▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ดอยเชียงดาว
เดินป่า
เที่ยวเชิงอนุรักษ์
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่ายทิวทัศน์
อาสาเก็บขยะดอยหลวงเชียงดาว แอ่วเมืองเหนือ ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งเที่ยว ตอนที่2/2
จากการเดินทางตอนที่ 1 มาจากตัวเมืองเชียงใหม่ เวลา 5 โมงเย็นกว่าๆ พระอาทิตย์ยังไม่ทันลับขอบฟ้า
ซึ่งการประชุมชี้แจงเย็นวันนี้ยังมีสมาชิกเดินทางมาไม่ครบและก็ได้ทยอยมาช่วงดึกๆ จนถึงเช้าตรู่ หลังจากทานข้าวเสร็จพวกเราก็แยกย้ายไปอาบน้ำแล้วมานั่งคุยกันเล่นเกมทายคำกันอย่างสนุกสนานก่อนจะแยกย้ายกันนอน
สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2559 เช้านี้สดชื่นมากๆ และตื่นเต้นที่จะได้เดินทางด้วยเท้าพร้อมกับสัมภาระบนบ่าที่จะแบกด้วยตัวเอง
เช้าวันนี้ตื่นมาพร้อมกับอากาศที่สดชื่นดื่มด่ำธรรมชาติอันงดงามแต่ก็ไม่เห็นดอย ซึ่งปกติถ้าเรายืนอยู่ที่ค่ายก็จะเห็นยอดดอยสวยงามมาก แต่ช่วงนี้ควันป่าปกคลุมพื้นที่ทัศนวิสัยจึงผิดปกติ เราตื่นเช้ามาก็เจอพี่ที่มาด้วยกันจึงถ่ายรูปกันก่อนแยกย้ายไปอาบน้ำและเก็บกระเป๋า ออกมาทานข้าว ฟังการชี้แจงจากลุงอ้วนอีกรอบก่อนจะถ่ายรูปรวมกัน รับอุปกรณ์ และแยกย้ายกันขึ้นรถเพื่อเดินไปจุดทางขึ้นดอย
เวลาตอนนี้ก็ 8.30 น. กว่าๆ ใช้เวลาเดินทางไปถึงทางขึ้นประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ถึงทางขึ้นฟังการเล่าจากลุงอ้วนและแบ่งกลุ่มช่วงเดินเป็นสามช่วงคือกลุ่มเดินเร็วก็ไปก่อน กลุ่มเดินปานกลางตามไป และต่อด้วยกลุ่มเดินช้า...แต่หลังจากเดินไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว การแบ่งกลุ่มนี้ก็ไม่ได้ผลครับ เพราะสุดท้ายก็เดินไปตามๆกันอยู่ดี ฮาๆๆ เริ่มออกเดิน
เวลาประมาณ 9.30 น. กลุ่มพวกเราเดินตามลุงอ้วนเพราะหวังที่จะอยากรู้เรื่องราวต่างๆที่ลุงอ้วนจะเล่าไปตลอดทาง แต่แล้วถึงจุดๆหนึ่งเราเดินนำหน้าเพื่อนๆมา หันไปข้างหลังอีกทีอ้าวเพื่อนๆหายไปไหน...ผมก็นั่งพักรอบ้าง เดินไปเรื่อยๆบ้าง แต่ก็ไม่เจอ แต่ที่เจอคือมิตรภาพใหม่ๆที่เกิดขึ้นระหว่างทางและเพื่อนคนอื่นๆก็เป็นห่วงถามถึงเพื่อนที่มากับเราด้วยว่าจะเดินได้ไหม เพราะเพื่อนสองคนใส่รองเท้าเตะมา ซึ่งการเดินขึ้นเขานี้มีจุดต้องปีนและใช้กำลังเท้าและขามากๆ บางพื้นที่เป็นที่โล่งแจ้งแดดร้อนระอุตลอดทาง ป่าหญ้าสูงปิดหัว แต่สิ่งที่สังเกตได้ง่ายคือกระเป๋าสีแสดของแต่ละคนที่ได้รับการสนับสนุนมาจากองค์กรภาคเอกชน
เมื่อไปถึงจุดที่พวกเราหิว ก็จะแวะทานข้าวกันเป็นกลุ่มๆกลุ่มไหนที่เดินทางไปไหวก็เดินไปต่อ กลุ่มที่ทานเสร็จแล้วก็เดินกันไปต่อ ก็จะเดินไปเจอกันเป็นระยะๆ ผมเดินทางไปกับน้องอีกสองคนและเหนื่อยมากแต่ก็เกรงใจไม่กล้าที่จะบอกน้องให้หยุด เลยต้องเดินไปแบบหอบๆ เสียงหายใจดังมาก และต้องหายใจทางปากด้วย ในใจก็คิดกลัวไปถึงสัตว์ป่านานาชนิดเราจึงไม่กล้าที่จะเดินปลีกวิเวกคนเดียว และที่สำคัญกลัวหลงป่า และเมื่อได้เจอกับเพื่อนๆกลุ่มอื่น ก็รู้สึกใจชื่นเหมือน
ผมและน้องอีกสองคนเดินทางถึงจุดที่กางเต็นท์ประมาณ บ่ายสามโมงเย็น และก็หาที่กางเต็นท์ปูนอนกัน ผมก็เลือกที่จะอยู่บนที่ราบสูงมองเห็นเทือกเขาฝั่งตรงข้าม และเป็นที่โล่งแจ้งแต่กางนอนใต้ต้นไม้ หลังจากกางเต็นท์เสร็จผมก็นอนเอนหลังจนเผลอหลับไปแล้วก็สะดุ้งตื่น ก็กลัวๆเพราะนอนคนเดียว จากนั้นก็ลุกขึ้นเก็บขยะรอบๆบริเวณเต็นท์และบริเวณโดยรอบกว้างๆ ซึ่งสิ่งที่พบคือกระดาษทิชชูเยอะมากๆ ที่ค่อนข้างแห้งแข็งแล้วเพราะอากาศร้อนมาก
ผมเก็บไปสักพักกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกันก็มาถึง ก็รู้สึกว่าตัวเองผิดนะที่ชวนเพื่อนๆพี่ๆมาเดิน แต่ตัวเองกลับทิ้งเพื่อนเดินมาก่อนโดยไม่ได้ดูแล แล้วเราก็ช่วยกันกางเต็นท์ใกล้ๆกัน มีทั้งหมด 5 หลัง
จากนั้นก็เก็บของเข้าเต็นท์ แล้วพวกเราก็เดินกันไปต่อขึ้นยอดเขาเชียงดาวเพื่อชมพระอาทิตย์ตกดิน พวกเราเดินขึ้นไปบนยอดซึ้งพบกับอากาศที่เย็นสดชื่นสบายมากๆ หายเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวัน พวกเราได้ถ่ายรูปร่วมกันกับป้าย คือภูมิใจมากๆ ที่สามารถเดินขึ้นมาถึงยอดได้สำเร็จ แล้วพวกเราก็แยกย้ายกันเดินเล่น ถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลินทั้งรูปหมู่ รูปเดี่ยว หลังจากชมพระอาทิตย์ตกดิน
พี่อ้วนก็ได้เรียกรวมตัวกันมาล้อมวงคุยกันก่อนที่จะตกค่ำ พี่อ้วนได้แนะนำแต่ละเทือกเขาที่อยู่บริเวณรอบๆ และเรื่องเล่าต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนดอยเชียงดาวแห่งนี้และชุมชนโดยรอบ จากนั้นก็ได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกันทุกคนและแยกย้ายกันเดินลงกลับมายังจุดพักเต็นท์ แต่ผมกับพี่ที่ไปด้วยกันและยังมีอีกหลายๆกลุ่มยังไม่กลับ เพราะยังฟินกันบรรยากาศที่หนาวเหน็บมากๆ ยืนสั่นกันเลยทีเดียว แต่มีความสุขมากๆเลยนะครับได้สูดอากาศบริสุทธิ์ สมองปลอดโปร่งโล่ง เบา สบายมากๆ
พวกเราเห็นว่าจะมองไม่เห็นทางเดินกันแล้วก็เลยต้องพากันเดินกลับ จากนั้นก็ถึงจุดกางเต็นท์ก็มานั่งล้อมวงกันกินข้าวเหนียวไก่ทอดกันอย่างเอร็ดอร่อยแล้วก็แยกย้ายกันนอนเร็วมาก รีบกันเข้าเต็นท์ เพราะอากาศหนาวมากจริงๆ ลมแรงมากก่อนจะนอนพวกเราก็หยอกล้อเล่นกันอย่างสนุกสนานแล้วก็เสียงเงียบจนหลับไป
สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 2559 ตื่นมาด้วยความฟินจากบรรยากาศที่ดีมากๆ แต่ก็ปวดเมื่อยระทมกันบ้างพอสมควร
พวกเราตื่นกันแล้วก็แปรงฟันล้างหน้า
ก่อนลงมาจากที่จุดกางเต้นท์ พวกเราก็ช่วยกันเคลียพื้นที่อีกรอบ
2/2 ยังไม่จบครับ ติดตามตอนจบได้ใน Comment นะครับ...