ผมว่าท่านทวดพูดถึงเรื่องการพินิจพิเคราะห์นะ
ซึ่งการพินิจพิเคราะห์นี้ จะมีเหตุผล มีเงื่อนไข มีองค์ประกอบที่จะทำให้เกิดแนวคิดอะไร ๆ ขึ้นมา
เช่น เคยชอบ ปชป. แต่พอผ่านไปก็เลิกชอบ เพราะพินิจพิเคราะห์แล้วเห็นว่าดีแต่พูด ทำงานไม่เป็น
หันมาชอบทักษิณ เพราะเห็นว่าทักษิณมีผลงาน
นี่แหละครับ ที่เรียกว่า ความเห็น
ความเห็นต่าง ก็คือเห็นไม่เหมือนกัน แต่ความเห็นไม่เหมือนกันนั้น
ต้องยืนบนหลักการพินิจพิเคราะห์ สามารถให้เหตุผลได้
ไม่ใช่ยืนอยู่บนความรู้สึก อิงอยู่กับอารมณ์
แล้วก็มีเทวดามาโปรดท่านทวด
ด้วยการหยิบยกเรื่องความรู้สึกมาแย้งท่านทวด
ความรู้สึกนั้น ไม่ใช่ความเห็นแน่ ๆ เป็นแค่อารมณ์
ความรู้สึกนั้น ไม่ใช่การรับรู้ (preception) แน่ ๆ เพราะการรับรู้ต้องมีเหตุผล แต่อารมณ์ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล
เมื่อท่านทวดพูดเรื่องเชิงเหตุผลว่า เกลียดคนนั้นคนนี้เพราะอะไร เป็นการถามหาความเห็น
ใครที่เห็นต่างกับท่านทวด ก็แย้งมาด้วยความเห็น ไม่ใช่เอาเรื่องความรู้สึกมาแย้ง
แล้วบอกว่าความรู้สึกนั่นแหละ คือความเห็นต่าง
คนละเรื่องเลยครับ
ความเห็น ไม่ใช่ความรู้สึก ความรู้สึก ไม่ใช่ความเห็น
การอ้างว่าความรู้สึกคือความเห็น ก็คือตรรกะของคนไร้เหตุผล
จึงฉะนั้น ถามให้ตายว่าเกลียดทักษิณ เกลียดยิ่งลักษณ์เพราะอะไร
สลิ่มจึงไม่สามารถตอบได้ เพราะสลิ่มมีแค่ความรู้สึก
มีบ้างที่อ้างในทางเชิงความเห็น คือสลิ่มจะตอบว่าโกง แต่พอถามต่อว่าโกงยังไง
สลิ่มก็อธิบายไม่ได้ นั่นเพราะสลิ่มขาดการพินิจพิเคราะห์ ใช้แค่ความรู้สึกเป็นหลัก
อ้างได้ แต่อธิบายไม่ได้
สลิ่มนั้น จะเข้าใจผิดเสมอ เข้าใจผิดตลอดมา ว่าความรู้สึก คือความเห็น
เมื่อสลิ่มรู้สึกเกลียด สลิ่มจึงมักอ้างว่าความรู้สึกเกลียดของสลิ่มคือความเห็นต่าง
ด้วยเหตุฉะนี้แหละครับท่านทวด
ผมเลยคิดว่า ไม่คุยกับท่านทวดดีกั่ว
นั่งหัวเราะสบายกว่าเยอะ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ว่าจะตั้งกระทู้คุยกับท่านทวดหน่อย เรื่องความรู้สึก เรื่องความเห็นต่าง แต่คิดไปคิดมา ไม่ดีกว่า
ซึ่งการพินิจพิเคราะห์นี้ จะมีเหตุผล มีเงื่อนไข มีองค์ประกอบที่จะทำให้เกิดแนวคิดอะไร ๆ ขึ้นมา
เช่น เคยชอบ ปชป. แต่พอผ่านไปก็เลิกชอบ เพราะพินิจพิเคราะห์แล้วเห็นว่าดีแต่พูด ทำงานไม่เป็น
หันมาชอบทักษิณ เพราะเห็นว่าทักษิณมีผลงาน
นี่แหละครับ ที่เรียกว่า ความเห็น
ความเห็นต่าง ก็คือเห็นไม่เหมือนกัน แต่ความเห็นไม่เหมือนกันนั้น
ต้องยืนบนหลักการพินิจพิเคราะห์ สามารถให้เหตุผลได้
ไม่ใช่ยืนอยู่บนความรู้สึก อิงอยู่กับอารมณ์
แล้วก็มีเทวดามาโปรดท่านทวด
ด้วยการหยิบยกเรื่องความรู้สึกมาแย้งท่านทวด
ความรู้สึกนั้น ไม่ใช่ความเห็นแน่ ๆ เป็นแค่อารมณ์
ความรู้สึกนั้น ไม่ใช่การรับรู้ (preception) แน่ ๆ เพราะการรับรู้ต้องมีเหตุผล แต่อารมณ์ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล
เมื่อท่านทวดพูดเรื่องเชิงเหตุผลว่า เกลียดคนนั้นคนนี้เพราะอะไร เป็นการถามหาความเห็น
ใครที่เห็นต่างกับท่านทวด ก็แย้งมาด้วยความเห็น ไม่ใช่เอาเรื่องความรู้สึกมาแย้ง
แล้วบอกว่าความรู้สึกนั่นแหละ คือความเห็นต่าง
คนละเรื่องเลยครับ
ความเห็น ไม่ใช่ความรู้สึก ความรู้สึก ไม่ใช่ความเห็น
การอ้างว่าความรู้สึกคือความเห็น ก็คือตรรกะของคนไร้เหตุผล
จึงฉะนั้น ถามให้ตายว่าเกลียดทักษิณ เกลียดยิ่งลักษณ์เพราะอะไร
สลิ่มจึงไม่สามารถตอบได้ เพราะสลิ่มมีแค่ความรู้สึก
มีบ้างที่อ้างในทางเชิงความเห็น คือสลิ่มจะตอบว่าโกง แต่พอถามต่อว่าโกงยังไง
สลิ่มก็อธิบายไม่ได้ นั่นเพราะสลิ่มขาดการพินิจพิเคราะห์ ใช้แค่ความรู้สึกเป็นหลัก
อ้างได้ แต่อธิบายไม่ได้
สลิ่มนั้น จะเข้าใจผิดเสมอ เข้าใจผิดตลอดมา ว่าความรู้สึก คือความเห็น
เมื่อสลิ่มรู้สึกเกลียด สลิ่มจึงมักอ้างว่าความรู้สึกเกลียดของสลิ่มคือความเห็นต่าง
ด้วยเหตุฉะนี้แหละครับท่านทวด
ผมเลยคิดว่า ไม่คุยกับท่านทวดดีกั่ว
นั่งหัวเราะสบายกว่าเยอะ