คือเราชอบไปนั่งวิปัสนากรรมฐาน มีเวลาว่างที่ไหนดีก็จะไป แต่ส่วนใหญ่จะชอบไปนั่งตามวัด ตามสำนักสงฆ์เล็กๆๆ ติดธรรมชาติ ก็มักจะเจอเรื่องราวแปลกกของแต่ละที่อยู่เสมอๆๆ ล่าสุดไปนั่งที่สำนักสงฆ์เล็กๆๆแห่งหนึ่งก่อนถึงชัยนาท ก็ได้ไปเจอกับพฤติกรรมของแม่ชีอีแอบบที่ทำให้เราถึงกับ อึ่งพูดไม่ออกเลยทีเดียว
เนื่องจากว่าเป็นแม่ชี ( พรามณ์ ไม่ได้โกนหัว ) ที่เคยเคารพนับถือ เคยอนุเคราะห์ อุปถัมน์ข้าวสาร อาหารแห้ง กันอยู่เป็นประจำ อาจจะเป็นเพราะผลประโชน์ก้อนใหญ่บังตาเลยทำให้พี่แม่ชีลืมคิดถึงศีลธรรมอันดี และตระหนักถึงความถูกต้องเหมาะสม ก็พยายามจะเข้าใจว่ามันเป็นปัญหาเรื่องปากท้อง แต่รู้สึกรับไม่ได้ในพฤติกรรม และเสื่อมศรัทธาไปเลย
ตอนแรกๆๆก็ยังไม่ได้สงสัยอะไร เพราะเจ๊ ที่เข้ามาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของพี่แม่ชีนางก็มีลักษณะ เหมือนพวกเจ๊ๆทั่วๆไป อ้วน ตัวใหญ่ ไว้ผมยาว อายุเกือบบ 50 ใหม่ๆๆก็เทียวเอาของมาทำบุญ เอาของฝากมาฝาก อาหารการกินดีๆ มาทีเยอะๆ เทียวมาแทบทุกวัน เพราะนางเป็นสมาชิก อบต เลยค่อนข้างจะว่าง เสต็ปต่อมา ช่วยเหลือเจือจุนด้านเงินทอง เอาซองไปเรี่ยราย ช่วยหาเงินเข้าวัด อันนี้ก็ดูยังธรรมดา ปกติทั่วไป แต่หลังๆๆมาพวกชีพรามห์ เด็กๆๆ สาวๆๆหน้าตาดีๆๆ จะถูกกีดกัน ไม่ให้นอนพักที่บ้านพักของพี่แม่ชี แกจะไล่ให้ไปนอนที่ศาลาใหญ่ ซึ่งพวกเพื่อนๆ ชีพรามณ์คนเก่าๆๆที่เคยไปบวชเป็นประจำก็รู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมถึงให้นอนที่เดิมไม่ได้ มารู้ทีหลังว่า เจ๊อ้วน หึงสั่งห้ามใครเข้าใกล้ พี่แม่ชีเด็กนาง และพี่แม่ชีก็มีอาการผิดแปลกไปเหมือนกลัวเจ๊อ้วน อบต ขาใหญ่มาก โทรมาต้องรับ ทุกครั้ง วันนึงโทรมาแทบจะเกือบทุก ชม จนคนที่ไปบวชเริ่มสงสัย
เจ๊อ้วนพักหลังๆๆนางคงหลงพี่แม่ชีขนาดหนักส่งเด็กของตัวเองให้มาบวช อยู่เป็นเพื่อนพี่แม่ชี 2 คน ให้เฝ้าจับตาดูคอยรายงานถ้าใครเข้ามาลุ่มล่ามกะพี่แม่ชี เริ่มเป็นที่จับตามองของคนมาบวชชีพรามณ์มากขึ้น เมื่อเจ๊อ้วน ชอบมารับพี่แม่ชีออกไปข้างนอกวัดตอนเย็นๆๆกลับมาอีกทีค่ำๆมืดๆ แต่แกกลัวคนครหาเลยติดชีพรามณเด็กที่ส่งมาเอาติดรถไปด้วย
พักหลัง เจ๊อ้วน คงหมดเงินไปเยอะ เห็นท่าจะไม่คุ้มกับที่เสียไป เลยตัดสินใจมาบวชชีพรามณ์ แบบบวชยาวไม่มีกำหนดเลย พักนอนอยู่ที่บ้านพักกะพี่แม่ชี 2 คน คนแถวนั้นก็งงปกติเจ๊อ้วน ทำตัวเพลบอยเสเพล กินเหล้า ปาร์ตี้วัดไม่เคยเข้า แต่นี่ลงทุนมาบวชเลย
อันนี้ไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้เรามาเขียนกระทู้นี้ ประเด็นหลักคือ เจ๊อ้วนตอนนี้ถึงขั้นเพี้ยนหนัก บอกตัวเองไปดูหมอมาบอกเคยเป็นเจ้าเมืองเก่าเคยอยู่ที่วัดนี้มา และแม่ชีเด็กแก เคยเป็นพระมเหสี เพราะฉะนั้นเจ๊อ้วน แกมีสิทธิ์ ไม่ให้ใครมาวัด หรือ มาบวชชีพรามณ์ที่วัดนี้ โดยเฉพาะเด็กสาวหน้าตาดี
หลวงตาเจ้าอาวาสก็พูดไม่ออก เพราะเจ๊อ้วน ก็ช่วยหาเงินเข้าวัดอยู่ ตอนนี้เป็นที่เอือมระอาของคนที่เคยมาวัด รุ้สึกเสื่อมศรัทธาไม่มาวัด และคนที่เคยไปบวชก็เปลี่ยนไปบวชที่วัดอื่น
แต่จริงๆๆแล้ว พี่แม่ชีแกก็ทำตัวไปตามน้ำเข้าใจ บวกกับผลประโยชน์บังตา ก็รู้สึกสงสารแกเหมือนกัน เหมือนหลวมตัวรับเงินรับทองเค้ามาแล้วน่าจะเยอะอยู่ ตอนนี้เลยถูกเจ๊อ้วนคุมแจ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ใครโทรเข้ามา ต้องเปิด speker phone ให้เจ๊อ้วนฟังด้วย พี่แม่ชีบอกว่าเจ๊อ้วนแกมีปืน ถูกกฏหมายด้วย พี่แกอยู่คนเดียวก็กลัว เพราะนานๆๆชีพรามณ์คนอื่นๆๆจะเข้ามาบวช ต้องยอมตกอยู่ใต้อานัสแบบเกรงใจ ก็อยากจะช่วยพี่แม่ชีแกให้หลุดพ้นจากพันธนาการ ก็ไม่รู้จะมีวิธีไหนที่จะทำให้เจ๊อ้วนออกไปจากชีวิตพี่แม่ชีได้
เหมาะสมหรือไม่ที่รับพวกมีจิตใจเบี่ยงเบนทางเพศมาอาศัยบวชชีพรามณ์แบบบังหน้าแต่มาทำตัวอยู่กินกันแบบผัวเมีย ในวัด ชีกะชี
เนื่องจากว่าเป็นแม่ชี ( พรามณ์ ไม่ได้โกนหัว ) ที่เคยเคารพนับถือ เคยอนุเคราะห์ อุปถัมน์ข้าวสาร อาหารแห้ง กันอยู่เป็นประจำ อาจจะเป็นเพราะผลประโชน์ก้อนใหญ่บังตาเลยทำให้พี่แม่ชีลืมคิดถึงศีลธรรมอันดี และตระหนักถึงความถูกต้องเหมาะสม ก็พยายามจะเข้าใจว่ามันเป็นปัญหาเรื่องปากท้อง แต่รู้สึกรับไม่ได้ในพฤติกรรม และเสื่อมศรัทธาไปเลย
ตอนแรกๆๆก็ยังไม่ได้สงสัยอะไร เพราะเจ๊ ที่เข้ามาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของพี่แม่ชีนางก็มีลักษณะ เหมือนพวกเจ๊ๆทั่วๆไป อ้วน ตัวใหญ่ ไว้ผมยาว อายุเกือบบ 50 ใหม่ๆๆก็เทียวเอาของมาทำบุญ เอาของฝากมาฝาก อาหารการกินดีๆ มาทีเยอะๆ เทียวมาแทบทุกวัน เพราะนางเป็นสมาชิก อบต เลยค่อนข้างจะว่าง เสต็ปต่อมา ช่วยเหลือเจือจุนด้านเงินทอง เอาซองไปเรี่ยราย ช่วยหาเงินเข้าวัด อันนี้ก็ดูยังธรรมดา ปกติทั่วไป แต่หลังๆๆมาพวกชีพรามห์ เด็กๆๆ สาวๆๆหน้าตาดีๆๆ จะถูกกีดกัน ไม่ให้นอนพักที่บ้านพักของพี่แม่ชี แกจะไล่ให้ไปนอนที่ศาลาใหญ่ ซึ่งพวกเพื่อนๆ ชีพรามณ์คนเก่าๆๆที่เคยไปบวชเป็นประจำก็รู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมถึงให้นอนที่เดิมไม่ได้ มารู้ทีหลังว่า เจ๊อ้วน หึงสั่งห้ามใครเข้าใกล้ พี่แม่ชีเด็กนาง และพี่แม่ชีก็มีอาการผิดแปลกไปเหมือนกลัวเจ๊อ้วน อบต ขาใหญ่มาก โทรมาต้องรับ ทุกครั้ง วันนึงโทรมาแทบจะเกือบทุก ชม จนคนที่ไปบวชเริ่มสงสัย
เจ๊อ้วนพักหลังๆๆนางคงหลงพี่แม่ชีขนาดหนักส่งเด็กของตัวเองให้มาบวช อยู่เป็นเพื่อนพี่แม่ชี 2 คน ให้เฝ้าจับตาดูคอยรายงานถ้าใครเข้ามาลุ่มล่ามกะพี่แม่ชี เริ่มเป็นที่จับตามองของคนมาบวชชีพรามณ์มากขึ้น เมื่อเจ๊อ้วน ชอบมารับพี่แม่ชีออกไปข้างนอกวัดตอนเย็นๆๆกลับมาอีกทีค่ำๆมืดๆ แต่แกกลัวคนครหาเลยติดชีพรามณเด็กที่ส่งมาเอาติดรถไปด้วย
พักหลัง เจ๊อ้วน คงหมดเงินไปเยอะ เห็นท่าจะไม่คุ้มกับที่เสียไป เลยตัดสินใจมาบวชชีพรามณ์ แบบบวชยาวไม่มีกำหนดเลย พักนอนอยู่ที่บ้านพักกะพี่แม่ชี 2 คน คนแถวนั้นก็งงปกติเจ๊อ้วน ทำตัวเพลบอยเสเพล กินเหล้า ปาร์ตี้วัดไม่เคยเข้า แต่นี่ลงทุนมาบวชเลย
อันนี้ไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้เรามาเขียนกระทู้นี้ ประเด็นหลักคือ เจ๊อ้วนตอนนี้ถึงขั้นเพี้ยนหนัก บอกตัวเองไปดูหมอมาบอกเคยเป็นเจ้าเมืองเก่าเคยอยู่ที่วัดนี้มา และแม่ชีเด็กแก เคยเป็นพระมเหสี เพราะฉะนั้นเจ๊อ้วน แกมีสิทธิ์ ไม่ให้ใครมาวัด หรือ มาบวชชีพรามณ์ที่วัดนี้ โดยเฉพาะเด็กสาวหน้าตาดี
หลวงตาเจ้าอาวาสก็พูดไม่ออก เพราะเจ๊อ้วน ก็ช่วยหาเงินเข้าวัดอยู่ ตอนนี้เป็นที่เอือมระอาของคนที่เคยมาวัด รุ้สึกเสื่อมศรัทธาไม่มาวัด และคนที่เคยไปบวชก็เปลี่ยนไปบวชที่วัดอื่น
แต่จริงๆๆแล้ว พี่แม่ชีแกก็ทำตัวไปตามน้ำเข้าใจ บวกกับผลประโยชน์บังตา ก็รู้สึกสงสารแกเหมือนกัน เหมือนหลวมตัวรับเงินรับทองเค้ามาแล้วน่าจะเยอะอยู่ ตอนนี้เลยถูกเจ๊อ้วนคุมแจ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ใครโทรเข้ามา ต้องเปิด speker phone ให้เจ๊อ้วนฟังด้วย พี่แม่ชีบอกว่าเจ๊อ้วนแกมีปืน ถูกกฏหมายด้วย พี่แกอยู่คนเดียวก็กลัว เพราะนานๆๆชีพรามณ์คนอื่นๆๆจะเข้ามาบวช ต้องยอมตกอยู่ใต้อานัสแบบเกรงใจ ก็อยากจะช่วยพี่แม่ชีแกให้หลุดพ้นจากพันธนาการ ก็ไม่รู้จะมีวิธีไหนที่จะทำให้เจ๊อ้วนออกไปจากชีวิตพี่แม่ชีได้