สวัสดีเพื่อนๆชาว Pantip ในเดือน 6 กันถ้วนหน้าค่ะ
เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักร้าน Barber ที่ชื่อ Blue Harbour ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของ Kivillage กันเป็นอย่างดี เพราะบาร์เบอร์แห่งนี้เปิดมาหลายปีแล้ว และยังเคยลง Magazine ต่างๆเนื่องจากการแต่งร้านที่ดูสวยคลาสสิก เฟอร์นิเจอร์แต่ล่ะชิ้นในร้านดูมีเรื่องราว และความโอ่อ่าที่ไม่แพ้กัน
แต่วันนี้เราจะไม่ได้มานำเสนอถึงสิ่งที่สื่อต่างๆเคยเขียนถึงสถานที่แห่งนี้ แต่มีความตั้งใจอยากนำเสนอว่าร้านตัดผมชายในตำนานแห่งนี้ บริการทำ Treatment ผิวหน้า และนวดตัวอีกด้วย ซึ่งเราแทบจะไม่มีทางได้รู้เลยว่าที่นี่มีบริการอื่นๆแบบนี้ หากไม่ได้เดินไปอ่านป้ายที่หน้าร้านอย่างระยะประชิด
เราสนใจลองนวดตัวบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลังจากที่ดูราคาแล้วรู้สึกไม่แรงเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าจำไม่ผิดเริ่มต้นที่ 300.-
ด้วยบรรยากาศของร้านที่ดูแพงมาก ยิ่งยั่วยวนอยากเอาตัวเองไปนั่งแช่ที่โซฟา แล้วสัมผัสบริการดูซักครั้ง
นวดที่โซฟาตัวขวานี้แหละ สบายมาก ขอบคุณภาพประกอบจาก Internet ค่ะ
ในขณะที่นวดนั้น ไม่มีใครอยู่ด้วยเลยไม่ได้เก็บภาพมาฝากเพื่อนๆต้องขออภัย ขอเล่าให้ฟังแทนล่ะกัน
ขั้นตอนการนวดก็จะเริ่มที่คอไล่ไปที่ไหล่ เป็นการนวดช้าๆไปตามสรีระของร่างกาย มีกดจุดบ้างบางตำแหน่ง ระหว่างนี้ช่างเขาก็จะใส่ใจถามค่ะ ว่าเจ็บหรือเปล่าคะ ถ้าเจ็บเกินไปก็บอกได้
จากไหล่ก็ใล่ลงไปที่หลัง แล้วค่อยขยับขึ้นมานวดศรีษะ ซึ่งเราชอบเวลานวดที่ตำแหน่งนี้ที่สุด รู้สึกสบายมากก เคลิ้มสุดๆ นอกจากนี้ยังมีบริการนวดแขนเพิ่มเติมให้อีกเล็กน้อย พอใกล้จะนวดเสร็จ เขาก็จะเชิญเราลงมานั่งที่เก้าอี้ไม้ตัวเล็กๆข้างๆ และใช้มือสับไปที่หัวไหล่กับแผ่นหลังก็เป็นอันเสร็จสิ้นค่ะ
ที่นี้เมื่อนวดเสร็จแล้วเราเห็นลูกค้าผู้ชายเดินออกมาจากโซนทำหน้า เลยคิดว่าอยากลองพาเด็กในความดูแลมาลองทำบ้าง เพราะเขาเป็นผู้ชายลุยๆ ไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสกับอะไรอย่างนี้มาก่อน เลยอยากให้ลองสัมผัสดูบ้างว่ามันสบายนะ และนี่คือภาพในเวลาต่อมา หน้าตาเหยเก บอกบุญไม่รับมาก
ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยพี่ชาย
ทีตอนนี้หลับตาพริ้ม ยิ้มเฉยเลย สงสัยจะเริ่มชอบ
ขั้นตอนต่างๆ เริ่มต้นด้วยทำความสะอาดใบหน้า ก็จะมีการลงคลีนซื่ง ตามด้วยโฟม และใช้แปรงล้างหน้าแบบในรูปหมุนวนทำความสะอาดไปทั่วใบหน้า ซึ่งใช้หัวแปรง 3 แบบในการล้างหน้า
ต่อมาเป็นขั้นตอนการสครับหน้า เตรียมพร้อมก่อนดูดสิวเสี้ยน ซึ่งระหว่างนี้ก็จะมีการเปิดเครื่องที่มีไออุ่นๆออกมา
พี่แก้ว พนักงานที่ทำ Treatment ในครั้งนี้บอกกับเราว่า ปกติจะทำการสครับบริเวณ T-zone เท่านั้น แต่ครั้งนี้เดี้ยวสครับให้ทั่วทั้งหน้า เราเดาว่าจะคงหยาบกร้านมาก สมควรกระตุ้นการผลัดเซลล์อย่างมาก
ต่อมาพี่แก้วก็เอาอุปกรณ์ลักษณะเป็นหลอดแก้ว ขึ้นมาดูสิวเสี้ยนทั่วใบหน้า ขอบอกว่าสิ้วเสี้ยนออกประมาณ 60-70% ได้ ลองเอานิ้วลูบดูที่จมูกแล้วรู้สึกเนียน ละเอียดขึ้นเยอะมาก
เมื่อดูดสิวเสี้ยนเรียบร้อยก็ยังไม่พ้นกระบวนการเรื่องสิวๆ เพราะยังมีการกดสิวต่อ เรียกว่าเป็นการเก็บรายละเอียดก็ได้ พวกสิวหัวขาว หัวดำที่เหลือจะถูกจัดการก็ในขั้นตอนนี้นี่แหละ ในขั้นตอนนี้พี่แก้วก็ถามว่าเจ็บไหมเป็นระยะ ดูใส่ใจมาก
หลังจากนั้นก็ล้างหน้า และอบหน้าด้วยผ้าร้อน ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการมาร์คหน้าค่ะ
ชอบการแสดงสีหน้าของตานี่จริงๆให้ตาย
สำหรับการมาร์คหน้า จะเป็นขั้นตอนที่ดูมีอะไรๆมากที่สุดในสายตาเรา โดยพี่แก้วเริ่มจากแกะอุปกรณ์สำหรับมาร์คหน้าออกมาจากห่อ สิ่งแรกคือบีบเจลใสๆสำหรับบำรุงลงทั่วบริเวณผิวหน้า เสร็จแล้วก็ใช้กระดาษสำหรับมาร์ค เป็นตาข่ายเล็กๆคล้ายผ้าก๊อตบางๆวางทับอีกชั้น จากนั้นก็จะผสมเนื้อมาร์คต่างหากแล้วค่อยๆตักละเลง เอ้ย มาร์คให้ทั่วใบหน้า เนื้อมาร์คดูฟุและหนานุ่มมาก
มองดูมาถึงตอนนี้อยากจะขอเปลี่ยนตัวสลับตัวกับนายแบบมาก เพราะอยากลองมาร์คหน้าแบบจัดเต็มอย่างนี้ดูบ้าง อีกอย่างระหว่างที่นอนมาร์คหน้าอยู่เฉยๆเป็นเวลาประมาณ 15 นาทีนี้ พี่แก้วก็จะบริการบีบนวดตัวไปด้วย ฟินได้อีก
จากนั้นก็ทำการแกะมาร์คหน้า ตามด้วนการลงครีม ปะแป้งฝุ่น สีหน้าเจ้าตัวดูตอนส่องกระจกแล้วดูพึงพอใจมาก สงสัยจะเข้าใจแล้วว่าทำไมสาวๆจึงชอบเข้าสถานบริการความงาม
ขั้นตอนท้ายที่สุดนี้คือการใช้เครื่องนวด นวดตามบ่าและไหล่ คล้ายๆกับการปลุกให้ตื่นดีหลังจากเคลิ้มกึ่งหลับกึ่งตื่นมานานนั้นเอง ดูจากสีหน้าแล้ว ให้อารมณ์อยากบิดขึ้เกียจตาม
และนี่ก็คิอบริการทั้งหมดที่เราได้สัมผัสมาจากร้าน Blue Harbour ซึ่งเหมาะแก่วันพักผ่อนสำหรับสมาชิกในครอบครัวจะจูงมือกันมาใช้บริการตัดผม นวดหน้า หรือนวดตัวไปพร้อมๆกันได้ จากที่เคยคิดว่าเป็นเพียงร้านตัดผมชายสุดหรูทั่วๆไปก็ต้องเปลี่ยนความคิด เพราะแท้จริงยังมีบริการเสริมความหล่อ และความสวยซ่อนอยู่นั่นเอง
วันนี้ขอลาเพื่อนๆใน Pantip แต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่หากเจออะไรดีๆที่อยากบอกต่อค่ะ
Keep in Touch ต่อกันได้ที่
[SR] พาเด็กไปเสริมหล่อที่ Blue Harbour ร้านตัดผมชาย สไตล์ Men's Grooming แบบครบวงจร
เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักร้าน Barber ที่ชื่อ Blue Harbour ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของ Kivillage กันเป็นอย่างดี เพราะบาร์เบอร์แห่งนี้เปิดมาหลายปีแล้ว และยังเคยลง Magazine ต่างๆเนื่องจากการแต่งร้านที่ดูสวยคลาสสิก เฟอร์นิเจอร์แต่ล่ะชิ้นในร้านดูมีเรื่องราว และความโอ่อ่าที่ไม่แพ้กัน
แต่วันนี้เราจะไม่ได้มานำเสนอถึงสิ่งที่สื่อต่างๆเคยเขียนถึงสถานที่แห่งนี้ แต่มีความตั้งใจอยากนำเสนอว่าร้านตัดผมชายในตำนานแห่งนี้ บริการทำ Treatment ผิวหน้า และนวดตัวอีกด้วย ซึ่งเราแทบจะไม่มีทางได้รู้เลยว่าที่นี่มีบริการอื่นๆแบบนี้ หากไม่ได้เดินไปอ่านป้ายที่หน้าร้านอย่างระยะประชิด
เราสนใจลองนวดตัวบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลังจากที่ดูราคาแล้วรู้สึกไม่แรงเลย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ด้วยบรรยากาศของร้านที่ดูแพงมาก ยิ่งยั่วยวนอยากเอาตัวเองไปนั่งแช่ที่โซฟา แล้วสัมผัสบริการดูซักครั้ง
ในขณะที่นวดนั้น ไม่มีใครอยู่ด้วยเลยไม่ได้เก็บภาพมาฝากเพื่อนๆต้องขออภัย ขอเล่าให้ฟังแทนล่ะกัน
ขั้นตอนการนวดก็จะเริ่มที่คอไล่ไปที่ไหล่ เป็นการนวดช้าๆไปตามสรีระของร่างกาย มีกดจุดบ้างบางตำแหน่ง ระหว่างนี้ช่างเขาก็จะใส่ใจถามค่ะ ว่าเจ็บหรือเปล่าคะ ถ้าเจ็บเกินไปก็บอกได้
จากไหล่ก็ใล่ลงไปที่หลัง แล้วค่อยขยับขึ้นมานวดศรีษะ ซึ่งเราชอบเวลานวดที่ตำแหน่งนี้ที่สุด รู้สึกสบายมากก เคลิ้มสุดๆ นอกจากนี้ยังมีบริการนวดแขนเพิ่มเติมให้อีกเล็กน้อย พอใกล้จะนวดเสร็จ เขาก็จะเชิญเราลงมานั่งที่เก้าอี้ไม้ตัวเล็กๆข้างๆ และใช้มือสับไปที่หัวไหล่กับแผ่นหลังก็เป็นอันเสร็จสิ้นค่ะ
ที่นี้เมื่อนวดเสร็จแล้วเราเห็นลูกค้าผู้ชายเดินออกมาจากโซนทำหน้า เลยคิดว่าอยากลองพาเด็กในความดูแลมาลองทำบ้าง เพราะเขาเป็นผู้ชายลุยๆ ไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสกับอะไรอย่างนี้มาก่อน เลยอยากให้ลองสัมผัสดูบ้างว่ามันสบายนะ และนี่คือภาพในเวลาต่อมา หน้าตาเหยเก บอกบุญไม่รับมาก
ขั้นตอนต่างๆ เริ่มต้นด้วยทำความสะอาดใบหน้า ก็จะมีการลงคลีนซื่ง ตามด้วยโฟม และใช้แปรงล้างหน้าแบบในรูปหมุนวนทำความสะอาดไปทั่วใบหน้า ซึ่งใช้หัวแปรง 3 แบบในการล้างหน้า
ต่อมาเป็นขั้นตอนการสครับหน้า เตรียมพร้อมก่อนดูดสิวเสี้ยน ซึ่งระหว่างนี้ก็จะมีการเปิดเครื่องที่มีไออุ่นๆออกมา
พี่แก้ว พนักงานที่ทำ Treatment ในครั้งนี้บอกกับเราว่า ปกติจะทำการสครับบริเวณ T-zone เท่านั้น แต่ครั้งนี้เดี้ยวสครับให้ทั่วทั้งหน้า เราเดาว่าจะคงหยาบกร้านมาก สมควรกระตุ้นการผลัดเซลล์อย่างมาก
ต่อมาพี่แก้วก็เอาอุปกรณ์ลักษณะเป็นหลอดแก้ว ขึ้นมาดูสิวเสี้ยนทั่วใบหน้า ขอบอกว่าสิ้วเสี้ยนออกประมาณ 60-70% ได้ ลองเอานิ้วลูบดูที่จมูกแล้วรู้สึกเนียน ละเอียดขึ้นเยอะมาก
เมื่อดูดสิวเสี้ยนเรียบร้อยก็ยังไม่พ้นกระบวนการเรื่องสิวๆ เพราะยังมีการกดสิวต่อ เรียกว่าเป็นการเก็บรายละเอียดก็ได้ พวกสิวหัวขาว หัวดำที่เหลือจะถูกจัดการก็ในขั้นตอนนี้นี่แหละ ในขั้นตอนนี้พี่แก้วก็ถามว่าเจ็บไหมเป็นระยะ ดูใส่ใจมาก
หลังจากนั้นก็ล้างหน้า และอบหน้าด้วยผ้าร้อน ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการมาร์คหน้าค่ะ
สำหรับการมาร์คหน้า จะเป็นขั้นตอนที่ดูมีอะไรๆมากที่สุดในสายตาเรา โดยพี่แก้วเริ่มจากแกะอุปกรณ์สำหรับมาร์คหน้าออกมาจากห่อ สิ่งแรกคือบีบเจลใสๆสำหรับบำรุงลงทั่วบริเวณผิวหน้า เสร็จแล้วก็ใช้กระดาษสำหรับมาร์ค เป็นตาข่ายเล็กๆคล้ายผ้าก๊อตบางๆวางทับอีกชั้น จากนั้นก็จะผสมเนื้อมาร์คต่างหากแล้วค่อยๆตักละเลง เอ้ย มาร์คให้ทั่วใบหน้า เนื้อมาร์คดูฟุและหนานุ่มมาก
มองดูมาถึงตอนนี้อยากจะขอเปลี่ยนตัวสลับตัวกับนายแบบมาก เพราะอยากลองมาร์คหน้าแบบจัดเต็มอย่างนี้ดูบ้าง อีกอย่างระหว่างที่นอนมาร์คหน้าอยู่เฉยๆเป็นเวลาประมาณ 15 นาทีนี้ พี่แก้วก็จะบริการบีบนวดตัวไปด้วย ฟินได้อีก
จากนั้นก็ทำการแกะมาร์คหน้า ตามด้วนการลงครีม ปะแป้งฝุ่น สีหน้าเจ้าตัวดูตอนส่องกระจกแล้วดูพึงพอใจมาก สงสัยจะเข้าใจแล้วว่าทำไมสาวๆจึงชอบเข้าสถานบริการความงาม
ขั้นตอนท้ายที่สุดนี้คือการใช้เครื่องนวด นวดตามบ่าและไหล่ คล้ายๆกับการปลุกให้ตื่นดีหลังจากเคลิ้มกึ่งหลับกึ่งตื่นมานานนั้นเอง ดูจากสีหน้าแล้ว ให้อารมณ์อยากบิดขึ้เกียจตาม
และนี่ก็คิอบริการทั้งหมดที่เราได้สัมผัสมาจากร้าน Blue Harbour ซึ่งเหมาะแก่วันพักผ่อนสำหรับสมาชิกในครอบครัวจะจูงมือกันมาใช้บริการตัดผม นวดหน้า หรือนวดตัวไปพร้อมๆกันได้ จากที่เคยคิดว่าเป็นเพียงร้านตัดผมชายสุดหรูทั่วๆไปก็ต้องเปลี่ยนความคิด เพราะแท้จริงยังมีบริการเสริมความหล่อ และความสวยซ่อนอยู่นั่นเอง
วันนี้ขอลาเพื่อนๆใน Pantip แต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่หากเจออะไรดีๆที่อยากบอกต่อค่ะ