สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแชร์...ประสบการณ์ขนหัวลุก...เหตุเกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งแถวพัทยาค่ะ
เรื่องเกิดขึ้นนานแล้วค่ะ ประมาณ 2-3 ปีได้แล้วค่ะ คือช่วงนั้นเป็นช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เราและญาติๆจึงรวมกันตั้งทริปพาเด็กๆไปเที่ยวกันค่ะ ที่นั่นก็คงไม่พ้นทะเล เพราะเด็กจะชอบมาก ทริปนี้ เราไปกันทั้งหมดสิบกว่าคนมีเด็กๆด้วย ใช้รถทั้งหมด 4 คัน เราเดินทางกันช่วงเย็นวันศุกร์ประมาณ 2 ทุ่มเศษๆ เดินทางไปเรื่อยๆ เรานัดกันว่าจะไปพักที่ีสัตหีบก่อนเพราะเป็นบ้านของลุง(ประหยัดค่าที่พักไปหนึ่งคืน) เหตุการณ์ทุกอย่างก็ดำเนินการไปอย่างปกติ ช่วงเช้ามืดของวันเสาร์เราก็พาเด็กไปที่ชายหาดเพิ่งพาไปเล่นน้ำในช่วงเช้าจะได้ไม่ร้อนมาก นั่งกินลม ชมวิวกันไป ดื่มด่ำกะอาหารทะเลที่ชอบ... จบจากนั้นเราก็เดินทางเที่ยวเรื่อยๆจนค่ำ แล้วเราก็เริ่มหาที่พักกันแต่ในช่วงนั้นเป็นช่วงเทศกาลที่พักเต็มหมดและน้าที่รับผิดชอบหาที่พักก็ดันลืมจองไว้ให้อีก เลยตัดสินใจแวะร้านอาหารหาไรกินกันในช่วงค่ำพร้อมกับช่วยกันหาที่พัก โทรไปที่ไหนก็เต็ม เต็มหมด สอบถามกับทางร้านอาหาร ทางร้านอาหารก็ช่วยติดต่อและหาให้แต่ก็เต็มหมด แต่มีอีกหนึ่งโรงแรมที่ทางร้านอาหารแนะนำมาคือโรงแรมนี้ค่ะ ซึ่งโรงแรมนี้เราตั้งไว้ว่าเป็นตัวเลือกสุดท้ายเพราะลุงเคยไปพักแต่บอกว่าราคาค่อนข้างแพง (ขอไม่เอ่ยชื่อโรงแรมนะค่ะ) จนหมดหนทางพวกเราก็ได้โทรเข้าไปติดต่อกับทางโรงแรม โรงแรมแจ้งว่ามีห้องพักว่างอยู่ค่ะ เราก็จัดการเช่าไป 4 ห้องติดกัน พวกเราดีใจกันมากที่จะได้ที่พักแล้วเพราะการหาที่พักของเราใช้เวลานานมาก ทุกคนก็เริ่มที่จะเหนื่อยและเพลียอยากจะพักผ่อน ณ ตอนนั้นเวลาก็รุล่วงไป 22.30 น. โดยประมาน เรารีบเดินทางไปโรงแรม เมื่อไปถึงโรงแรม สภาพที่เห็นโรงแรมนี้ ดูดี ดูหรูหรามาก มีสระว่ายน้ำ บรรยากาศโดยรวมโอเคเลย มีลุงกับป้าแก่ๆ 2 คนมายืนต้อนรับ เราก้อเตรียมขนกระเป๋าสัมภาระกันเพื่อขึ้นไปห้อง เราก้อเดินนำดิ่งเข้าไปเลย ป้าบอกว่าหนูได้ห้องพักอยู่ชั้น 3 นะค่ะ เราตอบว่า ok ค่ะ เราก็เดินดิ่งไปที่ลิฟท์เลย แต่ลิฟท์มีเทปกาวแปะไว้เป็นกากบาท คือ ห้ามใช้เราก็เลยงงๆ ป้าบอกว่า ลิฟท์กำลังปิดปรับปรุงจ้า เราก็ต้องแบกสัมภาระเดินขึ้นบันไดไปจนถึงชั้น 3 เหนื่อยแทบแย่เลยล่ะ ห้องที่ได้คือ 4 ห้องติดกันสุดทางเดินติดกับบันไดหนีไฟ ขณะที่เดินไป บรรยากาศก็ปกติดี ห้องที่เราพักมี เราและพ่อกับแม่ 3 คน แต่เราเป็นคนเข้าไปที่ห้องคนแรก เราก้อเดินสำรวจห้องทันทีคือมันเป็นปกติของนิสัยเราอ่ะนะ5555 สภาพห้องแบบอับๆ เปิดแอร์ แอร์ก็มีกลิ่นเหม็นๆเหมือนว่าไม่ได้เปิดใช้งานนานแล้ว ส่วนสภาพของอย่างอื่นก็ใหม่เพราะป้าแม่บ้านเพิ่งจะมาปลูกผ้าแล้วเหมือนว่าเพิ่งจะถูกทำความสะอาดเมื่อกี้เลย เพราะตองเดินขึ้นมาเดินสวนกับป้าแม่บ้านคนหนึ่งถือไม้กวาดไม่ถูลงไป แล้วเราก้เดินไปดูในห้องน้ำ สะอาดดีเพราะเพิ่งทำความสะอาดไป เราก็เริ่มจัดแจงเตรียมตัวที่จะอาบน้ำ เราก็เอาของยกกำลังจะไปกองบนโซฟาแต่แล้วเราก็สังเกตเห็นคราบอะไรสักอย่างสีน้ำตาลแปลกๆ (แต่ในความคิดแวบแรกเลยคือคิดว่ามันเหมือนเลือดแห้งๆเลยอ่ะ) และด้วยความที่เผือกอยากจะรู้ว่าคือไรแน่ เลยเอาน้ำมาหยดใส่เลย แต่น้ำก็ไหลไปปกติ คราบนั้นก็ยังอยู่ เราก็เลยเลิกคิดว่าเป็นเลือดเพราะว่าถ้าเป็นเลือดจริงๆเวลาโดนน้ำมันจะต้องละลายบ้าง แต่อันนี้ปกติไม่ละลายเลย แต่ก็ไม่ขอยุ่งและไม่เอาของไปวางเลย เราก็อาบน้ำทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ พ่อกับแม่ก็ทยอยอาบต่อ เราก็เดินมาตรงหน้าทีวี ว่าจะเปิดไรดูสักหน่อยแต่พอเปิดแล้วกลับเป็นภาพแบบสีขาวดำยิดยับแบบว่าไม่มีสัญญาณ เซ็งเลย ปิดไป บรรยากาศในห้อเงียบสงบ เราก็เตรียมจัดที่นอนให้พ่อกับแม่เสร็จ เราก็เดินออกไปเม้ามอยอยู่ห้องน้าที่ติดกัน พักหนึ่งพ่อก็เรียกบอกว่า นิลงไปเอายาที่รถให้หน่อยสิพร้อมกับโยนกุญแจรถให้เราเลย (คือไม่ต้องปฏิเสธไรทั้งนั้น) เราก็ok เดินไป... แต่สภาพทางเดินและบรรยากาศ โอ้ย! ไม่อยากจะเอ่ยเลยว่า.....
โรงแรมแห่งหนึ่ง ณ พัทยา
เรื่องเกิดขึ้นนานแล้วค่ะ ประมาณ 2-3 ปีได้แล้วค่ะ คือช่วงนั้นเป็นช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เราและญาติๆจึงรวมกันตั้งทริปพาเด็กๆไปเที่ยวกันค่ะ ที่นั่นก็คงไม่พ้นทะเล เพราะเด็กจะชอบมาก ทริปนี้ เราไปกันทั้งหมดสิบกว่าคนมีเด็กๆด้วย ใช้รถทั้งหมด 4 คัน เราเดินทางกันช่วงเย็นวันศุกร์ประมาณ 2 ทุ่มเศษๆ เดินทางไปเรื่อยๆ เรานัดกันว่าจะไปพักที่ีสัตหีบก่อนเพราะเป็นบ้านของลุง(ประหยัดค่าที่พักไปหนึ่งคืน) เหตุการณ์ทุกอย่างก็ดำเนินการไปอย่างปกติ ช่วงเช้ามืดของวันเสาร์เราก็พาเด็กไปที่ชายหาดเพิ่งพาไปเล่นน้ำในช่วงเช้าจะได้ไม่ร้อนมาก นั่งกินลม ชมวิวกันไป ดื่มด่ำกะอาหารทะเลที่ชอบ... จบจากนั้นเราก็เดินทางเที่ยวเรื่อยๆจนค่ำ แล้วเราก็เริ่มหาที่พักกันแต่ในช่วงนั้นเป็นช่วงเทศกาลที่พักเต็มหมดและน้าที่รับผิดชอบหาที่พักก็ดันลืมจองไว้ให้อีก เลยตัดสินใจแวะร้านอาหารหาไรกินกันในช่วงค่ำพร้อมกับช่วยกันหาที่พัก โทรไปที่ไหนก็เต็ม เต็มหมด สอบถามกับทางร้านอาหาร ทางร้านอาหารก็ช่วยติดต่อและหาให้แต่ก็เต็มหมด แต่มีอีกหนึ่งโรงแรมที่ทางร้านอาหารแนะนำมาคือโรงแรมนี้ค่ะ ซึ่งโรงแรมนี้เราตั้งไว้ว่าเป็นตัวเลือกสุดท้ายเพราะลุงเคยไปพักแต่บอกว่าราคาค่อนข้างแพง (ขอไม่เอ่ยชื่อโรงแรมนะค่ะ) จนหมดหนทางพวกเราก็ได้โทรเข้าไปติดต่อกับทางโรงแรม โรงแรมแจ้งว่ามีห้องพักว่างอยู่ค่ะ เราก็จัดการเช่าไป 4 ห้องติดกัน พวกเราดีใจกันมากที่จะได้ที่พักแล้วเพราะการหาที่พักของเราใช้เวลานานมาก ทุกคนก็เริ่มที่จะเหนื่อยและเพลียอยากจะพักผ่อน ณ ตอนนั้นเวลาก็รุล่วงไป 22.30 น. โดยประมาน เรารีบเดินทางไปโรงแรม เมื่อไปถึงโรงแรม สภาพที่เห็นโรงแรมนี้ ดูดี ดูหรูหรามาก มีสระว่ายน้ำ บรรยากาศโดยรวมโอเคเลย มีลุงกับป้าแก่ๆ 2 คนมายืนต้อนรับ เราก้อเตรียมขนกระเป๋าสัมภาระกันเพื่อขึ้นไปห้อง เราก้อเดินนำดิ่งเข้าไปเลย ป้าบอกว่าหนูได้ห้องพักอยู่ชั้น 3 นะค่ะ เราตอบว่า ok ค่ะ เราก็เดินดิ่งไปที่ลิฟท์เลย แต่ลิฟท์มีเทปกาวแปะไว้เป็นกากบาท คือ ห้ามใช้เราก็เลยงงๆ ป้าบอกว่า ลิฟท์กำลังปิดปรับปรุงจ้า เราก็ต้องแบกสัมภาระเดินขึ้นบันไดไปจนถึงชั้น 3 เหนื่อยแทบแย่เลยล่ะ ห้องที่ได้คือ 4 ห้องติดกันสุดทางเดินติดกับบันไดหนีไฟ ขณะที่เดินไป บรรยากาศก็ปกติดี ห้องที่เราพักมี เราและพ่อกับแม่ 3 คน แต่เราเป็นคนเข้าไปที่ห้องคนแรก เราก้อเดินสำรวจห้องทันทีคือมันเป็นปกติของนิสัยเราอ่ะนะ5555 สภาพห้องแบบอับๆ เปิดแอร์ แอร์ก็มีกลิ่นเหม็นๆเหมือนว่าไม่ได้เปิดใช้งานนานแล้ว ส่วนสภาพของอย่างอื่นก็ใหม่เพราะป้าแม่บ้านเพิ่งจะมาปลูกผ้าแล้วเหมือนว่าเพิ่งจะถูกทำความสะอาดเมื่อกี้เลย เพราะตองเดินขึ้นมาเดินสวนกับป้าแม่บ้านคนหนึ่งถือไม้กวาดไม่ถูลงไป แล้วเราก้เดินไปดูในห้องน้ำ สะอาดดีเพราะเพิ่งทำความสะอาดไป เราก็เริ่มจัดแจงเตรียมตัวที่จะอาบน้ำ เราก็เอาของยกกำลังจะไปกองบนโซฟาแต่แล้วเราก็สังเกตเห็นคราบอะไรสักอย่างสีน้ำตาลแปลกๆ (แต่ในความคิดแวบแรกเลยคือคิดว่ามันเหมือนเลือดแห้งๆเลยอ่ะ) และด้วยความที่เผือกอยากจะรู้ว่าคือไรแน่ เลยเอาน้ำมาหยดใส่เลย แต่น้ำก็ไหลไปปกติ คราบนั้นก็ยังอยู่ เราก็เลยเลิกคิดว่าเป็นเลือดเพราะว่าถ้าเป็นเลือดจริงๆเวลาโดนน้ำมันจะต้องละลายบ้าง แต่อันนี้ปกติไม่ละลายเลย แต่ก็ไม่ขอยุ่งและไม่เอาของไปวางเลย เราก็อาบน้ำทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ พ่อกับแม่ก็ทยอยอาบต่อ เราก็เดินมาตรงหน้าทีวี ว่าจะเปิดไรดูสักหน่อยแต่พอเปิดแล้วกลับเป็นภาพแบบสีขาวดำยิดยับแบบว่าไม่มีสัญญาณ เซ็งเลย ปิดไป บรรยากาศในห้อเงียบสงบ เราก็เตรียมจัดที่นอนให้พ่อกับแม่เสร็จ เราก็เดินออกไปเม้ามอยอยู่ห้องน้าที่ติดกัน พักหนึ่งพ่อก็เรียกบอกว่า นิลงไปเอายาที่รถให้หน่อยสิพร้อมกับโยนกุญแจรถให้เราเลย (คือไม่ต้องปฏิเสธไรทั้งนั้น) เราก็ok เดินไป... แต่สภาพทางเดินและบรรยากาศ โอ้ย! ไม่อยากจะเอ่ยเลยว่า.....