โดนรถชนรถ รถเละ และเราเป็นฝ่ายถูก ปัจจุบันยังเป็นหนี้ไฟแนนซ์อีกเป็นแสน





สวัสดีค่ะ เราจะเท้าความตั้งแต่ตอนเหตุเกิด วันที่ 14 เมษายน  2556 เราแฟนและเพื่อนอีกสองคน  รวม 4 คน เดินทางไปเที่ยวจังหวัด ระนอง กระบี่ ภูเก็ต จบท้ายที่สุราษฯ เขื่อนเชี่ยวหลาน แฟนเราเป็นคนขับรถให้ตลอดทางทั้งขาไปและกลับ ระหว่างเดินทางกลับกทม. ช่วงอำเภอ ท่าฉาง  เกือบถึงเมืองชุมพร มีฝนตกตลอดทาง แฟนเราขับด้วยความระมัดระวังเนื่องจากฝนตก ส่วนเราก็ช่วยมอง ข้างทาง เพื่อนหลับ ขับรถนะจะน่าไม่เกิน    40 -60   ขับอยู่เลนซ้ายตลอด ถนนเส้นนั้นมีแค่สองเลน เฉพาะขาเข้ากทม เกาะกลางเป็นโพงหญ้า คูน้ำเล็กๆ จราจรข้างทางรถค่อนข้างหนาแน่นเพราะเป็นวันหยุดวันสุดท้ายของสงกรานต์ ขับไปถึงจุดเกิดเหตุ เวลาประมาณ 18.30 น. รู้เพียง เสียงกระแทกข้างหลังดังปั๊งงงงงงง ดังมากสนั่น  เราเเฟนเพื่อน และรถสไลด์ไปข้ามเลนขวา เอียงไปตกเกาะกลางคูน้ำเล็กๆ ตอนนั้นตกใจมากทำไรไม่ถูก พอรถจอดสนิท  เราตะโกนถามเพื่อนมองหน้าแฟนถามเป็นไรมั้ยๆๆ เพื่อนที่นอนมาสองคน ผู้ชาย ผู้หญิง ผู้ชายนอนร้องโอดโอย โอ้ยๆๆเบาๆเกิดอะไรขึ้นวะ และลุกไม่ขึ้น เนื่องจากบาดเจ็บที่คอ แต่ไม่ถึงกับเลือดตกยางออก ผู้หญิง ใบหน้าเขียวช้ำ เนื่องจากแรงกระแทก ส่วนเรา หน้าผากถลอก เพราะไปกระแทกกับกระจกมองหลังแตก แฟนไม่เป็นอะไรมาก อาจเเค่เคล็ดด้วยแรงเหวี่ยงนิดหน่อย รีบหาโทรศัพท์เพื่อจะแจ้งอุบัติเหตุกับประกันภัย สิ่งที่เราเห็นตอนพยามยามออกจากรถ เพราะต้องปีนออก ตัวรถเอียงตกไปในคูน้ำเล็กๆเกือบครึ่ง ลงจากรถได้  ลงมาดูสภาพรถแม่เจ้าาาาาาาา ภาษาชาวบ้านคือ พังยับเยิน ส่วนท้ายบี้ รายละเอียดข้างในเสียหายค่อนข้างเยอะ   แฟนเราด้วยความโมโห เปิดประตูรถได้ ก็ตะโกนถาม ใครคันไหนชนรถ_ู   ภาพที่เห็น คือรถจอดชนอยู่สองคัน เลนซ้ายสุดที่เราขับมา คันท้ายสุดคือโตโยต้า อัลติส ชนท้าย  เชฟโลเลต จอดเจรจาอยู่ อุบัติเหตุครั้งนี้โตโยต้าอัลติสเป็นคนชน ทั้งเราและเชฟโลเลต ลำดับเหตุการ์คือชนเรากระเด็นออกข้ามเลน และพุ่งไปชนท้ายเชฟโลเลตอีกเป็นครั้งที่สอง โดยมีผู้ขับขี่ นาย ว.  เหตุการณ์ค่อนข้างชุนมุน เพราะมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย รถเรา คือเพื่อนเรา และรถคู่กรณี มีเด็ก มีชาวบ้านแถวนั้น วิ่งผ่าฝนเข้ามาให้ความช่วยเหลือ และโทรเรียกรถ พยาบาล พอเราไปถามว่าที่นี่คือตรงไหน เพื่อจะได้แจ้งกับประกันภัยถูก ด้วยความเป็นชาวบ้านในละแวกนั้น เขาพูดภาษาท้องถิ่น(ภาษาใต้)  ซึ่งตอนแรก เราสับสนมาก ขอโทษที่ฟังไม่ออกเลย ช็อกกับเหตุการณ์ด้วย ฝนก็ตก เพื่อนก็เจ็บ ทำไงดีๆ คู่กรณี ก็วุ่นวาย กับ คนในรถที่เจ็บ ลงมาขอโทษ ขอโพย บอกพี่รับผิดชอบๆเอง ตอนนั้นในใจคิดโอ้ยเกิดอะไรขึ้นเนี่ย กำลังจะกลับบ้าน แต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ แล้วที่นั้น คือ ต่างจังหวัด  พรุ่งนี้คือต้องไปทำงาน รถชน ขับต่อไม่ได้ เพื่อนเจ็บ ต้องรอ ประกัน ตำรวจ  แล้วรถเพิ่งซื้อมาได้ห้าเดือน พัง ยับเยิน ทำไงต่อ ตำรวจมา บอกเดี๋ยวรอประกันมาลากรถไปคุยกันที่โรงพักเพื่อแจ้งข้อหาของนาย ว. รอประกันมา  ร่วมชั่วโมง ประกันมาถึงถาม และจดบันทึกตามลำดับเหตุการณ์ และติดรถประกันภัยไปคุยกับคู่กรณี นายว. ที่โรงพัก สรุปคือ นายว. โทรเรียกคนพื้นที่ ที่รู้จักมียศ มาช่วยเจรจรา  เรื่องข้อหาขับรถชน นายว. อ้างว่าขับมา 80 ?  เจรจาเสร็จประมาณ 22.00 น. ทางเราต้องรอวันทำการเนื่องจากเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ บริษัทประกัน ปิดทำการ และประกันภัยที่มาเป็นประกัน แบบ หน่วยแทน  ส่วนเรา รอ จะทำไงดี คืนนี้จะนอนที่ไหน เพื่อนก็เจ็บอยู่โรงพยาบาล ทีแรกอยู่รพ.ไหนก็ไม่รู้ แล้วจะไปยังไง รถไม่มี เงินติดตัวก็เหลือน้อย เเถวนี้ที่ไหนไม่รู้จักเลย รู้เเค่ว่าคือสุราษฯ ญาติก็ไม่มี กลับกทม ก็ไม่ได้ เรื่องอยู่นี่ รถเป็นซากอยู่โรงพัก  สรุปจึงขออาศัย คนของคู่กรณีไป รพ เพราะคนของคู่กรณี รักษาอยู่รพ เดียวกับเพื่อน



-ถึงรพ. ส.
ด้วยสภาพอิดโรย หน้าผากถลอก เลือดซิบๆ แต่ไม่ได้ทำแผลอะไร ห่วงเพื่อน มากว่า นอนเฝ้า เพื่อนผู้ชาย หลังมารพ ก็นอนหลับไม่รู้สึกตัว เราก็ห่วงว่าจะ คอเคลื่อน หรือเคล็ด หรือ บลา บลา  เพื่อนผู้หญิงที่มาด้วยเป็นแฟนกันเป็นคนเฝ้าอยู่ก่อน นางก็บาดเจ็บตรงใบหน้า และลำตัว เฝ้าอยู่ค่อนข้างดึก เราไม่มีที่ไปจริงๆ เงินในกระเป๋า ก็ไม่พอเช่า โรงเเรมอยู่ เพราะมี 3 ชีวิต ที่ต้องรอ เพื่อนที่หลับอยู่ฟื้นขึ้นมาบอกอาการ ว่าเจ็บปวดตรงไหนอย่างไร ออกจากรพ ได้หรือไม่ สรุปนอนรักษา อยู่รพ สามคืน โดยที่ คอเคล็ด และแพทย์บอกห้ามขยับตัว แบบรุนแรง สามคืน ที่เรา เเฟน เพื่อนผู้หญิง นอนเฝ้า โดยที่ไม่มีที่ไปแม้แต่หาห้องพัก บอกคู่กรณีว่าเรามีเงินไม่พอ  และคุณต้องเป็นคนหาที่พักให้เรา นายว. อ้างว่า ให้จ่ายไปก่อนแล้วเอาใบเสร็จมาเพื่อไปเบิกกับประกันภัย รวมถึง ค่ารักษาพยาบาล นายว. มาเยี่ยมเป็นระยะ เพราะ ลูก และ เมีย บาดเจ็บหัวแตกแขนหักอาการไม่ได้หนักค่ะ อยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว และยังอยู่ที่รพ เดียวกัน มาทีก็จะพูด ต่างๆนาๆเกี่ยวกับว่าลูกเมียรักษาตัวอยู่ เป็นห่วง ๆ เราอยากย้อนถามมาก แล้วที่ทุกคนต้องเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เพราะนายว.  หรอ? (คิดในใจ)และพูดทุกครั้งบอกเรื่องอุบัติเหตุนี้ไม่ต้องห่วงพี่รับผิดชอบเอง เเต่พอถามถึง ค่ารักษา พยาบาล ค่าที่พัก บอกให้เก็บใบเสร็จไว้เเล้วจะไปเบิกให้ประกันรถพี่ชั้น 1  เราเเฟนและเพื่อนเลยตัดสินใจกันว่า ในเมื่อไปไหนไม่ได้ก็อาศัยนอนรพ นี้ไปก่อน นั่งนอนๆ รอเวลา วันที่สอง ต้องไปเอาของที่รถ เช่นหมอนผ้าห่ม เสื้อผ้า เพื่อมาเปลี่ยน การเดินทางไปสน. จากรพ ไป ค่อนข้างลำบากเพราะไม่รู้จักเส้นทาง แต่ก็ถามคนแถวนั้น คือการนั่งรถตู้ไป แล้วลงปากทาง และต้องเข้าซอยไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งไม่มี2เเถวหรือรถประจำทาง คงต้องเดิน เราและแฟนเดินไป ถึง สน. ไปเปิดรถ สภาพรถคือปิดประตูหลังไม่ได้กระจกแตก ของด้านในเปียกปอน กระเป๋าเดินทางท้ายรถก็เเตกหัก และเอาของมาเปลี่ยนได้ เป็นบางอย่าง และเดินทางกลับรพ เพื่อเฝ้าเพื่อนต่อ คืนวันที่สอง พยาบาลถามไถ่ เป็นระยะ ด้วยการพูดสำเนียงใต้ อารมณ์เราตอนนั้น เหมือนอยู่ในหนังเรื่องเพื่อนสนิท  มีคนบาดเจ็บมา พลัดถิ่น กลับไม่ได้ ต้องรอ เจรจากับคู่กรณี และตำรวจที่สน และเรื่องรถ ว่าบริษัทประกันภัยจะลากกลับไปกทมได้อย่างไร ที่สำคัญคือลางานทั้ง สี่คน แต่ละคนไม่ได้ทำอยู่บริษัทเดียวกันนะคะ แต่ต้องลางานด้วยอุบัติเหตุนี้ ร่วมอาทิตย์หลังจากหยุดยาวสงกรานต์ โดยก็ยังขออาศัย วนเวียนอยู่ในรพ ทั้งสามคน ติดต่อแม่แจ้งเรื่องอุบัติเหตุ แม่ก็บอกจะโอนเงินมาให้ แต่เราคิดว่า เราต้องควักเนื้อจ่ายเองหรอวะ นี่นายว. เป็นคนขับรถชน แล้วมาพูดปากเปล่า ว่ารับผิดชอบๆๆ เเต่ไม่ทำไรสักอย่าง คืนวันสุดท้าย ตอนกลางวันนายว. มาดูอาการเพื่อน แล้วถามว่าพวกเราจะเอาไรมั้ย ต้องการไรเพิ่มเติมบอกพี่ได้ เราบอกนอนพื้นรพ มาสองคืนติดแล้วไม่มีผ้าปูหรือเสื่อ ขอเสื่อกับหมอน นายว. หายไปสักพัก สิ่งที่ได้คือ  หมอนผ้าห่มแบบบางเฉียบ เปื้อนเลือด น่าจะเป็นลูกไม่ก็เมีย นำมาให้ 1 ใบ เอิ่ม สุดบรรยายจริงๆค่ะ คนแบบนี้ เขาเป็นคนมีฐานะ และเป็นคนที่รู้จักคนพื้นที่ พอสมควรนะคะ แต่……  เช้าวันที่สี่ หมอบอกให้เพื่อนเราออกจากรพ ได้ เเต่ห้ามกระทบกระเทือนหนัก เพราะเพื่อนเราเข้าเฝือกที่คออ่ะค่ะ สรุปค่ารักษาพยาบาล ครั้งนี้ พรบ คุ้มครองรถ เป็นคนออกค่าใช้จ่ายนะคะ นายว. ไม่ต้องพูดถึงค่ะ ตอนถามก่อนออกจากรพ.เรื่องค่าใช้จ่าย นายว. ตอบว่าพี่มีบัตรเครดิต อ่ะ รพ.เขารับมั้ย ? … ตลอดระยะเวลา เราเครียดมากเลยนะคะ ไหนจะเพื่อน รถ ประกัน พรบ เงิน ที่พัก งาน โรงพัก แล้วจะกลับกทม ได้วันไหนเมื่อไหร่ คดีจะเป็นอย่างไร รถจะทำไง การเดินทางไปคุยเรื่องเอาซากรถออกจากสน วันที่สี่ เราไปกันหมดเลยค่ะสี่คน ทุกคนคิดไว้ว่าวันนี้จะได้กลับกทม แล้ว


เดินทางไปถึงสน.
พี่ตำรวจลงบันทึกประจำ และให้เราเจรจากับคู่กรณีกรณีค่าเสียหายเบื้องต้น เราแจ้งไปว่าตอนนี้ขอค่ารถ กลับบ้าน 4 คน วันนี้ต้องได้กลับบ้าน เพราะเนื่องจาก ลางาน เสียการงาน รถ เงินทอง มามากพอแล้ว  ไม่ได้เรียกค่าเสียหายหรือค่าตกใจอะไรเลย ตอนแรกเราบอกว่าเพื่อนเราต้องนั่งเครื่องบินกลับ 2 คน คือที่เข้าเฝือกคอ และแฟน  เพราะหมอยังห้ามกระทบกระเทือน นายว. พี่ไม่เงินจ่ายค่าเครื่องบินหลอก? เราย้อนถามถ้าเพื่อนเราอาการแย่ไปกว่านี้ทำไง คุณจะรับผิดชอบชีวิตเขาได้มั้ย อาการเส้นเอ็นนะ ถ้าไปโดนจุดสำคัญ เป็นอัมพาต ใครจะรับผิดชอบ นายว. โทรศัพท์ ถาม สารพัด พรบ ประกันภัย เพื่อที่จะไม่ควักเงินจ่ายเอง สรุปคือ ไม่มี ไม่หนี ต่อรองกันจน กลับรถทัวร์ ขอค่ารถคนละ1000 บาท  ค่ารถทัวร์ กลับกทม ด้วยต้องพาเพื่อนสภาพมีเฝือกกลับด้วยกัน นายว. พี่มีไม่ถึงหลอก? เราอึ้งมากเลยนะ เห้ยคือแบบอยากจะตะโกนด่า และโวยวายออกมา แต่ด้วยเป็นคนเก็บอารมณ์ เลยพูด โต้ไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแบบคนจะร้องไห้ แล้ว ว่านี่แค่ค่ารถเองนะพี่ คนละ1000ค่าโดยสาร รถทัวร์ แบบสภาพดีหน่อย ตอนนั้นเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แค่ประมาน700-800 บาท
แล้วพี่จะจ่ายเท่าไหร่ ยังไงนายว. โทรศัพท์ หา พรบ ประกันภัยอีก แล้วตอบว่าพี่มี3000 เอิ่มมม เราพูดออกไปหลายอย่างเลยนะ ว่าแค่นี้เอง ค่ารถไม่ได้เอาเงินไปทำไร ต้องการจะกลับบ้าน ให้เร็วที่สุด นี่ นอน รพ มาสามสี่วัน ไม่ได้ร้องขออะไรมากมายเลย ยังมาต่อรองกันอีก ระหว่างที่อยู่รพ ค่าข้าว น้ำ ทุกอย่างเรา แฟนเพื่อนเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด  จนพี่ตำรวจท่านนึง ลั่นออกมาว่า น้องก็ยอมๆเขาไปเถอะ เรื่องจะได้จบ  อึ้งค่ะพูดไม่ออก อยากพังทุกอย่างตรงหน้า แต่ได้แค่คิดในใจ นี่หรือเมืองพุทธ นายว. ขับรถชนพังยับเยิน ติดอยู่สุราษ นอน พื้น รพ สามคืน เดินทาง หากินเอง ตามอัตภาพ ทั้งๆที่ไม่มีความผิดเลย เป็นโชคชะตา ก็ว่าได้ค่ะ ซวยมาก  สรุปนายว. จ่ายเงินมา3000 เราและเพื่อนได้กลับบ้านค่ะ เดินทางมาถึงกทม ต่อจากนี้จะเป็นรายละเอียดกับรถและประกันภัย

ยังไม่จบนะคะ ต่อที่คอมเม้นด้านล่างค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 28
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ พาพันไม่สบาย
เห็นเหมือนเพื่อนๆ ด้านบนคือทนายคุณไม่เก่งเลย
เรื่องพวกนี้เวลาฟ้องต้องเผื่อไปมากๆ
แต่เรื่องดอกเบี้ยรถไม่เกี่ยวนะ
อันนั้นมันเป็นเรื่องของคุณกับเจ้าหนี้
คุณต้องเข้าไปไกล่เกลี่ย และประนอมหนี้
แต่นี่เล่นไม่ไปคุยกับเค้า เรื่องยากเลยทีนี้
จะคิดว่าแจ้งหยุดการใช้รถ แล้วไม่ส่งต่อไม่ได้
ติดบูโร งานยาวเลยครับ
กว่าจะหลุดคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี

อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัว ....
คุณเป็นคนวางแผนการเงินค่อนข้างแย่
(ถึงขนาดไม่มีเงินจ่ายค่าที่พัก ...โห)
ไม่มีการเตรียมเหตุการณ์เผื่อล่วงหน้า
ทั้งที่ขับรถไปไกล รถก็เล็ก แถมลงใต้
และนี่ก็คือเคส หนึ่งในผู้หลงกับส่วนลดเงินแสน
ทั้งที่ยังไม่พร้อม ดาวน์น้อย ผ่อนนาน
ดอกบานตะไท แสนสี่ แม่จ้าว
แทนที่จะเอาตังดาวน์ให้มากที่สุด
กลับเอาตังไปแต่งรถก่อน เรื่องมันก็เป็นเช่นนี้
ความคิดเห็นที่ 46
ศาลตัดสินถูกแล้ว นาย ว. ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการเช่าซื้อใดๆ
จะให้รับผิดไม่ได้ อุทรณ์เสียเงินอีกก็ไร้ประโยช์
มันเป็นหลักกฏหมายพื้นฐานเลย
ทำผิดแค่ไหนก็รับผิดชอบแค่นั้น

นาย ว ชนรถ ทำให้รถเสียหาย
ประกันนาย ว. จ่ายค่าเสียหาย ต่อรถ
และ ต่อ บุคคลที่ 3 ในรถของคุณด้วย
ทั้งด้านการรักษา และด้าน สินไหมทดแทน เช่น
ค่าหยุดงาน ค่าสภาพจิตใจ หรือ อะไรต่างๆ ถ้าเกินทุนประกัน ประกันก็ต้องจ่ายให้คุณก่อนแล้วไล่บี้เอากับ นาย ว.อีกที
แต่ทำไมศาลท่านสั่ง จ่าย น้อยจัง น้อยไปป่าวเนี่ย
ประเมินจากอะไร

สภาพรถก่อนชน
หรืออะไร หรือมีเปอร์เซ็นส่วนรับผิดร่วมกันเพราะ
ประมาททั้งคู่เหมือนคดีหลายๆคดี
ได้ต่อสู้กันตรงประเด็นนี้ไหม หรือนาย ว. รับผิดว่าตนแระมาทเอง นาย ว. หาว่าพวกคุณเบรคกะทันหันไหม เพื่อให้คุณมีส่วนรับผิดร่วมกัน
ถ้าเป็นแบบนั้นจะได้เงินน้อยหากศาลท่านพิจรณา
ว่าประมาททั้งสองคน
อันนี้ไม่คิดว่าใช่แต่ลองถามดูเพื่อความแน่ใจ


ในส่วนค่าน้ำใจหรือค่าจริยธรรม ของคน เช่น
ช่วยค่า รถเดินทาง ค่าเครื่องบินนาย ว. ควรต้องมีน้ำใจไม่ใช่จะให้ประกันจ่ายเพราะมันนอกเหนือการคุ้มครองของประกัน

และประกันของคุณ ทำไมคืนเบี้ย ทำไมคุณถึงยอมรับเบี้ยคืน
ตลกมาก บริษัทอะไรคะ มันเป็นข้อยกเว้นการคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์หรอ ไม่น่าจะใช่นะ อะไรรถพึ่งออกอะไหล่ไม่มีเคลมไม่ได้
ใช่ข้อยกเว้นในกรมธรรม์หรือเปล่าลองตรวจสอบดู
ถ้าไม่ใช่จัดการฟ้อง อย่างน้อยต้องได้เงินที่คิดเป็น เปอร์เซ็นของทุนประกันกรณีซ่อมไม่ได้
เช่น ชนจนเกินซ่อม ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือรถหาย จ่าย 30% หรือ 50% หรือกี่% ที่ระบุไว้ในสัญญา
คุณควรฟ้องประกันคุณให้เครมให้ จ่ายค่าชดเชย
สินไหมให้คุณสิ
แล้วก็เป็นหน้าที่ของประกันที่จะไปไล่บี้เอา กับ นายว.หรือประกันของนาย ว. ไม่ใช่มาคืนเบี้ยคุณ
ทำไมประกันไม่ปกป้องผลประโยชน์ของคุณเลย
เงินซื้อประกันคือซื้อความเสี่ยงที่จะเกิด
ซื้อไปแล้วต้องได้รับความคุ้มครอง
ไม่ใช่มั่วๆคืนเบี้ยจบๆไป ไม่อย่างงั้นก็ไม่ควรรับทำแต่แรก
หน้าที่ของประกันที่ต้องส่งทนายของบริษัทมาดูแลคดีคุณ
เพราะมันเป็นผลประโยชน์บริษัทประกัน
เพราะถ้าทางนั้นไม่จ่ายบริษัทประกันคุณต้องจ่ายคุณตามกฏหมาย เขาถึงต้องมีทีมทนายดูแลให้ลูกค้า ต้องมานั่งจ้างทนายเอง ป้าดดดดด


ขนาดคนผิดชนคนตาย ต้องจ่ายค่าประกัน

บริษัทประกันรถยังต้องประกันตัวออกมาสู้คดีตาม
สิทธิเลย นี่อะไร คุณถูกชัดๆ ไม่ใยดี คืนเบี้ย
มันบริษัทหัว...อะไรกัน
บอกทีเถอะอยากรู้

ถ้าคิดว่าไม่ได้รับความเป็นทำในการยอมรับการคืนเบี้ย
ฟ้องเลย สัญญาที่ไม่เป็นธรรมถือว่าโมฆะตั้งแต่แรก
เช่น  การคืนเบี้ยทั้งที่เรามีสิทธิเคลม ถึงคุณจะเซ็นรับเบี้ยคืนก็ไม่ถือว่าสิ้นสุดของสัญญา คุณหาทนายฟ้องเลยบริษัทแระกันคุณนั่นแหละ
แต่ต้องดูดีๆก่อนว่ามันอยู่ในข้อยกเว้นในกรมธรรม์ไหม
ความคิดเห็นที่ 33
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ แต่เราว่าคุณไม่พร้อมจะมีรถตั้งแต่ตอนแรก
1. ผ่อน 84 เดือน เต็มเวลายาวสุดที่เค้าให้ ดอกเบี้ยก็แพงและ*7 ปีแน่ะ
2. ดาวน์ต่ำ ทำให้เหลือยอดหนี้สูงมาก
3. ทำประกันไม่ครอบคลุมมูลค่าของรถ สมมติ รถ 600,000 ประกันให้ 80%
ของราคารถ ได้แค่ 480,000 บาท ถ้าดาวน์ไปสัก 150,000 เหลือผ่อน 450,000
ก็ไม่เจ็บตัวแล้ว เพราะได้ค่าภาษีคืนมาอีกจากรัฐบาลตั้งเยอะ
4. แทนที่จะเอาเงินก้อนที่ได้มาโปะรถ กลับเอามาแต่งรถ ทั้งๆที่เงินเก็บก็ไม่มี
ความคิดเห็นที่ 31
แต่ไม่ต้องรับผิดเรื่องค่าดอกเบี้ยที่คงค้าง เพราะเป็นตกลงเช่าซื้อกันระหว่างเรากับธนาคารเองก่อนนหน้าเหตุเกิด ไม่เกี่ยวกับนายว. ความรู้สึกแรกเหมือนโดนถีบลงงมาจากตึก18ชั้น ท่ามมวลกลางอากาศอันหนาแน่น จุกมากค่ะ พูดไม่ออก ร้องก็ไม่ออก เงินที่ศาลให้มายังถึงครึ่งนึงของยอดการปิดดอกเบี้ยเลยแล้วไหนจะค่าจ้างทนายความอีก
^
^
ศาลท่านตัดสินเที่ยงธรรมแล้วนะครับ

เรื่องหนี้ที่คุณจะต้องเคลียร์กับเจ้าหนี้ มันคนละส่วนกัน ซึ่งถ้าคุณลองค้นคดีควาเรื่องรถหายหรือรถชนด้วยตัวเอง
คุณจะทราบเลยว่ามันต้องแยกกันครับ  และมีวิธีจัดการทำให้หนี้ลดลงได้เยอะมาก ไม่ต้องจ่ายหนี้เต็มตลอดอายุสัญญาก็ได้ ถ้าทำถูกต้องตั้งแต่แรก  


เคยติดต่อธนาคารในกรณีปิดหนี้ ธนาคารเเจงว่า 9X,XXX  และ 8X,XXXตามลำดับเราจึงสอบถามกลับไปว่าทำไมไม่เป็นไปตามสัญญาเช่าซื้อว่าจะลดดอกเบี้ย 50% ทำไมไม่เป็นไปตามนั้นเขาอ้างว่าเเล้วเเต่การพิจารณา
^
^
กม.พรบ.เช่าซื้อกำหนดชัดแล้วครับ ว่าถ้าจ่ายเงินก้อนต้องลดดอก 50%  คุณต้องเอากฎหมายไปยันตั้งแต่แรก
แบงก์จะมาบอกว่า "แล้วแต่พิจารณาไม่ได้"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่