THE BOY x ICELAND | EP 6 : DAY 3 - First day of summer

THE BOY x ICELAND | EP 0 : เรื่องราวของผมกับไอซ์แลนด์ http://pantip.com/topic/35263996
THE BOY x ICELAND | EP 1 : เตรียมตัวออกเดินทาง http://pantip.com/topic/35264937
THE BOY x ICELAND | EP 2 : Hej Danmark, Jeg er her! http://pantip.com/topic/35268433
THE BOY x ICELAND | EP 3 : Ég koma til þín ! ไอซ์แลนด์ เรามาหาแล้วนะ http://pantip.com/topic/35273271
THE BOY x ICELAND | EP 4 : DAY 1 - This is how Iceland welcome me. http://pantip.com/topic/35280548
THE BOY x ICELAND | EP 5 : DAY 2 - สัมผัสกับกลิ่นอายของความเป็นไอซ์แลนด์ http://pantip.com/topic/35286578

มีใครอ่านอยู่รบกวนแสดงตัวหน่อยนะครับ จะได้รู้ว่าไม่มีคนอ่าน เพราะผมเริ่มขี้เกียจเขียนแล้ว มันอีกยาวมาก แหะๆ


วันที่ 21 เมษายน

วันนี้เป็นวันหยุดราชการ เนื่องจากได้ชื่อว่าเป็นวันแรกของฤดูร้อน หรือ "Sumardagurinn fyrsti" ผู้คนก็จะหยุดงาน ออกมาเที่ยวเดินเล่น สังสรรค์กันเล็ก ๆ น้อย ๆ

//ตัดภาพมาที่อุณหภูมิ อยุ่ที่ 3 องศาเซลเซียส.. หน้าร้อนมากจ้าาาาาา



ตอนเช้าก็เหมือนเดิม เรียนรู้เกี่ยวกับการถ่ายรูปครับ ส่วนตอนบ่ายไป Marathon ก็คือกลับเข้าไปในเมือง ถ่ายรูปกันแชะ ๆ นั่นเอง

วันนี้จีซูบอกว่า นางมีความตื่นเต้นมากที่จะได้ออกจากบ้านหลังนี้สักที 55555 ถึงแม้อากาศจะยังไม่น่าจะเรียกว่าหน้าร้อนได้ แต่ท้องฟ้าก็แจ่มใสระดับสิบนะครับ ถือว่าให้อภัยก็ได้ เค้าล้อเล่น





ปล. หลัง ๆ มานี้จะได้พบกับรูปเอียง รูปสีไม่สวย ไม่เป็นไรนะครับรู้เอาไว้ว่าผมขี้เกียจแต่ง 555555

แก๊งค์สาวสาวสาว (เคลอานที่ ซาช่า คัทย่า) ไม่มาจอยด้วย ไม่รู้ว่าพวกนางไปไหนกัน แต่คือสามคนนี้ชอบไปเป็นแก๊งค์ของนางอยู่แล้วครับ กลับบ้านมาอีกทีก็ดึก ๆ

ทำให้ทีมวันนี้ มี ผม จีซู เอวา เอมิลี่ ลิซ อุลริเค่ และ เอเดรียน ไปในเมืองด้วยกัน แต่เดินไปสักพักพระแม่อุลริเค่ก็ขอแยก เพราะนางอยากถ่ายรูปแบบจริง ๆ จัง ๆ ไม่อยากรบกวน ก็เลย โอเค

เอาจริง ๆ ถามว่าได้ถ่ายรูปมากไหมวันนี้... ไม่ค่อยหรอกครับ 5555555

จริง ๆ คือไปกินไอติมกันครับวันนี้ น่าจะเป็นร้านไอติมที่ดังที่สุดในเรคยาวิคแล้วมั้ง เพราะคนเต็มร้านเลย ต้องต่อคิวยาววว ร้านชื่อว่า "Valdís"



ราคาเป็นมิตรดีครับ 1 ลูก 450ISK ก็ประมาณ 130 บาท มีหลากหลายแบบหลากหลายราคาให้เลือกทีเดียว ไม่ว่าจะใส่โคนหรือถ้วย แต่ผมเลือกเป็นใส่โคน รสมะพร้าว รสชาติก็อร่อยดีครับ ใช้ได้ หอมมะพร้าวนมในเวลาเดียวกัน
ประสบการณ์แปลกใหม่ : กินไอติม ณ อุณหภูมิ 9 องศา แปลกดีฮะ



ร้านอยู่ใกล้ ๆ กับท่าเรือครับ ก็เลยมีโอกาสได้ถ่ายรูปบ้าง



ลานจอดรถที่ไหนให้ได้มากกว่านี้บ้างครับ TT สวยงามประทับใจ



จากนั้นก็ไม่มีอะไรทำแล้วอะ ทุกคนก็เลยไปที่ประจำในทาวน์ นั่นก็คือ Loft hostel แต่เนื่องด้วยความที่ว่า จีซูเพิ่งได้ออกมาเปิดหูเปิดตาในเมืองเป็นวันแรก ผมเลยชวนจีซูไปดูโบสถ์ฮัทล์กรีมฯ ก่อน เพราะรู้สึกภูมิใจที่จะนำเสนอมาก ๆ ส่วนคนอื่นก็ไปรออยู่ที่โฮสเทล ทำให้ผมได้คุยนู่นนี่นั่นกับจีซูมากขึ้น

มีหลายประเด็นเหลือเกินที่ผมคุยกัน แต่ผมจะพยายามสรุปคร่าว ๆ นะครับ

ดาราเกาหลี
จีซูน่ะ เป็นคนเกาหลี ที่ไม่ติ่งเกาหลี.. นึกออกมั้ยครับ คือนางไม่ใช่แฟนคลับของบอยแบนด์หรือเกิร์ลกรุ๊ปใด ๆ
นางบอกว่านางลำบากใจมาก เพราะมีเพื่อนคนจีน ชอบบอกกับนางว่า คนเกาหลีเนี่ยหล่อเนอะ
แต่จีซูก็จะรู้สึกแบบ เอิ่ม... มันไม่ใช่นะยู ก็พวกเขาเป็นดาราไงล่ะ พวกเขาเลยหล่อ เขาทำศัลยกรรมมา คนเกาหลีไม่ได้หล่อเหวยยยย

จีซูอยากมาเที่ยวเมืองไทย

จีซูบอกว่า คนเกาหลีมาเที่ยวเมืองไทยเยอะ และนางก็อยากมาด้วย ผมก็เลยถามว่า ทำไมหรอ เราก็สงสัยน่ะ เพราะอย่างคนเกาหลีเนี่ยก็มาเที่ยวเชียงใหม่เยอะมาก ๆ
..ปรากฎว่าจีซูรู้จักเชียงใหม่ด้วย 55555
จีซูบอกว่า คนเกาหลีชอบไปเที่ยวเมืองไทยเพราะอาหารอร่อย อยากกินผัดไท ชอบไปเที่ยววัด ดูเมืองเก่า ๆ ที่สำคัญ จีซูบอกว่าคนไทยใจดี (ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำนี้กับหูตัวเองจริง ๆ)
จีซูบอกว่า คนเกาหลีใจแคบ... อันนี้ใช้วิจารณญาณกันหน่อยนะครับ ไม่อยากก่อดราม่า
ยกตัวอย่างเช่น พ่อแม่ของจีซู เค้าเป็นคนไม่ค่อยต้อนรับขับสู้กับคนแปลกหน้าเท่าไหร่ และคนเกาหลีส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้น
แต่จีซูบอกว่า ไอไม่ได้เป็นแบบนั้นนะ ผมก็บอกว่า แน่นอน ไอรู้ 5555555 ก็ชวนคุยกันซะขนาดนี้ เฟรนด์ลี่เหลือเกิน ไม่เหลือช่องว่างให้ผมตอบเล้ยย

เป็นอีกวันนึงที่ผมได้มาที่โบสถ์นี้อีกแล้ว ผมยิ่งรู้สึกชอบโบสถ์นี้เข้าทุกวัน ๆ ครับ



อ้อ ผมลืมแนะนำชายที่อยู่หน้าโบสถ์ให้รู้จัก
Leifr Eiríksson



เป็นนักสำรวจชาวยุโรป เป็นผู้ที่พบทวีปอเมริกาเหนือก่อนโคลัมบัสเสียอีกนะครับ วิชาประวัติศาสตร์ของคนไอซ์แลนด์ เค้าจะสอนว่าเลเฟอร์เป็นคนที่ค้นพบทวีปอเมริกาเหนือ แต่จริง ๆ ผมว่า ถ้าจะถามว่าใครค้นพบก่อนคนแรก มันตอบไม่ได้แหละครับ ก่อนหน้าเลเฟอร์ก็ต้องมีอีกอยู่แล้วแหละ


หลังจากนั้นก็กลับบ้านครับ, วันนี้เวรทำอาหารของเคลอานที่ และคัทย่า สองในสามสมาชิกจากแก๊งค์ สาวสาวสาว

ผมไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไรอะ บ้านนอก... พาสต้าหรอ.. หรืออะไร


แต่อร่อยโคตร ๆ เลยครับ. มันดีต่อใจมาก เพราะได้กินเนื้อสักที แว๊กกกก ชีสนี่ก็เต็มปากเต็มคำไปอี๊กกกก



แต่เคลอานที่, ผมสังเกตมานานแล้วว่าทุกมื้อนางจะกินมะเขือเทศสด ๆ กับชีส ดิบ ๆ เลย
ผมนั่งจ้องแล้วก็สงสัยว่า ชีสดิบ ๆ นี่เป็นยังไงนะ

"เฮ้เคลอานที่ ผมขอลองหน่อยได้มั้ย"
"ได้สิ"

*กัดเข้าไปครึ่งแผ่น*
.
.
.
.
.
.

เอ่อ....

"เป็นไงบ้าง" เคลอานที่ถาม
"......."
"บอกมาตรง ๆ เลย ไม่เป็นไรหรอกน่า"
"ไม่รู้สิ แต่...บอกไม่ถูกอะ มันแปลก ๆ "

คือรสชาติมันไม่อร่อยเลยอะ แต่ก็ไม่ถึงกับทนไม่ได้ เหมือนเป็นชีสที่แรงมาก ๆ ถ้ากินไปนาน ๆ ก็คงชิน แต่นี่คือการกินชีสดิบ ๆ ครั้งแรกของผม ซึ่งผมรู้สึกว่า ให้เคลอานที่กินคนเดียวต่อไปเถอะ ดีแล้ว TT

อ้อ คืนนี้มีคอนเสิร์ต ~ ใช่แล้ว
ลิซบอกว่าคืนนี้มีคอนเสิร์ตฮิปฮอปครับ
หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็ออกไปดูคอนเสิร์ตกันต่อ ที่ผับ Príkið
เดินอีกแล้ว.. ถามว่าเหนื่อยมั้ย มากครับ โคตร ๆ เท้าผมเจ็บมาก จนมันเป็นตุ่มใส ๆ ขึ้นมา ที่สำคัญ เท้าผมมีกลิ่นด้วย ฮืออ
แต่ไหน ๆ เค้าก็ชวนแล้วอะ แล้วเราก็อุตส่าห์มาไอซ์แลนด์แล้ว เค้าชวนทำไร เราทำให้หมดเลยละกัน

ผมก็เลยไป ประกอบด้วย ผม จีซู ซาช่า เอมิลี่ และ ลิซ หัวหน้าแก๊งค์ของเรา

พอไปถึงผับปุ๊บ


.... ไม่โอเคว่ะ

1. คนเยอะมาก
2. เสียงดัง
3. เอาจริง ๆ ฮิปฮอปไม่ใช่แนวผม
4. ผมไม่ดื่ม
5. แล้วจะให้ผมทำอะไรล่ะ?

คือก็ ไปยืนงงท่ามกลางผู้คนมากมายเฉยๆ..... อยากกลับมาก แต่ก็ไม่กล้าขอกลับก่อน กลัวเสียมารยาท ขี้เกียจพูดด้วยครับเพราะเสียงดังเหลือเกิน

แต่ผมไม่ชอบฝืนตัวเองอยู่แล้ว

ก็เลยพิมพ์โน๊ตในไอโฟนว่า

"ผมคิดว่าผมขอตัวไปก่อนล่ะ ขอโทษนะครับ แต่ผมคิดว่าที่นี่ไม่ใช่แนวของผมเลย ขอโทษนะ แล้วเจอกันนะ"

แล้วผมก็ยื่นให้ทุกคนอ่าน และทุกคนก็เข้าใจ

ผมก็เดินออกมาจากผับ โอ้โหหห เหมือนสวรรค์
ผมไม่เหมาะกับที่แบบนั้นจริง ๆ ไม่ชอบที่คนเยอะ ๆ ออกมาข้างนอกแล้วรู้สึกดีมาก อากาศดี๊ดี ฮา ๆ

ไม่มีอะไรทำแล้ว ก็เดินกลับบ้านสิครับ เห้อ ระหว่างที่เดินกลับก็แว๊บดูนั่นดูนี่ในร้านขายของบ้างอะไรบ้าง
เดินอยู่ดี ๆ ก็มีรถขับผ่านมาอยู่คันนึง...

สาวน้อยผู้อยู่ในรถ (น่าจะสัก 7 ขวบ) ก็ลดกระจกลงมาทักทายผมด้วยเสียงดังสุด ว่า

"Hola !!"

ที่แปลว่า สวัสดี ในภาษาสเปนนั่นเอง...

....

ผมก็งงสิ แต่คือน้องเค้าดูร่าเริงมากเลยนะ ผมก็เลยโบกมือแล้วพูดว่า Hola กลับอย่างอัติโนมัติ ฮาๆ สรุปคือน้องทักทุกคนบนถนนเลยจ้าาา

ผู้คนที่นี่เฟรนด์ลี่อะไรเบอร์นี้ น่าจะเป็นเพราะว่าวันนี้เป็นหน้าร้อนวันแรก นางคงมีความสุขที่จะได้เห็นพระอาทิตย์สักที หลังจากอยู่ในหน้าหนาวอันมืดมิดมายาวนาน

การเดินกลับบ้านครั้งนี้ เป็นโมเม้นท์ที่ผมสบายใจที่สุดตอนอยู่ไอซ์แลนด์แล้วครับ เพราะว่าผมเพิ่งจะมีเวลาได้อยู่คนเดียวก็ตอนนี้นี่แหละ

มันทำให้ผมได้คิดอะไรหลาย ๆ อย่าง
ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของไอซ์แลนด์ได้อย่างเต็มที่ อยากเดินไปไหนก็เดิน ไม่ต้องรอใคร
แล้วผมก็รู้สึกว่า..ไอซ์แลนด์คือที่ของผมจริง ๆ
คือผมเป็นคนรักสันโดษครับ อย่างที่อาจจะพอ ๆ เดากันได้
ไม่ชอบที่ที่คนเยอะ ๆ, ไอซ์แลนด์ตอบโจทย์ผมได้ดีมาก คนไม่เยอะ แต่ก็ไม่น้อยจนมันร้างนะ
อากาศก็อร่อย (อากาศอร่อย : สูดลมหายใจเข้าทางปากแล้วลองเคี้ยว ๆ กลืน ๆ จะรู้สึกสดชื่นมาก)

ความปลอดภัยล่ะ... ให้เต็มสิบเลย
คือตอนผมเดินกลับบ้าน ก็เป็นเวลา 4 ทุ่มแล้วครับ เริ่มมืด แล้วทางที่เดินมันก็เปลี่ยนอยู่นะ มีคนขับจักรยานผ่านไปมาบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
มันมีความสุขมาก ๆ รู้สึกเป็นตัวของตัวเองได้สุด ๆ ก็ถึงจุดนึงผมเดินแล้วสามารถเปิดเพลงร้องไปด้วยได้ มันดีเหลือเกิน

ผมไม่อยากกลับเลยครับ


ปล. หน้าร้อนวันแรก แต่เดินไปสักพักฝนตก... จ้าาา !!!!!


ติดตาม EP 7 ด้วยนะครับ มีอะไรแนะนำติชม คอมเม้นท์กันมาได้เลยน้า ขอบคุณครับ ;)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่