ผมได้ติดตามข่าวการเรียกร้อง ขอขึ้นสะพานกับลงอุโมง จากทางชาว 2 ล้อ มาตั้งแต่เริ่มต้น
แล้วไปสังเกตตรงที่ทาง จนท.
อ้างว่า
กฎหมายระบุว่าให้ชิดซ้าย รถมอเตอร์ไซต์จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้สะพานและอุโมง ซึ่งสร้างไว้ที่เลนขวา
นั่นหมายความว่า แม้แต่ที่กลับรถกลางถนน หรือสะพานกลับรถตามถนนบางนา-ตราด
หรือแม้แต่ 4 แยกถ้าจะเลี้ยวขวา มอเตอร์ไซต์ก็ไม่มีสิทธิ์ใช้ ที่ผ่านมาคือเราทำผิดกฎหมายมาตลอด?
ตำรวจบางกลุ่มจึงเห็นเป็นช่องทางหากิน เลยพากันไปตั้งด่านก่อนถึงที่กลับรถบ้าง สะพานกลับรถบ้าง
มีเพียงแค่ที่กลับรถใต้สะพานข้ามคลองที่ให้เลนซ้ายไปกลับรถใต้สะพานแค่นั้นที่มอเตอร์ไซต์สามารถใช้ได้
ซึ่งในกรุงเทพ ถนนเส้นนึงมีกี่ที่เชียว
เห็นทาง จนท. กล่าวว่า กลัวรถยนต์มาด้วยความเร็วแล้วชนรถมอเตอร์ไซต์
แต่!! สะพานข้ามแยกกับอุโมง ส่วนใหญ่มีการจำกัดความเร็วไว้ประมาณ 30-50 ครับ
คิดว่ารถยนต์ยนต์ที่มาชนเนี่ยขับมาเร็วเท่าไหร่ครับ? เกินกว่าที่กำหนดไหม
ขอเกริ่นก่อนว่า
ในเมืองส่วนใหญ่จำกัดความเร็วไม่เกิน 90 กม/ชม.
ตามกฎหมายระบุว่า รถมอเตอ์รไซต์ เป็นรถที่มี
ความเร็วต่ำ
แต่รถมอเตอร์ไซต์ที่CCน้อยสุด ส่วนใหญ่อยู่ที่ 110 CC ทำความเร็วได้ประมาณ 100 กม/ชม. ถือว่าเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดนิดหน่อย
ผมว่าควรจะใช้ทางร่วมกันได้นะครับ ถ้าอีกฝ่ายไม่ขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด ซึ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุ ควรจะโทษฝ่ายที่ขับเร็วครับ ไม่ใช่โทษมอเตอร์ไซต์
แล้วอย่าลืมว่า สมัยนี้ มีรถมอเตอร์ไซต์ขนาดใหญ่แล้วนะครับ Big Bike ซึ่งไม่ได้มีจำนวนน้อยแบบแต่ก่อนแล้ว ซึ่งตัวผมคือ 1 ในนั้น
ได้ยินข่าวมานานแล้วสำหรับใบขับขี่ Big Bike ซึ่ง ถ้ามีมาจริงๆ ก็ควรจะมีการปรับเปลี่ยนกฎการจราจรบนท้องถนนด้วยครับ เพราะใบขับขี่
กว่าจะทำได้ต้องจองล่วงหน้า หรือไม่ก็อาจใช้เวลา 1-3 วัน ซึ่ง ลางานแต่ละครั้งไม่ใช่ง่ายๆ แถมเสียรายได้ด้วย
ผมได้ไปหาข้อมูลมาพอสมควรเกี่ยวกับต่างประเทศ ที่สามารถให้รถมอเตอร์ไซต์ใช้ทางร่วมกับรถอื่นได้(บางประเทศขึ้นทางด่วนด้วย)
ซึ่งเพื่อนบ้านเรา ส่วนใหญ่ก็ให้วิ่งร่วมกันได้ โดยที่ไม่มีปัญหาอะไร
เข้าเรื่องกันครับ
ผมได้นำตัวอย่างการจราจรจากต่างประเทศ+กับประสบการณ์ที่เห็นสภาพการจารจรในบ้านเรามา 20 ปี
สิ่งที่ผมจะเสนอต่อไปนี้ แค่ความคิดของการใช้เส้นทางในเมืองนะครับ
ไม่เกี่ยวกับเส้นทางพิเศษ
ถนนส่วนใหญ่ในกรุงเทพจะเป็น 3 เลน ไม่ก็ 2 เลน
ภาพอาจลวกๆหน่อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมว่า น่าจะแบ่งเลนตามความเร็วที่รถวิ่งนะครับ แต่จำกัดความเร็วรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อไว้ที่ 80 พอ
เพราะว่ารถชนิดนี้ วิ่งเร็วมากไป เวลาเบรค ด้วยน้ำหนักรถที่มาก จะเบรคไม่อยู่ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

*ที่ 2 เลนจำกัดไว้ที่ 80 เพราะว่าส่วนใหญ่ ถนนแบบนี้เป็นเขตชุมชนครับ
แล้วก็ลองตั้งกฎดูครับ เช่น ถ้าจะใช้ความเร็วเท่าเดิม แต่จะแซงคันหน้า สามารถข้ามไปเลนที่เร็วกว่า เพื่อเร่งความเร็วแซง
แล้วกลับเข้าเลนเดิมเพื่อวิ่งต่อไปได้ หรือจะใช้ความเร็วมากกว่านั้น เพื่อวิ่งตามที่เลนกำหนดความเร็วไว้
ยกเว้นรถบรรทุก 6 ล้อขึ้น สามารถแซงได้ แต่ต้องกลับเข้าเลนที่วิ่งไม่เกิน 80
แล้วก็เพิ่มกฎอีกว่า รถที่วิ่งเลนขวาสุดแล้วต้องการจะให้คันหน้าหลบ ต้องส่งสัญญาณเตือนทุกครั้ง
แล้วคันหน้าต้องหลีกทางให้รถที่เร็วกว่าด้วยการเปลี่ยนเลนไปเลนที่ช้ากว่าด้วยความระมัดระวัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตัวอย่าง รถสีดำวิ่งด้วยความเร็ว 70 กม/ชม ต้องการแซงรถสีแดงที่วิ่ง 65 กม/ชม
แล้วกลับมาวิ่งที่ความเร็ว 70 กม/ชม เหมือนเดิม รถสีดำจะต้องให้สัญญาณก่อนแซง
และแซงรถสีแดงด้วยความเร็ว มากกว่า 80 แล้วกลับเข้าเลนเดิม เพื่อขับ 70
หรือเร่งความเร็วให้มากกว่า 80 แล้วขับยาวในเลนความเร็ว 80+
แล้วรถจักรยานยนต์ ต้องวิ่งชิดเส้นปะด้านซ้ายของเลนที่ตนใช้ความเร็วอยู่เพื่อง่ายต่อการหลบรถที่ไวกว่า
เว้นแต่เลนซ้ายสุดต้องวิ่งชิดเส้นปะด้านขวา เพื่อง่ายต่อการหลบรถที่จอดด้านซ้าย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

และสุดท้าย หากเกิดการจราจรติดขัด หรือชลอตัว อันเกิดจากการตั้งด่าน อุบัติเหตุ ติดไฟแดง การจอดรับส่งผู้โดยสาร การก่อสร้าง
หรืองานกิจกรรมต่างๆ สามารถให้รถทุกชนิดลดความเร็วน้อยกว่า 60กม/ชม แล้ววิ่งไปเลนที่ใช้ความเร็วมากกว่าได้
เนื่องจากรถทุกคันวิ่งช้าอยู่แล้ว หาเกิดสภาพการจราจรดังกล่าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นี่คือที่ผมคิดคร่าวๆครับ ผมว่าการวิ่งร่วมกัน ทุกวันนี้ก็ทำกันอยู่แล้วนะ เพียงแต่ทุกวันนี้มันผิดกฎหมายแค่นั้นเอง
ลองปรับนู่นนี่ให้ไปด้วยกันได้ ดีกว่าไล่ออกไปนะครับ
ใครมีข้อเสนอแนะก็ลองแสดงความเห็นไดครับ งดเกรียน งดกวน ขอเป็นเหตุผล หาทางพัฒนาไปด้วยกันดีกว่านะครับ
ลองดูไหมมาสร้างถนนต้นแบบที่รถทุกชนิดสามารถใช้ร่วมกันได้
แล้วไปสังเกตตรงที่ทาง จนท. อ้างว่า
กฎหมายระบุว่าให้ชิดซ้าย รถมอเตอร์ไซต์จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้สะพานและอุโมง ซึ่งสร้างไว้ที่เลนขวา
นั่นหมายความว่า แม้แต่ที่กลับรถกลางถนน หรือสะพานกลับรถตามถนนบางนา-ตราด
หรือแม้แต่ 4 แยกถ้าจะเลี้ยวขวา มอเตอร์ไซต์ก็ไม่มีสิทธิ์ใช้ ที่ผ่านมาคือเราทำผิดกฎหมายมาตลอด?
ตำรวจบางกลุ่มจึงเห็นเป็นช่องทางหากิน เลยพากันไปตั้งด่านก่อนถึงที่กลับรถบ้าง สะพานกลับรถบ้าง
มีเพียงแค่ที่กลับรถใต้สะพานข้ามคลองที่ให้เลนซ้ายไปกลับรถใต้สะพานแค่นั้นที่มอเตอร์ไซต์สามารถใช้ได้
ซึ่งในกรุงเทพ ถนนเส้นนึงมีกี่ที่เชียว
เห็นทาง จนท. กล่าวว่า กลัวรถยนต์มาด้วยความเร็วแล้วชนรถมอเตอร์ไซต์
แต่!! สะพานข้ามแยกกับอุโมง ส่วนใหญ่มีการจำกัดความเร็วไว้ประมาณ 30-50 ครับ
คิดว่ารถยนต์ยนต์ที่มาชนเนี่ยขับมาเร็วเท่าไหร่ครับ? เกินกว่าที่กำหนดไหม
ขอเกริ่นก่อนว่า
ในเมืองส่วนใหญ่จำกัดความเร็วไม่เกิน 90 กม/ชม.
ตามกฎหมายระบุว่า รถมอเตอ์รไซต์ เป็นรถที่มี ความเร็วต่ำ
แต่รถมอเตอร์ไซต์ที่CCน้อยสุด ส่วนใหญ่อยู่ที่ 110 CC ทำความเร็วได้ประมาณ 100 กม/ชม. ถือว่าเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดนิดหน่อย
ผมว่าควรจะใช้ทางร่วมกันได้นะครับ ถ้าอีกฝ่ายไม่ขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด ซึ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุ ควรจะโทษฝ่ายที่ขับเร็วครับ ไม่ใช่โทษมอเตอร์ไซต์
แล้วอย่าลืมว่า สมัยนี้ มีรถมอเตอร์ไซต์ขนาดใหญ่แล้วนะครับ Big Bike ซึ่งไม่ได้มีจำนวนน้อยแบบแต่ก่อนแล้ว ซึ่งตัวผมคือ 1 ในนั้น
ได้ยินข่าวมานานแล้วสำหรับใบขับขี่ Big Bike ซึ่ง ถ้ามีมาจริงๆ ก็ควรจะมีการปรับเปลี่ยนกฎการจราจรบนท้องถนนด้วยครับ เพราะใบขับขี่
กว่าจะทำได้ต้องจองล่วงหน้า หรือไม่ก็อาจใช้เวลา 1-3 วัน ซึ่ง ลางานแต่ละครั้งไม่ใช่ง่ายๆ แถมเสียรายได้ด้วย
ผมได้ไปหาข้อมูลมาพอสมควรเกี่ยวกับต่างประเทศ ที่สามารถให้รถมอเตอร์ไซต์ใช้ทางร่วมกับรถอื่นได้(บางประเทศขึ้นทางด่วนด้วย)
ซึ่งเพื่อนบ้านเรา ส่วนใหญ่ก็ให้วิ่งร่วมกันได้ โดยที่ไม่มีปัญหาอะไร
เข้าเรื่องกันครับ
ผมได้นำตัวอย่างการจราจรจากต่างประเทศ+กับประสบการณ์ที่เห็นสภาพการจารจรในบ้านเรามา 20 ปี
สิ่งที่ผมจะเสนอต่อไปนี้ แค่ความคิดของการใช้เส้นทางในเมืองนะครับ
ไม่เกี่ยวกับเส้นทางพิเศษ
ถนนส่วนใหญ่ในกรุงเทพจะเป็น 3 เลน ไม่ก็ 2 เลน
ภาพอาจลวกๆหน่อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมว่า น่าจะแบ่งเลนตามความเร็วที่รถวิ่งนะครับ แต่จำกัดความเร็วรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อไว้ที่ 80 พอ
เพราะว่ารถชนิดนี้ วิ่งเร็วมากไป เวลาเบรค ด้วยน้ำหนักรถที่มาก จะเบรคไม่อยู่ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วก็ลองตั้งกฎดูครับ เช่น ถ้าจะใช้ความเร็วเท่าเดิม แต่จะแซงคันหน้า สามารถข้ามไปเลนที่เร็วกว่า เพื่อเร่งความเร็วแซง
แล้วกลับเข้าเลนเดิมเพื่อวิ่งต่อไปได้ หรือจะใช้ความเร็วมากกว่านั้น เพื่อวิ่งตามที่เลนกำหนดความเร็วไว้
ยกเว้นรถบรรทุก 6 ล้อขึ้น สามารถแซงได้ แต่ต้องกลับเข้าเลนที่วิ่งไม่เกิน 80
แล้วก็เพิ่มกฎอีกว่า รถที่วิ่งเลนขวาสุดแล้วต้องการจะให้คันหน้าหลบ ต้องส่งสัญญาณเตือนทุกครั้ง
แล้วคันหน้าต้องหลีกทางให้รถที่เร็วกว่าด้วยการเปลี่ยนเลนไปเลนที่ช้ากว่าด้วยความระมัดระวัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วรถจักรยานยนต์ ต้องวิ่งชิดเส้นปะด้านซ้ายของเลนที่ตนใช้ความเร็วอยู่เพื่อง่ายต่อการหลบรถที่ไวกว่า
เว้นแต่เลนซ้ายสุดต้องวิ่งชิดเส้นปะด้านขวา เพื่อง่ายต่อการหลบรถที่จอดด้านซ้าย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และสุดท้าย หากเกิดการจราจรติดขัด หรือชลอตัว อันเกิดจากการตั้งด่าน อุบัติเหตุ ติดไฟแดง การจอดรับส่งผู้โดยสาร การก่อสร้าง
หรืองานกิจกรรมต่างๆ สามารถให้รถทุกชนิดลดความเร็วน้อยกว่า 60กม/ชม แล้ววิ่งไปเลนที่ใช้ความเร็วมากกว่าได้
เนื่องจากรถทุกคันวิ่งช้าอยู่แล้ว หาเกิดสภาพการจราจรดังกล่าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นี่คือที่ผมคิดคร่าวๆครับ ผมว่าการวิ่งร่วมกัน ทุกวันนี้ก็ทำกันอยู่แล้วนะ เพียงแต่ทุกวันนี้มันผิดกฎหมายแค่นั้นเอง
ลองปรับนู่นนี่ให้ไปด้วยกันได้ ดีกว่าไล่ออกไปนะครับ
ใครมีข้อเสนอแนะก็ลองแสดงความเห็นไดครับ งดเกรียน งดกวน ขอเป็นเหตุผล หาทางพัฒนาไปด้วยกันดีกว่านะครับ