รู้หรือไม่? ภาษีที่ดินใหม่ “ผู้เช่า” ไม่ว่าเช่าที่-เช่าบ้าน-เช่าห้อง “กระอัก” แน่นอน!!!

ตามข่าวนะครับ
.
----------------------------------------
.
อย่างไรก็ตาม ภาษีที่ดินฉบับใหม่ออกมา “แทนที่” กฎหมายเก่าอย่าง พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน 2475 และ พ.ร.บ.บำรุงท้องที่ 2508 ซึ่งอัตราภาษีเดิมอยู่ที่ร้อยละ 12.5 ต่อปีคำนวณจาก “รายได้” ในการหาประโยชน์บนพื้นที่นั้น เช่น ให้ผู้อื่นเช่าเดือนละ 5,000 บาท หรือขายของได้เดือนละ 5,000 บาท เท่ากับมีรายได้ปีละ 60,000 บาท เสียภาษีร้อยละ 12.5 เท่ากับปีละ 7,500 บาท
.
แต่หากใช้ภาษีที่ดินฉบับใหม่ จะคำนวณตาม “ราคาประเมิน” เช่น ที่ดินไม่เกิน 20 ล้านบาท เสียภาษีร้อยละ 0.3 หรือปีละ 60,000 บาท “ไม่ว่าจะมีรายได้เท่าใด-ประกอบกิจการใดก็ตาม” ซึ่งก่อนหน้านี้ “นายสมชัย สัจจพงษ์” ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ผู้มีบ้านบนที่ดินของผู้อื่น หรือเช่าที่ดิน “จะจัดเก็บภาษีจากเจ้าของที่ผู้ให้เช่า” เช่นเดียวกับอพาร์ทเมนท์หรือห้องเช่า ก็จะจัดเก็บจากเจ้าของเช่นกัน ดังนั้น...
.
ผู้เช่าต้อง “จ่ายเพิ่มขึ้น” หรือไม่? อยู่ที่ “เจ้าของ” จะพิจารณา!!!
.
“จะจัดเก็บจากเจ้าของที่ ซึ่งเป็นการผลักภาระให้ผู้เช่าอยู่แล้ว แต่จะมากน้อยอยู่ที่เจ้าของที่ หรือเจ้าของที่อาจรับภาระให้ผู้เช่าโดยไม่เพิ่มค่าเช่า ก็เป็นไปได้หมด อยู่ที่เจ้าของที่ดิน” นายสมชัย กล่าว
.
คำกล่าวนี้สร้างความ “กังวลใจ” ให้กับบรรดา “ผู้เช่า” ไม่น้อย อาทิ ผู้เช่ารายหนึ่งระบุว่า ตนเช่าที่ดิน 30 ตารางวา ปลูกบ้านอยู่อาศัยเอง 1 หลัง ไม่มีบ้านที่อื่นอีก ราคาประเมินทั้งบ้านและที่ดินปัจจุบันอยู่ที่ 2 ล้านบาท ทุกวันนี้เจ้าของที่คิดค่าเช่าเดือนละ 1,000 บาท หากเป็นภาษีโรงเรือนและที่ดินแบบเก่า คิดจากรายได้จากค่าเช่าร้อยละ 12.5 ต่อปี เจ้าของที่ดินจะเสียภาษีเพียงปีละ 1,500 บาท
.
ทว่า...เมื่อใช้ภาษีที่ดินอัตราใหม่ หากจัดเก็บในอัตรา “ที่ดินเพื่ออยู่อาศัย” แม้จะเก็บตั้งแต่บาทแรกในฐานะที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 เป็นต้นไป ขั้นต่ำมูลค่าไม่เกิน 5 ล้านบาท เสียภาษีร้อยละ 0.03 ต่อปี พบว่าเสียภาษีอยู่ที่ปีละ 600 บาท ถือว่า “ถูกกว่าเดิม” แต่หากจัดเก็บในอัตรา “ที่ดินเพื่อการอื่นๆ” ขั้นต่ำมูลค่าไม่เกิน 20 ล้านบาท เสียภาษีร้อยละ 0.3 ต่อปี ต้องเสียภาษีเพิ่มเป็นปีละ 6,000 บาท “แพงกว่าเดิม” 4 เท่า
.
“ค่าเช่า” หลังจากนี้อาจ “พุ่งขึ้น”!!!
.
สอดคล้องกับที่ “นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์” นายกสมาคมกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษาสมาคมอาคารชุดไทย ยกตัวอย่างกรณี “ห้องเช่า” เช่น ผู้ประกอบการมีที่ดินมูลค่า 20 ล้านบาท สร้างอพาร์ทเมนท์ 100 ห้อง รวมมูลค่า 100 ล้านบาท ให้เช่าห้องละ 3,000 บาทต่อเดือน มีคนเช่า 60 ห้อง รวมรายได้ต่อเดือน 180,000 บาท หากเป็นภาษีโรงเรือนและที่ดินแบบเก่า คิดจากรายได้จากค่าเช่า ร้อยละ 12.5 ต่อปี เจ้าของที่ดินจะเสียภาษีเพียงปีละ 270,000 บาท แต่หากเป็นภาษีที่ดินแบบใหม่ คิดตามมูลค่าทรัพย์สิน “ห้องเช่าถือเป็นอาคารพาณิชย์” อาจต้องเสียภาษีเต็มเพดานที่ร้อยละ 2 ก็จะเสียเพิ่มสูงขึ้นเป็นปีละ 2 ล้านบาท
.
หรือต่อให้คิดในอัตรา “ร้อยละ 0.7-0.9” ตามราคาทรัพย์สินตั้งแต่ “50-1,000 ล้านบาท” ก็ยังต้องเสียภาษีอยู่ที่ “700,000-900,000 บาท” ชัดเจนว่า “แพงกว่าเดิม” อย่างมากเช่นกัน!!!
.
ที่มา : http://www.naewna.com/scoop/222642
.
----------------------------------------
.
มาดูอัตราภาษีของที่ดินแต่ละประเภทกันครับ
.
เพดานภาษี

.
ที่อยู่อาศัย-เกษตร


.
อื่นๆ ( พาณิชย์-อุตสาหกรรม )

.
ที่รกร้าง

.
ที่มา : http://www.fpo.go.th/FPO/member_profile/it-admin/upload/file/Untitled-2.pdf
.
.
----------------------------------------
.
สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
.
- ห้องเช่า-บ้านเช่า-ที่ดินเช่า ใครเช่าถูกๆ อยู่ จะด้วยสัญญาใจ สัญญามิตรภาพ หรือเจ้าของเป็นคนใจดีไม่อยากเอากำไรมาก ต่อไปเจอขึ้นค่าเช่าแน่นอน ถ้าเขาเก็บภาษีในฐานะอาคารพาณิชย์ เพราะภาษีใหม่จ่ายแพงกว่าแบบเดิม
.
- คนรายได้ไม่มาก มนุษย์เงินเดือนชนชั้นรากหญ้าถึงชนชั้นกลาง จะต้องตื่นเช้าและกลับดึกมากขึ้น เพราะหาห้องเช่าราคาไม่แพงใกล้ที่ทำงานซึ่งอยู่ในเมืองไม่ได้ ( โดยเฉพาะใน กทม. )
.
- ราคาสินค้าจำเป็นในเมืองเตรียมตัวแพงขึ้นได้เลย เพราะเขาไม่แยกว่าคุณใช้ประโยชน์อะไร ร้านอาหารตามสั่ง ข้าวแกงธรรมดาๆ ขายไม่เกิน 50 บาท จะถูกคิดภาษีเท่ากับร้านอาหารหรูๆ ติดแอร์ ขายราคาหลักร้อยบาท ฉะนั้นราคาอาหารประเภทแรก ซึ่งลูกค้าหลักเป็นคนชั้นล่างและชั้นกลาง ไม่พ้นปรับขึ้นแน่ๆ
.
.
.
เห็นแล้วจะร้องไห้ครับ..ในฐานะผู้เช่าคนหนึ่งที่เงินเดือนแค่ 15k ที่ผ่านมาเช่าที่เขาอยู่แบบถูกเวอร์ๆ มาตลอด เพราะสัญญาใจตั้งแต่รุ่นพ่อ
.
ถ้าภาษีทำให้ค่าเช่าขึ้นพรวดๆ สงสัยจะได้เป็น Homeless ตอนแก่ละครับ!!!

ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่