เลือกแบบไหนดี แฟนหรือครอบครัว

เราอายุเกือบ 30 แล้ว ตอนนี้ก็ทดลองใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายคนนึงอยู่ ปัญหาของเราคือ ครั้งนึงสมัยเราเป็นโสด เรายังอยู่คนเดียว เราก็เป็นมนุษย์เงินเดือนคนนึง บ้านเราไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ได้จัดอยู่ในขั้นลำบาก ตั้งแต่เรียนจบมาเราก็ทำงานส่งเงินให้แม่เราใช้ตลอด ตามกำลังที่เราให้ไหว ซึ่งครอบครัวเราเค้าก็ไม่ได้เรียกร้องหรอก แต่เราทำให้เพราะเราคิดว่ามันเป็นหน้าที่ หน้าที่ที่ลูกคนนึงต้องทำให้พ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามาตลอดชีวิตสบายขึ้นบ้าง เมื่อปีก่อนเราตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่บ้านแฟน แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน เราเป็นคนไม่ได้คิดมากเรื่องพวกนี้ แต่ก็มีบางครั้งที่แอบคิดเพราะกลัวว่าพ่อแม่จะถูกคนอื่นดูถูก หาว่าลูกไม่ได้แต่งงาน กลัวพ่อแม่จะอายคน แต่ก็ไม่เคยได้ยินสิ่งเหล่านี้จากปากพ่อกับแม่เลย หลังจากเราย้ายมาอยู่กับแฟนสักพัก เค้าก็อยากให้เราลาออกจากงานมาช่วยกันดูแลงานของเค้า แฟนเราทำธุรกิจส่วนตัว ไม่ได้รวย ไม่ได้จน ก่อนลาออกมาเราก็ไม่ได้ตกลงกันก่อนว่าถ้ามาช่วยทำเธอต้องจ่ายเงินเดือนให้เราหรือว่าอะไร ก็ถือว่าทำไปใช้ด้วยกัน อยากได้อะไรเค้าก็ซื้อให้ อยากไปไหนเค้าก็พาไป ทั้งเที่ยวในไทยหรือต่างประเทศก็ช่วยกันหาช่วยกันจ่ายตลอด ซึ่งแฟนเราเป็นคนถือเงินคนเดียว เราแทบไม่เคยพกเงินติดตัวเลย พกเต็มที่ก็แค่หลักไม่กี่ร้อยบาท พอเรามาอยู่กับเค้าสักพัก เราก็ไม่ได้ส่งเงินให้ที่บ้านเราใช้เหมือนเดิม ด้วยเหตุผลแรกเลย คือเงินไม่ใช่น้ำพักน้ำแรงของเราเราก็ไม่กล้าเอ่ยปากขอแฟน จนเวลาผ่านไปหลายเดือนแม่เราก็มีปัญหาเรื่องงานของเค้า รวมถึงปัญหาเรื่องการเงินด้วย เค้าก็เอ่ยปากขอยืมเงินเราเป็นครั้งแรก รวมไปถึงถามเราตรงๆว่าทำไมเดี๋ยวนี้ไม่โอนเงินให้ใช้เหมือนแต่ก่อน มีปัญหาอะไรรึป่าว เราเลยบอกแม่ไปตรงๆ รวมถึงบอกเค้าว่าเราไม่มีเงินเก็บเลย เรามีแค่สลากออมสินแสนเดียวที่เคยซื้อไว้ตอนยังทำงานออฟฟิตอยู่ ถ้าแม่ไม่ไหวจริงๆเราจะไปถอนให้ เพราะเราคิดว่าส่วนนึงก็เป็นความผิดเรา ที่เราไม่ได้ดูแลแม่เลย ตอนนั้นแม่เราก็เริ่มเตือนเราเรื่องแฟน เตือนเรื่องที่เราไปทุ่มเทใจมากเกินไป เตือนเรื่องที่เราไม่ทำอะไรเพื่อตัวเองเลย แต่ตอนนั้นเราโลกสวย เราก็บอกแม่ไปตรงๆว่าไม่ต้องคิดมากหรอก ยังไงก็ต้องอยู่ด้วยกันยันแก่อยู่แล้ว สิ่งที่ทำไว้มันก็ไม่ได้หายไปไหน หลังๆแฟนเราเริ่มเอาเงินสดและเงินเก็บบางส่วนที่เก็บร่วมกันไปซื้อพวกกองทุน ไปฝากประจำ แต่ทุกอย่างเป็นชื่อของเค้าหมด ไอ้เราก็ถามไปแบบซื่อๆว่าไม่เห็นฝากชื่อเราบ้าง เค้าตอกกลับมาซะจนเราเงิบไปเลย ว่าเค้าจะฝากชื่อเราทำไม ในเมื่อมันเป็นเงินเค้า หลังจากวันนั้นความรู้สึกเรากับผู้ชายคนนี้ก็เปลี่ยนไปเลย หลังๆเราเลยแกล้งๆลองถามเค้าว่าแต่งงานกันดีมั้ย เค้าก็บอกว่าจะแต่งทำไมสิ้นเปลือง ถ้าอยากแต่งให้ออกเงินค่าจัดงานเอง มีปัญญามั้ยล่ะ. เราเงิบอีกครั้ง เราเลยบอกงั้นก็ไปผูกข้อไม้ข้อมือแล้วจดทะเบียนกัน พ่อแม่จะได้ไม่คิดมากเค้าก็ไม่เอา จนล่าสุดเราเริ่มเบื่อกับชีวิตแบบนี้ เราเลยบอกเค้าว่าจะไปหางานทำเป็นของตัวเองแล้วนะ อยากมีเงินส่วนตัวไว้ใช้บ้าง อยากมีเงินให้พ่อแม่บ้าง เค้าบอกเราว่าแยกออกมาอยู่เองแล้วทำไมต้องให้ เค้ายังทำงานไหวเดี๋ยวเค้าก็หาใช้เองแหละ แต่ถ้าอยากทำมากก็ย้ายกลับไปอยู่บ้านตัวเองเลยไป เราเลยสับสนเล็กน้อยว่าควรทำยังไง เรายังรักเค้าอยู่มากแต่เราก็เริ่มทนกับความเห็นแก่ตัวของเค้าไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่