ในตอนที่ผ่านมามีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เจมี แลนนิสเตอร์ นำกองทัพมาสมทบตระกูลเฟรย์ ปิดล้อมปราสาทริเวอร์รัน ต่อกรกับ เจ้าปลาดำ บรินเดน ทัลลี ที่ยังต้องลุ้นกันว่าผลจะเป็นยังไง? การเปิดตัว ซานดอร์ คลิเกน ที่รอดจากความตายและได้ใช้ชีวิตอย่างสงบกับ เซพตันนักบวช และกลุ่มชาวบ้านผู้น่ารัก แต่ก็ดันโดนสมาชิกกลุ่มพี่น้องไร้ธงมาระรานฆ่าล้างยกครัว ส่วนทาง อาร์ยา สตาร์ค หลังจากตัดสินใจแหกกฎทำภารกิจล้มเหลว เธอก็เตรียมหนีกลับเวสเทอรอส แต่ทว่า จาเค็น สั่งให้ เวฟ ตามฆ่าเธอ เหตุการณ์ทั้งหมดจะเป็นอย่างไรต่อ ? มาติดตามกันได้ใน TV Recap Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 8 “No One”
ตอนที่ 8 “No One”
ณ เมืองบราวอส ผู้คนกำลังมุงดูคณะละครเร่อย่างใจจดจ่อ เลดี้เครน แสดงบทบาทเซอร์ซี แลนนิสเตอร์ แม่ผู้สูญเสียลูกชายจอฟฟรีย์ ได้อย่างเข้าถึงอารมณ์ พอสิ้นฉากของเธอ ผู้ชมต่างปรบมือชื่นชมในความสามารถการแสดงอันยอดเยี่ยม จากนั้นเธอก็เข้ามาพักในห้องแต่งตัวนักแสดง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงกุกกักอยู่หลังม่าน พอเปิดไปดู เธอเห็น อาร์ยา สตาร์ค นอนบาดเจ็บอยู่ เธอจึงพาไปรักษาที่บ้านพัก ทำแผลให้อย่างดี แล้วก็ให้อาร์ยาดื่มซุปและยางฝิ่นหลับพักผ่อน

หลังจากฆ่าล้างชาวบ้านตายเรียบ ชาย 4 คน ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มนอกกฎหมายพี่น้องไร้ธง (Brotherhood without Banner) มานั่งกินดื่มกันอยู่กลางป่า ซานดอร์ คลิเกน เดินถือขวานตามมาถึง ก็ไล่ฆ่าคนเหล่านี้ตายเรียบ จากนั้นก็เดินตามหาตัวหัวโจกจนมาพบกับ เบริค ดอนแดเรียน หัวหน้ากลุ่มพี่น้องไร้ธง กับ ธอรอส แห่ง มีร์ รวมทั้งสมาชิกกลุ่มคนอื่นๆ กำลังแขวนคอสมาชิก 3 คน ที่ปล้นสะดมฆ่าล้างชาวบ้านตาย เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎกลุ่ม ขณะที่ ซานดอร์ ก็จะมาล้างแค้นเช่นกัน เบริค จึงยอมให้เขาจัดการ 2 จาก 3 คน แต่ต้องใช้วิธีฆ่าแขวนคอเท่านั้น ก็ตกลงกันได้ ซานดอร์ กับ เบริค ถีบแท่นยืนของนักโทษทั้งสาม ทำให้พวกเขาโดนรัดคอตาย จากนั้นก็ไปนั่งรอบกองไฟ กิน ดื่ม พูดคุยกัน เบริค ตัดสินใจชวน ซานดอร์ เข้ากลุ่ม โดยพูดโน้มน้าวว่า "เจ้าสามารถช่วยคนได้มากกว่าที่เจ้าได้ทำร้ายไป มันยังไม่สายเกินไป"
ณ เมืองมิรีน แผนการสื่อประชาสัมพันธ์ชวนเชื่อชักจูงประชาชนได้เริ่มต้นขึ้น แม่มดแดงกระจายตัวกันไปพูดจาปราศรัยให้ชาวมิรีนเชื่อมั่นว่า ราชินีแดเนริส ทาร์แกเรียน เป็นผู้ได้รับเลือกจากเทพแห่งแสงให้มากอบกู้โลกใบนี้ ภูติจิ๋วทีเรียน และ วาริส เดินดูสถานการณ์ในเมืองอย่างปลื้มปิติมากขึ้น แต่ วาริส ยังไม่มั่นใจและเชื่อใจว่าแผนดังกล่าวจะเป็นแผนการที่ดี จากนั้นพอเดินมาถึงประตูทางออก ทั้งคู่ก็กล่าวอำลาต่อกัน ภูติจิ๋วทีเรียน แสดงความกังวลโดยบอกว่า "หวังว่าท่านจะทำแผนการลุล่วงนะ" ส่วน เจ้าวาริส ตอบกลับว่า "ถ้าข้าไม่กลับมา แสดงว่าข้าคิดผิด เราต้องการพันธมิตรในเวสเทอรอส เราต้องการเรือ" จากนั้น วาริส ก็เดินจากไป

ในคิงส์แลนดิ้ง เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ กำลังนั่งจิบไวน์ในป้อมปราการเร้ดคีป สักพัก เจ้ากรมข่าวกรองไคเบิร์น ก็มาแจ้งว่า สมาชิกกองทัพศรัทธาธรรม ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี่และต้องการจะพบเธอ เซอร์ซี จึงเดินออกไปพบพร้อมด้วยองครักษ์ยักษ์คู่ใจ อัศวินภูผา (The Mountain) ด้านนอก แลนเซล แลนนิสเตอร์ เป็นหัวหน้ากลุ่มนำทีมสมาชิกศรัทธาธรรมมาแจ้งให้ทราบว่า ไฮ สแปร์โรว์ ต้องการพบตัวเซอร์ซี แต่เธอไม่ยอมไปพบ กลับบอกให้ ไฮ สแปร์โรว์ มาหาเธอที่นี่

ขัดขืนกันแบบนี้ แลนเซล จึงให้พี่น้องนักบวชเดินเข้ามาพาตัวเธอไป แต่ เซอร์ซี ก็ให้องครักษ์ยักษ์เข้ามาขวาง แลนเซล จึงบอกให้สั่งองครักษ์หลบไปจะได้ไม่ต้องใช้ความรุนแรง แต่ เซอร์ซี เลือกใช้ความรุนแรง องครักษ์ยักษ์ จึงเข้าขวางและดึงหัวนักบวชคนหนึ่งหลุดเลือดอาบพื้น จากนั้น เซอร์ซี ก็ถือโอกาสขู่ แลนเซล ว่า ไฮ สแปร์โรว์ มาพบเธอได้เสมอ นะจ๊ะ
หลังจากได้รับมอบภารกิจให้มาขอกำลังเสริมจากตระกูลทัลลี ในที่สุด บริเอนน์ กับ พอดริก ก็เดินทางมาถึง ปราสาทริเวอร์รัน ซึ่งตอนนี้กองทัพตระกูลแลนนิสเตอร์ กำลังตั้งค่ายปิดล้อมอยู่ บริเอนน์ มองดูสถานการณ์แล้วจึงรีบเข้าพบกับ เจมี แลนนิสเตอร์ เมื่อเข้าไปถึงค่าย บรอนน์ ก็หยอกล้อกับ พอดริก อย่างสนุกสนาน ส่วน บริเอนน์ ก็เข้าไปเจรจากับ เจมี ตัวเธออาสาจะเข้าไปเกลี้ยกล่อม บรินเดน ทัลลี ให้ยอมแพ้ มอบปราสาทคืนให้ตระกูลเฟรย์ โดยมีข้อแม้ว่า เจมี ต้องปล่อยให้กองทัพตระกูลทัลลีเดินทางขึ้นเหนือไปช่วย ซานซา สตาร์ค ทำสงครามยึดวินเทอร์เฟล

พอฟังแล้ว เจมี ไม่เชื่อว่า บริเอนน์ จะสามารถโน้มน้าว บรินเดน ทัลลี ได้สำเร็จ แต่สุดท้าย เจมี ก็ยอมทำตามข้อเสนอนี้และให้เวลา บริเอนน์ จนกว่าพระอาทิตย์ตกดิน พอคุยจบ บริเอนน์ ก็มอบดาบผู้รักษาสัตย์ (Oathkeeper) คืนให้พร้อมกับบอกว่า เจมี ให้ดาบเล่มนี้มาเพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลูกๆของเคทลิน สตาร์ค และตอนนี้ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว แต่ เจมี ไม่รับคืน พร้อมกับบอกว่าดาบเล่มนี้เป็นของเธอ

เวลามาคอยท่า บริเอนน์ รีบไปเจรจากับ บรินเดน ทัลลี แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ไม่สามารถโน้มน้าวได้เลย บรินเดน ทัลลี ไม่ยอมทิ้งปราสาท ในตอนแรก บรินเดน ทัลลี คิดว่า บริเอนน์ เป็นหมากตัวนึงของ เจมี ที่ส่งเข้ามาเกลี้ยกล่อมให้ตนทิ้งปราสาท เพราะเห็นว่า เจมี ยอมเปิดทางให้เธอเข้ามาแวดงว่ารู้จักกัน แถมเธอยังมีดาบราชสีห์ของแลนนิสเตอร์เป็นอาวุธติดตัว แต่พอ บริเอนน์ บอกว่า เจมี รักษาสัญญากับ เคทลิน สตาร์ค โดยการส่งเธอไปตามหาและช่วยเหลือ ซานซา และได้ให้ดาบนี้ไว้เพื่อปกป้องลูกๆตระกูลสตาร์ค ฟังเช่นนี้ บรินเดน จึงยอมอ่านจดหมายจากซานซา แต่พออ่านจบก็ยังยืนกรานไม่ไปช่วย โดยอ้างว่ามีกำลังคนไม่พอ และยังคิดว่านี่เป็นแผนการของ เจมี ที่หวังหลอกให้ตนยอมแพ้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับหมดหวัง บริเอนน์ จึงบอก พอดริค ให้ไปส่งจดหมายบอก ซานซา ว่าภารกิจนี้ล้มเหลว

พอตกกลางคืน เจมี แลนนิสเตอร์ เข้ามาเกลี้ยกล่อม เอ็ดมัวร์ ทัลลี ซึ่งเป็นเชลยศึก ให้ยอมทำตามแผนการยึดปราสาทริเวอร์รันคืน ตอนแรก เอ็ดมัวร์ ทัลลี ไม่ยอมทำตาม แต่พอ เจมี ขู่จะฆ่าลูกชาย โดยนำตัวลูกชายมายัดเป็นกระสุนปืนใหญ่ยิงถล่มปราสาทริเวอร์รัน ทำให้ เอ็ดมัวร์ ยอมจำนน จากนั้น เจมี ก็ปล่อยตัว เอ็ดมัวร์ ให้กลับปราสาทริเวอร์รัน บรินเดน ทัลลี เก๋าเกมพอที่จะรู้กลหมากตานี้ จึงสั่งไม่ให้เปิดประตู แต่บรรดาทหารแม่ทัพตระกูลทัลลีไม่เชื่อ และเลือกที่จะเปิดประตูรับ เอ็ดมัวร์ ทัลลี กลับเข้ามาโดยให้เหตุผลว่า เอ็ดมัวร์ ทีลลี เป็นผู้ปกครองโดยชอบธรรมของตระกูลทัลลี พอเข้ามาแล้ว เอ็ดมัวร์ ก็ดำเนินตามแผนโดยสั่งเปิดประตูยอมให้ทหารกองทัพแลนนิสเตอร์เดินทัพเข้าไป และสั่งจับตัว บรินเดน ทัลลี แต่เจ้าปลาดำเลือกที่จะสู้ตาย ส่วน บริเอนน์ กับ พอดริก ก็ใช้ทางลับพายเรือล่องกลับขึ้นเหนือไป
กลับไปที่คิงส์แลนดิ้ง เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ มาเข้าร่วมด้วย แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปยืนข้างๆ พระราชาทอมเมน บาราเทียน ต่อมา พระราชาทอมเมน ก็ประกาศราชโองการให้ เซอร์ลอรัส ไทเรล (พี่ชายของมาเจอรี ไทเรล) กับ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ต้องเข้ารับการพิจารณาโทษและจะต้องถูกคุมขังในวิหารเบเลอร์จนกว่าจะถึงวันแรกของเทศกาลพระแม่ ที่สำคัญคือหลังจากนี้เป็นต้นไปการตัดสินคดีโดยการต่อสู้ จะไม่ได้รับอนุญาตอีกต่อไปตลอดทั้ง 7 อาณาจักร เนื่องจากเป็นธรรมเนียมอันโหดร้าย และเป็นการตัดสินที่ขัดกับความถูกต้องของพระเจ้า ส่วน เซอร์ซี กับ ลอรัส จะต้องถูกตัดสินต่อหน้าเซพตันทั้ง 7 จบราชโองการ พระราชาทอมเมน ก็เสด็จกลับไป เซอร์ซี ยืนสิ้นหวัง จากนั้นเจ้ากรมข่าวกรอง ไคเบิร์น ก็เดินเข้ามาบอกว่า ข่าวลือที่ได้รับมอบหมายให้ไปตรวจสอบเป็นความจริง (มีแผนร้ายอีกแล้ว)
ตัดมาที่นครมิรีน ภูติจิ๋วทีเรียน แลนนิสเตอร์ ดื่มไวน์แล้วพยายามชวน หนอนเทา กับ มิสซันเดย์ คุยเล่นสนุกสนานกัน ตอนแรกติดๆขัดอยู่บ้าง แต่เจ้าภูติจิ๋ว ก็ใช้วิธีคะยั้นคะยอให้ทั้งคู่ลองดื่มไวน์ แล้วก็ชวนคุยสรรหามุขตลกมาเล่า จนในที่สุดก็คุยกันถูกคอ สนิทสนมกันมากขึ้น บรรยากาศการสนทนากำลังครึกครื้น ทันใดนั้นก็มีเสียงระฆังดังกังวานเป็นสัญญาณเตือนภัย ทุกคนจึงรีบวิ่งออกไปดู ปรากฏว่าบรรดานายทาส (Masters) ยกกองเรือเข้ามาปิดล้อม

พอตกค่ำก็เปิดฉากโจมตียิงลูกไฟถล่มอย่างหนัก ภูติจิ๋วทีเรียน เสนอให้ส่งกำลังทหารผู้ไร้มลทิน ไปตั้งรับที่ชายหาด แต่ แม่ทัพหนอนเทา เสนอว่าให้รอตั้งรับในปิรามิดเท่านั้น ระหว่างกำลังคิดแผนกัน จู่ๆก็มีเสียงดังโครมข้างบนปิรามิด ทุกคนจึงรีบวิ่งขึ้นไปดู ปรากฏว่าที่แท้เป็น ขุ่นแม่มังกรแดเนริส ทาร์แกเรียน ขี่มังกรบินกลับมาแล้ว!!!

ตัดกลับมาที่อาร์ย่า : พอถึงรุ่งเช้า เลดี้เครน เข้ามาดูอาการ อาร์ยา ยังคงหลับอยู่ แต่พอ เลดี้เครน ออกจากห้องนอนไปหยิบขวดยา เวฟ ก็โผล่มาแล้วสังหารเธอ เกิดเสียงดังโครมใหญ่ อาร์ยา สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เธอจึงเดินออกมานอกห้องนอนและได้เห็นว่า เลดี้เครน โดนฆ่าตายแล้ว เวฟ ยืนรออยู่ตรงหน้าเธอและค่อยๆเดินเข้ามาพร้อมกับบอกว่า "เทพหลายหน้าระบุชื่อมาแล้ว ต้องได้รับสิ่งที่เป็นของเขา เจ้าเปลี่ยนมันไม่ได้ ข้าเปลี่ยนมันไม่ได้ ไม่มีใครทำได้ และตอนนี้ก็มีอีกชื่อหนึ่งแล้ว"

ฟังจบ อาร์ยา เห็นท่าไม่ดีจึงรีบกระโดดหน้าต่างวิ่งหนีสุดชีวิต เวฟ ไล่ตามมาติดๆ อาร์ยา พยายามวิ่งให้เร็วที่สุด กระโดดกำแพงสูงจนตกบันไดแผลอักเสบเลือดไหล แต่เธอก็พยายามเดินหนีลงไปในห้องใต้ดินแห่งหนึ่งเสมือนล่อ เวฟ ให้ตามมา สุดท้าย เวฟ ตามมาถึงที่ อาร์ยา หยิบดาบนีเดิลขึ้นมาเตรียมสู้ แล้วเธอก็ดับเทียนทำให้ห้องมืด

ตัดมาที่วิหารเทพหลายหน้า จาเค็น เห็นรอยเลือดจึงเดินตามไปจนสุด ปรากฏว่าเขาเห็นใบหน้าของเวฟวางอยู่บนแท่น จากนั้น อาร์ยา ก็โผล่มาจากข้างหลังและพูดว่า "เจ้าสั่งนางมาฆ่าข้า" พอได้ยินเสียง จาเค็น ก็หันกลับมาตอบว่า "ใช่ แต่เจ้าอยู่ตรงนี้ และนางอยู่ตรงนั้น" พร้อมกับเดินเข้าใส่ดาบของอาร์ยา และพูดว่า "ท้ายที่สุด เด็กสาวก็เป็นคนไร้ตัวตน" แต่ อาร์ยา ตอบกลับไปอย่างเด็ดเดี่ยวว่า "เด็กหญิง คือ อาร์ยา สตาร์ค แห่งวินเทอร์เฟล และข้าจะกลับบ้าน" แล้วเธอก็เดินจากไป ส่วน จาเค็น ยิ้มให้เบาๆและมองเธอเดินออกไป

ติดตามชมซีรีส์ Game of Thrones ซีซั่น 6 ออกอากาศทุกวันจันทร์ เฟิร์สรัน 8.00 น. รีรัน 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ทางช่อง HBO HD (ทรูวิชั่นส์ 223)
Cr. By Ple :
http://script.today/script2/newsDetail?id=24926
TV Recap: Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 8 "เด็กหญิง คือ อาร์ยา สตาร์ค แห่งวินเทอร์เฟล"
ตอนที่ 8 “No One”
ณ เมืองบราวอส ผู้คนกำลังมุงดูคณะละครเร่อย่างใจจดจ่อ เลดี้เครน แสดงบทบาทเซอร์ซี แลนนิสเตอร์ แม่ผู้สูญเสียลูกชายจอฟฟรีย์ ได้อย่างเข้าถึงอารมณ์ พอสิ้นฉากของเธอ ผู้ชมต่างปรบมือชื่นชมในความสามารถการแสดงอันยอดเยี่ยม จากนั้นเธอก็เข้ามาพักในห้องแต่งตัวนักแสดง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงกุกกักอยู่หลังม่าน พอเปิดไปดู เธอเห็น อาร์ยา สตาร์ค นอนบาดเจ็บอยู่ เธอจึงพาไปรักษาที่บ้านพัก ทำแผลให้อย่างดี แล้วก็ให้อาร์ยาดื่มซุปและยางฝิ่นหลับพักผ่อน
หลังจากฆ่าล้างชาวบ้านตายเรียบ ชาย 4 คน ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มนอกกฎหมายพี่น้องไร้ธง (Brotherhood without Banner) มานั่งกินดื่มกันอยู่กลางป่า ซานดอร์ คลิเกน เดินถือขวานตามมาถึง ก็ไล่ฆ่าคนเหล่านี้ตายเรียบ จากนั้นก็เดินตามหาตัวหัวโจกจนมาพบกับ เบริค ดอนแดเรียน หัวหน้ากลุ่มพี่น้องไร้ธง กับ ธอรอส แห่ง มีร์ รวมทั้งสมาชิกกลุ่มคนอื่นๆ กำลังแขวนคอสมาชิก 3 คน ที่ปล้นสะดมฆ่าล้างชาวบ้านตาย เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎกลุ่ม ขณะที่ ซานดอร์ ก็จะมาล้างแค้นเช่นกัน เบริค จึงยอมให้เขาจัดการ 2 จาก 3 คน แต่ต้องใช้วิธีฆ่าแขวนคอเท่านั้น ก็ตกลงกันได้ ซานดอร์ กับ เบริค ถีบแท่นยืนของนักโทษทั้งสาม ทำให้พวกเขาโดนรัดคอตาย จากนั้นก็ไปนั่งรอบกองไฟ กิน ดื่ม พูดคุยกัน เบริค ตัดสินใจชวน ซานดอร์ เข้ากลุ่ม โดยพูดโน้มน้าวว่า "เจ้าสามารถช่วยคนได้มากกว่าที่เจ้าได้ทำร้ายไป มันยังไม่สายเกินไป"
ณ เมืองมิรีน แผนการสื่อประชาสัมพันธ์ชวนเชื่อชักจูงประชาชนได้เริ่มต้นขึ้น แม่มดแดงกระจายตัวกันไปพูดจาปราศรัยให้ชาวมิรีนเชื่อมั่นว่า ราชินีแดเนริส ทาร์แกเรียน เป็นผู้ได้รับเลือกจากเทพแห่งแสงให้มากอบกู้โลกใบนี้ ภูติจิ๋วทีเรียน และ วาริส เดินดูสถานการณ์ในเมืองอย่างปลื้มปิติมากขึ้น แต่ วาริส ยังไม่มั่นใจและเชื่อใจว่าแผนดังกล่าวจะเป็นแผนการที่ดี จากนั้นพอเดินมาถึงประตูทางออก ทั้งคู่ก็กล่าวอำลาต่อกัน ภูติจิ๋วทีเรียน แสดงความกังวลโดยบอกว่า "หวังว่าท่านจะทำแผนการลุล่วงนะ" ส่วน เจ้าวาริส ตอบกลับว่า "ถ้าข้าไม่กลับมา แสดงว่าข้าคิดผิด เราต้องการพันธมิตรในเวสเทอรอส เราต้องการเรือ" จากนั้น วาริส ก็เดินจากไป
ในคิงส์แลนดิ้ง เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ กำลังนั่งจิบไวน์ในป้อมปราการเร้ดคีป สักพัก เจ้ากรมข่าวกรองไคเบิร์น ก็มาแจ้งว่า สมาชิกกองทัพศรัทธาธรรม ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี่และต้องการจะพบเธอ เซอร์ซี จึงเดินออกไปพบพร้อมด้วยองครักษ์ยักษ์คู่ใจ อัศวินภูผา (The Mountain) ด้านนอก แลนเซล แลนนิสเตอร์ เป็นหัวหน้ากลุ่มนำทีมสมาชิกศรัทธาธรรมมาแจ้งให้ทราบว่า ไฮ สแปร์โรว์ ต้องการพบตัวเซอร์ซี แต่เธอไม่ยอมไปพบ กลับบอกให้ ไฮ สแปร์โรว์ มาหาเธอที่นี่
ขัดขืนกันแบบนี้ แลนเซล จึงให้พี่น้องนักบวชเดินเข้ามาพาตัวเธอไป แต่ เซอร์ซี ก็ให้องครักษ์ยักษ์เข้ามาขวาง แลนเซล จึงบอกให้สั่งองครักษ์หลบไปจะได้ไม่ต้องใช้ความรุนแรง แต่ เซอร์ซี เลือกใช้ความรุนแรง องครักษ์ยักษ์ จึงเข้าขวางและดึงหัวนักบวชคนหนึ่งหลุดเลือดอาบพื้น จากนั้น เซอร์ซี ก็ถือโอกาสขู่ แลนเซล ว่า ไฮ สแปร์โรว์ มาพบเธอได้เสมอ นะจ๊ะ
หลังจากได้รับมอบภารกิจให้มาขอกำลังเสริมจากตระกูลทัลลี ในที่สุด บริเอนน์ กับ พอดริก ก็เดินทางมาถึง ปราสาทริเวอร์รัน ซึ่งตอนนี้กองทัพตระกูลแลนนิสเตอร์ กำลังตั้งค่ายปิดล้อมอยู่ บริเอนน์ มองดูสถานการณ์แล้วจึงรีบเข้าพบกับ เจมี แลนนิสเตอร์ เมื่อเข้าไปถึงค่าย บรอนน์ ก็หยอกล้อกับ พอดริก อย่างสนุกสนาน ส่วน บริเอนน์ ก็เข้าไปเจรจากับ เจมี ตัวเธออาสาจะเข้าไปเกลี้ยกล่อม บรินเดน ทัลลี ให้ยอมแพ้ มอบปราสาทคืนให้ตระกูลเฟรย์ โดยมีข้อแม้ว่า เจมี ต้องปล่อยให้กองทัพตระกูลทัลลีเดินทางขึ้นเหนือไปช่วย ซานซา สตาร์ค ทำสงครามยึดวินเทอร์เฟล
พอฟังแล้ว เจมี ไม่เชื่อว่า บริเอนน์ จะสามารถโน้มน้าว บรินเดน ทัลลี ได้สำเร็จ แต่สุดท้าย เจมี ก็ยอมทำตามข้อเสนอนี้และให้เวลา บริเอนน์ จนกว่าพระอาทิตย์ตกดิน พอคุยจบ บริเอนน์ ก็มอบดาบผู้รักษาสัตย์ (Oathkeeper) คืนให้พร้อมกับบอกว่า เจมี ให้ดาบเล่มนี้มาเพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลูกๆของเคทลิน สตาร์ค และตอนนี้ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว แต่ เจมี ไม่รับคืน พร้อมกับบอกว่าดาบเล่มนี้เป็นของเธอ
เวลามาคอยท่า บริเอนน์ รีบไปเจรจากับ บรินเดน ทัลลี แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ไม่สามารถโน้มน้าวได้เลย บรินเดน ทัลลี ไม่ยอมทิ้งปราสาท ในตอนแรก บรินเดน ทัลลี คิดว่า บริเอนน์ เป็นหมากตัวนึงของ เจมี ที่ส่งเข้ามาเกลี้ยกล่อมให้ตนทิ้งปราสาท เพราะเห็นว่า เจมี ยอมเปิดทางให้เธอเข้ามาแวดงว่ารู้จักกัน แถมเธอยังมีดาบราชสีห์ของแลนนิสเตอร์เป็นอาวุธติดตัว แต่พอ บริเอนน์ บอกว่า เจมี รักษาสัญญากับ เคทลิน สตาร์ค โดยการส่งเธอไปตามหาและช่วยเหลือ ซานซา และได้ให้ดาบนี้ไว้เพื่อปกป้องลูกๆตระกูลสตาร์ค ฟังเช่นนี้ บรินเดน จึงยอมอ่านจดหมายจากซานซา แต่พออ่านจบก็ยังยืนกรานไม่ไปช่วย โดยอ้างว่ามีกำลังคนไม่พอ และยังคิดว่านี่เป็นแผนการของ เจมี ที่หวังหลอกให้ตนยอมแพ้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับหมดหวัง บริเอนน์ จึงบอก พอดริค ให้ไปส่งจดหมายบอก ซานซา ว่าภารกิจนี้ล้มเหลว
พอตกกลางคืน เจมี แลนนิสเตอร์ เข้ามาเกลี้ยกล่อม เอ็ดมัวร์ ทัลลี ซึ่งเป็นเชลยศึก ให้ยอมทำตามแผนการยึดปราสาทริเวอร์รันคืน ตอนแรก เอ็ดมัวร์ ทัลลี ไม่ยอมทำตาม แต่พอ เจมี ขู่จะฆ่าลูกชาย โดยนำตัวลูกชายมายัดเป็นกระสุนปืนใหญ่ยิงถล่มปราสาทริเวอร์รัน ทำให้ เอ็ดมัวร์ ยอมจำนน จากนั้น เจมี ก็ปล่อยตัว เอ็ดมัวร์ ให้กลับปราสาทริเวอร์รัน บรินเดน ทัลลี เก๋าเกมพอที่จะรู้กลหมากตานี้ จึงสั่งไม่ให้เปิดประตู แต่บรรดาทหารแม่ทัพตระกูลทัลลีไม่เชื่อ และเลือกที่จะเปิดประตูรับ เอ็ดมัวร์ ทัลลี กลับเข้ามาโดยให้เหตุผลว่า เอ็ดมัวร์ ทีลลี เป็นผู้ปกครองโดยชอบธรรมของตระกูลทัลลี พอเข้ามาแล้ว เอ็ดมัวร์ ก็ดำเนินตามแผนโดยสั่งเปิดประตูยอมให้ทหารกองทัพแลนนิสเตอร์เดินทัพเข้าไป และสั่งจับตัว บรินเดน ทัลลี แต่เจ้าปลาดำเลือกที่จะสู้ตาย ส่วน บริเอนน์ กับ พอดริก ก็ใช้ทางลับพายเรือล่องกลับขึ้นเหนือไป
กลับไปที่คิงส์แลนดิ้ง เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ มาเข้าร่วมด้วย แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปยืนข้างๆ พระราชาทอมเมน บาราเทียน ต่อมา พระราชาทอมเมน ก็ประกาศราชโองการให้ เซอร์ลอรัส ไทเรล (พี่ชายของมาเจอรี ไทเรล) กับ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ต้องเข้ารับการพิจารณาโทษและจะต้องถูกคุมขังในวิหารเบเลอร์จนกว่าจะถึงวันแรกของเทศกาลพระแม่ ที่สำคัญคือหลังจากนี้เป็นต้นไปการตัดสินคดีโดยการต่อสู้ จะไม่ได้รับอนุญาตอีกต่อไปตลอดทั้ง 7 อาณาจักร เนื่องจากเป็นธรรมเนียมอันโหดร้าย และเป็นการตัดสินที่ขัดกับความถูกต้องของพระเจ้า ส่วน เซอร์ซี กับ ลอรัส จะต้องถูกตัดสินต่อหน้าเซพตันทั้ง 7 จบราชโองการ พระราชาทอมเมน ก็เสด็จกลับไป เซอร์ซี ยืนสิ้นหวัง จากนั้นเจ้ากรมข่าวกรอง ไคเบิร์น ก็เดินเข้ามาบอกว่า ข่าวลือที่ได้รับมอบหมายให้ไปตรวจสอบเป็นความจริง (มีแผนร้ายอีกแล้ว)
ตัดมาที่นครมิรีน ภูติจิ๋วทีเรียน แลนนิสเตอร์ ดื่มไวน์แล้วพยายามชวน หนอนเทา กับ มิสซันเดย์ คุยเล่นสนุกสนานกัน ตอนแรกติดๆขัดอยู่บ้าง แต่เจ้าภูติจิ๋ว ก็ใช้วิธีคะยั้นคะยอให้ทั้งคู่ลองดื่มไวน์ แล้วก็ชวนคุยสรรหามุขตลกมาเล่า จนในที่สุดก็คุยกันถูกคอ สนิทสนมกันมากขึ้น บรรยากาศการสนทนากำลังครึกครื้น ทันใดนั้นก็มีเสียงระฆังดังกังวานเป็นสัญญาณเตือนภัย ทุกคนจึงรีบวิ่งออกไปดู ปรากฏว่าบรรดานายทาส (Masters) ยกกองเรือเข้ามาปิดล้อม
พอตกค่ำก็เปิดฉากโจมตียิงลูกไฟถล่มอย่างหนัก ภูติจิ๋วทีเรียน เสนอให้ส่งกำลังทหารผู้ไร้มลทิน ไปตั้งรับที่ชายหาด แต่ แม่ทัพหนอนเทา เสนอว่าให้รอตั้งรับในปิรามิดเท่านั้น ระหว่างกำลังคิดแผนกัน จู่ๆก็มีเสียงดังโครมข้างบนปิรามิด ทุกคนจึงรีบวิ่งขึ้นไปดู ปรากฏว่าที่แท้เป็น ขุ่นแม่มังกรแดเนริส ทาร์แกเรียน ขี่มังกรบินกลับมาแล้ว!!!
ตัดกลับมาที่อาร์ย่า : พอถึงรุ่งเช้า เลดี้เครน เข้ามาดูอาการ อาร์ยา ยังคงหลับอยู่ แต่พอ เลดี้เครน ออกจากห้องนอนไปหยิบขวดยา เวฟ ก็โผล่มาแล้วสังหารเธอ เกิดเสียงดังโครมใหญ่ อาร์ยา สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เธอจึงเดินออกมานอกห้องนอนและได้เห็นว่า เลดี้เครน โดนฆ่าตายแล้ว เวฟ ยืนรออยู่ตรงหน้าเธอและค่อยๆเดินเข้ามาพร้อมกับบอกว่า "เทพหลายหน้าระบุชื่อมาแล้ว ต้องได้รับสิ่งที่เป็นของเขา เจ้าเปลี่ยนมันไม่ได้ ข้าเปลี่ยนมันไม่ได้ ไม่มีใครทำได้ และตอนนี้ก็มีอีกชื่อหนึ่งแล้ว"
ฟังจบ อาร์ยา เห็นท่าไม่ดีจึงรีบกระโดดหน้าต่างวิ่งหนีสุดชีวิต เวฟ ไล่ตามมาติดๆ อาร์ยา พยายามวิ่งให้เร็วที่สุด กระโดดกำแพงสูงจนตกบันไดแผลอักเสบเลือดไหล แต่เธอก็พยายามเดินหนีลงไปในห้องใต้ดินแห่งหนึ่งเสมือนล่อ เวฟ ให้ตามมา สุดท้าย เวฟ ตามมาถึงที่ อาร์ยา หยิบดาบนีเดิลขึ้นมาเตรียมสู้ แล้วเธอก็ดับเทียนทำให้ห้องมืด
ตัดมาที่วิหารเทพหลายหน้า จาเค็น เห็นรอยเลือดจึงเดินตามไปจนสุด ปรากฏว่าเขาเห็นใบหน้าของเวฟวางอยู่บนแท่น จากนั้น อาร์ยา ก็โผล่มาจากข้างหลังและพูดว่า "เจ้าสั่งนางมาฆ่าข้า" พอได้ยินเสียง จาเค็น ก็หันกลับมาตอบว่า "ใช่ แต่เจ้าอยู่ตรงนี้ และนางอยู่ตรงนั้น" พร้อมกับเดินเข้าใส่ดาบของอาร์ยา และพูดว่า "ท้ายที่สุด เด็กสาวก็เป็นคนไร้ตัวตน" แต่ อาร์ยา ตอบกลับไปอย่างเด็ดเดี่ยวว่า "เด็กหญิง คือ อาร์ยา สตาร์ค แห่งวินเทอร์เฟล และข้าจะกลับบ้าน" แล้วเธอก็เดินจากไป ส่วน จาเค็น ยิ้มให้เบาๆและมองเธอเดินออกไป
ติดตามชมซีรีส์ Game of Thrones ซีซั่น 6 ออกอากาศทุกวันจันทร์ เฟิร์สรัน 8.00 น. รีรัน 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ทางช่อง HBO HD (ทรูวิชั่นส์ 223)
Cr. By Ple : http://script.today/script2/newsDetail?id=24926