ข้อโต้แย้ง สมัย รัฐบาลยิ่งลักษณ์ น้ำท่วมใหญ่ ปี 54
เกิดศึกบริหารจัดการน้ำ ระหว่าง รัฐบาลของประเทศ กับ นายกเล็ก ผู้ว่า กทม
ตอนนั้น จำได้ว่า แบ่งออกเป็นสองฝ่าย
ฝ่ายหนึ่ง โจมตีการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ว่าไม่เอาไหน
ฝ่ายหนึ่ง บอกว่าการสั่งการจัดการน้ำไปยังผู้ว่า กทม ไม่ได้รับการตอบสนอง
เหตุการณ์หนึ่งที่เห็นชัดเจน
ก็ตอนที่รัฐบาลขอให้ทาง กทม เปิดประตูน้ำเพื่อระบายน้ำ
แต่ ทาง กทม ปฏิเสธ ไม่ยอมเปิดประตูน้ำ อ้างว่า น้ำยิ่งจะไปท่วมที่อื่น
หรือแม้แต่ รัฐบาลขอให้ ทาง กทม ลอกท่อที่ตัน
แต่ทาง กทม กลับบอกว่า ต้องไปทำให้ท่อตันเพราะต้องการบล๊อกน้ำไม่ให้ไปท่วมที่อื่น
ตอนนั้น มะรุมมะตุ้ม เถียงกันไปเถียงกันมา ว่าใครกันแน่ที่ผิด
แต่แน่นอน รัฐบาลที่มาใหม่เพียงไม่กี่เดือน ย่อมมีต้นทุนทางสังคมน้อยกว่า ผู้ว่า กทม
บทสรุปตอนนั้นจึงออกมาทาง ผู้ว่า กทม เป็นฝ่ายได้เปรียบ
จวบจนการณ์ผ่านไป
ฝนตกแค่ก้อนขี้แมว เมื่อเทียบกับมวลน้ำมหาศาลปี 54
ก็ทำให้กรุงเทพใจกลางเมือง กลายเป็นทะเลสาปย่อมๆ
ไม่มีรัฐบาลอิโง่ ไม่มีรัฐบาลที่ขัดแย้งกับ ผู้ว่า กทม
แต่.. เหตุใด น้ำเพียงเศษเสี้ยว ถึงทำให้ คน กทม ออกมาร้องระงม
จนผู้ว่าต้องออกมาประกาศ ถ้าไม่อยากโดนน้ำท่วมให้ย้ายไปอยู่ดอย
แต่.. นั่นยังไม่พอกับการพิสูจน์ความสามารถของผู้ว่า กทม เรียกได้ว่า ฝนตกมาไม่ทันตั้งตัว ก็ต้องเห็นใจกันบ้าง
ต่อมา รัฐบาลทหารสั่ง ให้มีการลอกท่อครั้งใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ คน กทม โวยอีก
จนเวลาผ่านไป และฝนมาเยือนอีก
แต่ .. คน กทม ก็ได้พบกับสิ่งที่ประหลาดใจ เป็นหนที่สอง
พร้อมกับคำถามในใจว่า เกิดอะไรขึ้น
ไม่มีรัฐบาลอิโง่แล้วนี่ ทำไม กทม ก็ยังน้ำท่วมเหมือนเดิม เพียงฝนตก ไม่กี่ชั่วโมง
คราวนี้บอกไม่ทันตั้งหลัก คงไม่ได้อีกแล้ว เพราะว่า นายกก็สั่งให้ลอกท่อไปก่อนหน้านี้แล้ว
สิ่งหนึ่งที่ชาว กทม ได้ ก็คือ ทำใจ ครับ
เพราะว่า น้ำที่ท่วม มันคือน้ำรอการระบาย
จึงไม่แปลกใจหรอกครับ ฝนแค่หยิบมือยังรอการระบายขนาดนนี้ แล้วน้ำที่มันท่วมใหญ่ปี 54 มันจะรอการระบายกี่วันหละครับ
นี่ก็เป็น บทพิสูจน์แล้วว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่สั่งการจัดการน้ำ ทำไม ถึงไม่ได้รับการร่วมมือ แต่กลับโดน ชาว กทม ด่าอีกว่าเป็นคนที่ทำให้น้ำท่วมซะงั้น
เมื่อ ความจริงปรากฏ อดีตที่ย้อนแย้ง ก็มีคำตอบ
เกิดศึกบริหารจัดการน้ำ ระหว่าง รัฐบาลของประเทศ กับ นายกเล็ก ผู้ว่า กทม
ตอนนั้น จำได้ว่า แบ่งออกเป็นสองฝ่าย
ฝ่ายหนึ่ง โจมตีการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ว่าไม่เอาไหน
ฝ่ายหนึ่ง บอกว่าการสั่งการจัดการน้ำไปยังผู้ว่า กทม ไม่ได้รับการตอบสนอง
เหตุการณ์หนึ่งที่เห็นชัดเจน
ก็ตอนที่รัฐบาลขอให้ทาง กทม เปิดประตูน้ำเพื่อระบายน้ำ
แต่ ทาง กทม ปฏิเสธ ไม่ยอมเปิดประตูน้ำ อ้างว่า น้ำยิ่งจะไปท่วมที่อื่น
หรือแม้แต่ รัฐบาลขอให้ ทาง กทม ลอกท่อที่ตัน
แต่ทาง กทม กลับบอกว่า ต้องไปทำให้ท่อตันเพราะต้องการบล๊อกน้ำไม่ให้ไปท่วมที่อื่น
ตอนนั้น มะรุมมะตุ้ม เถียงกันไปเถียงกันมา ว่าใครกันแน่ที่ผิด
แต่แน่นอน รัฐบาลที่มาใหม่เพียงไม่กี่เดือน ย่อมมีต้นทุนทางสังคมน้อยกว่า ผู้ว่า กทม
บทสรุปตอนนั้นจึงออกมาทาง ผู้ว่า กทม เป็นฝ่ายได้เปรียบ
จวบจนการณ์ผ่านไป
ฝนตกแค่ก้อนขี้แมว เมื่อเทียบกับมวลน้ำมหาศาลปี 54
ก็ทำให้กรุงเทพใจกลางเมือง กลายเป็นทะเลสาปย่อมๆ
ไม่มีรัฐบาลอิโง่ ไม่มีรัฐบาลที่ขัดแย้งกับ ผู้ว่า กทม
แต่.. เหตุใด น้ำเพียงเศษเสี้ยว ถึงทำให้ คน กทม ออกมาร้องระงม
จนผู้ว่าต้องออกมาประกาศ ถ้าไม่อยากโดนน้ำท่วมให้ย้ายไปอยู่ดอย
แต่.. นั่นยังไม่พอกับการพิสูจน์ความสามารถของผู้ว่า กทม เรียกได้ว่า ฝนตกมาไม่ทันตั้งตัว ก็ต้องเห็นใจกันบ้าง
ต่อมา รัฐบาลทหารสั่ง ให้มีการลอกท่อครั้งใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ คน กทม โวยอีก
จนเวลาผ่านไป และฝนมาเยือนอีก
แต่ .. คน กทม ก็ได้พบกับสิ่งที่ประหลาดใจ เป็นหนที่สอง
พร้อมกับคำถามในใจว่า เกิดอะไรขึ้น
ไม่มีรัฐบาลอิโง่แล้วนี่ ทำไม กทม ก็ยังน้ำท่วมเหมือนเดิม เพียงฝนตก ไม่กี่ชั่วโมง
คราวนี้บอกไม่ทันตั้งหลัก คงไม่ได้อีกแล้ว เพราะว่า นายกก็สั่งให้ลอกท่อไปก่อนหน้านี้แล้ว
สิ่งหนึ่งที่ชาว กทม ได้ ก็คือ ทำใจ ครับ
เพราะว่า น้ำที่ท่วม มันคือน้ำรอการระบาย
จึงไม่แปลกใจหรอกครับ ฝนแค่หยิบมือยังรอการระบายขนาดนนี้ แล้วน้ำที่มันท่วมใหญ่ปี 54 มันจะรอการระบายกี่วันหละครับ
นี่ก็เป็น บทพิสูจน์แล้วว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่สั่งการจัดการน้ำ ทำไม ถึงไม่ได้รับการร่วมมือ แต่กลับโดน ชาว กทม ด่าอีกว่าเป็นคนที่ทำให้น้ำท่วมซะงั้น