[CR] [CR]::เที่ยวมาเก๊าเดี๋ยวเราบอก ตอนที่2.เดินเที่ยวกันเถอะ


****เปิดเพจแล้วนะครับ https://www.facebook.com/thisismacau1/ เพจน่ารักๆเข้ามาพูดคุยสอบถามกันได้นะครับ****
ถ้าใครยังไม่ได้อ่านตอนที่1การเตรียมตัว >> http://pantip.com/topic/35280730 คลิ๊กเลย!

อมยิ้ม17แวะมาอัพเดทนิดนึงเดี่ยวหาว่ากระทู้ร้าง ตอนนี้กำลังรวบรวมข้อมูลสถานที่เที่ยวเอาใจวัยรุ่นกันซักหน่อย แบบแดนซ์ๆตี๊ดๆ ดริ๊งๆชิวๆไรแบบเนี้ย ละก็สถานที่กินที่เที่ยวร้านสวยๆน่านั่ง แบบแอดว้านซ์ที่ในกูเกิ้ลไม่มี ในเวปรีวิวไม่พูดถึงเดี๋ยวเราจะหามาให้เองรออัพเดทนะครับ

อมยิ้ม01มาแล้วววววววกระทู้ที่2ในหัวข้อเที่ยวมาเก๊าเดี๋ยวเราบอกตอนนี้คือตอนที่2ครับ
สืบเนื่องจากในคอมเม้นเห็นว่าไปปีหน้ากันเยอะมากซึ่งน่าจะมาจากโปร Big sale แอร์เอเชียแน่ๆเลย
ผมเลยจะขอเน้นเป็นสถานที่เที่ยวกลางแจ้งให้มากที่สุดเพราะอยู่ในช่วงต้นปีที่อากาศกำลังดีสุดๆและอยากจะให้หนีออกจากโรงแรมให้ไกลที่สุด ถ้าให้พูดแบบคนงบน้อยก็คือโรงแรมในมาเก๊าถูกสร้างมาเพื่อดูดเงินออกจากกระเป๋าเรานั่นเองทีละมากๆด้วย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่พาเข้าไปนะครับอาจพาเข้าไปเดินเดินชมการแสดงแนะนำร้านอาหารอร่อยๆเล็กๆน้อยๆ ซึ่งในตอนแรกคิดไว้ว่าจะบอกแค่ชื่อสถานที่และวิธีไปเท่านั้น เพราะที่เที่ยวมันมีเยอะมากจิงๆ แต่คิดไปคิดมาเรามาแนะนำที่เที่ยวหนิถ้าจะบอกแค่นั้นไปค้นชื่อดูใน Google เที่ยวกันเองก็ได้  ผมจึงจะขอเปลี่ยนแผนนิดหน่อยเป็นแนะนำที่เที่ยวแบบจัดทริปสั้นๆในแต่ละจุดเอาดีกว่า ผมจะจัดให้อยู่ในระแวงเดียวกัน ไปได้ง่ายๆ อ่านแล้วเข้าใจง่ายที่สุด และในแต่ละที่จะไม่ห่างกันมากสามารถเดินกันไปได้เรื่อยๆสบายๆแวะชิมแวะถ่ายรูปกันให้เพลินๆไปเลยครับ



ก็อย่างว่าล่ะครับมาเก๊าเป็นเมืองมรดกโลก ทุกก้าวที่เราเดินในเมืองมาเก๊าย่อมเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ก็ไม่แปลกที่เมืองแห่งนี้จะมีสิ่งที่เรียกว่ามรดกโลกเต็มไปหมด มีอยู่หลายสิบที่ เราจะแบ่งให้เหลือแค่มรดกโลก10อันดับใหญ่ๆและมรดกโลกธรรมดา ลดลงมาบ้างเดี่ยวกระทู้ยาวไปกลัวจะเบื่อกัน
เราก้อจะแบ่งเป็น3เกาะเช่นเคย
จะเริ่มจากภายในเกาะมาเก๊า เกาะไทปา และไปจบโคโลอาน ครับ
รู้ก่อนอ่าน!!
ผมจะทำสัญลักษณ์ *, **และ ++ ไว้ท้ายชื่อสถานที่ความหมายก็คือ
(สัญลักษณ์ ** คือมรดกโลก10อันดับใหญ่ๆในมาเก๊า)
(สัญลักษณ์ * คืออยู่ในส่วนของมรดกโลก)
(สัญลักษณ์ ++ คือพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์10อันดับใหญ่ๆในมาเก๊า)
ผมจะมีคำอ่านถาษาไทยใส่ไว้ให้ทุกที่เลยนะครับเผื่อถ้าเกิดหลงทิศนิดๆหน่อยๆจะถามคนแถวนั้นได้ครับ
เราจะเริ่มต้นกันที่เกาะมาเก๊ากันก่อนที่แรกที่เราจะไปคือ วัดอาม่าจากนั้นเราจะเดินเป็นเส้นตรงอย่างเดียวเลยใช้ถนน da Barra เป็นหลักและจะไปจบที่โบสถ์เซ้นเลอร์เรนซ์โดยทริปนี้เราะจะแวะกัน 5 จุดระหว่างทางจะมีร้านขนมจุกๆจิกๆร้านขายของชำสามารถแวะเติมพลังกันนิดๆหน่อยได้เรื่อยๆครับ
จุดที่ 1 จุดแรกเลยครับกับ
วัดอาม่า媽閣廟 (ม้า-กอก-หมิ่ว)** A-Ma temple


ก่อนอื่นเราต้องเดินทางมาวัดอาม่าให้ได้ก่อน เราสามารถมาได้โดยนั่งTaxi ละบอกคนขับว่า (ม้า กอก หมิ่ว) หรือรถเมล์ด้วยตัวเองในกรณีที่พักอยู่แถวๆโรงแรมLisboaให้นั่งรถเมล์สาย 10A ที่จุด A หน้าLisboaหรือให้มาขึ้น รถสาย 18 ที่ แถวๆห้างNew Yao Han ก็ได้ครับข้ามถนนมาอีกฝั่งเดินไปอีกหน่อยป้ายรถเมล์ อยู่หน้าตึก Lake View Mansion หรือสังเกตง่ายๆจะมีร้านแมคโดนัลอยู่ล่างตึกนั่นเอง แวะทานก่อนไปก็ได้นะครับ แต่อย่าพกขึ้นรถเมล์ระวังโดนสาปแช่งจากกลิ่นของแฮมเบอร์เก้อร์ในมือ เอาล่ะและแล้วเราก็มาถึงวัดอามากันแล้วส่วนตำนานเรื่องเล่านั่นมีมากมาย จะยกตัวอย่างหนึ่งในเรื่องเล่าของอาม่าให้อ่านกันดูนะครับ ตามตำนาน "อาม่า" องค์นี้ คือหญิงสาว นามว่า "หลิงม่า" ที่อาศัยเรือชาวประมงเดินทางมาท่ามกลางพายุ ในขณะที่เรืออื่นๆ อัปปางกันหมด มีเพียงเรือนี้เท่านั้นที่สามารถรอดกลับมาถึงฝั่งได้ และทันทีที่ "หลิงม่า" ก้าวเท้าขึ้นฝั่ง พายุก็สงบลงทันทีและในขณะเดียวกันท่านก็ลอยขึ้นและหายไปบนท้องฟ้า ชาวประมงจึงเชื่อว่า ท่านเป็น เทพธิดาแห่งท้องทะเลมาช่วยชาวประมงจึงได้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นการบูชาตามเทพธิดาองค์นี้ครับ ส่วนตำนานอื่นๆสามารถไปหาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมกันก่อนไปได้นะครับจะได้อรรถรสมากขึ้นครับ ภายในวัดจะมีร้านขายเครื่องรางเครื่องบูชาต่างๆ บรืเวณวัดมีร้านขายของชำมีต้นไม้ร่มรื่นและทางซอยซ้ายมือจะขายขนมของฝากต่างๆครับ เวลาทำการเปิดให้เข้าชมตั้งแต่07.00 – 18.00 น.นะครับ

จุดต่อไปจุดที่ 2 เปิด GoogleMAP เดินตามลูกศรมาเลยครับจุดนี้ก็คือ港務局大樓 (ก๊อง-โหม่-กก-ต่าย-เหล่า)* Moorish Barracks มูริช บาราค

ค่ายทหารชาวมัวร์ สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1874 แต่เดิมเป็นที่พักของกองทหารชาวอินเดียเรียกว่าเรือนรับรองดีกว่า จากเมืองกัว(Goa )ที่เข้ามาเสริมกำลังให้ตำรวจมาเก๊า แต่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งสำนักงานขององค์การบริหารการเดินเรือ หากเรามองดูตัวอาคารก็จะเห็นการออกแบบอาคารที่มีกลิ่นไอของความเป็นอินเดียติดมาด้วย ปัจจุบันเปิดให้เยี่ยมชมเฉพาะส่วนของระเบียงเท่านั้น สามารถหามุมสวยๆถ่ายรูปได้ลยครับอาคารหลังนี้สวยมากครับ

จุดที่ 3ต่อมากันเลยครับ鄭家大屋 (แจ่ง-ก้า-ต่าย-งก)**  Mandarin's House  บ้านแมนดาริน

หลังจากถ่ายรูปกับมูริช บาราค กันเสร็จแล้วเดินตามลูกศรลงมาอีกซักนิดนึงเยื้องๆกันเลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยเดินไปนิดนึงบ้านจะอยู่ซ้ายมือครับ แมนดารินเฮ้าส์ เป็นบ้านที่สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1881 โดยนักประพันธ์จีนผู้ยิ่งใหญ่นามว่า เฉิง กวนยิ่ง (ZhengGuanying) เป็นตัวอย่างของบ้านอยู่อาศัยของชาวจีนโบราณ ซึ่งประกอบด้วยเรือนหลายเรือน มีอาณาบริเวณ และลานหน้าบ้าน ทั้งยังผสมด้วยรายละเอียดของความเป็นจีนและตะวันตกอย่าลงตัว อาทิ การใช้อิฐสีเทาประดับโค้งประตู หรือหน้าต่างระแนงทำจากไม้ซุงประดับด้วยแผ่นกระดานสี่เหลี่ยม กรุมุกด้วยลวดลาย ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะของจีนและตะวันตกอย่างลงตัวครับบ้านหลังนี้อยู่กันมาหลายต่อหลายรุ่นหลายครอบครัว สิ่งของในบ้านจึงมีความหลากหลาย  ของเก่าแก่ที่จัดแสดงมีเยอะมากยังไงก็ระวังการสัมผัสการหยิบจับกันด้วยนะครับ ปล.ห้องน้ำสะอาดมากกกกก  เปิดให้เข้าชม :10:00 - 18:00 น. (ปิดวันพุธและวันพฤหัสบดีครับ)

จุดที่ 4 ของเราครับ亞婆井前地(อา-ผ่อ-แจ๊ง-ฉิ่น-เต่)*  Lilau Square จัตุรัสลีเลา

หลังจากที่เราเลี้ยวเข้าไปชมบ้านแมนดารินกันมาก่อนหน้านี้ ก็เดินออกมานั่งพักเหนื่อยตรงนี้ครับอยู่ปากซอยเลย จตุรัส ลีเลา เป็นลานกว้างและมีต้นไม้ใหญ่ มีร้านค้าเล็กตั้งอยู่จำหน่ายของที่ระลึก ขายเครื่องดื่ม ไอศครีม ซิมมือถือก็มีขขายนะ และมีที่ให้นั่งพักผ่อน มีมุมน้ำพุเล็กๆประดับด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ นั่งเล่นดื่มด่ำกับบรรยากาศโดยรอบที่เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนตอนเมื่อยเท้ามาก  และมีภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า
" ใครที่ดื่มน้ำจากลีเหล่าไม่อาจลืมมาเก๊าได้เลย” ลองตักชิมกันเองนะครับฮ่าๆ ที่นี่เปิด 24 ชม.ครับเพราะเป็นลานกลางแจ้งแต่ร้านค้าค่ำๆก็ปิดละครับ

จุดสุดท้ายของทริปนี้ครับจุดที่ 5 聖老楞佐教堂(เซง-โล้ว-เหล่ง-จ่อ-กาว-ถ่อง)**  St. Lawrence's Church  โบสถ์เซนลอร์เรนซ์

หลังจากพักเหนื่อยกับบรรยากาศชิวๆของจัตุรัสลีเลากันไปแล้ว ก็เดินตรงมาตามทางเรื่อยๆครับตรงอย่างเดียวเลยตามลูกศรระหว่างทางก็มีร้านขายของชำเล็กๆแวะซื้อไอศครีมหรือขนมจุกๆจิกๆกินได้เลยครับโดยใช้สกิลการฟังราคาที่สอนจาก EP.1 สำหรับโบสถ์เซนต์ลอเรนซ์ สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 16 เป็นหนึ่งในสามโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า แต่ว่าที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ได้รับการบูรณะมาแล้วเมื่อปี ค.ศ. 1846 ตัวอาคารภายนอกโบสถ์สีเหลืองสวยงาม สร้างตามสไตล์นีโอคลาสสิคผสมสไตล์บารอก ภายในโบสถ์ให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์ บรรยากาศโปร่งโล่สบายตาสวยงาม โบสถ์ตั้งอยู่บนเนินเล็กๆเดินขึ้นบันได้สั้นๆก็ถึงละครับ แต่ถ้าโชคดีไปวันที่ไปมีงานแต่งงานโบสถ์จะดูสวยงามขึ้นเป็นพิเศษ ปล.โบสถ์นี้เปิดให้เข้ามาสารภาพบาปได้ 24 ชั่วโมงดังนั้นการเยี่ยมชมควรงดส่งเสียงดังถ้ามีเด็กวัยกำลังซนไปด้วยควรดูแลให้ดีๆครับและ และในช่วงกลางคืนเปิดไฟจะสวยไปอีกแบบครับดึกๆถ้าพอจำทางได้ก็แวะมาถ่ายรูปอีกรอบกันได้ครับ

แนะนำนิดนึงครับ แถวๆโบสถ์จะมี Mc donalและ 7-11เล็กๆอยู่ด้วยครับแวะเข้าไปดูกันได้ ในส่วนแผนที่ที่ผมใส่ดาวสีแดงไว้ คือร้านขายของชำเจ้าประจำของผมนั่นเอง  ร้านใหญ่มากของเยอะมากและถูกมาก ร้านนี้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้เลยเพราะลูกค้าส่วนใหญ่คือชาวฟิลิปินส์เจ้าของร้านแกเลยเก่งอิ้งไปโดยปริยาย จบแล้วครับทริปสั้นๆทริปแรกไม่ยากเลยใช่มั้ยครับเดินเพลินๆตรงอย่างเดียวเลย


ภาพบางส่วน
Cr.http://itsmacau.com
ข้อมูลบางส่วน
Cr.การท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทย


เดี๋ยวเราไปลุยเซนนาโด้กับทริปต่อไปกันครับ
พาพันดี๊ด๊าพาพันดี๊ด๊าพาพันดี๊ด๊าพาพันดี๊ด๊า
ชื่อสินค้า:   มาเก๊า
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่