[CR] (Update) เที่ยวอินโด โบรโม่ - สะวะน่า - อิเจ้น แบบฉบับมนุษย์เงินเดือนหัดเดินทาง (รายละเอียดยิบมาก) EP1

สวัสดีค่า แฟนพันธุ์แท้พันทิปทุกคน

เราเป็นนักเดินทาง เลเวลอนุบาล (เลเวล อนุบาล คือ เพิ่งหัดเที่ยว หัดเดินทางด้วยตัวเอง) บทความนี้เป็นกระทู้ ฉบับที่ 2 ที่เราหัดเขียนลงพันทิป เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยว และ เรื่องราวระหว่างทาง มาให้คนที่อ่านเก็บเกี่ยว ไปใช้สำหรับวางแผนท่องเที่ยวตัวเองได้

พื้นเพของเราเป็นพนักงาน มนุษย์เงินเดือนธรรมดา รายได้พอใช้จ่ายแต่ละเดือน ไม่ได้เยอะแยะ มีอยู่วันหนึ่งเครื่องจักรมีชีวิตอย่างเราก็เกิดเบื่อการทำงาน หาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้ รู้แต่ว่าอยากสร้างสีสันให้ชีวิตตัวเองบ้าง คำถามคือ เราควรทำอะไรดี ควรเปลี่ยนงานใหม่ หรือ แค่จะลาพักร้อน ไปพักกาย พักใจ พักสมอง การหาข้อสรุปสำหรับตัวเองจึงเกิดขึ้น จนมาถึงเรื่องการท่องเที่ยว ก็มาติดที่ตังค์อีก จะไปเที่ยวทีก็เสียเงิน มีแต่รายจ่าย จะเที่ยวที่ไหน อะไรยังไง แต่สุดท้ายก็สรุปในใจ เออ ลองดูสักครั้ง ถ้ามัวแต่งก คิดแต่เรื่องรายจ่าย แล้วจะได้อะไร มีเงินก็ต้องใช้ให้กำลังใจตัวเองบ้าง ซื้อความสุขบ้าง ตังค์หาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้ารอให้รวย เงินล้นฟ้าแล้วค่อยไปเที่ยวก็ไม่รู้จะต้องรอถึงเมื่อไหร่ ไม่มีคำว่าพอ ในหมู่มวลมนุษยชาติหรอก  

ถาม : ทำไมถึงต้องไปอินโดนีเซีย ?
คำตอบ : แค่อยากไปที่ไหนสักที่ เห็นในรูปมันมีภูเขาไฟสวยดี ไปอันนี้แหละ ง่ายๆ แค่จองตั๋ว และชวนเพื่อนร่วมทางไปอีก 1 คน

ขั้นตอนการเตรียมตัวมีดังนี้
1. กำหนดระยะเวลาการเดินทาง เพื่อไม่ให้ดูลางานแบบน่าเกลียด จึงลาได้ 27-30 พ.ค.(เดินทางตั้งแต่ 26 พ.ค.)
2.จองตั๋วเครื่องบิน เราจองของแอร์เอเชีย ราคา ไป-กลับ เบ็ดเสร็จ 4,715 ต่อคน  (ขาไป: ดอนเมือง-จาการ์ต้า-สุราบายา ขากลับ: สุราบายา-ดอนเมือง
3. หาข้อมูลการท่องเที่ยว การเดินทาง (วางแผนคร่าวๆ ให้ดูมีจุดหมาย) ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ที่แน่ๆต้องมี Bromo อยู่ในแผนแน่นอน แผนที่เตรียมไว้คือ โบรโม่-สุราบายา หรือ โบรโม่-ย็อคจาการ์ต้า
4. จองที่พักออนไลน์ไว้ 2 ที่ คือ ที่โบรโม่ Cemara Indah ราคา 2,027 บาท (เลือกที่นี่เพราะได้เห็นภูเขาไฟในมุมที่กำลังสวย)และ ใกล้สนามบินในสุราบายา พักที่ Hotel Walan Syariah ราคา 646 บาท (เลือกจองเพราะมีรถไปส่งสนามบินฟรี)

จุดเริ่มต้นการเดินทาง
ออกเดินทาง วันที่1 : 26/5/16
เราแบกกระเป๋าไปออฟฟิศด้วย จะได้ไม่ต้องกลับไปเอาที่บ้าน และไม่ต้องลางาน เราเช็คอินออนไลน์กับสายการบินไปแล้วด้วยนะ
18.30 น. ออกจากออฟฟิศ นั่งรถไฟฟ้าไปหมอชิต ลงฝั่งสวนจตุจักรไปรอรถเมล์ A2 เพื่อนั่งตรงไปสนามบินลงสุดสายเลยจ้า ยืนคุยกับคุณป้าผู้โดยสาร แพล้บเดียวถึงสนามบิน
19.40น. นัดเจอเพื่อนที่สนามบินง่ายดี หาอะไรกิน พาสปอร์ตพร้อม และ เข้าไปรอขึ้นเครื่อง
20:55น. เครื่องบินขึ้น ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 3.30 ชม.

วันที่ 2 : 27/5/16
24.25 น. ถึงจาร์กาต้า อินโดฯ มีรถบัสมารับเพื่อไปที่ตัวสนามบิน และตม.  (ระหว่างบินมาก็หลับบนเครื่องตื่นมาปุ๊บถึงปั๊บเลย)
01:10น. ผ่านตม.แล้วควรรีบเดินหาที่นอนในสนามบิน และแอร์ในสนามบินที่นี่ เย็นจัดถึงขั้นหนาว เลยนะจ๊ะ ใครจะไปนอนพกเสื้อกันหนาวกับผ้าห่มไปด้วยน้า มีบางคนเขากางเต๊นท์นอน พร้อมยิ่งกว่าพร้อม เราก็พร้อมนอนบนเก้าอี้ เย็นเจี๊ยบเลย นี่พูดจากใจ ก่อนนอนต้องล้างหน้าแปรงฟัน เช็ดตัว ด้วยน้า เพื่อสุขอนามัยที่ดี เท่ากับว่า วันนั้นอาบแห้งจ้า ที่จริงนอนหลับๆตื่นจนเกือบตีห้า อาบแห้ง ล้างหน้าแปรงฟันอีกรอบ

สนามบินจาการ์ต้า


ถ่ายจากที่นอน


05.20น. ออกไปเดินเล่นนอกประตู3 (T3) เพื่อรอขึ้นเครื่องไปสุราบายา ต้องเข้า T2 (ถ้าจำไม่ผิด) มีคนนอนข้างนอกเต็มเลย ข้างนอกอากาศเย็นน้อยกว่าในสนามบินหลายเท่า เผื่อใครหนาวๆ ก็ออกมานอนข้างนอกได้ บรื๋อๆ จากนั้นก็เดินไปเข้า T2 เพื่อรอขึ้นเครื่อง
07.30น. ถึงสุราบายา จัดแจงทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย และจัดแจงถาม Tourist information เพื่อถามเที่ยวรถไป ย็อคจาการ์ต้าเพื่อไปดูบุโรพุทโธ แต่เห็นว่าเป็นช่วงใกล้ รอมฎอน ตั๋วเต็มเกือบทุกเที่ยว เวลาเดินทางอาจไม่พอ จึงต้องเปลี่ยนแผน ว่าเป็น โบรโม่-สุราบายา แทน แต่พนักงานเขาก็บอกว่าถ้าจะซื้อตั๋วไปย็อคย่าสามารถไปซื้อที่มินิมาร์ทได้ เช่น Indomarket
08.30น. ไปยืนรอรถหน้าสนามบินแท็กซี่ จะเยอะมากมาเรียกเราก็ไม่ต้องสนใจ เขาก็พูดทั้งภาษาบ้านเขาทั้งภาษาอังกฤษ เราก็ไม่ได้สนใจ เรากับเพื่อนก็เดินไปตรงที่มีรถเมล์มาจอดรับคน แถมถามพี่รปภ.เพื่อความชัวร์อีกทีว่าจะมีรถบัสสายที่เราจะไปรึเปล่า พี่แกก็บอกว่ารอแป๊บๆ เราก็คอยดูรถเพื่อรอขึ้นรถบัสคันที่เขียนว่าไป Purabaya เสร็จแล้วก็มีผู้ชายเสื้อดำคนหนึ่งมองมาที่เรากับเพื่อน และพูดภาษาบ้านเขากับแท็กซี่ เราก็ยิ่งระแวง ระวัง แถมดันขึ้นรถคันเดียวกันอีก โอ่ยๆ น่ากลัวๆ
(ที่ยืนรอShuttle bus)

นั่งรถไปสักพักก็สังเกตบ้านเมืองเขานี่รถติดไม่แพ้ บ้านเมืองเราเหมือนกันนะ แต่ต้นไม้เยอะมาก อากาศครึ้มตลอด ไม่ร้อนเลย พอถึงท่ารถ จากโพยข้อมูลที่หามาเราต้องหารถไป Probolinggo และตัวป่วนก็มาผู้ชายเสื้อดำคนนั้นที่ฉันเจอตั้งแต่ที่สนามบิน ฮึๆ นางเข้ามาทักเพื่อนเราด้วยท่าทางเป็นมิตรแต่หน้าโหด ด้วยภาษาอังกฤษว่า “พวกยู จะไปไหนกัน” เราด้วยความไม่ไว้ใจจะเดินหนี แต่เพื่อนเราดันบอกเขาหมดว่าจะไปไหนอะไรยังไง นางก็อาสาจะพาไปซื้อตั๋วรถไฟเพื่อไปย็อคย่าฯ นางก็บอกให้ตามนางมา เราก็คิดในใจว่า เฮ้ยจะไว้ใจได้กา? แต่เพื่อนเราเนี่ยตามเขาไปติดๆ แล้ว เออ เอาวะเราตามไปห่างๆ เผื่อมันหลอกเราไปไถเงิน เราจะได้หนีทัน เพราะเราเป็นคนเก็บตังกองกลาง ๕๕๕ นางพาเดินไปไกลเข้าซอก เข้าซอย จนไปเจอมินิมาร์ท เพื่อไปจองตั๋ว จนในที่สุดเราก็สรุปว่าไม่จองดีกว่าเพราะเวลาดีๆ เต็มหมดเลย คือที่จริงเราเช็คเที่ยวรถไฟจากที่ไทยไปแล้วแต่ไม่ได้จอง เพราะอยากลุ้นๆ (มันจะมีเว็บเช็ครอบรถไฟ ในอินโด เดี๋ยวเราจะแนบไว้ให้ท้ายเรื่องนะ) เป็นไงล่ะ ลุ้นจนได้เรื่อง
พี่เสื้อดำก็ถามว่า : แล้วแผนของยู คือไรล่ะ ถ้าไม่ได้ไปย็อคย่าแล้ว
เรา : เราเที่ยวในสุราบายาก็ได้
พี่เสื้อดำก็ถามว่า : ในสุราบายาไม่มีอะไรน่าเที่ยวหรอกนะ
เรา : ไม่เป็นไร เราอาจจะค้างโบรโม่ เที่ยวแถวนั้น แล้วค่อยลงมาค้างที่สุราบายา 1 วัน
พี่เสื้อดำก็ถามว่า : ป่ะ งั้นเดี๋ยวไปขึ้นรถกัน เราไปทางเดียวกัน ฉันจะไปลง Banyuwangi
คือเราก็เลยเดินกลับไปที่ท่ารถ เดินเข้าไปด้านในจะเป็นท่ารถใหญ่ และมีชานชลาไปโพรโบลิงโก้ นางช่วยออกเงินค่ารถให้ เราก็ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ เราจะจ่ายคืนนางก็ไม่ยอม (งง คนเราไม่รู้จักจ่ายเงินให้ทำไม เกิดความไม่ไว้ในตงิดๆ แต่ก็ปล่อยผ่านเพราะเดี๋ยวก็แยกทางกันและ) เวลาอยู่บนรถจะมีคนเอาของมาขายเต็มเลย เวลาเขายื่นมาอย่ารับ เวลาเขาเอามายัดเยียดก็ไม่ต้องสนใจนะจ๊ะ ต่อมานางก็แบ่งขนมให้กิน เป็นบิสกิตบางๆ รถชาเขียว โรยหน้าด้วยชีส เราก็ให้เพื่อนเรากินก่อน เผื่อไม่น่าไว้ใจ เพื่อนเรากินไปเกือบหมดห่อ นางบอกว่าอร่อยมากแกไม่กินหรอ เราก็เออ ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินไรเลย ลองกินก็ได้แต่อร่อยจริงๆ นางบอกว่าซื้อมาจากร้านของฝากในสนามบิน 75,000 IDR ประมาณ 198 บาท จบมื้อเช้าด้วยบิสกิตจากคนแปลกหน้า
หลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ พี่เสื้อดำปลุกเรากับเพื่อนให้ลง พอลงไปก็เห็นป้าย โพรโบลิงโก้ นางพาเราเดินมาร้านขายทัวร์ เราก็คิดในใจเอาแล้วๆ แต่ลองดูก่อนเสียหาย สรุปเราได้แพ็คเกจทัวร์ไปโบรโม่ และ อิเจ้น ด้วยรถยนต์ พร้อมกับคนมาเลเซียร่วมทางด้วยอีก 2 คน ในราคา 1,000,000 IDR ประมาณ 2,640 บาท/คน ได้ทัวร์ ได้เที่ยว โบรโม่-สะวาน่า-อิเจ้น-ส่งที่โรงแรมในสุราบายา

(ร้านขายทัวร์)

เราคิดว่าราคานี้ไม่ได้ทำให้เราเดือดร้อนอะไรมากถ้าไปเองอาจจะเสียเวลาต่อรถมากกว่านี้ เลยตกลงซื้อ จากนั้นเสื้อดำพาข้ามไปกินข้าว ที่อยู่ติดกับมินิมาร์ท ฝั่งตรงข้ามกับร้านขายทัวร์และที่รอรถประจำทาง เราสั่งหมี่แห้ง หมี่แห้งบ้านเขาเส้นใหญ่ๆ คล้ายมาม่าแต่ความมันระดับสิบ เพื่อนเราสั่งข้าวผัดถึงกับกินไม่ได้เลยเพราะมันมากเลยขอห่อกลับ ส่วนเสื้อดำสั่งต้มผักคล้ายๆกับราดหน้า แต่ความหนืดของน้ำแกงน้อยกว่า ใครจะไปขอย้ำอีกครั้งว่าอาหารเขาค่อนข้างจะใส่น้ำมันเยอะมาก ใครไม่ชอบก็สั่งพวกต้มจืด หรือ สเต๊กแทนได้ มื้อนี้เรากับเพื่อนตกลงกันว่าจะเลี้ยงข้าวเขาคืนที่เขาจ่ายค่ารถให้
สักพักรถยนต์ Suzuki ก็มาจอดรับเรา 2 คน เขาก็ติดรถไปลงที่ท่ารถใกล้ๆ เราแลกไลน์กันแล้วนางก็บอกว่าถ้าถึงแล้ว ให้ไลน์บอก ลุงคนขับก็ขับไปส่งที่ โรงแรม Cemara ที่เราจองไว้ นั่งรถไปมองข้างทางเพลินๆ ภูเขาสวยมาก ธรรมชาติสมบูรณ์ วิถีชีวิตของชาวบ้านแบบไม่มีสารพิษมันมีเสน่ห์จริงๆ นานพอสมควร ฝนเริ่มตกปรอยๆ ระหว่างทาง ลุงคนขับก็ขับฝ่าฝนที่ตกหนักอย่างชำนาญ เสียงน้ำหลากจากบนภูเขาระหว่างทางได้ยินติดหูเลย และมีดอกเหลืองๆขึ้นติดริมภูเขาข้างทางเต็มไปหมด มองไปคล้ายๆ ดอกบัวตอง (ถ่ายรูปไม่ทันเพราะรถวิ่งไวมาก) แต่เสื้อดำ บอกว่าดอกไม้นั่นคือ Tree marigold
ถึงที่พัก 17.20น. ฝนยังคงตก ในห้องไฟเปิดไม่ติดนะจ๊ะ ต้องรอสักพักถึงจะติด แต่อากาศเย็น และ เห็นภูเขาไฟชัดมากเลยล่ะ หัวใจเราพองเลย เมื่อเห็นโบรโม่จากห้องพัก มันคือ ของจริงเรามาถึงแล้ว จัดการเก็บเสื้อผ้า นอนงีบ น้ำไม่อาบสักพักจนไฟติดค่อยอาบ
19.00 กินข้าวเย็นที่โรงแรม เราสั่งข้าวไข่เจียวผสมผัก เพื่อนเรากินข้าวไก่ทอด มีน้ำพริกแกล้ม น้ำพริกเรียกว่า Sambal อร่อยมาก ช่วยให้การกินข้าวกับน้ำมันไม่เลี่ยนอีกต่อไป ปิดท้ายด้วยแพนเค้กนุ่มๆ ราดด้วยน้ำผึ้งมะนาว




จากนั้นได้เวลาพักผ่อน รายงานญาติพี่น้อง ถึงความเป็นไปในไลน์ และ ไม่ลืมบอกเสื้อดำ ว่าทุกอย่างราบรื่นดี ปล.เราไม่ได้ซื้อซิม Pati นะ แต่เราเปิดโรมมิ่งเอาของเอไอเอส เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของความสบายใจนะ ใครใคร่ซื้อซิมซื้อ ใครใคร่โรมมิ่งก็จัดไปค่ะ
ชื่อสินค้า:   Bromo, Kawah Ijen
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่