** คำเตือน เพื่ออรรถรสในการรับชม ภาษาที่ใช้จะโหดสาดรัสเซีย ตามท้องเรื่อง นะครับ **
คงมีไม่กี่คน ที่โดนอุบัติเหตุทางรังสีแบบนี้
ยิ่งเกิดจากเครื่องมือวิจัยที่ความปลอดภัยสูงมากอย่างเครื่องซิงโครตรอน ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้!
อย่างไรก็ตาม....
มนุษย์ก็ย่อมมีคนทำอะไรพลาดแบบไม่ทันได้คิด..
ขอแนะนำกระทาชาย นาย อนาโตลี เปโตรวิช เบอโกสกี (Anatoli Petrovich Bugorski) บุคคลแรก( และคงเป็นคนเดียว) ในโลก ที่โดนโปรตอนจากเครื่องเร่งอนุภาคยิงเข้ากลางกบาล!

เบอโกสกีนั้นเป็นนักวิจัยประจำสถาบันฟิสิกส์พลังงานของรัซเซีย วันหนึ่ง ในปี 1978 ระหว่างการทำงานนั้น เขาคิดว่าในเครื่องซิงโครตรอน U 70 นั้นมีปัญหาบางอย่าง แล้วเขาก็ทำเรื่องที่ไม่มีใครคิดว่าจะมีคนทำ นั่นก็คือ ชะโงกหน้าเข้าไปในบริเวณเร่งอนุภาคขณะที่เครื่องทำงานอยู่!
อธิบายซักนิด .....เครื่องซิงโครตรอนนั้นเป็นเครื่องเร่งอนุภาค ที่จะเร่งความเร็วของโปรตอนให้เร็วใกล้เคียงความเร็วแสงและให้โปรตอนวิ่งชนกันเพื่อศึกษาโครงสร้างและส่วนประกอบของโปรตอน ดังนั้น อนุภาคที่ถูกเร่งนี้ก็ไม่ต่างจากกระสุนพลังงานในนิยายเลย
และการทะลึ่งโผล่หัวไปในเครื่องแบบนี้ ก็เป็นเรื่องบ้าบออย่างยิ่ง
เบอโกสกีโดนอนุภาคที่ความเร็วเทียบเท่าแสงนี้ ยิงทะลุหลังศีรษะ พุ่งออกบริเวณข้างจมูก Head shot เต็มๆ!
เบอโกสกีกล่าวว่า ทันทีที่โดน ตาซ้ายเขานั้นได้มองเห็นแสงที่สว่างยังกะดวงอาทิตย์พันดวง แต่เขาไม่รู้สึกเจ็บเลยซักกะนิด อย่างไรก็ตาม โปรตอนที่พุ่งทะลุหัวนี้ได้ให้กำเนิดรังสีขึ้นกลางร่างกายบริเวณที่มันพุ่งผ่าน ครึ่งหน้าซ้ายของเขาเริ่มบวมตุ่ยและผิวหนังหลุดลอก ระบบการได้ยินซีกซ้ายของเขาไม่สามารถทำงานได้เพราะมีเสียงดังในหูตลอดเวลา และเป็นอัมพาตไปครึ่งหน้าในเวลาต่อมา
หมอที่เข้ามาตรวจคาดว่า หมอนี่คงมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่นาน เพราะปริมาณรังสีที่ก่อตัวขึ้นตอนโปรตอนวิ่งทะลุผ่านหัวเขานี่ มีระดับรุนแรงถึงตาย! เรื่องนี้คงเป็นเคสตัวอย่างให้กับนักวิจัยรุ่นหลังต่อไป...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แต่ด้วยความอึดระดับโหดสาดรัสเซีย เขารอดครับ!
"ก็เรื่องปกตินี่" ปูติน ไม่ได้กล่าวไว้..
รอดมาไม่พอ ยังแข็งแรง และสมองยังดีมาก (จากการทดสอบ สมองเขาดีกว่าตอนก่อนโดนยิงซะอีก!) จนพาตัวเองจบ PhD ได้อีกด้วย! ถึกโคตรๆ หลังจากได้รับป . เอก เขาก็เดินทางและทำงานด้านวิทยาศาสตร์ต่อไป และทุกๆปี ปีละ 2 ครั้ง เขาก็จะเดินทางไปเยี่ยมเยียนผู้ได้รับผลกระทบทางรังสีรายอื่นๆ เพื่อตรวจสอบผลกระทบทางรังสี
และเมื่อเวลาผ่านไป 16 ปี( ครับ... 16 ปีหลังจากโดนยิงครับ...) ตัวเขาได้รับเลือกเป็นนายแบบให้โปสเตอร์เกี่ยวกับทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ให้กับสหภาพโซเวียตและรัสเซียต่ออีกด้วย เขาได้ทำงานให้กับสถาบันที่เขาโดนยิงต่อ และไม่เคยมีความคิดจะย้ายที่ทำงานอีกตะหาก
กรูยังไม่ตาย....(ภาพถ่ายปี 1998)
ปล. แถมยังได้แต่งาน มีลูกอีก 1 คนด้วยอีกตะหาก!
Source...
http://www.todayifoundout.com/index.php/2010/03/what-happens-when-you-stick-your-head-into-a-particle-accelerator/?ref=curiositydotcom
http://wordpress.mrreid.org/2012/03/05/the-man-who-put-his-head-in-a-particle-accelerator/
บุคคลแรก( และคงเป็นคนเดียว) ในโลก ที่โดนโปรตอนจากเครื่องเร่งอนุภาคยิง Head shot!
คงมีไม่กี่คน ที่โดนอุบัติเหตุทางรังสีแบบนี้
ยิ่งเกิดจากเครื่องมือวิจัยที่ความปลอดภัยสูงมากอย่างเครื่องซิงโครตรอน ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้!
อย่างไรก็ตาม....
มนุษย์ก็ย่อมมีคนทำอะไรพลาดแบบไม่ทันได้คิด..
ขอแนะนำกระทาชาย นาย อนาโตลี เปโตรวิช เบอโกสกี (Anatoli Petrovich Bugorski) บุคคลแรก( และคงเป็นคนเดียว) ในโลก ที่โดนโปรตอนจากเครื่องเร่งอนุภาคยิงเข้ากลางกบาล!
เบอโกสกีนั้นเป็นนักวิจัยประจำสถาบันฟิสิกส์พลังงานของรัซเซีย วันหนึ่ง ในปี 1978 ระหว่างการทำงานนั้น เขาคิดว่าในเครื่องซิงโครตรอน U 70 นั้นมีปัญหาบางอย่าง แล้วเขาก็ทำเรื่องที่ไม่มีใครคิดว่าจะมีคนทำ นั่นก็คือ ชะโงกหน้าเข้าไปในบริเวณเร่งอนุภาคขณะที่เครื่องทำงานอยู่!
อธิบายซักนิด .....เครื่องซิงโครตรอนนั้นเป็นเครื่องเร่งอนุภาค ที่จะเร่งความเร็วของโปรตอนให้เร็วใกล้เคียงความเร็วแสงและให้โปรตอนวิ่งชนกันเพื่อศึกษาโครงสร้างและส่วนประกอบของโปรตอน ดังนั้น อนุภาคที่ถูกเร่งนี้ก็ไม่ต่างจากกระสุนพลังงานในนิยายเลย
และการทะลึ่งโผล่หัวไปในเครื่องแบบนี้ ก็เป็นเรื่องบ้าบออย่างยิ่ง
เบอโกสกีโดนอนุภาคที่ความเร็วเทียบเท่าแสงนี้ ยิงทะลุหลังศีรษะ พุ่งออกบริเวณข้างจมูก Head shot เต็มๆ!
เบอโกสกีกล่าวว่า ทันทีที่โดน ตาซ้ายเขานั้นได้มองเห็นแสงที่สว่างยังกะดวงอาทิตย์พันดวง แต่เขาไม่รู้สึกเจ็บเลยซักกะนิด อย่างไรก็ตาม โปรตอนที่พุ่งทะลุหัวนี้ได้ให้กำเนิดรังสีขึ้นกลางร่างกายบริเวณที่มันพุ่งผ่าน ครึ่งหน้าซ้ายของเขาเริ่มบวมตุ่ยและผิวหนังหลุดลอก ระบบการได้ยินซีกซ้ายของเขาไม่สามารถทำงานได้เพราะมีเสียงดังในหูตลอดเวลา และเป็นอัมพาตไปครึ่งหน้าในเวลาต่อมา
หมอที่เข้ามาตรวจคาดว่า หมอนี่คงมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่นาน เพราะปริมาณรังสีที่ก่อตัวขึ้นตอนโปรตอนวิ่งทะลุผ่านหัวเขานี่ มีระดับรุนแรงถึงตาย! เรื่องนี้คงเป็นเคสตัวอย่างให้กับนักวิจัยรุ่นหลังต่อไป...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แต่ด้วยความอึดระดับโหดสาดรัสเซีย เขารอดครับ!
"ก็เรื่องปกตินี่" ปูติน ไม่ได้กล่าวไว้..
รอดมาไม่พอ ยังแข็งแรง และสมองยังดีมาก (จากการทดสอบ สมองเขาดีกว่าตอนก่อนโดนยิงซะอีก!) จนพาตัวเองจบ PhD ได้อีกด้วย! ถึกโคตรๆ หลังจากได้รับป . เอก เขาก็เดินทางและทำงานด้านวิทยาศาสตร์ต่อไป และทุกๆปี ปีละ 2 ครั้ง เขาก็จะเดินทางไปเยี่ยมเยียนผู้ได้รับผลกระทบทางรังสีรายอื่นๆ เพื่อตรวจสอบผลกระทบทางรังสี
และเมื่อเวลาผ่านไป 16 ปี( ครับ... 16 ปีหลังจากโดนยิงครับ...) ตัวเขาได้รับเลือกเป็นนายแบบให้โปสเตอร์เกี่ยวกับทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ให้กับสหภาพโซเวียตและรัสเซียต่ออีกด้วย เขาได้ทำงานให้กับสถาบันที่เขาโดนยิงต่อ และไม่เคยมีความคิดจะย้ายที่ทำงานอีกตะหาก
กรูยังไม่ตาย....(ภาพถ่ายปี 1998)
ปล. แถมยังได้แต่งาน มีลูกอีก 1 คนด้วยอีกตะหาก!
Source...
http://www.todayifoundout.com/index.php/2010/03/what-happens-when-you-stick-your-head-into-a-particle-accelerator/?ref=curiositydotcom
http://wordpress.mrreid.org/2012/03/05/the-man-who-put-his-head-in-a-particle-accelerator/