ทำไมสมัยฟาสซิสต์อิตาลี มุสโสลินีไม่ล้มกษัตริย์อิตาลีครับ

ทั้งๆที่สามารถบังคับกษัตริย์ให้ตั้งตัวเองเป็นนายกได้ อำนาจในมือก็ล้นเหลือ อีกอย่างชาวอิตาลีก็มิได้นิยมกษัตริย์มากเหมือนอังกฤษ เขาจะปล่อยสถาบันไว้ทำไมครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ประเทศอิตาลีมีรากฐานพัฒนามาจากราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย หรือราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย-พีดมอนต์ (Kingdom of Sardinia-Piedmont) เมื่อถึงปี 1848 กษัตริย์ชาลส์ อัลเบิร์ต แห่งราชวงศ์ซาวอย (House of Savoy) จึงได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มีรัฐสภาเป็นระบบสองสภาและมีคณะรัฐมนตรีซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากกษัตริย์เป็นผู้ให้คำปรึกษาในการบริหารประเทศ

อำนาจของกษัตริย์อิตาลีค่อยๆลดลงตามกาลสมัยเช่นเดียวกับราชวงศ์อื่นๆในยุโรป แต่การปกครองแบบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญก็อยู่รอดมาได้เกือบร้อยปี จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อประชาชนชาวอิตาลีได้ลงประชามติเลือกให้ประเทศปกครองด้วยระบอบสาธารณรัฐแทนที่ระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาวอิตาลีหันหลังให้กับสถาบันกษัตริย์คือบทบาทของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ 3 (Victor Emmanuel III) ซึ่งชาวอิตาลีกล่าวหาว่าพระองค์คือต้นเหตุที่ทำให้อิตาลีเข้าสู่หายนะ เนื่องจากในเดือนตุลาคมปี 1922 เมื่อกองกำลังคนชุดดำของกลุ่มฟาสซิสต์นำโดย เบนิโต มุสโสลินี เตรียมเคลื่อนกำลังสู่กรุงโรม พระองค์ได้ปฏิเสธที่จะลงนามในพระราชกฤษฎีกาตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศกฎอัยการศึกซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการยับยั้งการยึดอำนาจของกลุ่มฟาสซิสต์

รายงานของนิวยอร์กไทม์ระบุว่า นั่นเป็นเพียงครั้งเดียวที่พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรีตลอดการครองราชย์ และยังเป็นการปฏิเสธต่อมาตรการตามรัฐธรรมนูญที่อาจช่วยรักษาระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตยเอาไว้ได้ และทำให้กลุ่มฟาสซิสต์ของมุสโสลินีต้องถึงจุดจบ

ในทางกลับกัน กษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ทรงเลือกให้ข้าราชบริพารต่อสายตรงถึงมุสโสลินีในมิลาน และทรงเชิญให้ผู้นำฟาสซิสต์เข้าเฝ้าเพื่อรับตำแหน่งผู้นำรัฐบาลในกรุงโรม และสิ่งแรกที่มุสโสลินีทำเมื่อเดินทางมาถึงกรุงโรมก็คือการคำนับแทบเท้าแก่กษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล เพื่อยืนยันความภักดีของกองกำลังฟาสซิสต์ต่อราชวงศ์ซาวอย

แต่หลังได้อำนาจ มุสโสลินีมิได้แสดงให้เห็นความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์เท่าใดนัก และมีข่าวลือถึงความขัดแย้งของมุสโสลินีและกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลให้เห็นบ่อยครั้ง

ถึงปี 1943 กองทัพอิตาลีตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเสียหายหนักในสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศต้องตกอยู่ใต้วงล้อมของฝ่ายสัมพันธมิตรที่กำลังรุกรานเกาะซิซิลี เข้าเดือนกรกฎาคม กษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ทรงทำให้หลายคนต้องประหลาดใจด้วยการสั่งปลดมุสโสลินีออกจากตำแหน่ง พร้อมให้จับกุมตัวผู้นำฟาสซิสต์ ก่อนทรงแต่งตั้งให้ ปิเอโตร บาดอกลิโอ (Pietro Badoglio) ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทน

ความพยายามครั้งสำคัญเพื่อรักษาบัลลังก์และพาประเทศออกจากสงครามของกษัตริย์อิตาลีไม่เป็นผลสำเร็จ หลังฝ่ายสัมพันธมิตรปลดปล่อยกรุงโรมได้ในวันที่ 5 มิถุนายน 1944 พระองค์ตัดสินใจสละอำนาจทั้งหมดให้กับมกุฏราชกุมารอุมแบร์โต (Umberto) แต่ยังทรงรักษาสถานะกษัตริย์เอาไว้

ในปี 1946 ประชาชนเรียกร้องให้มีการทำประชามติเพื่อให้ชาวอิตาลีได้เลือกว่าจะปกครองภายใต้ระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญต่อไป หรือจะหันไปใช้ระบอบสาธารณรัฐ กษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่พสกนิกรเสื่อมศรัทธามานานจึงตัดสินใจสละราชสมบัติให้กับมกุฏราชกุมารอุมแบร์โตในวันที่ 9 พฤษภาคม 1946

แต่สุดท้ายประชาชนส่วนใหญ่ที่พากันไปลงประชามติในวันที่ 2 มิถุนายน 1946 ก็ตัดสินใจเลือกระบอบสาธารณรัฐแทนที่ระบอบกษัตริย์ด้วยคะแนนเสียงราว 54 ต่อ 46 เปอร์เซนต์ แม้ว่าคนใต้จำนวนมาก รวมถึงชาวเนเปิลส์กว่า 80 เปอร์เซนต์จะลงคะแนนสนับสนุนระบอบกษัตริย์ แต่ในภาคเหนือที่มีประชากรหนาแน่นกว่า ส่วนใหญ่เทใจให้กับระบอบสาธารณรัฐ

ผลของประชามติบีบให้กษัตริย์อุมแบร์โตที่เพิ่งขึ้นครองราชย์หมาดๆ พร้อมด้วยอดีตกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล และสมาชิกราชวงศ์อื่นๆ ต้องลี้ภัยไปยังต่างแดน ปิดฉากระบอบกษัตริย์ในประเทศอิตาลี

ข้อมูลจาก:

1. "Victor Emmanuel III". Encyclopædia Britannica. Encyclopædia Britannica Online.
Encyclopædia Britannica Inc., 2016. Web. 01 Jun. 2016
<http://global.britannica.com/biography/Victor-Emmanuel-III>.

2. "Italy". Encyclopædia Britannica. Encyclopædia Britannica Online.
Encyclopædia Britannica Inc., 2016. Web. 02 Jun. 2016
<http://global.britannica.com/…/The-partisans-and-the-Resist…>.

3. “Victor Emmanuel III”. The New York Times.
<http://query.nytimes.com/mem/archive-free/pdf…>

4. “Ex-King Became Italy’s Scapegoat”. The New York Times.
<http://query.nytimes.com/mem/archive-free/pdf…>
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่