เป็นหนี้บ้าน 4.78 ล้าน ผ่อนธนาคาร เดือนละ 32,000 บาท ธนาคารบังคับทำประกันต้องจ่ายอีก 150,000 กว่าบาท ติดต่อกัน 5 ปี นับจากสัญญาเริ่มตั้งแต่ 1 กันยา ปี 57 ปีแรกผ่านพ้นไปได้ปกติ ถึงเดือน กุมภา ปีนี้ มีนา ถึงปัจบัน จ่ายเข้าไปบาง อีก 34,090 บาทเป็นการนำชำระและเอาเงินเข้าให้ระบบตัดอัตโนมัติ ธนาคารโทรมาบอกที่จ่ายเข้าไปนั้นจะแค่เป็นการไปตัดดอกเบี้ยธาคาร ซึ่ง ณ เวลานี้มียอดเบี้ยปรับตั้งแต่วันผิดนัดเป็นจำนวนราว 144,000 กว่าบาท จำไม่ได้แน่ชัดว่าเท่าไหร่มึนและช็อกกับยอดปรับน่ะคะ ธนาคารบอกว่าจะจ่ายบางส่วนแบบนี้ไม่ได้ ถ้าจ่ายต้องปิดยอดให้ครบจำนวนไม่เช่นนั้นเบี้ยปรับจะไม่หยุดเดิน และถ้าชนกันครบ 3 เดือน ก็จะเปลี่ยนจากสาขาที่กู้ไปเป็นสำนักงานใหญ่ที่จะมอบหมายงานให้ฝ่ายติดตามทวงถาม บริษัทรับทวงนี้ก็จะมีปรับ มีคิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม และประวัติบูโรจะแสดงสถานะ จึงให้รีบเข้าปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร เพื่อยืดเวลาและยอดผ่อนจ่ายน้อยลง และทำเรื่องเปิดชำรับสัญญาใหม่ของเบี้ยปรับ โดยทางธนาคารจะทำลดให้ 80% ของเบี้ยปรับทั้งหมด (ฟังดูเห็นใจลูกหนี้นะคะ แต่ไม่ปรับไม่ได้เหลอคะ คิดในใจ) คือไม่กล้าเข้าไปเซ็นเอกสารสัญญาปรับโครงสร้างเนื้องจากอ่านๆ ที่คนเค้าโพสต์ ถึงข้อเสียเมื่อเรื่องหลุดไปฟ้องคดีความต่อกันลูกหนี้จะเสียเปรียบมาก จริงไม่จริง ก็หาคำตอบที่ชัดๆ ยังไม่พบค่ะ
คำถามนะคะ
1. จริงไหมพอครบ 3 เดือนขาดชำระ จะเปลี่ยนงานไปให้ฝ่ายทวงถามเป็นผู้ติดตามหนี้ แล้วค่าติดตามหนี้ ต่อครั้ง เค้าคิดเท่าไหร่ แต่ละเดือนตามกี่ครั้งคะ
2. ถ้าจนแล้วจนรอดที่เค้าทวงมาก็หาไม่ทันมาจ่าย ช่วงเวลานั้นจะนานแค่ไหนจึงเกิด การยกเลิกสัญญาระหว่างกัน และเกิดการฟ้องคะ
3. คำว่าโดนฟ้องร้องนานแค่ไหนคะกว่าจะมีการตัดสินคดี และถ้าเราไม่มีทนายต้องทำอย่างไรได้บ้าง
4. การจ้างทนาย กับไม่จ้าง การสู้คดีจะแตกต่างกันไหมคะ แบบไหนที่เราควรเลือก หากต้องจ้างทนาย เค้าคิดค่าทำคดี จนสิ้นสุดคดีกันราคาเท่าไร และเคยมีลูกหนี้ชนะคดีหรือไม่
5. เค้าจะมาตรวจทรัพย์สินที่จะยึดกันตอนไหนคะ ตอนยกเลิกสัญญาหรือหลังการตัดสินสิ้นสุดของศาลคะ
6. ในสัญญาระบุไม่ให้มีการขัดขวางการเข้าตรวจ เรามีสิทธิ์ที่จะไม่ให้เข้าได้ไหมคะจนกว่าจะแพ้คดี
7. การยึดทรัพย์เช๋น ประกันชีวิตออมทรัพย์ รถที่ยังจ่ายไม่หมด เงินกองทุนสะสมต่างๆ ทั้งของตัวเองและคู่สมรส อีกทั้งลูก จะข้ามจากตัวเราไปได้ไหมคะ
8. ในระหว่างที่สู้คดีในศาล เกิดฟลุกถูกรางวัล สามารถปลดหนี้ได้ สามารถไปแจ้งกับธนาคารให้ถอนเรื่องออกจากศาลได้ไหมคะ ( อันนี้อยากรู้ แต่มันเป็นแค่ฝันเพ้อน่ะคะ)
9. เมื่อแพ้คดีในศาลแล้ว เรายังสารมรถอยู่อาศัยในบ้านได้จนถึงเมื่อไรคะ และนานแค่ไหนกว่าที่กรมบังคับคดีจะนำบ้านของเราไปขายทอดตลาด
10. ในการที่กรมบังคับคดีเปิดขาย เราไปค้านได้ไหม หากราคาราไม่เหมาะสมที่จะขาย แล้วสามารถเข้าไปค้านได้กี่ครั้ง ต้องวางเงินประกันเพื่อเข้าไปค้านไหมคะ แล้วหากไปค้านไม่ทันเกิดการขายแล้วเสร็จไป แต่ราคามีความเสียเปรียบอยู่มาก เราสามารถย้อนไปขออำนาจศาลขัดขวางได้ไหมคะ ถ้าค้านได้บ้านจะถูกกลับมาขายอีกจนกว่าจะเป็นราคาที่ไม่มีผู้ค้านใช่หรือไม่
11. หากกรมบังคับคดีขายบ้านไปในราคาที่ต่ำกว่ายอดหนี้แล้วไม่สามารถค้านทัน ศาลก็ขอไม่ทัน ส่วนต่างหนี้ที่เหลือนั้นเรายังจะต้องรับผิดชอบอยู่ในอายุคดีไปจนกี่ปีคะ มีดอกเบี้ยไหมคะ ไอ้เงินที่คงค้างจ่ายนี้ ในระหว่างอายุคดีนี้หากเราไปมีทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังใหม่ รถ เงินเดือน เงินเก็บ เงินฝาก บัญชีบริษัทที่เข้าไปถือหุ้น บัญชีเงินฝากของคู่สมรส คือไม่อยากหย่ากันน่ะคะ คิดว่าจะค่อยๆ รับผิดชอบในส่วนที่เราเห็นว่าเป็นธรรมที่สุด
ขอความรู้เพื่อมาช่วยแก้ไขปัญหาด้วยนะคะ ท่านผู้รู้ทุกท่านที่กรุณาผ่านมาตอบ
บ้านจะถูกยึด ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
คำถามนะคะ
1. จริงไหมพอครบ 3 เดือนขาดชำระ จะเปลี่ยนงานไปให้ฝ่ายทวงถามเป็นผู้ติดตามหนี้ แล้วค่าติดตามหนี้ ต่อครั้ง เค้าคิดเท่าไหร่ แต่ละเดือนตามกี่ครั้งคะ
2. ถ้าจนแล้วจนรอดที่เค้าทวงมาก็หาไม่ทันมาจ่าย ช่วงเวลานั้นจะนานแค่ไหนจึงเกิด การยกเลิกสัญญาระหว่างกัน และเกิดการฟ้องคะ
3. คำว่าโดนฟ้องร้องนานแค่ไหนคะกว่าจะมีการตัดสินคดี และถ้าเราไม่มีทนายต้องทำอย่างไรได้บ้าง
4. การจ้างทนาย กับไม่จ้าง การสู้คดีจะแตกต่างกันไหมคะ แบบไหนที่เราควรเลือก หากต้องจ้างทนาย เค้าคิดค่าทำคดี จนสิ้นสุดคดีกันราคาเท่าไร และเคยมีลูกหนี้ชนะคดีหรือไม่
5. เค้าจะมาตรวจทรัพย์สินที่จะยึดกันตอนไหนคะ ตอนยกเลิกสัญญาหรือหลังการตัดสินสิ้นสุดของศาลคะ
6. ในสัญญาระบุไม่ให้มีการขัดขวางการเข้าตรวจ เรามีสิทธิ์ที่จะไม่ให้เข้าได้ไหมคะจนกว่าจะแพ้คดี
7. การยึดทรัพย์เช๋น ประกันชีวิตออมทรัพย์ รถที่ยังจ่ายไม่หมด เงินกองทุนสะสมต่างๆ ทั้งของตัวเองและคู่สมรส อีกทั้งลูก จะข้ามจากตัวเราไปได้ไหมคะ
8. ในระหว่างที่สู้คดีในศาล เกิดฟลุกถูกรางวัล สามารถปลดหนี้ได้ สามารถไปแจ้งกับธนาคารให้ถอนเรื่องออกจากศาลได้ไหมคะ ( อันนี้อยากรู้ แต่มันเป็นแค่ฝันเพ้อน่ะคะ)
9. เมื่อแพ้คดีในศาลแล้ว เรายังสารมรถอยู่อาศัยในบ้านได้จนถึงเมื่อไรคะ และนานแค่ไหนกว่าที่กรมบังคับคดีจะนำบ้านของเราไปขายทอดตลาด
10. ในการที่กรมบังคับคดีเปิดขาย เราไปค้านได้ไหม หากราคาราไม่เหมาะสมที่จะขาย แล้วสามารถเข้าไปค้านได้กี่ครั้ง ต้องวางเงินประกันเพื่อเข้าไปค้านไหมคะ แล้วหากไปค้านไม่ทันเกิดการขายแล้วเสร็จไป แต่ราคามีความเสียเปรียบอยู่มาก เราสามารถย้อนไปขออำนาจศาลขัดขวางได้ไหมคะ ถ้าค้านได้บ้านจะถูกกลับมาขายอีกจนกว่าจะเป็นราคาที่ไม่มีผู้ค้านใช่หรือไม่
11. หากกรมบังคับคดีขายบ้านไปในราคาที่ต่ำกว่ายอดหนี้แล้วไม่สามารถค้านทัน ศาลก็ขอไม่ทัน ส่วนต่างหนี้ที่เหลือนั้นเรายังจะต้องรับผิดชอบอยู่ในอายุคดีไปจนกี่ปีคะ มีดอกเบี้ยไหมคะ ไอ้เงินที่คงค้างจ่ายนี้ ในระหว่างอายุคดีนี้หากเราไปมีทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังใหม่ รถ เงินเดือน เงินเก็บ เงินฝาก บัญชีบริษัทที่เข้าไปถือหุ้น บัญชีเงินฝากของคู่สมรส คือไม่อยากหย่ากันน่ะคะ คิดว่าจะค่อยๆ รับผิดชอบในส่วนที่เราเห็นว่าเป็นธรรมที่สุด
ขอความรู้เพื่อมาช่วยแก้ไขปัญหาด้วยนะคะ ท่านผู้รู้ทุกท่านที่กรุณาผ่านมาตอบ