17/6/59 (ร้องไห้ครั้งแรก) ตอนที่3
หลังจากวันนั้นเราเริ่มใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน และเรียนรู้กัน รู้จักนิสัยใจคอกันมากขึ้น กิน นอน เรียน เที่ยว ดื่ม ทำอะไรด้วยกันเยอะแยะ เวลาผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนที่เราตัดสินใจคบกันเป็นแฟนอย่างจริงจัง แต่แล้วเวลาแห่งความสุขมันผ่านไปเร็วเหลือเกิน . . . . . .
วันนั้นเป็นวันที่เราผิดหวัง และเสียใจมาก เป็นช่วงเวลาปลายเดือนกันยายน เราไปนอนที่คอนโดพี่เขา รุ่งเช้าเรามีเรียนแต่เช้าเลยชวนกันกลับมานอนที่หอเราหน้ามอ. พี่เขาก็ซักผ้าทำนั่นนี่อยู่ในครัว ไม่รู้ว่ามันคือความบังเอิญ หรือมีใครอยากให้เรารู้ เราดันขอยืมไอโฟนพี่เขามาถ่ายรูป พี่เขาก็ให้มา พอเปิดหน้าจอเท่านั้นแหละ มันมีแชทที่คุยค้างกันอยู่เปิดจอมันก็เด้งขึ้นมาเลย ในใจตอนนั้นเรารัก เราไว้ใจพี่เขามาก มากจนไม่คิดว่าพี่เขามีใครอีกคนอยู่เหมือนกัน เลยแอบอ่านที่เขาคุยกัน ตอนแรกก็คิดว่าเพื่อน แต่มันมีคำพูดที่หยอดกันไปมาและมีบอกคิดถึงกัน ส่งรูปให้กัน ตอนนั้น เราพยายามรวบรวมสติไว้ได้มาก เรานิ่ง เราเงียบ แต่พี่เค้ายังไม่เอะใจว่าทำไมเรานิ่งไป ช่วงเวลาที่ขับรถกลับหอตอนนั้น เราเป็นคนขับละพี่เขานั่งข้างๆ ขับมาได้ครึ่งทางพี่เขาเริ่มสังเกตอาการเรา (ด้วยวิทยุที่เปิดเพลงมาตอนนั้น) หยั่งกะในละคร ในซีรี่ส์ มันแทงใจดำมาก น้ำตาถึงกับไหลออกมา พี่เขาถามเราว่าเป็นอะไรเราก็ได้แต่นิ่งเงียบ น้ำตาไหล จนพี่เขาคิดได้เอง ถามเรามาว่าแอบอ่านแชทพี่หรอ? เราทั้งเสียใจเสียความรู้สึก บอกเขาไปว่าเราไม่ได้แอบอ่าน เปิดมามันก็เด้ง เห็นคำพูดแปลกๆ ก็เลยยิ่งอยากรู้ (ฉลาดมากไปก็เจ็บ รู้น้อยก็โง่) เขาก็ปลอบเราบอกเรา ว่ามันไม่ใช่แบบที่เราคิดนะ ความจริงคือ .....!?
พี่กับเค้าคนนั้นเราเคยคุยกันมาก่อนหน้านี้เป็นเดือนแล้ว พี่เขาไม่ได้จะมาหลอกเราตั้งแต่แรกหรอก คือพี่เขาเองไปเป็นมือที่สามของคนนั้นโดยไม่รู้ตัว พี่เขาทนอยู่กับการไม่มีตัวตนที่โดนคนนั้นหลอกให้รอ
จนวันที่พี่เขาเข้ามาจีบเรา นั้นคือวันที่เขาคิดว่า เขาจะไม่รอความรักที่ไม่มีวันเป็นจริงได้ เลยตัดสินใจที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน และใครคนนั้นก็เป็นเรา พี่เขาบอกกับเราว่า เขาเดินออกมาจากตรงนั้นแล้ว เขาไม่อยากเสียใจอีกแล้วและบอกกับเราว่ารักเรา และไม่คิดจะกลับไป (แต่คนนั้นเขาก็ไม่รู้ ว่าพี่เขาออกจากชีวิตเขามาแล้ว) แต่ที่ยังคุยกันเพราะอยากจะค่อยๆห่างออกมา แต่คุยกันน้อยลงเรื่อยๆ เพระเรารักพี่เขาไปแล้วและรักพี่เขามาก เรายอมเชื่อในสิ่งที่พี่เขาพูดและพยายามมีเหตุกับสิ่งที่พี่เขาจะทำทุกอย่างให้มันจบ และคบเราแค่คนเดียว เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เราเชื่อในตัวเขาว่าจะไม่มีอะไรบานปลาย เราก็กลับมารักกันดีเหมือนเดิม แต่ลับหลังเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะกลับไปคุยกันอีกไหม
เข้าช่วงต้นเดือนตุลาคม พี่เขาป่วยกระทันหันปวดท้องขึ้นมา ละรุ่งเช้าเป็นวันที่สอบกลางภาคตัวสุดท้าย ส่วนเรานั้นสอบหมดแล้ว เราก็ไปหาซื้อยามาให้กินตั้งแต่ตอนเย็น กินแล้วอาการดีขึ้นมาพักนึง ก็ปวดอีก เราแทบจะไม่ได้หลับเลย ทั้งที่ง่วงมาก แต่ก็คอยเฝ้าเพราะพี่เขาเองก็นอนไม่ได้ เพราะปวดมากและปวดเป็นระยะๆจนตี3 เขาปวดขึ้นมาอีกครั้งและหนักกว่าเก่าปวดจนเหงื่อแตก เราเลยชวนพี่เค้าไปหาหมอจนถึง รพ. เห็นพี่เขานอนเจ็บปวดตัวโก่ง ในใจคือสงสารพี่เขามาก อยากเจ็บแทนพี่เขา เพราะมันคงจะทรมานมาก จนหมอมาฉีดยาให้2-3 เข็มแต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย เพราะหมอเขาวินิจฉัยผิด จนช่วงเวลาตี5 หมอคนนั้นออกเวร และมีหมอคนใหม่เข้ามา และมาดูแลต่อจะให้แอดมิด เราก็บอก 9 โมงพี่เขามีสอบนอนไม่ได้หรอกครับ จนหมอเค้าเปลี่ยนยาตัวใหม่ให้ที่แรงกว่าเดิมอาการถึงดีขึ้น เกือบ 7 โมงเช้าได้ออกจาก รพ. เราก็นั่ง นอน หลับอยู่ข้างตียงไม่ห่าง สุดท้ายคือลำไส้บิดตัว 2-3 วันกว่าจะหายเป็นปกติ ตั้งแต่มีแฟนมา ไม่เคยห่วงใครคนไหนมากขนาดนี้
ผ่านมา 2 วันอาการพี่เขาก็ดีขึ้นและเป็นวันที่ตรงกับวันกิดเราด้วย เขาอยู่กับเราในคืนนั้นและอวยพรวันเกิดเราเป็นคนแรกด้วย ตอนแรกก็แอบนอยด์ว่าเค้าจะลืมวันเกิดเราไปแล้วแน่ๆ ระหว่างที่เราเข้าไปอาบน้ำเขาก็แอบออกไปซื้อเค้ก 7-11 มาเซอร์ไพร์เราอีกครั้งนึงออกมาไม่เจอพี่เขาก็คิดว่าหายไปไหน ได้ยินเสียงเกาะแกะหน้าห้องเลยเปิดประตูออกไปดู เท่านั้นแหละ (พี่เค้าวิ่งหนีเพราะกำลังยืนปักเทียนและจุดไฟอยู่เลยกลายเป็นไม่เซอร์ไพร์ 55555+ แต่ก็ดีใจที่พี่เขาทำให้ เป็นคำอวยพร และเค้กก้อนแรก
วันรุ่งขึ้นพี่เขาชวนเราไปเที่ยวบ้านเขาที่ ตจว. อีกแล้วววว อะไรที่เป็นครั้งนี่ทำเราตื่นเต้นตลอดเลย การที่เราไปบ้านเราต้องทำตัวให้เป็นปกติทั้งต่อหน้าแม่เขา และเพื่อนๆของพี่เขา เพราะเรื่องระหว่างเราไม่มีใครรู้ และทางบ้านพี่เขาก็ไม่รู้ว่าเป็น ครั้งแรกที่เจอเพื่อนๆเขา แม่เขา ความเงียบเกิดอีกแล้ว ไม่ค่อยพูดได้แต่ยิ้ม (ก็มันตื่นเต้นและเขิล) สุดท้ายก็แฮปปี้ดี เพื่อนพี่เขาก็เป็นกันเอง เฮฮา น่ารักมาก แม่พี่เขาก็ใจดีชวนเราคุยพยายามตีสนิทกันทั้งสองฝ่าย ในตอนนั้น ทุกคนรู้แค่ว่าเราเป็นเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกัน หลังจากนั้นพี่เขาก็พาเราไปเที่ยวบ้านเขาบ่อยๆ ความกลัวและเกร็งเริ่มน้อยลง การใช้ชีวิตของเราเหมือนจะราบรื่นและลงเอยด้วยดี แต่จริงๆแล้ว ก็ยังมีมือที่สามคอยกวนใจ
.................รักที่กำลังจะไปได้สวยงาม แต่แล้วมือที่สามก็กลับมา............
ติดตามกันต่อนะครับ...!!!
เรารักมาก...แต่เขามากรัก (ตอนที่ 3)
หลังจากวันนั้นเราเริ่มใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน และเรียนรู้กัน รู้จักนิสัยใจคอกันมากขึ้น กิน นอน เรียน เที่ยว ดื่ม ทำอะไรด้วยกันเยอะแยะ เวลาผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนที่เราตัดสินใจคบกันเป็นแฟนอย่างจริงจัง แต่แล้วเวลาแห่งความสุขมันผ่านไปเร็วเหลือเกิน . . . . . .
วันนั้นเป็นวันที่เราผิดหวัง และเสียใจมาก เป็นช่วงเวลาปลายเดือนกันยายน เราไปนอนที่คอนโดพี่เขา รุ่งเช้าเรามีเรียนแต่เช้าเลยชวนกันกลับมานอนที่หอเราหน้ามอ. พี่เขาก็ซักผ้าทำนั่นนี่อยู่ในครัว ไม่รู้ว่ามันคือความบังเอิญ หรือมีใครอยากให้เรารู้ เราดันขอยืมไอโฟนพี่เขามาถ่ายรูป พี่เขาก็ให้มา พอเปิดหน้าจอเท่านั้นแหละ มันมีแชทที่คุยค้างกันอยู่เปิดจอมันก็เด้งขึ้นมาเลย ในใจตอนนั้นเรารัก เราไว้ใจพี่เขามาก มากจนไม่คิดว่าพี่เขามีใครอีกคนอยู่เหมือนกัน เลยแอบอ่านที่เขาคุยกัน ตอนแรกก็คิดว่าเพื่อน แต่มันมีคำพูดที่หยอดกันไปมาและมีบอกคิดถึงกัน ส่งรูปให้กัน ตอนนั้น เราพยายามรวบรวมสติไว้ได้มาก เรานิ่ง เราเงียบ แต่พี่เค้ายังไม่เอะใจว่าทำไมเรานิ่งไป ช่วงเวลาที่ขับรถกลับหอตอนนั้น เราเป็นคนขับละพี่เขานั่งข้างๆ ขับมาได้ครึ่งทางพี่เขาเริ่มสังเกตอาการเรา (ด้วยวิทยุที่เปิดเพลงมาตอนนั้น) หยั่งกะในละคร ในซีรี่ส์ มันแทงใจดำมาก น้ำตาถึงกับไหลออกมา พี่เขาถามเราว่าเป็นอะไรเราก็ได้แต่นิ่งเงียบ น้ำตาไหล จนพี่เขาคิดได้เอง ถามเรามาว่าแอบอ่านแชทพี่หรอ? เราทั้งเสียใจเสียความรู้สึก บอกเขาไปว่าเราไม่ได้แอบอ่าน เปิดมามันก็เด้ง เห็นคำพูดแปลกๆ ก็เลยยิ่งอยากรู้ (ฉลาดมากไปก็เจ็บ รู้น้อยก็โง่) เขาก็ปลอบเราบอกเรา ว่ามันไม่ใช่แบบที่เราคิดนะ ความจริงคือ .....!?
พี่กับเค้าคนนั้นเราเคยคุยกันมาก่อนหน้านี้เป็นเดือนแล้ว พี่เขาไม่ได้จะมาหลอกเราตั้งแต่แรกหรอก คือพี่เขาเองไปเป็นมือที่สามของคนนั้นโดยไม่รู้ตัว พี่เขาทนอยู่กับการไม่มีตัวตนที่โดนคนนั้นหลอกให้รอ
จนวันที่พี่เขาเข้ามาจีบเรา นั้นคือวันที่เขาคิดว่า เขาจะไม่รอความรักที่ไม่มีวันเป็นจริงได้ เลยตัดสินใจที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน และใครคนนั้นก็เป็นเรา พี่เขาบอกกับเราว่า เขาเดินออกมาจากตรงนั้นแล้ว เขาไม่อยากเสียใจอีกแล้วและบอกกับเราว่ารักเรา และไม่คิดจะกลับไป (แต่คนนั้นเขาก็ไม่รู้ ว่าพี่เขาออกจากชีวิตเขามาแล้ว) แต่ที่ยังคุยกันเพราะอยากจะค่อยๆห่างออกมา แต่คุยกันน้อยลงเรื่อยๆ เพระเรารักพี่เขาไปแล้วและรักพี่เขามาก เรายอมเชื่อในสิ่งที่พี่เขาพูดและพยายามมีเหตุกับสิ่งที่พี่เขาจะทำทุกอย่างให้มันจบ และคบเราแค่คนเดียว เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เราเชื่อในตัวเขาว่าจะไม่มีอะไรบานปลาย เราก็กลับมารักกันดีเหมือนเดิม แต่ลับหลังเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะกลับไปคุยกันอีกไหม
เข้าช่วงต้นเดือนตุลาคม พี่เขาป่วยกระทันหันปวดท้องขึ้นมา ละรุ่งเช้าเป็นวันที่สอบกลางภาคตัวสุดท้าย ส่วนเรานั้นสอบหมดแล้ว เราก็ไปหาซื้อยามาให้กินตั้งแต่ตอนเย็น กินแล้วอาการดีขึ้นมาพักนึง ก็ปวดอีก เราแทบจะไม่ได้หลับเลย ทั้งที่ง่วงมาก แต่ก็คอยเฝ้าเพราะพี่เขาเองก็นอนไม่ได้ เพราะปวดมากและปวดเป็นระยะๆจนตี3 เขาปวดขึ้นมาอีกครั้งและหนักกว่าเก่าปวดจนเหงื่อแตก เราเลยชวนพี่เค้าไปหาหมอจนถึง รพ. เห็นพี่เขานอนเจ็บปวดตัวโก่ง ในใจคือสงสารพี่เขามาก อยากเจ็บแทนพี่เขา เพราะมันคงจะทรมานมาก จนหมอมาฉีดยาให้2-3 เข็มแต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย เพราะหมอเขาวินิจฉัยผิด จนช่วงเวลาตี5 หมอคนนั้นออกเวร และมีหมอคนใหม่เข้ามา และมาดูแลต่อจะให้แอดมิด เราก็บอก 9 โมงพี่เขามีสอบนอนไม่ได้หรอกครับ จนหมอเค้าเปลี่ยนยาตัวใหม่ให้ที่แรงกว่าเดิมอาการถึงดีขึ้น เกือบ 7 โมงเช้าได้ออกจาก รพ. เราก็นั่ง นอน หลับอยู่ข้างตียงไม่ห่าง สุดท้ายคือลำไส้บิดตัว 2-3 วันกว่าจะหายเป็นปกติ ตั้งแต่มีแฟนมา ไม่เคยห่วงใครคนไหนมากขนาดนี้
ผ่านมา 2 วันอาการพี่เขาก็ดีขึ้นและเป็นวันที่ตรงกับวันกิดเราด้วย เขาอยู่กับเราในคืนนั้นและอวยพรวันเกิดเราเป็นคนแรกด้วย ตอนแรกก็แอบนอยด์ว่าเค้าจะลืมวันเกิดเราไปแล้วแน่ๆ ระหว่างที่เราเข้าไปอาบน้ำเขาก็แอบออกไปซื้อเค้ก 7-11 มาเซอร์ไพร์เราอีกครั้งนึงออกมาไม่เจอพี่เขาก็คิดว่าหายไปไหน ได้ยินเสียงเกาะแกะหน้าห้องเลยเปิดประตูออกไปดู เท่านั้นแหละ (พี่เค้าวิ่งหนีเพราะกำลังยืนปักเทียนและจุดไฟอยู่เลยกลายเป็นไม่เซอร์ไพร์ 55555+ แต่ก็ดีใจที่พี่เขาทำให้ เป็นคำอวยพร และเค้กก้อนแรก
วันรุ่งขึ้นพี่เขาชวนเราไปเที่ยวบ้านเขาที่ ตจว. อีกแล้วววว อะไรที่เป็นครั้งนี่ทำเราตื่นเต้นตลอดเลย การที่เราไปบ้านเราต้องทำตัวให้เป็นปกติทั้งต่อหน้าแม่เขา และเพื่อนๆของพี่เขา เพราะเรื่องระหว่างเราไม่มีใครรู้ และทางบ้านพี่เขาก็ไม่รู้ว่าเป็น ครั้งแรกที่เจอเพื่อนๆเขา แม่เขา ความเงียบเกิดอีกแล้ว ไม่ค่อยพูดได้แต่ยิ้ม (ก็มันตื่นเต้นและเขิล) สุดท้ายก็แฮปปี้ดี เพื่อนพี่เขาก็เป็นกันเอง เฮฮา น่ารักมาก แม่พี่เขาก็ใจดีชวนเราคุยพยายามตีสนิทกันทั้งสองฝ่าย ในตอนนั้น ทุกคนรู้แค่ว่าเราเป็นเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกัน หลังจากนั้นพี่เขาก็พาเราไปเที่ยวบ้านเขาบ่อยๆ ความกลัวและเกร็งเริ่มน้อยลง การใช้ชีวิตของเราเหมือนจะราบรื่นและลงเอยด้วยดี แต่จริงๆแล้ว ก็ยังมีมือที่สามคอยกวนใจ
.................รักที่กำลังจะไปได้สวยงาม แต่แล้วมือที่สามก็กลับมา............
ติดตามกันต่อนะครับ...!!!