ผมเป็นข้าราชการในอำเภอแห่งหนึ่งจังหวัดยะลา มีโอกาสอันเป็นมงคลสูงสุดของชีวิตได้รอรับเสด็จสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเยี่ยมชมโครงการในพระราชดำริที่ ร.ร.อุดมศาสน์วิทยา จ.ยะลา
ซึ่งครั้งหนึ่งพระองค์เคยเสด็จมาที่ร.ร.เมื่อปี 2552 ร.ร.อุดมศาสน์วิทยาเป็นโรงเรียนสอนศาสนาเอกชนควบคู่กับวิชาสามัญหรือ "ปอเนาะ"ที่หลายๆท่านอาจเคยได้ยินข่าวมา เริ่มแรกที่ผมได้ยินก็คิดภาพว่าคงเป็นมัสยิดสอนเด็กแบบบ้านๆและพระองค์คงมาเปิดตึกสร้างใหม่ประมาณนี้เหมือนๆกับคนใหญ่คนโตที่มาเปิดงาน
แต่เมื่อผมได้มีโอกาสรับเสด็จและเดินตามพระองค์ไปตรวจงานตามมูลนิธิชัยพัฒนาทำให้ผมตื้นตันในพระมหากรุณาธิคุณและพระจริยวัตรอันงดงามเป็นอย่างมาก
ตั้งแต่พระองค์ทรงเสด็จลงจากรถยนต์พระที่นั่งลงมาด้วยรอยยิ้ม ตรัสกับข้าราชบริพารอย่างไม่ถือตัวพร้อมด้วยเสียงหัวเราะ ทรงรับฟังรายงานของครูด้วยความใจเย็น และทรงพระอักษรจดรายงานอย่างละเอียด ไม่ทรงแสดงอาการหงุดหงิดทรงตั้งใจฟังการรายงานอย่างมาก (ผู้รับเสด็จบางคนก็แอบพูดคุยกันเองเสียงดังจนผมก็ไม่ได้ยินผู้พูดรายงานแต่พระองค์ก็ไม่ทรงโกรธเคืองผู้ใด)
ในอดีตร.ร.มีปัญหาคาดแคลนอาคารเรียน น้ำประปา นักเรียนจบไปไม่มีงานทำ พระองค์ก็พระราชทานทุนทรัพย์และรับสั่งให้หลายหน่วยงานมาช่วยดูแล
ผมทึ่งมากที่ปัจจุบันร.ร.มี Science Lab พร้อมระบบE-learning ตอนที่ไปนักเรียนกำลังทดลองหยดสารเคมีชนิดต่างๆเพื่อดูการตกตะกอน(คิดถึงตอนตัวเองเรียนมีแต่แลบแห้ง จำว่าสารตัวนี้ผสมกันได้อะไร แต่กับร.ร.ห่างไกลชายแดน เด็กๆได้เรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีและอ.จาก มหาลัย) ซึ่งผมได้คุยกับร.ศ.นพ.วรัญ ตันชัยสวัสดิ์ ท่านเป็นผู้ก่อตั้งโดยท่านบอกว่าเป็น Inspired learning ให้เด็กๆสนุกกับการเรียนรู้และโต้ตอบกับผู้สอนผ่านE-learningได้โดยตรง พร้อมกับหาคำตอบด้วยตนเอง(ซึ่งก็น่าสนุกจริงๆครับผมไปยืนดูตั้งนาน)
ด้านวิชาชีพมีอ.จากมูลนิธิชัยพัฒนา,สำนักงานเขตการศึกษามาสอนวิชาชีพ เครื่องจักสาน เสื้อผ้าย้อม ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้
ซึ่งผมดูว่ามันเป็นงานHandmadeที่ดูดีสามารถแข่งในตลาดโลกได้สบาย ดูดีมีเอกลักษณ์ ถ้าเราสามารถสร้างแบรนด์และโปรโมทดีๆไปได้ไกลครับ(ดาราไฮโซบ้านเราควรหิ้วไปออกงาน เอาชิ้นงานHi-endไปเดินโชว์พรมแดงนี่น่าเตะตามากๆ)
ในข่าวพระราชสำนักเราเห็นท่านออกงาน2-3นาที แต่ที่ท่านไปจริงๆคือ2ชั่วโมงนะครับ ไปครั้งหนึ่งหลายที่ หลายจังหวัด ท่ามกลางอากาศร้อน เหงื่อชุ่มพระวรกายพระองค์ท่านก็ไม่บ่น ทรงรับฟังปัญหาพระสกนิกรและคิดหาทางแก้ปัญหาอย่างจริงจังและยั่งยืน มีครั้งหนึ่งพระองค์ท่านตรัสว่า
"ที่อีสานชาวบ้านบอกว่ามีปัญหาน้ำแล้งมาก ปลูกข้าวไม่ได้ ก็ให้ลองไปทำผ้าย้อมสีธรรมชาติเพราะราคาดีกว่าสีสังเคราะห์ แล้วไปเยี่ยมดู ชาวบ้านก็บอกว่าลองทำแล้วแต่ไม่รู้จะดีหรือป่าวให้เราลองไปใช้เอง อันนี้ก็แปลกคนขายมาบอกแบบนี้กับคนซื้อ" ทรงพระสรวลและสร้างเสียงหัวเราะให้กับข้าราชบริพารโดยรอบ
ทรงรับชาวบ้านที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังไว้ในพระราชอุปถัมภ์ ซึ่งผมสังเกตว่าผู้ติดตามเป็นคนทำงานดี จดรายละเอียดและแนะนำผู้ป่วยได้อย่างดี(ซึ่งคณะติดตามและคณะทำงานดูEffectiveมากๆ)
ผมรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่ข้าราชการตัวเล็กๆริมชายแดนเป็นบุญชีวิตอย่างเหลือล้นที่ได้มีโอกาสรับเสด็จเห็นพระองค์ท่านทรงงานอย่างแท้จริง ทำให้รู้สึกว่างานของเรา ปัญหาต่างๆมันช่างเล็กน้อย และผมจะเป็นข้าราชการที่ดีรับใช้ประเทศ แบ่งเบาภาระของพระองค์ครับ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ความประทับใจของข้าราชการตัวเล็กๆที่ได้รับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ
ซึ่งครั้งหนึ่งพระองค์เคยเสด็จมาที่ร.ร.เมื่อปี 2552 ร.ร.อุดมศาสน์วิทยาเป็นโรงเรียนสอนศาสนาเอกชนควบคู่กับวิชาสามัญหรือ "ปอเนาะ"ที่หลายๆท่านอาจเคยได้ยินข่าวมา เริ่มแรกที่ผมได้ยินก็คิดภาพว่าคงเป็นมัสยิดสอนเด็กแบบบ้านๆและพระองค์คงมาเปิดตึกสร้างใหม่ประมาณนี้เหมือนๆกับคนใหญ่คนโตที่มาเปิดงาน
แต่เมื่อผมได้มีโอกาสรับเสด็จและเดินตามพระองค์ไปตรวจงานตามมูลนิธิชัยพัฒนาทำให้ผมตื้นตันในพระมหากรุณาธิคุณและพระจริยวัตรอันงดงามเป็นอย่างมาก
ตั้งแต่พระองค์ทรงเสด็จลงจากรถยนต์พระที่นั่งลงมาด้วยรอยยิ้ม ตรัสกับข้าราชบริพารอย่างไม่ถือตัวพร้อมด้วยเสียงหัวเราะ ทรงรับฟังรายงานของครูด้วยความใจเย็น และทรงพระอักษรจดรายงานอย่างละเอียด ไม่ทรงแสดงอาการหงุดหงิดทรงตั้งใจฟังการรายงานอย่างมาก (ผู้รับเสด็จบางคนก็แอบพูดคุยกันเองเสียงดังจนผมก็ไม่ได้ยินผู้พูดรายงานแต่พระองค์ก็ไม่ทรงโกรธเคืองผู้ใด)
ในอดีตร.ร.มีปัญหาคาดแคลนอาคารเรียน น้ำประปา นักเรียนจบไปไม่มีงานทำ พระองค์ก็พระราชทานทุนทรัพย์และรับสั่งให้หลายหน่วยงานมาช่วยดูแล
ผมทึ่งมากที่ปัจจุบันร.ร.มี Science Lab พร้อมระบบE-learning ตอนที่ไปนักเรียนกำลังทดลองหยดสารเคมีชนิดต่างๆเพื่อดูการตกตะกอน(คิดถึงตอนตัวเองเรียนมีแต่แลบแห้ง จำว่าสารตัวนี้ผสมกันได้อะไร แต่กับร.ร.ห่างไกลชายแดน เด็กๆได้เรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีและอ.จาก มหาลัย) ซึ่งผมได้คุยกับร.ศ.นพ.วรัญ ตันชัยสวัสดิ์ ท่านเป็นผู้ก่อตั้งโดยท่านบอกว่าเป็น Inspired learning ให้เด็กๆสนุกกับการเรียนรู้และโต้ตอบกับผู้สอนผ่านE-learningได้โดยตรง พร้อมกับหาคำตอบด้วยตนเอง(ซึ่งก็น่าสนุกจริงๆครับผมไปยืนดูตั้งนาน)
ด้านวิชาชีพมีอ.จากมูลนิธิชัยพัฒนา,สำนักงานเขตการศึกษามาสอนวิชาชีพ เครื่องจักสาน เสื้อผ้าย้อม ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้
ซึ่งผมดูว่ามันเป็นงานHandmadeที่ดูดีสามารถแข่งในตลาดโลกได้สบาย ดูดีมีเอกลักษณ์ ถ้าเราสามารถสร้างแบรนด์และโปรโมทดีๆไปได้ไกลครับ(ดาราไฮโซบ้านเราควรหิ้วไปออกงาน เอาชิ้นงานHi-endไปเดินโชว์พรมแดงนี่น่าเตะตามากๆ)
ในข่าวพระราชสำนักเราเห็นท่านออกงาน2-3นาที แต่ที่ท่านไปจริงๆคือ2ชั่วโมงนะครับ ไปครั้งหนึ่งหลายที่ หลายจังหวัด ท่ามกลางอากาศร้อน เหงื่อชุ่มพระวรกายพระองค์ท่านก็ไม่บ่น ทรงรับฟังปัญหาพระสกนิกรและคิดหาทางแก้ปัญหาอย่างจริงจังและยั่งยืน มีครั้งหนึ่งพระองค์ท่านตรัสว่า
"ที่อีสานชาวบ้านบอกว่ามีปัญหาน้ำแล้งมาก ปลูกข้าวไม่ได้ ก็ให้ลองไปทำผ้าย้อมสีธรรมชาติเพราะราคาดีกว่าสีสังเคราะห์ แล้วไปเยี่ยมดู ชาวบ้านก็บอกว่าลองทำแล้วแต่ไม่รู้จะดีหรือป่าวให้เราลองไปใช้เอง อันนี้ก็แปลกคนขายมาบอกแบบนี้กับคนซื้อ" ทรงพระสรวลและสร้างเสียงหัวเราะให้กับข้าราชบริพารโดยรอบ
ทรงรับชาวบ้านที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังไว้ในพระราชอุปถัมภ์ ซึ่งผมสังเกตว่าผู้ติดตามเป็นคนทำงานดี จดรายละเอียดและแนะนำผู้ป่วยได้อย่างดี(ซึ่งคณะติดตามและคณะทำงานดูEffectiveมากๆ)
ผมรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่ข้าราชการตัวเล็กๆริมชายแดนเป็นบุญชีวิตอย่างเหลือล้นที่ได้มีโอกาสรับเสด็จเห็นพระองค์ท่านทรงงานอย่างแท้จริง ทำให้รู้สึกว่างานของเรา ปัญหาต่างๆมันช่างเล็กน้อย และผมจะเป็นข้าราชการที่ดีรับใช้ประเทศ แบ่งเบาภาระของพระองค์ครับ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน