บทที่๒
(ธงชาติเวียดนาม)
ตรีภูวันเข็นรถสัมภาระเดินตามผู้หญิงผมสั้นที่เดินฉับๆมุ่งหน้าไปที่จุดผ่านพิธีศุลกากรช่องตรวจสีเขียวก่อนที่ชายหนุ่มจะเริ่มลำเลียงสัมภาระทั้งหมดผ่านเครื่องสแกนเพื่อผ่านออกไปสู่ทางออกด้านนอก
รุ่นน้องสาวตัวเล็กเตี้ยส่งสัญญาณว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่มีอะไรติดขัดก่อนจะเดินฉับๆออกไปโดยทิ้งให้ ‘ ลูกพี่’ ก้มหน้าก้มตายกสัมภาระทั้งหลายลำเลียงขึ้นบนรถเข็นอีกครั้ง และก็อย่างเคย เมื่อเขาเข็นรถเข็นผ่านประตูออกมา หญิงสาวก็ยืนรออยู่แล้วพร้อมซิมการ์ดที่ใส่ในพ็อคเก็ตไวไฟ (Pocket WiFi )พร้อมใช้ และเจ้าหน้าที่ของบริษัทรถเช่า
“แลกเงินหรือยัง” คนเป็นลูกพี่ถามเบาๆ ก่อนจะยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้ยินเสียงตอบสั้นๆว่า”ค่ะ”
“เร็วจริงแฮะ” เสียงชวนคุยต่อนั้นทำให้หญิงสาวหันมายิ้มแยกเขี้ยวทะเล้นใส่ “ถูกใจ อย่าลืมให้ทิปนะฮะ”
ชายหนุ่มเข็นรถเดินตามแม่รุ่นน้องยอดขมองอิ่ม ยอมรับว่าตัวเองโชคดีที่มีเพื่อนร่วมงานที่ ’ได้ดั่งใจ’ อย่างธีรดา แม้ในสายตาของใครหลายคน รุ่นน้องของเขาไม่โดดเด่นเลย ไม่ใช่แค่ไม่โดดเด่นเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงหากหลายคนยังคิดว่ารุ่นน้องของเขาติดจะทื่อมะลื่อ และ ’ขวานผ่าซาก’ มากไป
บางครั้งที่มีคนถามว่าเขาคิดอย่างไรถึงได้ชักชวนเจ้าหล่อนเข้ามาร่วมทีม อดยิ้มขำทุกทีเมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่แต่งหน้า สวมใส่แต่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ตลอดกาล
"ก็มันอยู่แต่ในโรงงาน จะแต่งหน้าหาพระแสงอะไร แล้วมันเดินขึ้นไลน์วันละสองรอบเป็นอย่างน้อย จะให้มันทรงเครื่องใหญ่หรือไงวะ"
"มันแปลกๆ" บางคนเคยเปรย
"แปลกยังไง’"เขาเองก็อยากรู้
"บอกไม่ถูก มันเหมือนทื่อๆ แต่มันก็กวนว่ะ น้องมันเกรียน กวนตีนแบบแปลกๆ แถมยังครึ่งหญิงครึ่งชาย กูระบุเพศมันไม่ได้นะเนี่ย จะทอมหรือไม่ทอม กูไม่เคลียร์"
ตรีภูวันเพียงแต่ยิ้มและวางเฉย เขาไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปโต้แย้งกับพวกที่มองรุ่นน้องของเขาด้วยสายตาที่มีอคติ สำหรับเขาที่รู้จักธีรดามาตั้งแต่สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย เจ้าหล่อนเป็นรุ่นน้องในคณะและยังเป็นน้องชมรมที่น่ารัก นักศึกษาสาวน้อยที่ตัวกลมนิดๆ พูดน้อย แต่เมื่อเจรจาก็ได้สาระไม่น่ารำคาญ อีกทั้งยังมีอารมณ์ขันพ่วงคารมที่คมกริบ รุ่นน้องสาวน้อยในวันนั้นขยันขันแข็งและชื่นชอบการเรียนภาคปฏิบัติและการฝึกงานนอกสถานที่มาก แถมยังชอบการออกไปตะลอนกับเหล่าชมรมทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นการออกค่ายอาสาพัฒนา หรือการออกไปทัศนศึกษาเปิดหูเปิดตายังสถานที่แปลกใหม่
พอเรียนจบมาเจ้าหล่อนก็ได้เข้าทำงานในโรงงานเดียวกันกับเขา หากแต่ตรีภูวันค้นพบว่าการทำงานในโรงงานนั้นไม่ใช่ทางชีวิตที่เขาจะเลือกเดิน ชายหนุ่มจึงแยกย้ายออกไปแสวงหาหนทางสายใหม่ แต่ก็ยังคงติดต่อคบหาปรึกษาเรื่องงานกับธีรดาอย่างต่อเนื่อง
..... บังกลา ล่าหัวใจ .....(บทที่๒)
ตรีภูวันเข็นรถสัมภาระเดินตามผู้หญิงผมสั้นที่เดินฉับๆมุ่งหน้าไปที่จุดผ่านพิธีศุลกากรช่องตรวจสีเขียวก่อนที่ชายหนุ่มจะเริ่มลำเลียงสัมภาระทั้งหมดผ่านเครื่องสแกนเพื่อผ่านออกไปสู่ทางออกด้านนอก
รุ่นน้องสาวตัวเล็กเตี้ยส่งสัญญาณว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่มีอะไรติดขัดก่อนจะเดินฉับๆออกไปโดยทิ้งให้ ‘ ลูกพี่’ ก้มหน้าก้มตายกสัมภาระทั้งหลายลำเลียงขึ้นบนรถเข็นอีกครั้ง และก็อย่างเคย เมื่อเขาเข็นรถเข็นผ่านประตูออกมา หญิงสาวก็ยืนรออยู่แล้วพร้อมซิมการ์ดที่ใส่ในพ็อคเก็ตไวไฟ (Pocket WiFi )พร้อมใช้ และเจ้าหน้าที่ของบริษัทรถเช่า
“แลกเงินหรือยัง” คนเป็นลูกพี่ถามเบาๆ ก่อนจะยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้ยินเสียงตอบสั้นๆว่า”ค่ะ”
“เร็วจริงแฮะ” เสียงชวนคุยต่อนั้นทำให้หญิงสาวหันมายิ้มแยกเขี้ยวทะเล้นใส่ “ถูกใจ อย่าลืมให้ทิปนะฮะ”
ชายหนุ่มเข็นรถเดินตามแม่รุ่นน้องยอดขมองอิ่ม ยอมรับว่าตัวเองโชคดีที่มีเพื่อนร่วมงานที่ ’ได้ดั่งใจ’ อย่างธีรดา แม้ในสายตาของใครหลายคน รุ่นน้องของเขาไม่โดดเด่นเลย ไม่ใช่แค่ไม่โดดเด่นเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงหากหลายคนยังคิดว่ารุ่นน้องของเขาติดจะทื่อมะลื่อ และ ’ขวานผ่าซาก’ มากไป
บางครั้งที่มีคนถามว่าเขาคิดอย่างไรถึงได้ชักชวนเจ้าหล่อนเข้ามาร่วมทีม อดยิ้มขำทุกทีเมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่แต่งหน้า สวมใส่แต่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ตลอดกาล
"ก็มันอยู่แต่ในโรงงาน จะแต่งหน้าหาพระแสงอะไร แล้วมันเดินขึ้นไลน์วันละสองรอบเป็นอย่างน้อย จะให้มันทรงเครื่องใหญ่หรือไงวะ"
"มันแปลกๆ" บางคนเคยเปรย
"แปลกยังไง’"เขาเองก็อยากรู้
"บอกไม่ถูก มันเหมือนทื่อๆ แต่มันก็กวนว่ะ น้องมันเกรียน กวนตีนแบบแปลกๆ แถมยังครึ่งหญิงครึ่งชาย กูระบุเพศมันไม่ได้นะเนี่ย จะทอมหรือไม่ทอม กูไม่เคลียร์"
ตรีภูวันเพียงแต่ยิ้มและวางเฉย เขาไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปโต้แย้งกับพวกที่มองรุ่นน้องของเขาด้วยสายตาที่มีอคติ สำหรับเขาที่รู้จักธีรดามาตั้งแต่สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย เจ้าหล่อนเป็นรุ่นน้องในคณะและยังเป็นน้องชมรมที่น่ารัก นักศึกษาสาวน้อยที่ตัวกลมนิดๆ พูดน้อย แต่เมื่อเจรจาก็ได้สาระไม่น่ารำคาญ อีกทั้งยังมีอารมณ์ขันพ่วงคารมที่คมกริบ รุ่นน้องสาวน้อยในวันนั้นขยันขันแข็งและชื่นชอบการเรียนภาคปฏิบัติและการฝึกงานนอกสถานที่มาก แถมยังชอบการออกไปตะลอนกับเหล่าชมรมทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นการออกค่ายอาสาพัฒนา หรือการออกไปทัศนศึกษาเปิดหูเปิดตายังสถานที่แปลกใหม่
พอเรียนจบมาเจ้าหล่อนก็ได้เข้าทำงานในโรงงานเดียวกันกับเขา หากแต่ตรีภูวันค้นพบว่าการทำงานในโรงงานนั้นไม่ใช่ทางชีวิตที่เขาจะเลือกเดิน ชายหนุ่มจึงแยกย้ายออกไปแสวงหาหนทางสายใหม่ แต่ก็ยังคงติดต่อคบหาปรึกษาเรื่องงานกับธีรดาอย่างต่อเนื่อง