คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
เรื่องเล่าความหลังนี่ พวกสวชอบ
เรื่องการเดินทางนี่ จะว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมก็ว่าได้ ถ้าให้ย้อนเวลากลับไป
ก็คงไม่มีเวลาจะเดินทางได้เยอะขึ้นหรือน้อยลงเท่าใดนัก ผมว่าผมหมดกับการเดิน
ทางเป็นหลายๆๆล้านบาท นอกจากค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม ค่าเช่ารถ มีเคยไปเที่ยว
เมกาสามสี่เดือน คือแบบว่าขับรถไปเรื่อยๆ ไปเยี่ยมเพื่อนฝูงสมัยเคยเรียนอยู่ก็มีมาแล้ว
กะว่าถ้ามีเวลาจะขับรถตามรู้ท๖๖ เล่นอีกสองสามรอบ หรือไม่ก็ไปเที่ยวประเทศแถบ
เมกาใต้ นอนโรงแรมน้ำแข็งในฟินแลนด์ นอนโรงแรมใต้น้ำ ฯลฯ
ภาพปลากรอบ จะสังเกตุเห็นพาสปอร์ตเล่มหนึ่งเล่มสองจากล่างค่อนข้างหนาเพราะ
สมัยก่อนมันต่ออายุไปเป็นสิบปี เลยต้องต่อหน้าเพราะประทับเต็มไปหมด

ในประเทศไทยก็เที่ยวเยอะ สมัยก่อนอายุไม่ยี่สิบดี ปิดเทอมก็มีขี่มอไซด์ออกทริปเอง
ตั้งแต่การขี่มอไซด์ไม่เป็นที่นิยมแบบนี้ ไปใต้สุดถึงภูเก็ตเหนือสุดถึงเชียงรายมาแล้ว
นอนกับเพื่อนมั่งนอนตามชายหาดบ้าง ตอนเด็กๆเป็นนักเรียนเที่ยวแบบประหยัดสุดๆ
เด้วนี้จะไปตจวก็แค่ที่เรามีบ้านมีคอนโดอยู่หรือพรรคพวกอยู่ ไปมาเยอะแล้วความอยาก
จะไปมันจางหาย ยกเว้นมีคนกระตุ้นให้ไปก็จะไป
ถ้าจะให้ย้อนเวลากลับไปเปลี่ยนอะไรได้คงจะเปลี่ยนอย่างเดียวคือซื้อที่ดินให้มากขึ้น
ผมซื้อที่ดินน้อยเกินไป สมัยเป็นลูกจ้างเงินเดือนเยอะไม่เคยประหยัด หนุ่มๆเที่ยวเยอะ
ถ้าเอาเงินมาซื้อตึกคงได้เป็นหลายหลัง หลังๆมาทำธุรกิจ ถึงจะมีเงินเก็บมีทรัพย์สินเกิน
ถัวเฉลี่ยเพื่อนๆ แต่ก็ไม่ทันพวกที่รวยๆจริงๆ
เสียดายจริงๆว่ามีเงินแล้วไม่ลงทุนในที่ดินคือเคยคิดแล้วไม่ทำนี่คืออะไรที่หากเปลี่ยนได้
จะเปลี่ยนมาลงที่ดินไห้เยอะขึ้น ที่ดินติดทางหลวงตามต่างจังหวัดสมัยก่อนไร่ไม่กี่หมื่นบาท
ปัจจุบันไร่หลายล้านมันขึ้นเป็นร้อยเท่าจริงๆ ผมมองว่าถ้ามีเงินและมีแหล่งรายได้แล้วไม่มี
ความจำเป็นที่จะต้องประหยัดเท่าใด ถึงจะใช้เยอะแต่ต้องหาให้ได้เยอะกว่า อย่างนี้ผมว่าจะ
ไม่ทำให้มากระทบกับการเงินในอนาคตและการใช้จ่ายประจำวัน ตามหัวข้อจขกท การเก็บ
ออมมากๆมันควรจะเป็นช่วงแรกของการตั้งตัว ถ้าตั้งตัวได้แล้วการใช้เงินและการออมควรจะ
อยู่ในทางสายกลาง ให้พอดี ไม่เดือดร้อนปัจจุบัน ที่สำคัญต้องไม่กระทบความมั่นคงในอนาคต
ผมคิดว่าจะหยุดเดินทางก็ต่อเมื่อ เดินไม่ไหว หรือสภาพร่างกาย ชราภาพแบบช่วยตัวเอง
ไม่ได้ เวลาที่หมดวัยเดินทางสำหรับผม ก็คงน่าจะเป็นเวลาที่เตรียมตัวจะเข้าโลง
เด้วพรุ่งนี้ก็จะไปดูงานที่เมืองจีนอีกซักอาทิตย์สองอาทิตย์ เจอพรรคพวกในเมืองจีนคง
กินอีกเยอะน้ำหนักขึ้นกลับมาอีกตามฟอร์ม ต้องขยันเข้าฟิตเนสอีก ไม่ต้องแข็งแรงแบบ
สตาโลน พอผมอายุเท่านั้นก็ขอสุขภาพแค่ครึ่งนึงก็พอ จะได้เดินทางได้เรื่อยๆ
เรื่องการเดินทางนี่ จะว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมก็ว่าได้ ถ้าให้ย้อนเวลากลับไป
ก็คงไม่มีเวลาจะเดินทางได้เยอะขึ้นหรือน้อยลงเท่าใดนัก ผมว่าผมหมดกับการเดิน
ทางเป็นหลายๆๆล้านบาท นอกจากค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม ค่าเช่ารถ มีเคยไปเที่ยว
เมกาสามสี่เดือน คือแบบว่าขับรถไปเรื่อยๆ ไปเยี่ยมเพื่อนฝูงสมัยเคยเรียนอยู่ก็มีมาแล้ว
กะว่าถ้ามีเวลาจะขับรถตามรู้ท๖๖ เล่นอีกสองสามรอบ หรือไม่ก็ไปเที่ยวประเทศแถบ
เมกาใต้ นอนโรงแรมน้ำแข็งในฟินแลนด์ นอนโรงแรมใต้น้ำ ฯลฯ
ภาพปลากรอบ จะสังเกตุเห็นพาสปอร์ตเล่มหนึ่งเล่มสองจากล่างค่อนข้างหนาเพราะ
สมัยก่อนมันต่ออายุไปเป็นสิบปี เลยต้องต่อหน้าเพราะประทับเต็มไปหมด

ในประเทศไทยก็เที่ยวเยอะ สมัยก่อนอายุไม่ยี่สิบดี ปิดเทอมก็มีขี่มอไซด์ออกทริปเอง
ตั้งแต่การขี่มอไซด์ไม่เป็นที่นิยมแบบนี้ ไปใต้สุดถึงภูเก็ตเหนือสุดถึงเชียงรายมาแล้ว
นอนกับเพื่อนมั่งนอนตามชายหาดบ้าง ตอนเด็กๆเป็นนักเรียนเที่ยวแบบประหยัดสุดๆ
เด้วนี้จะไปตจวก็แค่ที่เรามีบ้านมีคอนโดอยู่หรือพรรคพวกอยู่ ไปมาเยอะแล้วความอยาก
จะไปมันจางหาย ยกเว้นมีคนกระตุ้นให้ไปก็จะไป
ถ้าจะให้ย้อนเวลากลับไปเปลี่ยนอะไรได้คงจะเปลี่ยนอย่างเดียวคือซื้อที่ดินให้มากขึ้น
ผมซื้อที่ดินน้อยเกินไป สมัยเป็นลูกจ้างเงินเดือนเยอะไม่เคยประหยัด หนุ่มๆเที่ยวเยอะ
ถ้าเอาเงินมาซื้อตึกคงได้เป็นหลายหลัง หลังๆมาทำธุรกิจ ถึงจะมีเงินเก็บมีทรัพย์สินเกิน
ถัวเฉลี่ยเพื่อนๆ แต่ก็ไม่ทันพวกที่รวยๆจริงๆ
เสียดายจริงๆว่ามีเงินแล้วไม่ลงทุนในที่ดินคือเคยคิดแล้วไม่ทำนี่คืออะไรที่หากเปลี่ยนได้
จะเปลี่ยนมาลงที่ดินไห้เยอะขึ้น ที่ดินติดทางหลวงตามต่างจังหวัดสมัยก่อนไร่ไม่กี่หมื่นบาท
ปัจจุบันไร่หลายล้านมันขึ้นเป็นร้อยเท่าจริงๆ ผมมองว่าถ้ามีเงินและมีแหล่งรายได้แล้วไม่มี
ความจำเป็นที่จะต้องประหยัดเท่าใด ถึงจะใช้เยอะแต่ต้องหาให้ได้เยอะกว่า อย่างนี้ผมว่าจะ
ไม่ทำให้มากระทบกับการเงินในอนาคตและการใช้จ่ายประจำวัน ตามหัวข้อจขกท การเก็บ
ออมมากๆมันควรจะเป็นช่วงแรกของการตั้งตัว ถ้าตั้งตัวได้แล้วการใช้เงินและการออมควรจะ
อยู่ในทางสายกลาง ให้พอดี ไม่เดือดร้อนปัจจุบัน ที่สำคัญต้องไม่กระทบความมั่นคงในอนาคต
ผมคิดว่าจะหยุดเดินทางก็ต่อเมื่อ เดินไม่ไหว หรือสภาพร่างกาย ชราภาพแบบช่วยตัวเอง
ไม่ได้ เวลาที่หมดวัยเดินทางสำหรับผม ก็คงน่าจะเป็นเวลาที่เตรียมตัวจะเข้าโลง
เด้วพรุ่งนี้ก็จะไปดูงานที่เมืองจีนอีกซักอาทิตย์สองอาทิตย์ เจอพรรคพวกในเมืองจีนคง
กินอีกเยอะน้ำหนักขึ้นกลับมาอีกตามฟอร์ม ต้องขยันเข้าฟิตเนสอีก ไม่ต้องแข็งแรงแบบ
สตาโลน พอผมอายุเท่านั้นก็ขอสุขภาพแค่ครึ่งนึงก็พอ จะได้เดินทางได้เรื่อยๆ
แสดงความคิดเห็น
ถ้าย้อนเวลาไปได้ คุณจะเที่ยวให้หมดทุกที่ หรือจะเก็บเงินออมไว้ให้มากที่สุดครับ