มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนสะพายกล้องแทบจะทุกที่
และเผลอกดชัตเตอร์ทุกที ที่เจอช็อตประทับใจ
เลือกแต่งภาพตามความรู้สึกหรืออารมณ์ ณ ขณะนั้น
และปิดท้ายด้วยการอัพลง social media ต่างๆ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวหรือเก็บไว้เป็นความทรงจำ

ถ้าหาสิ่งที่กล่าวมามันคือ life style ของใครหลายๆ คน Canon EOS M10 ก็น่าจะตอบโจทย์  โดยเฉพาะสาวๆ อย่างเรา
เพราะมันทั้งตัวเล็ก น้ำหนักเบา หน้าตาน่ารัก ใช้งานง่าย แต่ได้ความละเอียดรูปถึง 18 ล้านพิกเซล
คุณภาพน้องๆ DSLR แถมทาง Canon เค้ายังใส่ฟังก์ชั่นเก๋มาเอาใจสาวๆ เพียบ เช่น

- หน้าจอทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว พับได้ 180 องศา เหมาะกับการใช้ Selfie สุดๆ
- Creative Assist ใครชอบภาพโทนไหน สไตล์ไหน จะคุมโทน ไม่คุมโทน ทาได้ง่ายๆ ในกล้อง
- Easy Upload อัพลง smart phone หรือใครจะแชร์ภาพลง social media ได้เลยแบบไม่ต้องพึ่ง app ใน smart phone

ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆ ละเอียดตามลิ้งนี้โลด http://goto.canon.co.th/eosm10/

ในกระทู้นี้เราขอยกเอาฟังก์ชั่นเด็ด ที่ถูกใจเราเป็นอย่างยิ่ง ขึ้นมารีวิว
นั่นก็คือ โหมด Creative Assist ที่สามารถตกแต่งภาพตาม style เราได้จากในกล้อง
แถม save เก็บเป็น my tone ไว้ใช้ครั้งต่อไปได้ หรือแชร์ให้เพื่อนไว้ใช้โทนเดียวกันได้ด้วย

ได้ยินคำว่าแต่งภาพก็อย่าพึ่งตกใจว่ามันจะแต่งยากเหมือนแต่งในโปรแกรม Lightroom หรือ Photoshop หรือเปล่า
แต่เปล่าเลย! ไอ้ที่ให้ปรับค่าเองทั้งหมดน่ะก็มี แต่มันไม่ได้ยากอะไรเลยค่ะ
แค่ใช้นิ้วจิ้มๆ เพิ่ม-ลด level เช็คดูว่ามันถูกใจเรารึยัง แล้วกดชัตเตอร์ถ่าย จบปิ๊ง!
แต่คือถ้าอยากให้ง่ายไปอีกก็มี เพราะทาง canon เค้าทำโทนสีสำเร็จรูปยอดฮิตมาให้ถึง 10 โทนสีเบาๆ
และแน่นอน คนขี้เกียจอย่างเรา เราเลือกใช้ 10 โทนสีสาเร็จรูปยอดฮิตมารีวิวตามสไตล์เราเอง เพื่อให้เพื่อนๆ พอจะเห็นภาพว่าแต่ละโทนสี ถ่ายออกมาแล้วให้ฟีลลิ่งหรือมีโทนสีไหนที่ถูกใจเพื่อนๆกันบ้างหรือเปล่านะคะ
ก่อนอื่น เราต้องเข้าไป save ภาพทั้ง 10 ภาพจากเว็ป นี้ก่อนเลย

http://eosclub.canon.co.th/MyToneMyM10/

ส่วนขั้นตอนต่อไปทำตามนี้โลด

แค่นี้ก็ได้ภาพทั้ง 10 โทนมาอยู่ในกล้องเรียบร้อยแล้ว บอกไว้ก่อนว่า โหมด Creative Assist กล้องจะปรับตั้งค่ารูรับแสง
และ speed shutter ให้เราอัตโนมัติ หรืออาจเรียกได้ว่าโหมด Creative Assist มันคือโหมด auto นั่นเอง
ที่นี้ก็ปล่อยให้กล้องมันทาหน้าที่ปรับของมันไป เรามีหน้าที่เลือกโทนที่ใช่ให้แมชกับภาพที่ชอบเท่านั้นเอง
พอเข้ามาถึงหน้าจอนี้แล้วก็ ตามไปดูสูตรไม่ลับสาหรับการปรับโทนสีทั้ง 10 โทนกัน เลยยยย Let’s go !

เราคิดว่าโทนสีนี้ คอนทราสจะต่ำ ออกไปทางโทนอุ่นๆ ตุ่นๆ นิดๆ น่ารักมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง สไตล์น้องพิมฐา
แต่มันก็ไม่ใช่ว่าถ่ายออกมาแล้วจะ cute เหมือนน้องเค้าทุกรูปนะคะ ถ้าถ่ายที่สภาพแสงแตกต่างกัน
โทนภาพที่จะแตกต่างกันไปด้วย แต่รวมๆ แล้วเราว่ามันก็ยังอยู่ในโทนเดียวกันอยู่

ถ่ายในร้านกาแฟ ไฟที่ร้านออกสีส้มๆ ค่อนข้างสลัวๆ หน่อย

ลองถ่ายแสงธรรมชาติ แดดอ่อนๆ ช่วง 4 โมงเย็นดู

โดยส่วนตัวเราเราหยิบโทนนี้มาใช้ถ่ายบ่อยเหมือนกัน รู้สึกว่าใช้ได้หลากหลายโอกาสดี
จะถ่ายคนก็สวยแบบซอฟท์ๆ หรือจะถ่ายอย่างอื่นก็แอบชิค

โทนหวานๆ ตามชื่อ 555 เราลองเอาโทนนี้ไปถ่ายสภาพแสงเดียวกันกับ Cutie tone ภาพมันจะออกมาสว่าง
และดูสดใสลูกกวาดกว่า Cutie tone  ส่วนตัวเราคิดว่ามันเหมาะกับการถ่ายคนมากกกก ก. ไก่ล้านตัว
สาวๆต้องชอบแน่ๆ เราก็ชอบ 555

แสงไฟนีออน ในห้าง



ลองถ่าย outdoor แสงธรรมชาติตอนแดดจัดๆ ดูบ้าง ด้วยความที่โทนสี brightness เยอะอยู่แล้ว
ยิ่งถ่ายในที่แสงเยอะ จะเห็นว่าส่วนสีขาวจะขาวโอเว่อร์ไปนิดนึง ส่วนตัวเราเลยพยายามเลี่ยงใช้โทนนี้เวลาถ่ายกลางแจ้ง แดดจัดๆ


ถ่ายสาวๆ มีความฟรุ้งฟริ้งระดับ 10

โทนสีที่ 3 #Fade Tone

ไม่รู้เลยเธออยู่ที่ไหน กับใคร…


แต่ขอให้เธอได้โปรดฟังไว้ ว่าคนๆ นี้นั้นรออยู่


แม้หัวใจเธอเปลี่ยนไปแล้วก็รู้…


แต่ฉันขอรอเธอ จนถึงวันที่หยุดหายใจ…