พูดถึง Ensogo ที่เพิ่งเจ๊งไป โดยส่วนตัวแล้วเมื่อตอนที่ Ensogo เปิดตัวใหม่ๆ ก็เป็นลูกค้าเรียกว่าเหนียวแน่นเลยทีเดียว

เพราะช่วงแรกเอ็นฯ จะมีดีลที่เชียงใหม่ค่อนข้างเยอะ และเป็นดีลร้านอาหารส่วนใหญ่  แต่พอหลังๆ มา หลังจากที่เอ็นฯ โดนซื้อจาก โซเชียลลิฟวิ่ง ดีลที่เชียงใหม่ก็เริ่มหาย เน้นดีลในกรุงเทพเป็นหลัก สังเกตได้จากดีลต่างจังหวัด (หัวเมืองใหญ่ๆ) ไม่ค่อยมีกันเลย

เมื่อเอ็นฯ โดนซื้อจากบริษัทใหญ่ เขาก็มีเงินทุ่ม มีเงินจ้างพนักงาน สังเกตได้จากดีลในเว็บเยอะมากกก และค่อนข้างซ้ำซ้อน จนบางครั้งคนไม่รู้จะซื้ออะไรไง สปาล๊อตหนึ่งมาเป็นสิบ ร้านอาหารแนวเดียวกันมาเป็นหลายสิบ บางทีเมื่อมีสินค้าแบบเดียวกัน คนขายหลายคน ก็ทำให้ยอดซื้อมันเฉลี่ยไปร้านละเล็ก ละน้อย คิดว่าเลยทำให้ยอดขายของแต่ละร้านไม่เข้าเป้า

และได้ยินมาว่า ดีลแต่ละดี ส่วนมากจะลดราคาประมาณ 50% และที่สำคัญต้องแบ่งให้เอ็นฯ 30% แล้วแบบนี้พ่อค้าแม่ค้าจะเหลืออะไร ก็คงต้องเน้นเรื่อง volume เป็นหลัก แต่อย่างที่เล่าเมื่อพารากราฟก่อนหน้าว่ายอดขายกระจายไปร้านละเล็กละน้อย แล้วแบบนี้จะเอา volume กำไรมาจากไหนละใช่มะ? และถ้าเป็นดีลสินค้าคนต่างจังหวัดก็ต้องจ่ายค่าส่ง และไม่ใช่ว่าซื้อดีลแล้วเขาจะส่งให้เลยนะ ต้องรอรอบส่งก่อน .... แบบนี้ฉันซื้อจาก Lazada ดีกว่าไหม? ส่งฟรี เอาไปเอามาราคาก็พอๆ กันเหอะ และเจ้าลาซาด้านี่แหละ ก็คิดว่าเป็นคู่แข่งหนึ่งที่สำคัญของเอ็นฯ

และอ่านจากข่าวต่างประเทศมา เห็นว่าเอ็นฯ จ่ายเงินให้เว็นเดอร์ช้ามาก จนทำให้เว็นเดอร์บางคนไม่พอใจ ไม่ทำมาค้าขายกับเอ็นฯ อีกต่อไป

เมื่อช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาเว็บ กรูปองก็เพิ่งม้วนเสื่อกลับบ้าน แล้วก็ตามมาด้วยเอ็นฯ มองว่าเว็บดีลบ้านเรามันหมดยุคสมัยไปแล้วป่ะ? คือบางทีการลดราคาเว่อร์เกินเพื่อเน้นการทำ PR การหา volume เยอะ แต่ได้กำไรน้อย บางทีมันก็ไม่เข้าเป้าเนอะ ... (คือเมื่อมีการลดกำไรลงไป มันก็ต้องหาทางลดต้นทุนด้วยใช่ป่ะ? เพื่อให้ได้กำไรกลับมาเท่าเดิม) ดังนั้นเรื่องคุณภาพหละ บางร้านอาจจะลดลง ลูกค้าขยาด มีแต่ฟี๊ดแบคทางลบงี้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่