[CR] หนีงานไปเที่ยวเวียดนามกันเถอะ (Solo Backpacker)

ตอนที่ 01  :   ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า มือใหม่หัดขับมากๆ สำหรับ พันทิป ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
พอล่ะ เริ่มเยอะล่ะ ก็ไม่มีไรมาก แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ ที่ได้ไปเที่ยวเวียดนามมา คนเดียวก็เฟี้ยวได้ 555
เริ่มเลยล่ะกันน่ะ ก่อนอื่นก็ขุดหาตั๋วโปรกันเองน่ะ ใครดีใครได้ อิอิ จะไปกะค่ายไหนก็เลือกเอาตามสบาย (สบายกระเป๋า)
    ที่แรก ที่ลงไปแตะพื้น ของเราคือ โฮจิมินห์ ซิตี้จร้าาา พอถึงสนามบิน ขอให้แลกเงินเลยน่ะ จะง่ายกว่าได้ rate ดีกว่าด้วย เพราะที่เวียดนามเค้าไม่มีที่แลกเงินมากมายเยอะแยะเหมือนเมืองไทยน่ะเทอ ถึงจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวก็เถอะ จะใช้เงินดอลล่าได้แค่บางอย่างเท่านั้น เช่น การใช้จ่ายก่อนใหญ่ๆอ่ะ ออกจากสนามบิน วิ่งเลยจร้าา วิ่งขึ้นรถ shuttle bus ถามเค้าว่าไป city center หรือ จะไป pham ngu lao ก็ตามใจ วิ่งผ่านหมด ที่จำได้น่าจะ 20,000.- ดองอ่ะ
เหนื่อยจากการเดินหาที่พักล่ะ  ก็หาอะไรกิน เห็นร้านนี้คนนั่งเยอะดีเลยไปดูว่าเค้ากินอะไรกัน เลยจัดสักชุด อยากจะบอกว่าอาหารเค้าอร่อยน่ะ น่าจะถูกปากคนไทย แต่เราชอบกินเผ็ด ขาดเผ็ดไปหน่อย
  ส่วนเรื่องที่พักใครที่อยากได้ ที่ถูกๆหน่อย เราแนะนำ ให้มาถนนเส้นนี้เลย เพียบบบ เอาแบบ Hostel หรือ Hotel ห้องส่วนตัวมีหมด ส่วนเราได้มา 6 ดอลล่า ห้องโดมน่ะ แต่นอนคนเดียวเลย 555 แถมกลางคืนเนี้ย เดินดื่ม เดินกินสบายจร้าาา ปล.ไม่เหมาะกับคนรักสงบ เพราะกลางคืนเสียงเพลงดังมากกก      
   เรามีเวลาไม่มาก แค่วันเดียวที่นี่ เดินเล่นรอบเมืองไปเรื่อยๆ ก็เจอโบสถ์ กะ ไปรษณีย์เก่า ที่เค้าถือว่าเป็น Landmark (ใช่ไหม)  555     คนเยอะดีน่ะ มีคนเวียดนามมาถ่าย Pre wedding ด้วย ตอนกลางคืนก็เป็นแหล่งพบปะของคนเวียดนาม เค้าชอบมานั่งคุย กินชานม หรือ ทำกิจกรรมต่างๆ ก็น่ารักดีน่ะ ไม่เหมือนบ้านเรา
  จะว่าไปบ้านเมืองเค้าก็น่ารักดีน่ะ เราว่า ถึงจะดูวุ่นวาย ทุกคนแย่งถนนกันขับรถ แต่มันก็เป็นเอกลักษณ์ดี เวลาจะข้ามถนนที ไม่ต้องคิดเยอะ วิ่งไปเลย อย่าหยุด ย้ำว่าอย่าหยุด เพราะเราจะกลายเป็นคนผิดทันที แถมจะโดนด่าซ้ำอีก เหอะๆ ขอจบวันนึงที่โฮจิมินห์แค่นี้น่ะ จองตั๋วไปมุยเน่ต่อเลย  ก็ประมาณ 8 ดอล จัดไป   
    มาต่อกันที่ มุยเน่ ดีกว่า นั่งรถประมาณ 4 ชั่วโมง ก็มาเช็คอินท์ ที่นี่เลยจร้า Mui ne backpacker village อยากจะบอกว่า Dorm ไม่แพง นอนกับฝรั่งล้วนๆ ใครที่เป็นติ่งฝารั่ง พูดเลยไม่ผิดหวัง ดีไม่ดีจะได้อะไรติดไม่ติดมือ ก็เป็นด้ายยยยย จากนั้นเราก็ต่อด้วย Half day trip ซื้อจากโฮสเทลเลยง่ายดี ไม่แพงด้วย ก็จะไปได้หลายที่เหมือนกัน แต่ละที่คือเป็นสิ่งที่เค้ามีอยู่แล้ว ไม่ได้สวยงามอะไรมาก อย่าคาดหวังว่าจะได้เจออะไรที่อลังการมากมายน่ะจ๊ะ แต่เราก็ดีใจที่ได้ไปเห็น ได้ไปสัมพัส ด้วยตาของตัวเอง มีคนตั้งมากมายที่อยากไป แต่ก็ได้แค่นั่งอยู่หน้าคอมฯ เท่านั้นเอง   ที่นี่เค้าน่าจะเรียกว่า Fairy stream ที่นี่เค้ามีให้ขี่นกกระจอกเทศด้วยน่ะเทอ ใครอยากมีประสบการณ์เสียววก็จัดปายยย!! แวะถ่ายรูปกับทะเลแปป เสียดายเรือไม่เยอะ ภาพที่ได้ก็ตามนี้   sadd เลยเรา   คนขับรถปล่อยให้เดินเล่น แปปนึง อากาศร้อนมากกกก สีผิวเปลี่ยนในทันใด 555    ต่อด้วย ไฮไลท์ ของทริป แท่นแท้น แท๊นนนน White sand due คร้าาา ร้อนนมากกก หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ทรายสุดฤทธิ์ ลมก็แรงทรายเต็มปาก เต็มคอเลยจ้า เหอะๆ คุ้มสุดๆ  เดินเล่นจนกล้ามขาขึ้นล่ะคราวนี้ กันดงกันแดด SPF อะไร เท่าไรก็เอาไม่อยู่ แดดนี่ทะลุถึงเซลผิวชั้นใน เกือบไปยันกระดูกชั้นล่ะ จากนั้นก็มาที่นี่ น่าจะเป็นที่สุดท้ายของทริปล่ะ Red sand due ค่ะ ที่นี่เราชอบน่ะ ทรายสีสวย วิวดีด้วย คนพื้นที่เยอะดี มีของกิน ของฝากขายด้วย มาเดินถ่ายรูปตอนเย็นๆ ภาพสวยดี   จบทริปด้วยความเหนื่อยล้า และความดำที่ไม่คาดคิด 55 พอมาถึงโฮสเทล ก็อาบน้ำอาบท่า หาไรกิน ค่ำๆ ก็ดื่มกะเพื่อนๆ ในโฮสเทล ต่อด้วย Pub crawl ไอ้เราก็ตามน้ำไป รู้ตัวอีกทีเช้าล่ะ วิ่งสิค่ะ หญิง รอไร ต้องไปต่อ ต้องรีบเก็บกระเป๋าไปดาลัทต่อจร้าาา วิ่งแบกกระเป๋า ขึ้นรถตู้แบบ มึนๆงงๆ จำได้ว่าหลับตลอดทาง มีเพื่อนร่วมทางข้างๆ มันถามว่า " are you ok ?!" ไอ้เราก็ตอบไปแค่ว่า ชั้นโอเค กรูแค่อยากนอน 555 ในที่สุดชั้นก็มาตื่นที่นี่
   ดาลัทททท อร้ายยย !!!! นั่งทำใจพักใหญ่ๆ เพราะอาการยังไม่ส่างดี เดินหาโฮสเทลตามเดิม ก็ได้มาเจอที่นี่ จะบอกว่าพักที่นี่โดยไม่ได้คิด เดินหาที่พักจนเหนื่อย คือร่างกายต้องการ การนอนมากก เลยเดินเข้าไปแบบไม่คิด ที่นี่ไม่มีฝรั่งพักค่ะ ช่วงที่เราไป มีแต่หนุ่มๆ สาวๆ เวียดนามทั้งนั้น ห้องพักนอนรวม นอนกัน 8 คนต่อหนึ่งห้อง
คือแต่ละนาง คุยกันมันส์มาก แย่งกันพูด ไม่มีใครฟังใคร ไอ้เราจะนอน ก็นอนไม่หลับ แต่ที่นี่ก็น่ารักดีน่ะ มี Coffee Shop อยู่ข้างล้าง กลางคืน ก็เป็นบาร์ มีดรตรีสดด้วย ใครที่ชอบดื่มแล้วนั่งชิลๆ เหมาะเลย ที่นี่อยู่ใกล้ตลาดด้วยน่ะเทอ เดินแปปเดียว เจอเลย ของกิน ของขาย ของฝากเพียบบบบ คนเยอะมาก ก ไก่พันตัว ไม่รู้ว่ามาจากไหนกัน นึกว่ามีมหกรรม ลด แลก แจก แถม อะไรกัน คือไร เห็นแล้ว งง มาซื้ออะไรกัน คูนนนนน!?
หลังจากยืนงงอยู่นาน ก็เริ่มเดินหาอะไรกิน ไปดูสิ เค้ากินอะไรกัน และก็นี้เลย หน้าตาเหมือนขนมจีน แต่เป็นน้ำใสน่ะ มีเนื้อ กะ ไก่ ไม่ต้องปรุงไรมาก ถ้าชอบเผ็ดก็ใส่พริกเผาเพิ่ม คือจบ ฟินเฟ่ออ่ะ ,ยังไม่พอ เดินๆไปเห็นแม่ค้าขายกันเยอะมาก น่าตาน่าลองเลยจัดสักหน่อย เฮ้ย นี่มันคือไร ?!  ถามเค้าบอกว่า มันคือพิซซ่าเวียดนามจ้า เฮ้ย ใครเป็นคนคิดค้นมันขึ้นมาอ่ะ อร่อยม๊วกกกก แนะนำว่าต้องลองน่ะทุกคน ไม่ผิดหวังชัวร์ , แกรร อยากจะบอกว่า อาหารเวียดนามอร่อยมากๆ ทำให้ชอบอาหารเวียดนามไปเลยอ่ะ อยากกินทุกอย่างโดยไม่ต้องคิด 55 หลังจากเดินดู เดินกิน เดินชิมไปเรื่อยๆ ก็ตบด้วยชานมไข่มุกต่อ ชานมที่นี่ถือว่าเป็นอะไรที่ฮิตมาก คือคนมานั่งกินกันทั้งคืน กินไป คุยไป วัยรุ่นไม่นัดกันไปไหนน่ะ นัดกันมานั่งกินชานม เย็นหรือร้อนก็แล้วแต่จะเลือกเลย พอก่อนแล้วกันน่ะคืนนี้ กินเยอะแล้วง่วง พรุ่งนี้มี One day trip ต่อ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังใหม่น่ะ See you !!!
   ต่อๆๆ ตอนที 02 จร้า @_@
วันนี้อาการเป็นใจ ตื่นมาตั้งแต่ตี 4 เฮ้ยย ไม่ใช่ ขุดตัวเองจากที่นอนได้ก็ 8 โมงล่ะ มีนัดกะผู้บ่าว 9 โมง (ไกด์นำเที่ยว นางเป็นคนขับมอไซต์ด้วย Easy Rider)  ที่เวียดนามเค้าจะมีบริการนี้ คือขับรถมอไซต์พาเราเที่ยวไปที่ต่างๆ ถ้าจะไปต่างเมืองก็ยังมีเลย 3-4-5 วัน รวมทุกอย่างน่ะ อาหารการกิน  เค้าก็ไปกัน  แต่ค่อนข้างแพงหน่อย แต่คุ้มมากๆ ใครที่ชอบประมาณ Road trip แต่ไม่อยากขับมอไซต์เอง ก็จัดไป ปลอดภัย ชัวร์   หลังจากตื่นมา ต้องทำตัวเองให้รู้สึกว่าตื่นจริงๆก่อน เลยขอจิบกาแฟเค้าสักแก้ว นั่งรอมันค่อยๆ  Drip อย่างใจเย็น ทำเป็นสโลไลฟ์ 555 คือต้องนั่งจิบจริงๆ คือโคตรรขมเลย แล้วมีนมข้นหวานนน ผสมให้ด้วย มันเข้ากันตรงไหนเนี้ย หรือคอเราไม่ถึง ตาตั้งเลยจร้าาาา
แต่ทันใดนั้นก็รอดตายย สารถีชั้นก็มาพอดี วิ่ง จ่ะ วิ่ง กระโดดว้อนท้ายนางเลยจร้า  ไปๆๆๆ ชั้นพร้อมล่ะ!       เราเลือก One day trip ก็ประมาณว่านั่งรถไปนอกเมือง ขึ้นเขาไปดูวิถีชีวิตของคนดาลัท ดูว่าเค้าอยู่กันยังไง ทำมาหากินไรกัน โน่น นี่ นั่น เออ ก็เพลินดี คล้ายบ้านเรา         จากนั้นก็มาต่อที่น้ำตก น้ำตกนี้ เค้าเรียกว่า Elephant Crying Waterfall ถ้าจำไม่ผิดน่ะ อิอิ เค้ามีตำนานนนนน นานพอมั้ย 55 ถ้าอยากรู้ กูเกิ้ลเลยค่ะ
ทางกลับลงมาจากเขาวิวก็สวยมากจริงๆ แต่ฝนทำท่าจะตกล่ะ ม่ายยยยน่ะะะ ....  และแล้วก็ตกตกจริงด้วย ฮือ  ฮือ        
  ขอตัดมาตอนเช้าของอีกวันเลยล่ะกันน่ะ ยังพอเหลือเวลาเดินเล่น ถ่ายรูปบ้านเมืองเค้าอีกหน่อย ก่อนที่จะต้องไปต่อที่ ฮอยอัน เดินให้ขาลากกันไปเล๊ยยย      พอดีเดินผ่านมาเลยอยากรู้ว่า ไอ้เขียวๆนี่คืออะไร เลยเข้าไปดูใกล้ๆ มันคือ Coffee Shop แกรร เก๋ๆ อ่ะ น่ารักดี อยากจะบอกว่าคนที่นี่ชอบกินกาแฟมากก ทั้งปลูก ทั้งขาย     เดินเหนื่อยอีกล่ะ ถึงเวลากินอีกล๊าววว เหอะๆ    เห็นบรรยากาศที่นี่แล้ว เราว่าก็น่าอยู่ดีน่ะ เรายังคิดอยากจะลองมาอยู่เลยย สะอาดตาดี แต่และแล้วก็ถึงเวลาต้องจากอีกแล้วว ชั้นต้องแบกกระเป๋าขึ้นรถอีกล่ะ ......
   ตอนที่ 03 :  แวะพัก ทักนาตรัง (Nha trang)  หลังจากเส้นทางพันโค้งจากดาลัท แถมฝนตกตลอดทางคิดในว่าชั้นจะรอดชีวิตไหมทริปนี้ 55
ก็ได้มาเจอเมืองนี้ที่ไม่มีในแพลนว่าจะมา ที่จริงก็ไม่รู้จักด้วย พอมีเวลาเลยเดินเล่น ดูโน่น ดูนี่ฆ่าเวลา บรรยากาศที่นี่คล้ายๆ พัทยาบ้านเรา เมื่อหลายปีก่อน ตึกใหม่ๆ โรงแรมใหญ่ๆโตๆ ขึ้นยิ่งกว่าดอกเห็บ เอ้ย ดอกเห็ด ก็ดูวุ่นวายดี แต่หาดยังน่าลงไปว่ายน้ำเล่นอยู่  ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวแนวทะเลเวียดนาม ที่นี่ก็ถือว่าน่าลองมาดูน่ะ   ชมกันพอหอมปากหอมคอล่ะ ป่ะไปกันต่อเลยดีกว่า ชั้นรู้สึกเหมือนว่ามีใครกำลังรอชั้นอยู่ที่สถานนีต่อไป เหอะๆ สายมโนก็มาน่ะเออ ป่ะๆๆ เส้นทางยังอีกยาวไกล.....แบกกระเป๋าขึ้นรถนอนตามเดิม ชีวิตการเดินทางของเราส่วนมากจะอยู่บนรถนี่แหละ เหอะๆ ดีน่ะที่มี Wifi ไม่งั้นต้องบ้าตายแน่ๆเลย ขอมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มก่อน ไว้เจอกันพรุ่งนี้น่ะ ชอบมากเลยเวลาตื่นขึ้นมาแล้วตัวเองมาโผล่อีกเมืองนึง ตื่นเต้นฝุดๆอ่ะ 555 Zzzzzzz           ฝากภาคต่อดวยน่ะค่ะ http://pantip.com/topic/35316301