"พาแม่ตะลอน ตอนที่ท่านยังแข็งแรง" ...เพราะช่วงชีวิตตั้งแต่เด็กจนเรียนจบมหาวิทยาลัย ผมยังขอเงินที่บ้านใช้อยู่ (แต่ถ้าอยู่บ้านก็ช่วยที่บ้านทำงานนะครับ ^^...ที่บ้านค้าขาย) และวัยผมช่วงนี้ก็ติดเพื่อน ไปเที่ยวไหนมาไหนจะไปกับเพื่อนตลอด เวลาไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็สนุกสนานเฮฮา บางครั้งเห็นอะไรสวยๆงามๆ ในหัวก็จะแว็บขึ้นมาพาให้นึกถึงที่บ้าน อยากให้ที่บ้านมาเห็น มาพบมาเจอ เหมือนที่เรากำลังพบและแฮบปี้อยู่ตอนนี้
...แน่นอนครับ ไม่ว่าใครถ้าแก่ตัวไปด้วยวัยและสังขาร อาจทำให้การเดินทางท่องเที่ยวนั้นไม่สะดวกเท่าที่ควร เรี่ยวแรงที่ผมมีอยู่ในตอนนี้ เลยหาโอกาสพาแม่เที่ยวบ้างดีกว่าครับ ^^
...ผมคิดไว้ว่าสักวันหนึ่ง ทำงานหาเงินเองเป็น พอมีเงินเก็บบางส่วนที่ใช้เที่ยวได้ ก็จะพาที่บ้านไปขึ้นภูขึ้นเขาตามงบของเราที่มี เพราะตอนเด็กก็มีแต่ครอบครัวเราเองนี่แหละที่พาเราไปเที่ยว ^ ^
...และแล้ววันเวลาดีๆก็มาถึง เมื่อผมต้องไปทำธุระที่พิษณุโลก (เดินทางจาก จ.ยโสธร) ไหนๆก็ได้ไปแถวนั้นแล้ว เลยวางแผนการเที่ยวด้วยเลยครับ ว่าจะขับรถไปเอง จะได้พาที่บ้านไปพักผ่อน สัมผัสอากาศหนาวๆบนยอดเขา ภูทับเบิก เขาค้อ พระธาตุผาซ่อนแก้ว ด้วย ...โดยส่วนตัวก่อนหน้านี้เคยไปกับเพื่อนมาแล้วครับรู้สึกประทับใจ ครั้งนี้พอมีตังค์ที่แบ่งไว้เที่ยวบ้าง เลยอยากพาทางบ้านไปบ้าง
...และก็ได้พาไปสมใจครับ แต่ไปได้เฉพาะแม่ครับ พ่อไม่ได้ไปด้วยเพราะติดงานด่วนที่บ้าน เลยคุยกันว่าโอกาสหน้าพ่อค่อยไปก็ได้ -. ,- ...รู้สึกเฟลนิดหน่อย เพราะอยากให้ไปทั้งพ่อและแม่

...สำหรับการเตรียมตัวก่อนไป ที่สำคัญสุดเลย คือเอารถไปเช็คให้เรียบร้อย จะได้ไม่มีปัญหาระหว่างการเดินทางครับ เพราะช่วงที่ผ่านมามีข่าวอุบัติเหตุรถตกเขาอยู่บ่อยครั้ง การเดินทางครั้งนี้ หลักๆเลยคือ ขับรถไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก เห็นอะไรสวยๆงามๆ ก็จอดแวะชม แวะถ่ายรูป ทำให้จุดมุ่งหมายที่ไปในแต่ละที่นั้น ใช้เวลาค่อนข้างนาน ฮ่าๆ ...เห็นแม่ผมแฮบปี้ ตัวผมนี้ก็มีความสุขแล้วครับ ^ ^

...สำหรับค่าใช้จ่ายตลอดทริปนี้ คิดเฉพาะที่ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่เยอะครับ เพราะผมกับแม่ผมไปกันแบบประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็ไม่ได้ไปแบบลำบากจนเหมือนไม่ได้ไปเที่ยวพักผ่อน แฮ่ะๆ
...เรื่องอาหารการกินนี้ผมกับแม่ไม่ได้เน้นว่าต้องไปกินตรงที่เป็นแลนด์มาร์คของจุดต่างๆ ก่อนไปแม่ก็นึ่งข้าวเหนียวใส่กระติบไปด้วย ทอดหมูไปกิน ง่ายๆประหยัดดี และส่วนใหญ่ในแต่ละมื้อก็จะแวะซื้อของกินในเซเว่น หรืออาหารตามสั่งข้างทางเอาครับ จะไม่ทำให้ตัวเองหิวมากๆแล้วค่อยหากิน เพราะถ้ามีอาการหิวมากๆแล้ว ในหัวจะมีแต่เลือกว่าอยากกินโน่นกินนี่เต็มไปหมด 555 ^^
ทริปนี้อาจจะหมดกับการเดินทาง ค่าน้ำมันเยอะ แต่ผมก็มีความสุขมากครับ เพราะเป็นคนที่ชอบแวะตรงนั้นตรงนี้ตามข้างทาง เห็นอะไรสวยๆงามๆก็แวะเก็บภาพ และอีกอย่างมีแม่ไปด้วย ขับรถไปเองจึงน่าจะสะดวกกับท่านมากที่สุดครับ ^^
************************ เริ่มต้นมาเยอะละ ต่อไปเริ่มเดินทางกันเลยดีกว่าครับ ************************

.....
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นจากบ้านที่ จ.ยโสธร จุดมุ่งหมายคือ จ.พิษณุโลก ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง ซึ่งการเดินทางผมต้องขับผ่าน จ.ร้อยเอ็ด, จ.มหาสาคาม, จ.ขอนแก่น,แล้วขึ้นเขามาตามถนนทางหลวงหมายเลข 12 ผ่านอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ซึ่งช่วงขึ้นเขานี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษนะครับ ทางแคบ คดเคี้ยวและลาดชัน ระหว่างทางนี้ก็เป็นป่าครับ เขียวขจี สดชื่นดี ยังไม่มีไฟป่า
พอขับมาได้สักพัก ก็มาพักรถที่จุดชมวิวเขาปากช่องของน้ำหนาวครับ อยู่ติดถนนเลย ก็เลยแวะถ่ายรูปเล่นซักพัก บริเวณนี้มีชาวบ้านแถวนี้นำของป่ามาขายด้วยครับ

.....
และแน่นอนครับ พาแม่มา ผมก็ถ่ายรูปให้แม่ผมด้วยซิครับ ^^ พอถ่ายรูปเสร็จจากจุดนี้ รวมถึงพักรถ ประมาณ 20 นาที ก็มุ่งหน้าต่อไปครับ

.....
พอขับมาซักพัก ก็มาเจอสะพานพ่อขุนผาเมือง(สะพานห้วยตอง) เลยแวะเก็บภาพอีกสักนิดครับ สำหรับสะพานห้วยตองนี้ เป็นสะพานที่มีตอม่อสูงที่สุดในประเทศ โดยมีความสูง 50 เมตร เชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือกับภาคอีสาน
.....โดยสะพานแห่งนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่ถึงจะสวยงามเพียงใดก็ยังคงแฝงไปด้วยคราบน้ำตา ถ้าใครยังจำข่าวใหญ่เมื่อปลายปี 56 ได้ ก็จะรู้นะครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นตรงสะพานแห่งนี้ ยังไงก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้ประสบเหตุด้วยครับ

.....
ถ่ายวิว ถ่ายธรรมชาติแล้ว ...ถ่ายแม่ผมด้วยครับ

.....
พอขับข้ามผ่านเขาน้ำหนาวแล้ว ก็มาเรื่อยๆครับ ตามถนนทางหลวงหมายเลข 12 จุดมุ่งหมายคือเข้าพักในตัวเมือง จ.พิษณุโลก แต่เพราะผมกับแม่ต้องเดินทางอีกไกล ไปโน่นมานี่อีกหลายที่ จึงได้ไป สักการะ กราบไหว้ พระ ที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนครับ เพื่อความสบายใจ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะได้คุ้มครองตลอดการเดินทางครับ ^^ พอหาที่จดอรถได้ก็มุ่งหน้าเดินเข้าร้านเซียนเหนือเมฆกันก่อนเลยครับ อากาศดี บรรยากาศดี มองดูวิวแล้วสดชื่นมากครับ

.....
แม่ผมก็นั่งกินก๋วยเตี๋ยวไป ชมวิวไป ให้แม่กินให้อิ่มๆครับจะได้มีแรงเดินรอบๆวัด ^^

.....
สถานที่ภูมิธรรมอันสวยสดงดงาม มีภูเขาสลับซับซ้อนโอบรอบบริเวณ สำหรับภายในของวัดจะตกแต่งด้วยกระเบื้องลายเบญจรงค์สีต่างๆ มีความวิจิตรงดงามมาก สำหรับใครที่สัญจรผ่านถนนทางหลวงหมายเลข 12 นี้ จะต้องมองเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วซึ่งอยู่บนหุบเขาโดเด่น มองเห็นมาแต่ไกลอย่างแน่นอน
.....ว่าแล้วผมเองก็ไม่รีรอ พอถึงวัดก็จับกล้องเดินถ่ายไปเรื่อยๆ พร้อมกับกราบไหว้พระภายในวัด ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ภายในวัดต้องสำรวมด้วยนะครับ ^^

.....
ถ่ายวิวไปก็ต้องถ่ายแม่ด้วย โดยผมกับแม่ใช้เวลาอยู่ในวัดแห่งนี้นานพอสมควร เพราะแม่ผมจะอยู่สายนี้อยู่แล้ว ถูกใจท่านเลยล่ะ ก็เลยได้ปล่อยให้แม่ได้ซึมซับไปกับวัดอย่างเต็มที่ ^^

.....
แม่บอกว่า ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าอยากพายายและญาติๆมาด้วย จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย ไว้กลับไปแล้วจะได้เอาไปอวดเพื่อนบ้าน ฮ่าๆๆ ...ผมแอบไปดูรูปในโทรศัพท์ ก็ถ่ายสวยดีนะ ^^

.....
พอเดินชมรอบๆเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้วสิริราชย์ธรรมนฤมิต ทั้งช้นบนชั้นล่าง สักพักก็กลับลงมานั่งพัก ถึงจะเหนื่อยแต่ไม่เห็นแม่ผมอาการหน้าบึ้ง เหมือนตอนอยู่ที่อื่นกับผมเลย >. ,< นี่ล่ะนะ รักอะไรชอบอะไรก็มีความสุขไปหมด ^^

.....
พอหายเหนื่อยแล้วผมกับแม่ก็เดินไปไหว้ มหาวิหาร พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ อีกหนึ่งจุดที่สวยงามของวัด มองเห็นหุบเขาด้านข้างอย่างสวยงามสบายตา ... พาแม่มาก็ต้องถ่ายรูปแม่ไว้ด้วย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง ^^

.....
พอเสร็จจากวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ก็มุ่งหน้าตรงไปยัง จ.พิษณุโลก เข้าที่พักโรงแรมแรมศรีสองแคว ราคา 400/คืน พัก 3 คืนเพื่อทำธุระ
ใกล้ๆโรงแรมก็จะเป็นวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในฐานะสถานที่ประดิษฐาน พระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย
...ถูกใจแม่มากครับ ตลอด 3 - 4 วันที่อยู่ที่นี่ ตอนบ่ายๆจนถึงค่ำนี้ แม่ผมจะเดินจากโรงแรมไปสวดมนต์ทุกวัน เพราะที่พักอยู่ติดวัดด้วยครับ พอช่วงค่ำๆที่วัดจะมีสวดมนต์ทุกวัน ผมเองก็ได้ไปสวดมนต์ด้วย 1 วัน เพราะเลิกธุระเร็ว
วันไหนเลิกค่ำไม่ได้ไปสวดมนต์ ก็ค่อยเดินไปรับแม่ที่วัดเอาครับ ^ ^ ...อยู่ในตัวเมืองก็ได้มีโอกาสพาแม่ไปลองชิมก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมน่านด้วยครับ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงพิษณุโลก
******************* พื้นที่ไม่เพียงพอครับ ไว้เดี๋ยวมาต่อให้จบครับ ^^ *******************
[CR] เมื่อมีเวลา... "พาแม่ตะลอน ตอนที่ท่านยังแข็งแรง" ภูทับเบิก เขาค้อ
...แน่นอนครับ ไม่ว่าใครถ้าแก่ตัวไปด้วยวัยและสังขาร อาจทำให้การเดินทางท่องเที่ยวนั้นไม่สะดวกเท่าที่ควร เรี่ยวแรงที่ผมมีอยู่ในตอนนี้ เลยหาโอกาสพาแม่เที่ยวบ้างดีกว่าครับ ^^
...ผมคิดไว้ว่าสักวันหนึ่ง ทำงานหาเงินเองเป็น พอมีเงินเก็บบางส่วนที่ใช้เที่ยวได้ ก็จะพาที่บ้านไปขึ้นภูขึ้นเขาตามงบของเราที่มี เพราะตอนเด็กก็มีแต่ครอบครัวเราเองนี่แหละที่พาเราไปเที่ยว ^ ^
...และแล้ววันเวลาดีๆก็มาถึง เมื่อผมต้องไปทำธุระที่พิษณุโลก (เดินทางจาก จ.ยโสธร) ไหนๆก็ได้ไปแถวนั้นแล้ว เลยวางแผนการเที่ยวด้วยเลยครับ ว่าจะขับรถไปเอง จะได้พาที่บ้านไปพักผ่อน สัมผัสอากาศหนาวๆบนยอดเขา ภูทับเบิก เขาค้อ พระธาตุผาซ่อนแก้ว ด้วย ...โดยส่วนตัวก่อนหน้านี้เคยไปกับเพื่อนมาแล้วครับรู้สึกประทับใจ ครั้งนี้พอมีตังค์ที่แบ่งไว้เที่ยวบ้าง เลยอยากพาทางบ้านไปบ้าง
...และก็ได้พาไปสมใจครับ แต่ไปได้เฉพาะแม่ครับ พ่อไม่ได้ไปด้วยเพราะติดงานด่วนที่บ้าน เลยคุยกันว่าโอกาสหน้าพ่อค่อยไปก็ได้ -. ,- ...รู้สึกเฟลนิดหน่อย เพราะอยากให้ไปทั้งพ่อและแม่
...สำหรับการเตรียมตัวก่อนไป ที่สำคัญสุดเลย คือเอารถไปเช็คให้เรียบร้อย จะได้ไม่มีปัญหาระหว่างการเดินทางครับ เพราะช่วงที่ผ่านมามีข่าวอุบัติเหตุรถตกเขาอยู่บ่อยครั้ง การเดินทางครั้งนี้ หลักๆเลยคือ ขับรถไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก เห็นอะไรสวยๆงามๆ ก็จอดแวะชม แวะถ่ายรูป ทำให้จุดมุ่งหมายที่ไปในแต่ละที่นั้น ใช้เวลาค่อนข้างนาน ฮ่าๆ ...เห็นแม่ผมแฮบปี้ ตัวผมนี้ก็มีความสุขแล้วครับ ^ ^
...สำหรับค่าใช้จ่ายตลอดทริปนี้ คิดเฉพาะที่ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่เยอะครับ เพราะผมกับแม่ผมไปกันแบบประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็ไม่ได้ไปแบบลำบากจนเหมือนไม่ได้ไปเที่ยวพักผ่อน แฮ่ะๆ
...เรื่องอาหารการกินนี้ผมกับแม่ไม่ได้เน้นว่าต้องไปกินตรงที่เป็นแลนด์มาร์คของจุดต่างๆ ก่อนไปแม่ก็นึ่งข้าวเหนียวใส่กระติบไปด้วย ทอดหมูไปกิน ง่ายๆประหยัดดี และส่วนใหญ่ในแต่ละมื้อก็จะแวะซื้อของกินในเซเว่น หรืออาหารตามสั่งข้างทางเอาครับ จะไม่ทำให้ตัวเองหิวมากๆแล้วค่อยหากิน เพราะถ้ามีอาการหิวมากๆแล้ว ในหัวจะมีแต่เลือกว่าอยากกินโน่นกินนี่เต็มไปหมด 555 ^^
ทริปนี้อาจจะหมดกับการเดินทาง ค่าน้ำมันเยอะ แต่ผมก็มีความสุขมากครับ เพราะเป็นคนที่ชอบแวะตรงนั้นตรงนี้ตามข้างทาง เห็นอะไรสวยๆงามๆก็แวะเก็บภาพ และอีกอย่างมีแม่ไปด้วย ขับรถไปเองจึงน่าจะสะดวกกับท่านมากที่สุดครับ ^^
.....สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นจากบ้านที่ จ.ยโสธร จุดมุ่งหมายคือ จ.พิษณุโลก ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง ซึ่งการเดินทางผมต้องขับผ่าน จ.ร้อยเอ็ด, จ.มหาสาคาม, จ.ขอนแก่น,แล้วขึ้นเขามาตามถนนทางหลวงหมายเลข 12 ผ่านอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ซึ่งช่วงขึ้นเขานี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษนะครับ ทางแคบ คดเคี้ยวและลาดชัน ระหว่างทางนี้ก็เป็นป่าครับ เขียวขจี สดชื่นดี ยังไม่มีไฟป่า
พอขับมาได้สักพัก ก็มาพักรถที่จุดชมวิวเขาปากช่องของน้ำหนาวครับ อยู่ติดถนนเลย ก็เลยแวะถ่ายรูปเล่นซักพัก บริเวณนี้มีชาวบ้านแถวนี้นำของป่ามาขายด้วยครับ
.....และแน่นอนครับ พาแม่มา ผมก็ถ่ายรูปให้แม่ผมด้วยซิครับ ^^ พอถ่ายรูปเสร็จจากจุดนี้ รวมถึงพักรถ ประมาณ 20 นาที ก็มุ่งหน้าต่อไปครับ
.....พอขับมาซักพัก ก็มาเจอสะพานพ่อขุนผาเมือง(สะพานห้วยตอง) เลยแวะเก็บภาพอีกสักนิดครับ สำหรับสะพานห้วยตองนี้ เป็นสะพานที่มีตอม่อสูงที่สุดในประเทศ โดยมีความสูง 50 เมตร เชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือกับภาคอีสาน
.....โดยสะพานแห่งนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่ถึงจะสวยงามเพียงใดก็ยังคงแฝงไปด้วยคราบน้ำตา ถ้าใครยังจำข่าวใหญ่เมื่อปลายปี 56 ได้ ก็จะรู้นะครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นตรงสะพานแห่งนี้ ยังไงก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้ประสบเหตุด้วยครับ
.....ถ่ายวิว ถ่ายธรรมชาติแล้ว ...ถ่ายแม่ผมด้วยครับ
.....พอขับข้ามผ่านเขาน้ำหนาวแล้ว ก็มาเรื่อยๆครับ ตามถนนทางหลวงหมายเลข 12 จุดมุ่งหมายคือเข้าพักในตัวเมือง จ.พิษณุโลก แต่เพราะผมกับแม่ต้องเดินทางอีกไกล ไปโน่นมานี่อีกหลายที่ จึงได้ไป สักการะ กราบไหว้ พระ ที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนครับ เพื่อความสบายใจ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะได้คุ้มครองตลอดการเดินทางครับ ^^ พอหาที่จดอรถได้ก็มุ่งหน้าเดินเข้าร้านเซียนเหนือเมฆกันก่อนเลยครับ อากาศดี บรรยากาศดี มองดูวิวแล้วสดชื่นมากครับ
.....แม่ผมก็นั่งกินก๋วยเตี๋ยวไป ชมวิวไป ให้แม่กินให้อิ่มๆครับจะได้มีแรงเดินรอบๆวัด ^^
.....สถานที่ภูมิธรรมอันสวยสดงดงาม มีภูเขาสลับซับซ้อนโอบรอบบริเวณ สำหรับภายในของวัดจะตกแต่งด้วยกระเบื้องลายเบญจรงค์สีต่างๆ มีความวิจิตรงดงามมาก สำหรับใครที่สัญจรผ่านถนนทางหลวงหมายเลข 12 นี้ จะต้องมองเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วซึ่งอยู่บนหุบเขาโดเด่น มองเห็นมาแต่ไกลอย่างแน่นอน
.....ว่าแล้วผมเองก็ไม่รีรอ พอถึงวัดก็จับกล้องเดินถ่ายไปเรื่อยๆ พร้อมกับกราบไหว้พระภายในวัด ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ภายในวัดต้องสำรวมด้วยนะครับ ^^
.....ถ่ายวิวไปก็ต้องถ่ายแม่ด้วย โดยผมกับแม่ใช้เวลาอยู่ในวัดแห่งนี้นานพอสมควร เพราะแม่ผมจะอยู่สายนี้อยู่แล้ว ถูกใจท่านเลยล่ะ ก็เลยได้ปล่อยให้แม่ได้ซึมซับไปกับวัดอย่างเต็มที่ ^^
.....แม่บอกว่า ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าอยากพายายและญาติๆมาด้วย จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย ไว้กลับไปแล้วจะได้เอาไปอวดเพื่อนบ้าน ฮ่าๆๆ ...ผมแอบไปดูรูปในโทรศัพท์ ก็ถ่ายสวยดีนะ ^^
.....พอเดินชมรอบๆเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้วสิริราชย์ธรรมนฤมิต ทั้งช้นบนชั้นล่าง สักพักก็กลับลงมานั่งพัก ถึงจะเหนื่อยแต่ไม่เห็นแม่ผมอาการหน้าบึ้ง เหมือนตอนอยู่ที่อื่นกับผมเลย >. ,< นี่ล่ะนะ รักอะไรชอบอะไรก็มีความสุขไปหมด ^^
.....พอหายเหนื่อยแล้วผมกับแม่ก็เดินไปไหว้ มหาวิหาร พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ อีกหนึ่งจุดที่สวยงามของวัด มองเห็นหุบเขาด้านข้างอย่างสวยงามสบายตา ... พาแม่มาก็ต้องถ่ายรูปแม่ไว้ด้วย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง ^^
.....พอเสร็จจากวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ก็มุ่งหน้าตรงไปยัง จ.พิษณุโลก เข้าที่พักโรงแรมแรมศรีสองแคว ราคา 400/คืน พัก 3 คืนเพื่อทำธุระ
ใกล้ๆโรงแรมก็จะเป็นวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในฐานะสถานที่ประดิษฐาน พระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย
...ถูกใจแม่มากครับ ตลอด 3 - 4 วันที่อยู่ที่นี่ ตอนบ่ายๆจนถึงค่ำนี้ แม่ผมจะเดินจากโรงแรมไปสวดมนต์ทุกวัน เพราะที่พักอยู่ติดวัดด้วยครับ พอช่วงค่ำๆที่วัดจะมีสวดมนต์ทุกวัน ผมเองก็ได้ไปสวดมนต์ด้วย 1 วัน เพราะเลิกธุระเร็ว
วันไหนเลิกค่ำไม่ได้ไปสวดมนต์ ก็ค่อยเดินไปรับแม่ที่วัดเอาครับ ^ ^ ...อยู่ในตัวเมืองก็ได้มีโอกาสพาแม่ไปลองชิมก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมน่านด้วยครับ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงพิษณุโลก