คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
สำหรับผม นิยาม5 มีไว้รู้ว่า
- ทุกๆ อย่างในชีวิต เป็นไปตามกลไกของเหตุผล (สาเหตุ-ผลลัพธ์. ไม่ใช่ตรรกะทางคำพูด)
จึงไม่ควรคิดว่า มีอะไรมาดลบันดาลชีวิต, มีอะไรเกิดขึ้นลอยๆ โดยไร้สาเหตุ, หรือทุกอย่างจะอยู่ยั้งยืนยง
ถ้าเราไม่อยากเจออะไร หรืออยากได้อะไร เราก็ต้องดูว่า ผลนั้นๆ มาจากสาเหตุและปัจจัยอะไรบ้าง แล้วลงมือทำ
- ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตเรา จะเกิดจากกรรม (โดยเฉพาะกรรมเก่าเมื่อชาติไหนไม่รู้) เวลาอะไรเกิดขึ้น อย่าปิดตาฟันธงว่าเพราะเวรกรรมชาติก่อนชัวร์ๆ
แต่ให้ดูเหตุปัจจัยรอบๆ ด้าน แก้ไขไปตามธรรมดาๆ นี่แหละ
--------------------------------------------
ในตำรา รู้สึกว่า ไม่ได้มีรายละเอียดกลไกของแต่ละนิยามมากนัก (ยกเว้นจิตนิยาม)
เพราะงั้น ถ้าแยกข้อ ก็ไม่รู้จะเอามาประยุกต์อะไรในชีวิตประจำวัน
1 อุตุนิยาม บอกว่า ดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงตามเหตุปัจจัย แล้วไงต่อ...
ท่านก็ไม่ได้อธิบายเพิ่มเป็นเรื่องเป็นราวมั้ง เราก็รู้แค่นั้นแหละ ถ้าอยากรู้เพิ่ม ไปหาอ่านพวกตำราวิทย์ปัจจุบันจะดีกว่า
2 พืชนิยาม ก็ครือกัน
3 จิตนิยาม อันนี้ ตำราอธิบายกลไกไว้ละเอียดมากกกกกก แต่คนที่สนใจศึกษาจะอยู่ในวงการนักอภิธรรมเสียส่วนใหญ่
ซึ่งจะคล้ายๆ กับที่พวกนักจิตวิทยาศึกษาอยู่ แต่จะว่าคล้าย มันก็ไม่ใช่อ่ะนะ พูดเอง งงเอง 555
นอกนั้นก็รู้แค่คร่าวๆ พอให้เข้าใจว่า จิตใจมนุษย์มันเป็นงี้ๆ นะ เกิดทุกข์เพราะสิ่งนี้ ยึดมั่นเพราะสิ่งนี้
อันนี้แหละที่ศาสนาพุทธเน้นสอนให้ใช้ในชีวิตประจำวัน
4 กรรมนิยาม กฏว่าการกระทำและผลของการกระทำ อันนี้ แม้ศาสนาพุทธจะย้ำว่า กรรมมีผล ให้ทำกรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว
และอธิบายผลของกรรมคร่าวๆ แต่ก็แค่นี้แหละ ให้รู้แค่ว่า กรรมมีหลายแบบ ให้ผลเร็วก็มี ช้าก็มี หนักก็มีเบาก็มี ฯลฯ
แต่ไม่ได้สอนถึงขนาดว่า วันนี้เดินไปเหยียบหัวแม่เท้าชาวบ้าน ตกใจด่าเขาไปคำนึง ... แล้วจะได้รับผลกรรมตอบแทนอย่างไร
ศาสนาพุทธเตือนว่า เรื่องของกรรมและผลของมัน เป็นหนึ่งหัวข้อในสิ่งที่ไม่ควรคิด (อจินไตย) คิดไปมากๆ ก็จะเป็นบ้าเปล่าๆ
5 ธรรมนิยาม สิ่ง (thing ไม่ใช่กฏนิยาม) ทั้งหลายนี้ ไม่อยู่เที่ยงแท้ถาวร เพราะถูกบีบเค้นจากเหตุปัจจัย ดังนั้นจึงไม่ใช่สิ่งที่เป็นตัวตนถาวร
อันนี้ก็มีแค่นี้ รู้เอาไว้เพื่อเท่าทันว่าโลกก็เป็นอย่างนี้ อย่าไปยึดมั่นถือมั่น และถ้าเราเล็งผลอะไร เราก็ต้องดูและทำที่เหตุปัจจัย ไม่ใช่เอาแต่อ้อนวอน
ข้อ5 นี้เหมือนกับเป็นการสรุป หรือเป็นจุดมุ่งหมายของการอธิบายของนิยาม5 นั่นแหละ
- ทุกๆ อย่างในชีวิต เป็นไปตามกลไกของเหตุผล (สาเหตุ-ผลลัพธ์. ไม่ใช่ตรรกะทางคำพูด)
จึงไม่ควรคิดว่า มีอะไรมาดลบันดาลชีวิต, มีอะไรเกิดขึ้นลอยๆ โดยไร้สาเหตุ, หรือทุกอย่างจะอยู่ยั้งยืนยง
ถ้าเราไม่อยากเจออะไร หรืออยากได้อะไร เราก็ต้องดูว่า ผลนั้นๆ มาจากสาเหตุและปัจจัยอะไรบ้าง แล้วลงมือทำ
- ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตเรา จะเกิดจากกรรม (โดยเฉพาะกรรมเก่าเมื่อชาติไหนไม่รู้) เวลาอะไรเกิดขึ้น อย่าปิดตาฟันธงว่าเพราะเวรกรรมชาติก่อนชัวร์ๆ
แต่ให้ดูเหตุปัจจัยรอบๆ ด้าน แก้ไขไปตามธรรมดาๆ นี่แหละ
--------------------------------------------
ในตำรา รู้สึกว่า ไม่ได้มีรายละเอียดกลไกของแต่ละนิยามมากนัก (ยกเว้นจิตนิยาม)
เพราะงั้น ถ้าแยกข้อ ก็ไม่รู้จะเอามาประยุกต์อะไรในชีวิตประจำวัน
1 อุตุนิยาม บอกว่า ดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงตามเหตุปัจจัย แล้วไงต่อ...
ท่านก็ไม่ได้อธิบายเพิ่มเป็นเรื่องเป็นราวมั้ง เราก็รู้แค่นั้นแหละ ถ้าอยากรู้เพิ่ม ไปหาอ่านพวกตำราวิทย์ปัจจุบันจะดีกว่า
2 พืชนิยาม ก็ครือกัน
3 จิตนิยาม อันนี้ ตำราอธิบายกลไกไว้ละเอียดมากกกกกก แต่คนที่สนใจศึกษาจะอยู่ในวงการนักอภิธรรมเสียส่วนใหญ่
ซึ่งจะคล้ายๆ กับที่พวกนักจิตวิทยาศึกษาอยู่ แต่จะว่าคล้าย มันก็ไม่ใช่อ่ะนะ พูดเอง งงเอง 555
นอกนั้นก็รู้แค่คร่าวๆ พอให้เข้าใจว่า จิตใจมนุษย์มันเป็นงี้ๆ นะ เกิดทุกข์เพราะสิ่งนี้ ยึดมั่นเพราะสิ่งนี้
อันนี้แหละที่ศาสนาพุทธเน้นสอนให้ใช้ในชีวิตประจำวัน
4 กรรมนิยาม กฏว่าการกระทำและผลของการกระทำ อันนี้ แม้ศาสนาพุทธจะย้ำว่า กรรมมีผล ให้ทำกรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว
และอธิบายผลของกรรมคร่าวๆ แต่ก็แค่นี้แหละ ให้รู้แค่ว่า กรรมมีหลายแบบ ให้ผลเร็วก็มี ช้าก็มี หนักก็มีเบาก็มี ฯลฯ
แต่ไม่ได้สอนถึงขนาดว่า วันนี้เดินไปเหยียบหัวแม่เท้าชาวบ้าน ตกใจด่าเขาไปคำนึง ... แล้วจะได้รับผลกรรมตอบแทนอย่างไร
ศาสนาพุทธเตือนว่า เรื่องของกรรมและผลของมัน เป็นหนึ่งหัวข้อในสิ่งที่ไม่ควรคิด (อจินไตย) คิดไปมากๆ ก็จะเป็นบ้าเปล่าๆ
5 ธรรมนิยาม สิ่ง (thing ไม่ใช่กฏนิยาม) ทั้งหลายนี้ ไม่อยู่เที่ยงแท้ถาวร เพราะถูกบีบเค้นจากเหตุปัจจัย ดังนั้นจึงไม่ใช่สิ่งที่เป็นตัวตนถาวร
อันนี้ก็มีแค่นี้ รู้เอาไว้เพื่อเท่าทันว่าโลกก็เป็นอย่างนี้ อย่าไปยึดมั่นถือมั่น และถ้าเราเล็งผลอะไร เราก็ต้องดูและทำที่เหตุปัจจัย ไม่ใช่เอาแต่อ้อนวอน
ข้อ5 นี้เหมือนกับเป็นการสรุป หรือเป็นจุดมุ่งหมายของการอธิบายของนิยาม5 นั่นแหละ
แสดงความคิดเห็น
นิยาม 5 เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรคะ
หลักธรรมนิยาม 5 นั้นสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้างคะ