บอกตามตรงผมเป็นคนไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถยนต์รวมทั้งอู่ซ่อม ร้านประดับยนต์สักเท่าไหร่ ที่ตัดสินใจมาติดฟิล์มที่ร้านนี้เหตุผลคือ ราคาโอเค ใกล้ที่ทำงาน ทิ้งรถไว้ ตอนกลับบ้านเสร็จพอดี ซึ่งจริงๆร้านนี้รู้จักเพราะว่าไปกินบะหมี่ที่อยู่ใกล้ๆกันบ่อยๆ
ย้อนไปเดือนก.พ. ได้ติดฟิล์มรอบคันที่ร้านนี้ ตอนนั้นก็ยังมีลายน้ำและฟองอากาศบ้างประปราย แต่เค้าบอกสักพักมันจะหายเอง เราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะมันก็หายไปเองจริงๆ แต่มีปัญหาจะมีจุดหนึ่งเป็นฟองอากาศเล็กๆประมาณเหรียญบาทที่บานหน้า แถวบริเวณกระจกมองหลัง แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่ามันอาจจะยุบช้ากว่าที่อื่น
ด้วยความเป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากนัก มันผ่านไปหลายเดือน ฟองก็ยังอยู่ จนแฟนต้องมาทักแล้วบอกว่ามันน่าจะผิดปรกติแล้ว เอามือไปลูบดูก็มีเสียงกรอบแกรบเหมือนฟิล์มเก่า เลยตัดสินใจจะไปให้ร้านดูให้ (ความหมายก็คือต้องการเคลม)
เรื่องการเคลมไม่ได้ยากเย็นเท่าไหร่ครับ พอเค้าเห็นรอยก็เตรียมแก้งานทันที (ลอกแล้วติดแผ่นใหม่แทน) ไม่ได้มีบ่ายเบี่ยงอะไรแม้ว่าจุดนั้นจะใกล้เคียงกับที่ผมติดกล้องมองหลังมาก แต่ผมเองก็ติดกล้องมองหลังห่างจากการติดฟิล์มกรองแสงเป็นเดือนๆ
ระหว่างที่ช่างติดใหม่ ผมไม่ได้ดูเท่าไหร่ เพราะนั่งอยู่หน้าร้าน ไม่รู้ว่าแกทำงานอะไรบ้าง เพียงแต่รู้สึกว่ามันนานเหลือเกิน (ผมน่าจะถึงร้านก่อน 10 โมง แต่เสร็จเกือบเที่ยง) ทั้งที่เป็นบานหน้าบานเดียว แฟนผมเองก็โทรตามแล้วตามอีกว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ
หลังจากร้านแจ้งว่างานเสร็จแล้ว ผมก็เข้าไปในห้องติดฟิล์มเพื่อถอยรถออกเองทันทีเพื่อจะรีบกลับ จนลืมสังเกตว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ในห้องนั้นเวลาอยู่ในรถจะรู้สึกมืด มองอะไรไม่ถนัด
จนมาถึงบ้านถึงบางอ้อเลยครับ ส่วนหนึ่งที่ช่างทำงานช้าน่าจะเป็นเพราะคนที่แก้งาน เก็บสายกล้องติดรถยนต์เข้าร่องตามรถเสียเนี้ยบเลย ของเดิมที่ผมติดเองทำไว้ ระโยง ระยาง น่าเกลียดมาก จนผมเองรู้สึกผิดเหมือนกันที่ไม่ได้ให้สินน้ำใจช่างสักนิดก็ยังดี อีกอย่างคงไม่ได้กลับไปเส้นนั้นบ่อยๆอีกเพราะเปลี่ยนงานแล้วด้วย
ยังไงต้องขอขอบคุณช่างคนนั้นมากๆและร้านนี้ก็รับผิดชอบในการเคลมงานดีครับ เลยมาเล่าสู่กันฟัง




ประสบการณ์เคลมฟิล์มเจที เตาปูน ออโต้กลาสครับ
ย้อนไปเดือนก.พ. ได้ติดฟิล์มรอบคันที่ร้านนี้ ตอนนั้นก็ยังมีลายน้ำและฟองอากาศบ้างประปราย แต่เค้าบอกสักพักมันจะหายเอง เราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะมันก็หายไปเองจริงๆ แต่มีปัญหาจะมีจุดหนึ่งเป็นฟองอากาศเล็กๆประมาณเหรียญบาทที่บานหน้า แถวบริเวณกระจกมองหลัง แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่ามันอาจจะยุบช้ากว่าที่อื่น
ด้วยความเป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากนัก มันผ่านไปหลายเดือน ฟองก็ยังอยู่ จนแฟนต้องมาทักแล้วบอกว่ามันน่าจะผิดปรกติแล้ว เอามือไปลูบดูก็มีเสียงกรอบแกรบเหมือนฟิล์มเก่า เลยตัดสินใจจะไปให้ร้านดูให้ (ความหมายก็คือต้องการเคลม)
เรื่องการเคลมไม่ได้ยากเย็นเท่าไหร่ครับ พอเค้าเห็นรอยก็เตรียมแก้งานทันที (ลอกแล้วติดแผ่นใหม่แทน) ไม่ได้มีบ่ายเบี่ยงอะไรแม้ว่าจุดนั้นจะใกล้เคียงกับที่ผมติดกล้องมองหลังมาก แต่ผมเองก็ติดกล้องมองหลังห่างจากการติดฟิล์มกรองแสงเป็นเดือนๆ
ระหว่างที่ช่างติดใหม่ ผมไม่ได้ดูเท่าไหร่ เพราะนั่งอยู่หน้าร้าน ไม่รู้ว่าแกทำงานอะไรบ้าง เพียงแต่รู้สึกว่ามันนานเหลือเกิน (ผมน่าจะถึงร้านก่อน 10 โมง แต่เสร็จเกือบเที่ยง) ทั้งที่เป็นบานหน้าบานเดียว แฟนผมเองก็โทรตามแล้วตามอีกว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ
หลังจากร้านแจ้งว่างานเสร็จแล้ว ผมก็เข้าไปในห้องติดฟิล์มเพื่อถอยรถออกเองทันทีเพื่อจะรีบกลับ จนลืมสังเกตว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ในห้องนั้นเวลาอยู่ในรถจะรู้สึกมืด มองอะไรไม่ถนัด
จนมาถึงบ้านถึงบางอ้อเลยครับ ส่วนหนึ่งที่ช่างทำงานช้าน่าจะเป็นเพราะคนที่แก้งาน เก็บสายกล้องติดรถยนต์เข้าร่องตามรถเสียเนี้ยบเลย ของเดิมที่ผมติดเองทำไว้ ระโยง ระยาง น่าเกลียดมาก จนผมเองรู้สึกผิดเหมือนกันที่ไม่ได้ให้สินน้ำใจช่างสักนิดก็ยังดี อีกอย่างคงไม่ได้กลับไปเส้นนั้นบ่อยๆอีกเพราะเปลี่ยนงานแล้วด้วย
ยังไงต้องขอขอบคุณช่างคนนั้นมากๆและร้านนี้ก็รับผิดชอบในการเคลมงานดีครับ เลยมาเล่าสู่กันฟัง