แนะนำตัวก่อนค่ะเรายังไม่ได้หย่า นิสัยเราถ้ากับคนที่ไม่สนิทเราจะไม่ยุ่งไม่พูดด้วยเราออกแนวรักษาพื้นที่ส่วนตัวเพราะนิสัยเราแรงๆค่ะถูกคือถูกผิดคือผิดแต่กลับที่บ้านเราไม่ทำนะเราจะอยู่นิ่งๆจนคนในหมู่บ้านว่าหยิ่ง แต่ว่าตั้งแต่เริ่มมีเรื่องนี้กันเราก็เริ่มเอาตัวตนเราออกมาให้เค้าเห็นกันมั่งละ เราว่าเรายอมเงียบมานานเกินคือที่บอกก็เพื่อให้รู้ว่าเราก็ไม่ใช่นางเอกอะไรเราก็มีนิสัยแย่ๆเวลาช่วยออกความคิดเห็นจะได้ไม่ต้องปนความสงสารมาด้วยเราผ่านจุดที่น่าสมเพชนั้นมาแล้วคะ ทั้งอ้อนวอน ทั้งร้องไห้ทั้งด่าหาเรื่องเมียน้อยเราเสียใจจนกินไม่ได้นน.ลงผอทแห้งใครเหฌนก็สงสารเราผ่านมาแล้ววันนี้เราโอเค แต่เรามีลูกเราไม่อยากให้ลูกต้องมามีความรู้สึกน้อยใจเศร้าใจหรือไร้คุณค่าแบบที่เราเคยรู้สึก.....
เรื่องนี้เรื้อรังยาวนานมาเกือบแปดปีละสามีมีเมียน้อยแล้วเค้าก็มีลูกด้วยกันตอนนี้เกือบสองขวบละ ตัวดิฉันเองทำงานอยู่ต่างจังหวัดส่วนลูกอยู่บ้านกับพ่อ,ย่าและป้าๆค่ะ ดิฉันจะกลับบ้านช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้คิดมากเรื่องอีกบ้านนึงของสามีเพราะคิดว่าที่บ้านเค้าก็ให้เกียรติเรารักลูกเราไม่ให้ทางนั้นมายุ่ง แต่เมื่อประมาณเดือนที่แล้วเราเสียใจมากค่ะเพราะเราคิดผิด จริงๆที่บ้านเค้า(บางคน)ก็มีการติดต่อกับทางโน้นมาซักระยะเหมือนอยากจะรับเด็กคนนั้นมารู้จักกันอย่างเปิดเผย พอเรารู้ก็เลยส่งไลน์เข้ากลุ่มครอบครัวไปว่าเค้า คือเราก็ทวงหาความจริงใจอยู่ตรงไหนทั้งๆที่เราดีกับพวกเค้าทุกอย่างเราแค่อยากเก็บพื้นที่ตรงนี้ไว้ให้ลูกเราเท่านั้น แต่เรากลับถูกตอกกลับมาว่าใจแคบไม่รู้จักเอาใจเค้ามาใส่ใจเราบ้างเด็กคนนั้นก็หลานเค้า ส่วนลูกเราก็โตแล้ว15,13ปี ก็น่าจะรับได้เพราะยังไงก็เป็นน้องพ่อเดียวกัน พอได้ฟังเราก็อึ้งนะเหมือนโดนทุบเหมือนโดนหักหลัง มีใครในโลกนี้รับได้คะรับเอาลูกของคนที่แย่งพ่อเค้าไปเด็กเค้ารู้ คือพอเด็กเริ่มโตนี่ต้องรับได้ทุกอย่างเหรอคะ เค้าไม่รู้สึกสงสารพวกเราเลย เราเคยคุยกับลูกเรื่องหย่าและจะแยกไปอยู่เองลูกก็ไม่อยากไปเค้าเป็นห่วงย่า ไม่รู้ใครจะอยู่เป็นเพื่อนย่าเราก็ไม่บังคับลูกอยากอยู่ก็ให้อยู่ไม่อยากให้เด็กลำบากใจเห็นลูกเป็นเด็กกตัญญูก็ชื่นใจค่ะ เรื่องหย่าพอพูดเค้าก็ร้องไห้ลูกยังหวังให้พ่อแม่กลับมาเหมือนเดิม เราพยายามอธิบายหลายครั้งลูกก็ไม่ยอม เราเลยต้องยอมอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ คือแค่นี้เราก็สงสารลูกมากละ ยังจะให้ยอมรับเด็กคนนั้นเข้ามาอีกลูกเราจะเป็นยังไง คือเด็กคนนั้นคงไม่ได้มาอยู่ตลอดแบบลูกเราแต่ก็คงเข้าออกได้อย่างอิสระ นี่เราจะทำไงดีคะ แล้วจากที่เล่ามา ข้อแรก เราใจแคบหรือเปล่าคะ
ข้อสอง เด็กๆพอโตไปจะรับเรื่องแบบนี้ได้จริงเหรอ
ข้อสาม ถ้าลูกเรารับไม่ได้เราควรทำไงดีคะ
ข้อสี่ เราจะพูดกับพวกญาติที่บ้านยังไงให้เข้าใจ
อธิบายเพิ่มเรื่องสามีหน่อยค่ะเค้าก็ดูแลลูกบ้างแต่ก็ต้องดูแลทางโน้นด้วย เรื่องค่าใช้จ่ายลูกเรารับผิดชอบเองหมด สามีไม่มีรายได้เป็นผู้ใหญ่บ้านค่ะ ที่บ้านเค้าเราก็ช่วยเหลือซื้อของใช้ในบ้าน ทุกครั้งที่กลับบ้านเราจะออกไปทานข้าวนอกบ้านเกือบทุกมื้อทุกวันเราก็เอาคนในบ้านไปหมดเราจ่ายเองไม่เคยคิดมากเพราะเค้าดูแลลูกให้เรา เราก็อยากตอบแทนบ้าง พากันมาเที่ยวต่างจุงหวัดก็ไม่ต้องจ่ายอะไรเพราะเราให้มาพักรร.ที่เราทำงาน คือทั้งหมดไม่ได้ทวงบุญคุณเราให้ด้วยใจ เราหวังแค่ได้ความจริงใจกลับมาบ้างแต่สุดท้ายก็ไม่ มีคำๆนึงที่เค้าว่าเราน้ำตาตกเลย คือเค้าว่ากับลูกของเราพวกเค้าก็รักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแต่เด็กคนนั้นก็หลานเหมือนกันให้เรามีน้ำใจบ้างเข้าใจอะไรบ้างใจเค้าใจเรา...
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเราผิดเองใช่มั้ยสามีมีเมียน้อยก็ยอมก็อภัยเงียบจนทุกคนคิดไปเองว่าเรารับได้จนเค้ามีลูกกันและเราไม่ยอม
เรื่องนี้เรื้อรังยาวนานมาเกือบแปดปีละสามีมีเมียน้อยแล้วเค้าก็มีลูกด้วยกันตอนนี้เกือบสองขวบละ ตัวดิฉันเองทำงานอยู่ต่างจังหวัดส่วนลูกอยู่บ้านกับพ่อ,ย่าและป้าๆค่ะ ดิฉันจะกลับบ้านช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้คิดมากเรื่องอีกบ้านนึงของสามีเพราะคิดว่าที่บ้านเค้าก็ให้เกียรติเรารักลูกเราไม่ให้ทางนั้นมายุ่ง แต่เมื่อประมาณเดือนที่แล้วเราเสียใจมากค่ะเพราะเราคิดผิด จริงๆที่บ้านเค้า(บางคน)ก็มีการติดต่อกับทางโน้นมาซักระยะเหมือนอยากจะรับเด็กคนนั้นมารู้จักกันอย่างเปิดเผย พอเรารู้ก็เลยส่งไลน์เข้ากลุ่มครอบครัวไปว่าเค้า คือเราก็ทวงหาความจริงใจอยู่ตรงไหนทั้งๆที่เราดีกับพวกเค้าทุกอย่างเราแค่อยากเก็บพื้นที่ตรงนี้ไว้ให้ลูกเราเท่านั้น แต่เรากลับถูกตอกกลับมาว่าใจแคบไม่รู้จักเอาใจเค้ามาใส่ใจเราบ้างเด็กคนนั้นก็หลานเค้า ส่วนลูกเราก็โตแล้ว15,13ปี ก็น่าจะรับได้เพราะยังไงก็เป็นน้องพ่อเดียวกัน พอได้ฟังเราก็อึ้งนะเหมือนโดนทุบเหมือนโดนหักหลัง มีใครในโลกนี้รับได้คะรับเอาลูกของคนที่แย่งพ่อเค้าไปเด็กเค้ารู้ คือพอเด็กเริ่มโตนี่ต้องรับได้ทุกอย่างเหรอคะ เค้าไม่รู้สึกสงสารพวกเราเลย เราเคยคุยกับลูกเรื่องหย่าและจะแยกไปอยู่เองลูกก็ไม่อยากไปเค้าเป็นห่วงย่า ไม่รู้ใครจะอยู่เป็นเพื่อนย่าเราก็ไม่บังคับลูกอยากอยู่ก็ให้อยู่ไม่อยากให้เด็กลำบากใจเห็นลูกเป็นเด็กกตัญญูก็ชื่นใจค่ะ เรื่องหย่าพอพูดเค้าก็ร้องไห้ลูกยังหวังให้พ่อแม่กลับมาเหมือนเดิม เราพยายามอธิบายหลายครั้งลูกก็ไม่ยอม เราเลยต้องยอมอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ คือแค่นี้เราก็สงสารลูกมากละ ยังจะให้ยอมรับเด็กคนนั้นเข้ามาอีกลูกเราจะเป็นยังไง คือเด็กคนนั้นคงไม่ได้มาอยู่ตลอดแบบลูกเราแต่ก็คงเข้าออกได้อย่างอิสระ นี่เราจะทำไงดีคะ แล้วจากที่เล่ามา ข้อแรก เราใจแคบหรือเปล่าคะ
ข้อสอง เด็กๆพอโตไปจะรับเรื่องแบบนี้ได้จริงเหรอ
ข้อสาม ถ้าลูกเรารับไม่ได้เราควรทำไงดีคะ
ข้อสี่ เราจะพูดกับพวกญาติที่บ้านยังไงให้เข้าใจ
อธิบายเพิ่มเรื่องสามีหน่อยค่ะเค้าก็ดูแลลูกบ้างแต่ก็ต้องดูแลทางโน้นด้วย เรื่องค่าใช้จ่ายลูกเรารับผิดชอบเองหมด สามีไม่มีรายได้เป็นผู้ใหญ่บ้านค่ะ ที่บ้านเค้าเราก็ช่วยเหลือซื้อของใช้ในบ้าน ทุกครั้งที่กลับบ้านเราจะออกไปทานข้าวนอกบ้านเกือบทุกมื้อทุกวันเราก็เอาคนในบ้านไปหมดเราจ่ายเองไม่เคยคิดมากเพราะเค้าดูแลลูกให้เรา เราก็อยากตอบแทนบ้าง พากันมาเที่ยวต่างจุงหวัดก็ไม่ต้องจ่ายอะไรเพราะเราให้มาพักรร.ที่เราทำงาน คือทั้งหมดไม่ได้ทวงบุญคุณเราให้ด้วยใจ เราหวังแค่ได้ความจริงใจกลับมาบ้างแต่สุดท้ายก็ไม่ มีคำๆนึงที่เค้าว่าเราน้ำตาตกเลย คือเค้าว่ากับลูกของเราพวกเค้าก็รักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแต่เด็กคนนั้นก็หลานเหมือนกันให้เรามีน้ำใจบ้างเข้าใจอะไรบ้างใจเค้าใจเรา...