสวน Parco del Valentino ส่วนค่าที่พักสนนราคา คืนละ 50ยูโร และมี mattress ที่นอนสะบายที่สุดในโลก จนต้อง ถามเจ้าของห้องว่ายี่ห้ออะไร ทุกวันนี้ยังคงตื้อถามต่อไป ถึงแม้เค้าจะตอบแค่มันแพงมากก็ตาม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Turin (ตูริน) เมืองหลวงของ Piedmont
อย่างที่บอกไปแล้วว่า ตูรินเคยเป็นเมืองหลวงของอิตาลี ในยุคสั้นๆ สถาปัตยกรรม รวมถึง city planning ของเมืองจึงเด่นไม่แพ้ เมืองใหญ่ในอิตาลีค่ะ
แผนที่จาก Pinterest
เมืองที่นี่ผังเมืองเหมือน New York City มั้ยคะ เดินง่ายไม่หลงแน่นอน หากไม่เดินตามสาวๆหนุ่มๆวัยรุ่น (ตูรินเป็นเมืองหลวงของภาพยนต์อิตาลีค่ะ เด็กๆจะแต่งตัวเต็มประมาณนึง) เราทราบมาว่า ถนนที่ตัดเฉียง เป็นถนนตัดใหม่ทั้งสิ้นค่ะ
ขอแอบแวะร้านข้างทางนิดนึง อร่อยและถูกมากกกก 18 ยูโร รวมเครื่องดื่ม สมกับเป็นเมืองหลวงแห่งอาหารจริงๆ
สถานที่ท่องเที่ยวมีมากมายค่ะ นอกจากพิพิฒพันธ์รถยนต์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงแล้ว พิพิฒพันธ์อียิปต์แห่งตูรินนั้นยังใหญ่เป็นอันดับ2ของโลกอีกด้วย แต่ด้วยเวลาจำกัด เราไม่สามารถไปเยี่ยมชมได้ค่ะ
Mole Antonelliana
ซึ่งอยู่ที่เดียวกับ National Museum of Film นะคะ หากเพียงแค่ต้องการขึ้นลิฟท์แก้ว ไปชมวิว 360 องศา ค่าตั๋วอยู่ที่ 7ยูโรค่ะ สำหรับวันฟ้าใสๆก็จะเห็นเทือกเขา alps ได้ค่อนข้างชัดเจน ส่วนวันอื่นๆก็จะเห็นผังเมืองที่เป็นระเบียบของเมืองค่ะ
วิวด้านบน สวยงามค่ะ เห็นสวยของราชวงศ์เขียวๆ
ส่วนการเดินเล่นในเมือง จะทำให้เราเห็น palazzo สำคัญๆ รวมถึงพระราชวังของราชวงศ์ซาวอยค่ะ (royal palace)
เห็นรูปแบบตึกราบ้านช่อง และ ห้างร้านที่ค่อนข้างแปลกออกไป
สวน Valentino ที่พูดถึงไปแล้ว เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่มาก มีสิ่งที่น่าสนใจต่างๆซ่อนอยู่ เพราะขนานกับแม่น้ำ Po รวมถึงพระราชวัง Valentino ซึ่งเป็น Unesco World Heritage สร้างในแบบฝรั่งเศส ช่วง 16 century และเคยถูกใช้เป็น โรงเรียนสัตวแพทย์ ก่อนจะเป็นส่วนนึงของโรงเรียนสถาปัตยากรรมค่ะ
โชคดีที่ตอนไป มีงานโชว์รถยนต์ พอดีค่ะ เลยมีของกินเยอะ นอกจาก gelato และชอคโกแลตที่แวะชิมมาตลอดทางแล้ว ของอีกอย่างที่มีแรงดึงดูดสุดๆ คือเนื้อค่ะ เนื้อร้านนี้มาจากประเทศอาเจนตินา
วันรุ่งขึ้น เราต้องไปรับรถ เพื่อที่จะไปท่องเที่ยว Langhe และอยู่แถบนั้น 2 คืนด้วยกันค่ะ สถานที่รับรถ tricky นิดนึง คือเค้าบอกว่า city centre office แต่เราต้องเดินไปรับตรง Porta Susa ค่ะ