อย่าลืมอ่านตอนแรกกับตอนสองก่อนนะฮ้าาตัวเอง
EP.1 >>
http://pantip.com/topic/35269153
EP.2 >>
http://pantip.com/topic/35272173
หลังจากอิ่มกับวิว Hallstatt กันแล้ว แก๊งหอยทากก็เคลื่อนตัวไปยัง Salzburg ท่ามกลางสายฝนโปรยจนเกือบเป็นพายุ
โชคดีจริงๆ ที่มันไม่ตกตอนอยู่ฮอลสตัทท์...
Salzburg, City of Mozart
เมืองนี้เรามาแค่แตะๆ มาก อยากไปตามรอย the Sound of Music ก็เลยไปเริ่มที่ Mirabell Palace ไปตามหา Gazebo ที่หนูน้อยอายุสิบหกไปเต้นกลางสายฝน พอไปถึง มันอันเล็กกว่าในหนังเยอะเลย แถมยังปิดไม่ให้เข้าไปอีก ผิดหวังมาก

แต่สวนข้างในก็ร่มรื่นดี วังก็เล็กๆ น่ารัก ถึงเราจะไม่ได้เข้าไปข้างในก็เถอะ
ใครสนใจอยากไปตามรอย the Sound of Music เค้ามีทัวร์ตามรอยโดยเฉพาะ ขายตั๋วอยู่ที่หน้า Mirabell Palace ทุกวัน ทัวร์แรกรู้สึกจะเริ่มตอนเก้าโมง สามารถไปตามกันได้ ทำตามความฝันของน้องทีค่ะ 55555
เที่ยวได้แค่ที่เดียวก็เหนื่อยกันแล้ว ตามประสาหอยทาก5555 เลยตรงเข้าโรงแรมดีกว่า
ที่นี่เราพักที่ Ramada Hotel Salzburg City Centre จองผ่าน booking.com เหมือนกัน ราคาค่อนข้างสูง

เพราะว่าเป็นออสเตรีย แล้วก็อยากได้ที่อยู่กลางเมือง คุณภาพโอเคมาก สมราคา อยู่ติดกับสถานีรถไฟเลย แล้วข้างๆ ก็มีสตาบัคส์และฟาสต์ฟู้ดมากมาย รวมถึงในสถานีรถไฟก็มีร้านของกินเยอะใช้ได้ ถือว่าดีมากๆ แต่ก็แพงมากๆ เช่นกัน ราคาคืนละ 5400 บาท
เย็นวันนั้นเราตั้งใจว่าจะไปกินอาหารไทย ใช้ Siri ดูว่ามีร้านอาหารไทยร้านนึงน่าสนใจ ชื่อ Sawaddee Thai อุตส่าห์โทรไปถามเค้าแล้วนะว่าเปิดอยู่ แต่ว่ามันไกลเกินไปและไม่กล้าขึ้นรถแท็กซี่555 (ตอนนั้นเลยเวลาที่จะเรียกคนขับรถแล้ว เราเกรงใจเค้า) เลยไปซื้อของในซูเปอร์ชื่อ Spar มากิน ก็อร่อยดี ประทังชีวิตหอยทากไปได้
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการไปกินสตาบัคส์555
ทาสยังไงก็เป็นทาส ถึงจะไปถึงเมืองนอกเมืองนา สุดท้ายก็สยบให้แก่นายทาสอย่างพี่สตาร์บัคส์อยู่ดี *กราบ*
ชอบที่เค้าเขียนชื่อให้ แม้ว่าจะเขียนผิดก็ตาม รู้สึกถึงความใส่ใจของนายทาส รักนะ
อ้อ... และ Cream Cheese Bagel ของท่านนายทาสอร่อยเหลือล้น อร่อยมากๆๆๆ ยังคงประทับใจอยู่ (ไม่ได้ถ่ายรูปมา เสียใจด้วยนะ หึ)
วันนี้เราไปเดินในเมืองเก่า ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย เดินไปก็รองเท้าเปียกแฉะไป แต่ไม่เป็นไร คอนเวิร์สซักได้ (ไม่ได้ค่าโฆษณา)
จุดมุ่งหมายของเราคือบ้านโมสาร์ท ซึ่งพอไปถึงมันก็แค่หน้าบ้านบนตึกเหลืองๆ ที่มีป้ายติดว่าโมสาร์ท555
รูปถ่ายมาไม่สวย แต่จะลง แบร่
อาหาร อีกแล้ว555 เมืองนี้เค้าดังช็อคโกแลต Mozart แต่บอกไว้ก่อนว่าร้านดั้งเดิมคือร้านนี้นะ Original Salzburger Mozartkugel Cafe Konditorei Fiirst
ร้านอื่นจะเป็นสีแดง ของแท้ต้องสีน้ำเงินเงินเงินเงินเงินนะจ๊ะ5555
ไม่ได้ถ่ายรูปมา เอารูปจากเน็ตมาแปะไว้ละกันน
แล้ว Salzburg ก็จบไปอย่างรวดเร็ว แอบเสียดายเหมือนกันเพราะว่าจริงๆ ยังมีที่อื่นให้เที่ยวอีกเยอะเหมือนกัน แต่พวกเราเวลาน้อย แม่ลางานได้ไม่เยอะ555 เลยเลือกจะไปเดินเล่นในมิวนิคมากกว่า
Last but not least, Munich
หลังจากเราไปบุกบ้านโมสาร์ทกันมาแล้ว ก็เดินทางเข้าสู่มิวนิคเมืองหญ่ายยย
ระหว่างทาง พ่อ (ผู้บ้าบอล) รีเควสให้ไปสนามบอล Allianz Arena ของ Bayern Munich
เราว่าสถาปัตยกรรมของมันเจ๋งดี เป็นเหมือนตัวการ์ตูนยางมิชลินอะ5555 ไม่ได้เข้าไปข้างในหรอกค่ะเพราะไม่ได้ชอบขนาดนั้น ถ้าเป็นแอนฟิลด์นี่จะบุกไปยันห้องแต่งตัว5555
พ่อตั้งใจจะซื้อเสื้อบอลกลับบ้าน ปรากฏเจอ Made in Thailand เข้าไป บายยยเลยจ้ะ แต่สุดท้ายก็ได้อีกตัวนึงมา ดีไซน์ไม่เหมือนใครดี
อ้อ ข้างในมีร้านอาหารเล็กๆ ขายพวกแซนด์วิชอะไรพวกนี้ เราขอให้อุ่นแซนด์วิชให้ นางบอก
These sandwiches are cold.
ราวกับจะบอกว่า เค้ากินกันเย็นๆ ย่ะ
เอ๊ะ ! ก็อยากกินแบบอุ่นๆ อะ !
ระหว่างทางอีกที่ เป็นมิวเซียมรถบีเอ็ม ซึ่งพ่อและแม่ชอบมากกก (และเราไม่อินเลย55555) ก็ต้องยอมเข้าไปตามๆ เค้า
ใครสนใจเรื่องรถก็จะชอบนะ มีรถบีเอ็มตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหายันนวัตกรรมใหม่ล่าสุด แล้วก็มีการแสดงเทคโนโลยีเก๋ๆ เหมือนกัน และแน่นอน บัตร ISIC ลดราคาเหมือนเดิมค่าา
ที่สุดท้ายที่เราไปในวันนี้ คือพระราชวัง Nymphenburg เราไปตอนเย็นแล้ว ไม่ค่อยมีคนเลย ได้ไปเดินสวนข้างหลังวังก็สวยดีเหมือนกัน
พอได้ดูวังเยอะๆ เราก็คิดนะว่า แต่ละวังก็คล้ายๆ กันไปหมด คือมีบ้าน แล้วก็มีสวนอยู่หลังบ้าน
อย่างที่นี่ ความประทับใจไม่ใช่ตัววัง แต่เป็นเด็กน้อยฝรั่งตัวเล็กๆ ที่เราเจอที่นั่น
เค้าน่าจะมากับยายมั้ง พอเราเห็นเด็กน้อยมองเราอยู่เราก็ทำปากฮัลโหลใส่ นางก็เขิน หลบไปหลังยายเงี้ย โฮ้ยยย น่ารัก
ถ้าไม่ติดว่ากลัวยายเค้าว่าจะแอบถ่ายรูปมาให้ดูกัน แต่ไม่ดีกว่า555
แล้ววันนี้ก็จบลงด้วยการที่มาร์ตินพาเราไปส่งที่ที่พัก เค้าให้ของฝากเรากลับบ้านด้วย เป็นหม้อดินเผาที่เค้าทำเอง ประทับใจสุดสุดด
สำหรับที่พักในมิวนิคของเรา เราเลือกพักที่ Hotel Bayer's ไม่ใช่ Chain แต่ว่าคุณภาพดีมาก พนักงานดูแลดีสุดๆ มีอาหารกินมากมาย และสามารถเดินไปยัง Marienplatz ได้ภายในเวลาประมาณสิบนาทีเท่านั้นเอง ห้องดีมาก ที่นี่สนนราคาคืนละประมาณ 5,500 บาท
วันต่อมาพอไม่มีรถแล้วเราก็ตื่นสายกันสุดๆ 5555
จะแปลกไหมถ้ามุ่งหน้าไปกินเบียร์กันแต่เช้า?
แปลกก็แปลก ใคระจะไปสน! 5555
นี่เลย ร้าน Hofbrauhaus ชื่อดังของมิวนิค ร้านใหญ่มาก ไม่ต้องจองก็มีที่นั่ง ไม่ต้องเป็นห่วง อ้อ ร้านอยู่แถวๆ Marienplatz นั่นแหละค่ะ เดินตาม Google Maps มาได้เลยไม่หลงแน่นอน
เราสามคนสั่งเบียร์มาแค่แก้วเดียว แต่ดั๊นน พลาดสั่งไปลิตรนึง ซึ่งบ้านเราไม่ค่อยนิยมแอลกอฮอล์ เปลืองโดยใช่เหตุเลย T_T
ประสบการณ์การดื่มเบียร์ครั้งแรกของเรา ก็ถือว่าโอเค มันก็ เป็นแอลกอฮอล์อย่างหนึ่ง555 อร่อยกว่าเหล้า แต่ก็ไม่ชอบอยู่ดี5555
มาพูดถึงอาหารกันดีกว่า ของโปรดดด
เค้ามีเมนูภาษาอังกฤษนะคะสามารถขอได้ เราสั่งขาหมู (Pork Knuckle) กับไส้กรอก มันมาจานใหญ่มากกกกก สุดๆ กินกันสามคนอิ่มแปล้เลย555
อร่อยดี แต่ขาหมูก็มันไปหน่อย และอาหารก็ช้านิดนึงตามสไตล์ยุโรป ทำให้คนหิวมากอย่างเราซื้อ Pretzel มากินก่อน
คือเค้าจะมีคนขาย Pretzel มาให้เป็นของว่างระหว่างรออาหารมา เราเลือกแบบมีชีสมา อร่อยมาก ! แต่ว่าตอนนั้นหิวเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา เสียใจด้วย55
ในร้านคือดีมาก มีดนตรีสดเล่นให้ฟังด้วย ทำให้ได้บรรยากาศเยอรมันสุดๆ ใครสายแอลกอฮอล์จะต้องปลื้มร้านนี้
เสร็จแล้วเราก็เดินเล่นถ่ายรูปกันไป ไปโผล่ที่นี่ได้ไงก็ไม่รู้ Victualienmarkt เป็นตลาดสดของที่นี่ มีผลไม้ขายเยอะแยะ แล้วก็พวกชา กาแฟ คนท้องถิ่นเยอะมากกก ทำให้เราสงสัยว่าเค้าไม่ไปทำงานกันเหรอ555
เราไปได้ช็อปปิ้งนาทีสุดท้ายที่ถนนคนเดินแถวๆ Marienplatz นั่นแหละค่ะ มันมีร้านขายกระเป๋า Samsonite ลดราคาเยอะพอๆ กับ Outlet เลย แนะนำว่าให้ไปซื้อร้านที่อยู่กลางๆ ถนนนะคะไม่ใช่ตรงหัวมุมถนน เพราะกระเป๋าจะถูกกว่า อิอิ
พวกร้านเครื่องสำอาง น้ำหอม ที่เห็นบ่อยๆ มีอยู่สองร้าน คือ Hela กับ Douglas เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าร้านไหนมันดีกว่า แต่ว่า Hela มันลด 20% เราก็เลยซื้อมา555 แถมยังทำลดภาษีได้ด้วยแหละ
วันเกือบสุดท้ายก็จบลงด้วยการที่เรายังไม่ได้รูปปิดทริปเลย! นี่มันเรื่องใหญ่มากนะสำหรับคนคุมโทนไอจีแบบเรา55555 ทำให้เรากลับไปหาทันทีว่าจะหาวิวสวยๆ ในมิวนิคได้ที่ไหน พี่พนักงานที่โรงแรมก็ดี๊ดี บอกว่าวิวในโบรชัวร์ที่เราให้ดูน่ะ ต้องขึ้นไปบนโบสถ์ St.Peter เราก็หมายมั่นปั้นมือเลยค่ะว่าต้องไปให้ได้
สู้ตายพรุ่งเน้!
[CR] ทัวร์หอยทาก กินไม่หรูอยู่กลางๆแต่เดินทางอย่างราชา พาพ่อแม่ตะลุย ‘ยุโรปตะวันออก’ EP.3 (จบ)
EP.1 >> http://pantip.com/topic/35269153
EP.2 >> http://pantip.com/topic/35272173
หลังจากอิ่มกับวิว Hallstatt กันแล้ว แก๊งหอยทากก็เคลื่อนตัวไปยัง Salzburg ท่ามกลางสายฝนโปรยจนเกือบเป็นพายุ
โชคดีจริงๆ ที่มันไม่ตกตอนอยู่ฮอลสตัทท์...
เมืองนี้เรามาแค่แตะๆ มาก อยากไปตามรอย the Sound of Music ก็เลยไปเริ่มที่ Mirabell Palace ไปตามหา Gazebo ที่หนูน้อยอายุสิบหกไปเต้นกลางสายฝน พอไปถึง มันอันเล็กกว่าในหนังเยอะเลย แถมยังปิดไม่ให้เข้าไปอีก ผิดหวังมาก
แต่สวนข้างในก็ร่มรื่นดี วังก็เล็กๆ น่ารัก ถึงเราจะไม่ได้เข้าไปข้างในก็เถอะ
ใครสนใจอยากไปตามรอย the Sound of Music เค้ามีทัวร์ตามรอยโดยเฉพาะ ขายตั๋วอยู่ที่หน้า Mirabell Palace ทุกวัน ทัวร์แรกรู้สึกจะเริ่มตอนเก้าโมง สามารถไปตามกันได้ ทำตามความฝันของน้องทีค่ะ 55555
เที่ยวได้แค่ที่เดียวก็เหนื่อยกันแล้ว ตามประสาหอยทาก5555 เลยตรงเข้าโรงแรมดีกว่า
ที่นี่เราพักที่ Ramada Hotel Salzburg City Centre จองผ่าน booking.com เหมือนกัน ราคาค่อนข้างสูง
เย็นวันนั้นเราตั้งใจว่าจะไปกินอาหารไทย ใช้ Siri ดูว่ามีร้านอาหารไทยร้านนึงน่าสนใจ ชื่อ Sawaddee Thai อุตส่าห์โทรไปถามเค้าแล้วนะว่าเปิดอยู่ แต่ว่ามันไกลเกินไปและไม่กล้าขึ้นรถแท็กซี่555 (ตอนนั้นเลยเวลาที่จะเรียกคนขับรถแล้ว เราเกรงใจเค้า) เลยไปซื้อของในซูเปอร์ชื่อ Spar มากิน ก็อร่อยดี ประทังชีวิตหอยทากไปได้
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการไปกินสตาบัคส์555
ทาสยังไงก็เป็นทาส ถึงจะไปถึงเมืองนอกเมืองนา สุดท้ายก็สยบให้แก่นายทาสอย่างพี่สตาร์บัคส์อยู่ดี *กราบ*
ชอบที่เค้าเขียนชื่อให้ แม้ว่าจะเขียนผิดก็ตาม รู้สึกถึงความใส่ใจของนายทาส รักนะ
อ้อ... และ Cream Cheese Bagel ของท่านนายทาสอร่อยเหลือล้น อร่อยมากๆๆๆ ยังคงประทับใจอยู่ (ไม่ได้ถ่ายรูปมา เสียใจด้วยนะ หึ)
วันนี้เราไปเดินในเมืองเก่า ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย เดินไปก็รองเท้าเปียกแฉะไป แต่ไม่เป็นไร คอนเวิร์สซักได้ (ไม่ได้ค่าโฆษณา)
จุดมุ่งหมายของเราคือบ้านโมสาร์ท ซึ่งพอไปถึงมันก็แค่หน้าบ้านบนตึกเหลืองๆ ที่มีป้ายติดว่าโมสาร์ท555
รูปถ่ายมาไม่สวย แต่จะลง แบร่
อาหาร อีกแล้ว555 เมืองนี้เค้าดังช็อคโกแลต Mozart แต่บอกไว้ก่อนว่าร้านดั้งเดิมคือร้านนี้นะ Original Salzburger Mozartkugel Cafe Konditorei Fiirst
ร้านอื่นจะเป็นสีแดง ของแท้ต้องสีน้ำเงินเงินเงินเงินเงินนะจ๊ะ5555
แล้ว Salzburg ก็จบไปอย่างรวดเร็ว แอบเสียดายเหมือนกันเพราะว่าจริงๆ ยังมีที่อื่นให้เที่ยวอีกเยอะเหมือนกัน แต่พวกเราเวลาน้อย แม่ลางานได้ไม่เยอะ555 เลยเลือกจะไปเดินเล่นในมิวนิคมากกว่า
หลังจากเราไปบุกบ้านโมสาร์ทกันมาแล้ว ก็เดินทางเข้าสู่มิวนิคเมืองหญ่ายยย
ระหว่างทาง พ่อ (ผู้บ้าบอล) รีเควสให้ไปสนามบอล Allianz Arena ของ Bayern Munich
เราว่าสถาปัตยกรรมของมันเจ๋งดี เป็นเหมือนตัวการ์ตูนยางมิชลินอะ5555 ไม่ได้เข้าไปข้างในหรอกค่ะเพราะไม่ได้ชอบขนาดนั้น ถ้าเป็นแอนฟิลด์นี่จะบุกไปยันห้องแต่งตัว5555
พ่อตั้งใจจะซื้อเสื้อบอลกลับบ้าน ปรากฏเจอ Made in Thailand เข้าไป บายยยเลยจ้ะ แต่สุดท้ายก็ได้อีกตัวนึงมา ดีไซน์ไม่เหมือนใครดี
อ้อ ข้างในมีร้านอาหารเล็กๆ ขายพวกแซนด์วิชอะไรพวกนี้ เราขอให้อุ่นแซนด์วิชให้ นางบอก
These sandwiches are cold.
ราวกับจะบอกว่า เค้ากินกันเย็นๆ ย่ะ
เอ๊ะ ! ก็อยากกินแบบอุ่นๆ อะ !
ระหว่างทางอีกที่ เป็นมิวเซียมรถบีเอ็ม ซึ่งพ่อและแม่ชอบมากกก (และเราไม่อินเลย55555) ก็ต้องยอมเข้าไปตามๆ เค้า
ใครสนใจเรื่องรถก็จะชอบนะ มีรถบีเอ็มตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหายันนวัตกรรมใหม่ล่าสุด แล้วก็มีการแสดงเทคโนโลยีเก๋ๆ เหมือนกัน และแน่นอน บัตร ISIC ลดราคาเหมือนเดิมค่าา
ที่สุดท้ายที่เราไปในวันนี้ คือพระราชวัง Nymphenburg เราไปตอนเย็นแล้ว ไม่ค่อยมีคนเลย ได้ไปเดินสวนข้างหลังวังก็สวยดีเหมือนกัน
พอได้ดูวังเยอะๆ เราก็คิดนะว่า แต่ละวังก็คล้ายๆ กันไปหมด คือมีบ้าน แล้วก็มีสวนอยู่หลังบ้าน
อย่างที่นี่ ความประทับใจไม่ใช่ตัววัง แต่เป็นเด็กน้อยฝรั่งตัวเล็กๆ ที่เราเจอที่นั่น
เค้าน่าจะมากับยายมั้ง พอเราเห็นเด็กน้อยมองเราอยู่เราก็ทำปากฮัลโหลใส่ นางก็เขิน หลบไปหลังยายเงี้ย โฮ้ยยย น่ารัก
ถ้าไม่ติดว่ากลัวยายเค้าว่าจะแอบถ่ายรูปมาให้ดูกัน แต่ไม่ดีกว่า555
แล้ววันนี้ก็จบลงด้วยการที่มาร์ตินพาเราไปส่งที่ที่พัก เค้าให้ของฝากเรากลับบ้านด้วย เป็นหม้อดินเผาที่เค้าทำเอง ประทับใจสุดสุดด
สำหรับที่พักในมิวนิคของเรา เราเลือกพักที่ Hotel Bayer's ไม่ใช่ Chain แต่ว่าคุณภาพดีมาก พนักงานดูแลดีสุดๆ มีอาหารกินมากมาย และสามารถเดินไปยัง Marienplatz ได้ภายในเวลาประมาณสิบนาทีเท่านั้นเอง ห้องดีมาก ที่นี่สนนราคาคืนละประมาณ 5,500 บาท
วันต่อมาพอไม่มีรถแล้วเราก็ตื่นสายกันสุดๆ 5555
จะแปลกไหมถ้ามุ่งหน้าไปกินเบียร์กันแต่เช้า?
แปลกก็แปลก ใคระจะไปสน! 5555
นี่เลย ร้าน Hofbrauhaus ชื่อดังของมิวนิค ร้านใหญ่มาก ไม่ต้องจองก็มีที่นั่ง ไม่ต้องเป็นห่วง อ้อ ร้านอยู่แถวๆ Marienplatz นั่นแหละค่ะ เดินตาม Google Maps มาได้เลยไม่หลงแน่นอน
เราสามคนสั่งเบียร์มาแค่แก้วเดียว แต่ดั๊นน พลาดสั่งไปลิตรนึง ซึ่งบ้านเราไม่ค่อยนิยมแอลกอฮอล์ เปลืองโดยใช่เหตุเลย T_T
ประสบการณ์การดื่มเบียร์ครั้งแรกของเรา ก็ถือว่าโอเค มันก็ เป็นแอลกอฮอล์อย่างหนึ่ง555 อร่อยกว่าเหล้า แต่ก็ไม่ชอบอยู่ดี5555
มาพูดถึงอาหารกันดีกว่า ของโปรดดด
เค้ามีเมนูภาษาอังกฤษนะคะสามารถขอได้ เราสั่งขาหมู (Pork Knuckle) กับไส้กรอก มันมาจานใหญ่มากกกกก สุดๆ กินกันสามคนอิ่มแปล้เลย555
อร่อยดี แต่ขาหมูก็มันไปหน่อย และอาหารก็ช้านิดนึงตามสไตล์ยุโรป ทำให้คนหิวมากอย่างเราซื้อ Pretzel มากินก่อน
คือเค้าจะมีคนขาย Pretzel มาให้เป็นของว่างระหว่างรออาหารมา เราเลือกแบบมีชีสมา อร่อยมาก ! แต่ว่าตอนนั้นหิวเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา เสียใจด้วย55
ในร้านคือดีมาก มีดนตรีสดเล่นให้ฟังด้วย ทำให้ได้บรรยากาศเยอรมันสุดๆ ใครสายแอลกอฮอล์จะต้องปลื้มร้านนี้
เสร็จแล้วเราก็เดินเล่นถ่ายรูปกันไป ไปโผล่ที่นี่ได้ไงก็ไม่รู้ Victualienmarkt เป็นตลาดสดของที่นี่ มีผลไม้ขายเยอะแยะ แล้วก็พวกชา กาแฟ คนท้องถิ่นเยอะมากกก ทำให้เราสงสัยว่าเค้าไม่ไปทำงานกันเหรอ555
เราไปได้ช็อปปิ้งนาทีสุดท้ายที่ถนนคนเดินแถวๆ Marienplatz นั่นแหละค่ะ มันมีร้านขายกระเป๋า Samsonite ลดราคาเยอะพอๆ กับ Outlet เลย แนะนำว่าให้ไปซื้อร้านที่อยู่กลางๆ ถนนนะคะไม่ใช่ตรงหัวมุมถนน เพราะกระเป๋าจะถูกกว่า อิอิ
พวกร้านเครื่องสำอาง น้ำหอม ที่เห็นบ่อยๆ มีอยู่สองร้าน คือ Hela กับ Douglas เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าร้านไหนมันดีกว่า แต่ว่า Hela มันลด 20% เราก็เลยซื้อมา555 แถมยังทำลดภาษีได้ด้วยแหละ
วันเกือบสุดท้ายก็จบลงด้วยการที่เรายังไม่ได้รูปปิดทริปเลย! นี่มันเรื่องใหญ่มากนะสำหรับคนคุมโทนไอจีแบบเรา55555 ทำให้เรากลับไปหาทันทีว่าจะหาวิวสวยๆ ในมิวนิคได้ที่ไหน พี่พนักงานที่โรงแรมก็ดี๊ดี บอกว่าวิวในโบรชัวร์ที่เราให้ดูน่ะ ต้องขึ้นไปบนโบสถ์ St.Peter เราก็หมายมั่นปั้นมือเลยค่ะว่าต้องไปให้ได้
สู้ตายพรุ่งเน้!