สวัสดีครับทุกคน
หลังจากปล่อยกระทู้แรกไปเมื่อสองวันก่อน วันนี้ผมกลับมาอีกครั้งกับกระทู้รีวิวเล็ก
ที่ไม่ต้องอัพไม่ต้องอ่านกันข้ามวันข้ามคืน คราวนี้ไม่ต้องทรมานทั้งคนตั้งคนอ่านแล้วนะครับ
แต่ยังไงต้องขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน
กระทู้ "บันทึก: อเมริกาโน่สามสิบแก้วกับฉันคนนี้"
http://pantip.com/topic/35278781
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้และถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไปขอฝากไลค์เพจของผมไว้ด้วยเลยนะครับ https://www.facebook.com/KhunBhaesaj/ แม้ว่าตอนนี้อาจจะยังไม่มีอะไรแต่ผมจะเริ่มอัพเพจเร็วๆนี้นะครับ
ผมกับแฟนชอบทานบิงซู ประมาณว่าไปเกาหลีช่วงปลายพย.ปีก่อน 4 วัน ทานบิงซูไปมากกว่า 4 ถ้วย บางถ้วยกินแล้วกินอีก ปรกติอยู่เมืองไทยถ้ามีโอกาสและกำลังทรัพย์ก็จะไปทานกันอยู่บ่อยๆ แต่เนื่องจากด้วยอาชีพทำให้ไม่มีเวลาไปทานบิงซูกันมากนัก เพราะธรรมชาติของบิงซู แล้วมันเป็นขนมที่ใช้เวลาทำนาน เสียเวลารอเสียเวลาทานร่วมชั่วโมงแทบทุกครั้งไป ยิ่งร้านดังยิ่งรอนาน ประกอบกับราคาที่คงไม่เรียกได้ว่าประหยัด ทำเลที่ส่วนมากพบแต่ในเขตเมืองหรือตามห้างใหญ่ จนถึงการที่มันมีน้ำตาลในปริมาณสูง ... ทั้งหมดนั้นทำให้ตอนหลังไม่ค่อยมีโอกาสได้ทานเท่าไหร่
แต่วันหนึ่งหลังจากเก็บร้านเสร็จแล้ว ขับรถกลับบ้านตามปรกติ ก็สังเกตได้ว่า บริเวณย่านร้านอาหารที่ห่างจากร้านไปประมาณ 150 เมตร มีรถจอดมากมาย ไฟสว่าง เลยหันไปมอง ที่แรกนึกว่าตาฝาด แต่มันคงไม่ฝาดทั้งคู่พร้อมกัน ใช่แล้วในซอยชานเมืองอย่างนี้มีร้านบิงซูมาเปิดเว้ย !!!
คนก็มากินเยอะแยะ แต่เปิดแรกแรกคนแถวนี้อาจจะเห่อกันก็ได้ จะแพงรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่รู้ว่าพรุ่งนี้จะรีบมากินกันตั้งแต่กลางวันเลยละ ตั้งใจไว้อย่างนั้น
ร้าน The Snowcap Bingsoo Korean Dessert Cafe สาขาพระราม 2
จะอยู่ในซอย พระราม 2 ที่ 50 (ซอยวัดกำแพง) หรือซอยข้างโรงเบียร์ อยู่ฝั่งเซ็นทรัลพระราม 2 พอเข้าซอยมาจากถนนพระราม 2 ประมาณ 250 เมตร ร้านจะตั้งอยู่ริมถนนด้านซ้าย เป็นโครงการแหล่งรวมร้านอาหารขนาดไม่ใหญ่โตนัก สามารถจอดข้างถนนได้ตามวันคู่วันคี่ และสามารถเอารถไปจอดในที่จอดรถด้านหลังของโครงการได้
ด้านหน้าร้าน
ดูป้ายกันก่อน เขาบอกว่าอร่อยแน่ด้วยนะ
ด้านในร้าน
มาถึงก็สั่งไปสองรายการ เดี่ยวมาดูกันว่าเป็นอะไรกับอะไร
มันก็คือต็อกป็อกกี่นั้นเอง เป็นคนชอบกินต็อกมาก แป้งร้านนี้ร่วนนิ่มไม่เหนียวเท่าที่ควร ซอสก็เผ็ดดีแต่ยังไม่กลมกล่อม
สำหรับราคา 69.- บาท ส่วนตัวให้คะแนนแค่พอผ่าน ไม่ถึงกับแย่ แต่ยังรู้สึกว่าไม่คุ้มในราคานี้ (แต่ปรกติเขาก็ขายเจ้านี้กันราคาไม่ถูกนะ)
แล้วก็มาถึงพระเอกเรา
อินจอลมีบิงซู หรือน้ำแข็งใสหน้าอินจอลมี อินจอลมี (Injeolmi) หมายถึงแป้งต็อกหรือแป้งข้าวเจ้าที่เอามานวดจนเหนียวเป็นก้อน แล้วปั้นเป็นตัวๆ ซึ่งก็คือไอ้แบบเดียวกับที่กินไปเมื่อจานที่แล้ว แต่อินจอลมีจะเป็นการเอาคลุกกับถั่วบดละเอียด มีการเติมน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย บางทีก็เคยเจอที่เขาย่างกัน ซึ่งก็คล้ายกับวาราบิโมจิของญี่ปุ่นนั้นเอง ความอร่อยส่วนตัวเห็นว่าอยู่ที่แป้งผงถั่วที่โรงหน้ามานั้นละครับ เข้ากับน้ำแข็งใสมาก และเป็นรสชาติแท้ๆของเกาหลีกันเลยทีเดียว
อินจอลมีเป็นบิงซูหน้าโปรดของผมกับแฟน เพราะมันถูกนั้นเอง อยู่ประเทศไทยจะกินหน้าสตรอเบอร์รี่ก็ดูจะไม่คุ้ม ไม่รู้จะสตรอจะอร่อยรึเปล่า ถ้ากินมะม่วงก็ชอบติดว่าแพงเพราะมะม่วงบ้านเราถูกแต่บิงซูหน้ามะม่วงเกือบจะราคาเดียวกับที่เกาหลีอยู่แล้ว และที่สำคัญมะม่วงมันก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ บางทีก็เปรี้ยวบางทีก็หวานไรงี้ สุดท้ายเลยมักจะจบที่ อินจอลมี
ชามนี้ตั้งราคาไว้ที่ 89.- บาท ไม่ถึงร้อยถือว่าโอเคเลยนะครับ ส่วนรสชาติก็จัดว่าดี โอเคละอาจจะไม่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยทานมา แต่ราคานี้สะดวกแบบนี้ คงไม่มีอะไรต้องคิดมาก
แล้วเราก็มาคิดค่าเสียหายกัน
เนื่องจากตอนนั้นร้านมีโปรลด 20% สำหรับทุกท่านอยู่ จาก ยอดรวม 158.- เลยลดเหลือ 126
แต่ตอนนี้โปรหมดไปแล้วนะครับ ไม่รู้ทางร้านจะมีโปรอะไรมาอีกรึเปล่า
สรุป
ถือว่าชอบเพราะสะดวกใกล้บ้าน ราคาต่ำกว่าร้านแบบเดียวกันที่ตั้งในเขตเมือง หรือบนห้างสรรพสินค้า รสชาติและคุณภาพไม่ได้รู้สึกว่าเป็นรอง การบริการก็อยู่ในมาตรฐาน ที่ให้แค่ 4.5 ดาว เพราะว่าเคยทานที่สุดยอดยอดกว่านี้มาก่อน แต่มันไม่ได้มีความหมายอะไรหรอกครับ เพราะเท่านี้ก็ผมถือว่าดีมากแล้วครับสำหรับบริบทของร้านนี้
ขอบคุณอีกครั้งครับ
แต่เดียวก่อน ไม่รู้ยังไงคืนนั้นเจ้านี้ก็ได้เกิดขึ้นมา
เนื่องจากวันนั้นร้านมีลด 20% เราจึงกลับไปอีกตอนสามทุ่มครึ่ง
เรียกว่ารีบปิดร้านเพื่อไปกินกันเลยทีเดียว ก็บอกแล้วไงครับว่าชอบบิงซูมาก
เพราะผมลืมถ่ายรูปบิลมา บิงซูแคนตาลูปถ้วยนี้ถ้าจำราคาไม่ผิดน่าจะประมาณ 180.- ไม่แน่ใจว่าลดรึยัง
รสชาติก็ตามมาตรฐาน แต่รู้สึกว่าไม่คุ้มเพราะแคนตาลูปมันเนื้อแข็งและเปลือกหนา
เราก็ยังมีกิเลศอยากจะควักมันออกมาอีกเยอะๆ แต่อันนี้น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาของผลไม้นะครับ
จบจริงแล้วครับ
[CR] คุณเภสัช : เมื่อบิงซูมาเปิดใกล้บ้าน มีหรือที่ฉันจะไม่เสียทรัพย์ (พระราม 2 ซอย 50)
หลังจากปล่อยกระทู้แรกไปเมื่อสองวันก่อน วันนี้ผมกลับมาอีกครั้งกับกระทู้รีวิวเล็ก
ที่ไม่ต้องอัพไม่ต้องอ่านกันข้ามวันข้ามคืน คราวนี้ไม่ต้องทรมานทั้งคนตั้งคนอ่านแล้วนะครับ
แต่ยังไงต้องขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน
กระทู้ "บันทึก: อเมริกาโน่สามสิบแก้วกับฉันคนนี้"
http://pantip.com/topic/35278781
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมกับแฟนชอบทานบิงซู ประมาณว่าไปเกาหลีช่วงปลายพย.ปีก่อน 4 วัน ทานบิงซูไปมากกว่า 4 ถ้วย บางถ้วยกินแล้วกินอีก ปรกติอยู่เมืองไทยถ้ามีโอกาสและกำลังทรัพย์ก็จะไปทานกันอยู่บ่อยๆ แต่เนื่องจากด้วยอาชีพทำให้ไม่มีเวลาไปทานบิงซูกันมากนัก เพราะธรรมชาติของบิงซู แล้วมันเป็นขนมที่ใช้เวลาทำนาน เสียเวลารอเสียเวลาทานร่วมชั่วโมงแทบทุกครั้งไป ยิ่งร้านดังยิ่งรอนาน ประกอบกับราคาที่คงไม่เรียกได้ว่าประหยัด ทำเลที่ส่วนมากพบแต่ในเขตเมืองหรือตามห้างใหญ่ จนถึงการที่มันมีน้ำตาลในปริมาณสูง ... ทั้งหมดนั้นทำให้ตอนหลังไม่ค่อยมีโอกาสได้ทานเท่าไหร่
แต่วันหนึ่งหลังจากเก็บร้านเสร็จแล้ว ขับรถกลับบ้านตามปรกติ ก็สังเกตได้ว่า บริเวณย่านร้านอาหารที่ห่างจากร้านไปประมาณ 150 เมตร มีรถจอดมากมาย ไฟสว่าง เลยหันไปมอง ที่แรกนึกว่าตาฝาด แต่มันคงไม่ฝาดทั้งคู่พร้อมกัน ใช่แล้วในซอยชานเมืองอย่างนี้มีร้านบิงซูมาเปิดเว้ย !!!
คนก็มากินเยอะแยะ แต่เปิดแรกแรกคนแถวนี้อาจจะเห่อกันก็ได้ จะแพงรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่รู้ว่าพรุ่งนี้จะรีบมากินกันตั้งแต่กลางวันเลยละ ตั้งใจไว้อย่างนั้น
ร้าน The Snowcap Bingsoo Korean Dessert Cafe สาขาพระราม 2
จะอยู่ในซอย พระราม 2 ที่ 50 (ซอยวัดกำแพง) หรือซอยข้างโรงเบียร์ อยู่ฝั่งเซ็นทรัลพระราม 2 พอเข้าซอยมาจากถนนพระราม 2 ประมาณ 250 เมตร ร้านจะตั้งอยู่ริมถนนด้านซ้าย เป็นโครงการแหล่งรวมร้านอาหารขนาดไม่ใหญ่โตนัก สามารถจอดข้างถนนได้ตามวันคู่วันคี่ และสามารถเอารถไปจอดในที่จอดรถด้านหลังของโครงการได้
ด้านหน้าร้าน
ดูป้ายกันก่อน เขาบอกว่าอร่อยแน่ด้วยนะ
ด้านในร้าน
มาถึงก็สั่งไปสองรายการ เดี่ยวมาดูกันว่าเป็นอะไรกับอะไร
มันก็คือต็อกป็อกกี่นั้นเอง เป็นคนชอบกินต็อกมาก แป้งร้านนี้ร่วนนิ่มไม่เหนียวเท่าที่ควร ซอสก็เผ็ดดีแต่ยังไม่กลมกล่อม
สำหรับราคา 69.- บาท ส่วนตัวให้คะแนนแค่พอผ่าน ไม่ถึงกับแย่ แต่ยังรู้สึกว่าไม่คุ้มในราคานี้ (แต่ปรกติเขาก็ขายเจ้านี้กันราคาไม่ถูกนะ)
แล้วก็มาถึงพระเอกเรา
อินจอลมีบิงซู หรือน้ำแข็งใสหน้าอินจอลมี อินจอลมี (Injeolmi) หมายถึงแป้งต็อกหรือแป้งข้าวเจ้าที่เอามานวดจนเหนียวเป็นก้อน แล้วปั้นเป็นตัวๆ ซึ่งก็คือไอ้แบบเดียวกับที่กินไปเมื่อจานที่แล้ว แต่อินจอลมีจะเป็นการเอาคลุกกับถั่วบดละเอียด มีการเติมน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย บางทีก็เคยเจอที่เขาย่างกัน ซึ่งก็คล้ายกับวาราบิโมจิของญี่ปุ่นนั้นเอง ความอร่อยส่วนตัวเห็นว่าอยู่ที่แป้งผงถั่วที่โรงหน้ามานั้นละครับ เข้ากับน้ำแข็งใสมาก และเป็นรสชาติแท้ๆของเกาหลีกันเลยทีเดียว
อินจอลมีเป็นบิงซูหน้าโปรดของผมกับแฟน เพราะมันถูกนั้นเอง อยู่ประเทศไทยจะกินหน้าสตรอเบอร์รี่ก็ดูจะไม่คุ้ม ไม่รู้จะสตรอจะอร่อยรึเปล่า ถ้ากินมะม่วงก็ชอบติดว่าแพงเพราะมะม่วงบ้านเราถูกแต่บิงซูหน้ามะม่วงเกือบจะราคาเดียวกับที่เกาหลีอยู่แล้ว และที่สำคัญมะม่วงมันก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ บางทีก็เปรี้ยวบางทีก็หวานไรงี้ สุดท้ายเลยมักจะจบที่ อินจอลมี
ชามนี้ตั้งราคาไว้ที่ 89.- บาท ไม่ถึงร้อยถือว่าโอเคเลยนะครับ ส่วนรสชาติก็จัดว่าดี โอเคละอาจจะไม่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยทานมา แต่ราคานี้สะดวกแบบนี้ คงไม่มีอะไรต้องคิดมาก
แล้วเราก็มาคิดค่าเสียหายกัน
เนื่องจากตอนนั้นร้านมีโปรลด 20% สำหรับทุกท่านอยู่ จาก ยอดรวม 158.- เลยลดเหลือ 126
แต่ตอนนี้โปรหมดไปแล้วนะครับ ไม่รู้ทางร้านจะมีโปรอะไรมาอีกรึเปล่า
สรุป
ถือว่าชอบเพราะสะดวกใกล้บ้าน ราคาต่ำกว่าร้านแบบเดียวกันที่ตั้งในเขตเมือง หรือบนห้างสรรพสินค้า รสชาติและคุณภาพไม่ได้รู้สึกว่าเป็นรอง การบริการก็อยู่ในมาตรฐาน ที่ให้แค่ 4.5 ดาว เพราะว่าเคยทานที่สุดยอดยอดกว่านี้มาก่อน แต่มันไม่ได้มีความหมายอะไรหรอกครับ เพราะเท่านี้ก็ผมถือว่าดีมากแล้วครับสำหรับบริบทของร้านนี้
ขอบคุณอีกครั้งครับ
แต่เดียวก่อน ไม่รู้ยังไงคืนนั้นเจ้านี้ก็ได้เกิดขึ้นมา
เนื่องจากวันนั้นร้านมีลด 20% เราจึงกลับไปอีกตอนสามทุ่มครึ่ง
เรียกว่ารีบปิดร้านเพื่อไปกินกันเลยทีเดียว ก็บอกแล้วไงครับว่าชอบบิงซูมาก
เพราะผมลืมถ่ายรูปบิลมา บิงซูแคนตาลูปถ้วยนี้ถ้าจำราคาไม่ผิดน่าจะประมาณ 180.- ไม่แน่ใจว่าลดรึยัง
รสชาติก็ตามมาตรฐาน แต่รู้สึกว่าไม่คุ้มเพราะแคนตาลูปมันเนื้อแข็งและเปลือกหนา
เราก็ยังมีกิเลศอยากจะควักมันออกมาอีกเยอะๆ แต่อันนี้น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาของผลไม้นะครับ
จบจริงแล้วครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น