วิชัย ศรีวัฒนประภา` เปิดแผนดึง AAV บุกตลาดลูกค้าจีน ดันการเติบโตต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 20%
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -14 มิ.ย. 59 14:35 น.
? เช้าวันนี้ (14 มิ.ย.) มีการแถลงข่าวใหญ่ เกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV เจ้าของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ระหว่างครอบครัวแบเลเว็ลด์ กับกลุ่มคิงเพาเวอร์ โดยมีนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ , นายอัยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และนาย ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AAV เป็นผู้ให้ข้อมูล โดยระบุว่าการเข้าถือหุ้นของนาย "วิชัย" ในสัดส่วน 39% เป็นการถือในนามครอบครัว เพื่อลงทุนระยะยาว แต่จะมี Synergy ระหว่าง AAV กับคิงเพาเวอร์ จากความเชี่ยวชาญและฐานลูกค้าชาวจีน ที่จะทำให้ AAV รักษาการเติบโตต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมกับชี้แจงราคาขายที่ 4.20 บาท ซึ่งต่ำกว่ากระดานและมูลค่าทางบัญชี ถือเป็นราคาที่เหมาะสมกับพื้นฐานธุรกิจ และเป็นราคาที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย รายละเอียดดังนี้
??- นายวิชัย ระบุเป็นการลงทุนในนามครอบครัว เพื่อการลงทุนระยะยาว และจะไม่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางธุรกิจของ AAV รวมถึงจะไม่เปลี่ยนชื่อสายการบิน หรือเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์
??"ผมซื้อไว้เป็นสมบัติของลูกหลาน และจะไม่เข้าไปปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจหรือหารบริหาร เพราะต้องปล่อยให้มืออาชีพ อย่างคุณ ธรรศพลฐ์ ดำเนินการต่อไป สิ่งที่จะช่วยเสริมคือ Synergy ระหว่างทั้ง 2 ธุรกิจมากกว่า ที่ลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยหลังจากนี้จะมีคงามร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันมากขึ้น"
??- การซื้อหุ้น AAV ใช้เงินส่วนตัวของครอบครัว "ศรีวัฒนประภา" 7.9 พันล้านบาท สำหรับซื้อหุ้นสัดส่วน 39% ส่วนที่เหลือในการทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ จะใช้เงินกู้จากธนาคารไทยพาณิชย์
??- หวังถือหุ้นมากกว่า 50% หลังทำเทนเดอร์ฯ แต่ขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นว่าจะขายออกมาหรือไม่
??- คาดว่าจะคุ้มเงินลงทุน 7.9 พันล้านบาท ภายใน 7-8 ปี จากเงินปันผลที่จะได้รับจากการดำเนินธุรกิจของ AAV ซึ่งหลังจากนี้ความร่วมมือระหว่างกลุ่มคิง เพาเวอร์ และ AAV จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง
??- นายธรรศพลฐ์ ระบุว่าราคาซื้อขายหุ้นที่ 4.20 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสมกับพื้นฐานธุรกิจ และเป็นราคาที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย แม้ต่ำกว่าบุ๊คแวลูที่ 4.36 บาท/หุ้นก็ตาม โดยเชื่อว่าผลประเมินของ IFA ก่อนทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ จะใหล้เคียงกับราคาดังกล่าว
??"ราคานี้ถือว่าเหมาะสมจากการพูดคุยทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งใช้เวลาประเมินหลายเดือน อย่ามองที่ราคากระดานหรือบุ๊คแวลู เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ต้องดูว่าหลังดีลนี้จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญต่อธุรกิจในอนาคต นอกจากนี้ยังมีเกณฑ์ของกรมการบินพลเรือนว่าผู้ถือหุ้นต้องมีบุคคลธรรมดา และถือหุ้นรวมกันไม่ต่ำกว่า 50% ทำให้การขายยกล็อตทำได้ยาก ราคาจึงต้องมีดิสเคาท์"
??"AAV มาถึงจุดสูงสุดในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งถ้าผมถือต่อก็เป็นแค่กระดาษใบหนึ่งเท่านั้น การขายหุ้นออกจะทำให้เราได้พาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งมาก มีเครือข่ายกว้างขวางทั้งในแล้วต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ซึ่งเป็นฐานสำคัญต่อการท่องเที่ยว และเป็นตลาดที่เราจะเข้าไปขยายธุรกิจ " ธรรศพลฐ์ กล่าว
??- คาดว่าหลังกลุ่มนายวิชัย เข้าถือหุ้นใหญ่ จะช่วยรักษาอัตราการเติบโตของรายได้ และจำนวนผู้โดยสารเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 20%
??- นายธรรศพลฐ์ พร้อมทีมผู้บริหาร จะยังนั่งบริหารงานต่ออย่างน้อยอีก 5 ปี ส่วนเงินที่ได้จากการขายหุ้น ขอไม่เปิดเผยว่าจะนำไปทำอะไร
??- แจงการขายหุ้นครั้งนี้เป็นการตกลงส่วนตัวกับนาย วิชัย ดังนั้นจึงไม่ได้แจ้งต่อคณะกรรมการบริษัท ให้เปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์
??"ผมเพิ่งตกลงกับคุณวิชัยเสร็จเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเห็นว่าเป็นการขายหุ้นในส่วนที่ผมและครอบครัวถืออยู่ ไม่เกี่ยวกับบริษัท ซึ่งหลังจากนั้น ก็ได้มีการซื้อขายเกิดขึ้นในวันจันทร์ และแจ้งตลาดหลักทรัพย์ตอนเย็น"
??- สัปดาห์หน้าจะมีการหารือระหว่างผู้ถือหุ้นใหม่และฝ่ายบริหาร สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตต่อไป
??- อยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า การขายหุ้นครั้งนี้ ไม่ใช่การทิ้งหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตของผลประกอบการ เพื่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นที่มากขึ้นในอนาคต
??- ด้านนายอัยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ซึ่งเป็นบุตรชายนายวิชัย ซึ่งจะเป็นตัวแทนนั่งกรรมการ AAV เชื่อมั่นว่าหลังจากความร่วมมือกับกลุ่มคิงเพาเวอร์ ทั้งในด้านการเจาะตลาดลูกค้าจีน และความร่วมมือในด้านดิวตี้ฟรี จะสามารถสร้างกำไร AAV ให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยมองว่าแม้คู่แข่งสายการบินต้นทุนต่ำจะมีมาก แต่ตลาดยังโตได้อีก
??- ล่าสุดเวลาประมาณ 14.31 น. หุ้น AAV อยู่ที่ 6.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 4.17%
รายงาน โดย ศราพงค์ นันติวงค์
เรียบเรียง โดย ดาริน ปริญญากุล
อีเมล์. darin@efinancethai.com
อนุมัติ โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน
วิชัย ศรีวัฒนประภา` เปิดแผนดึง AAV บุกตลาดลูกค้าจีน ดันการเติบโตต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 20% #เสี่ยเจ้าของ เลสเตอร์ ซิตี้
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -14 มิ.ย. 59 14:35 น.
? เช้าวันนี้ (14 มิ.ย.) มีการแถลงข่าวใหญ่ เกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV เจ้าของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ระหว่างครอบครัวแบเลเว็ลด์ กับกลุ่มคิงเพาเวอร์ โดยมีนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ , นายอัยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และนาย ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AAV เป็นผู้ให้ข้อมูล โดยระบุว่าการเข้าถือหุ้นของนาย "วิชัย" ในสัดส่วน 39% เป็นการถือในนามครอบครัว เพื่อลงทุนระยะยาว แต่จะมี Synergy ระหว่าง AAV กับคิงเพาเวอร์ จากความเชี่ยวชาญและฐานลูกค้าชาวจีน ที่จะทำให้ AAV รักษาการเติบโตต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมกับชี้แจงราคาขายที่ 4.20 บาท ซึ่งต่ำกว่ากระดานและมูลค่าทางบัญชี ถือเป็นราคาที่เหมาะสมกับพื้นฐานธุรกิจ และเป็นราคาที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย รายละเอียดดังนี้
??- นายวิชัย ระบุเป็นการลงทุนในนามครอบครัว เพื่อการลงทุนระยะยาว และจะไม่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางธุรกิจของ AAV รวมถึงจะไม่เปลี่ยนชื่อสายการบิน หรือเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์
??"ผมซื้อไว้เป็นสมบัติของลูกหลาน และจะไม่เข้าไปปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจหรือหารบริหาร เพราะต้องปล่อยให้มืออาชีพ อย่างคุณ ธรรศพลฐ์ ดำเนินการต่อไป สิ่งที่จะช่วยเสริมคือ Synergy ระหว่างทั้ง 2 ธุรกิจมากกว่า ที่ลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยหลังจากนี้จะมีคงามร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันมากขึ้น"
??- การซื้อหุ้น AAV ใช้เงินส่วนตัวของครอบครัว "ศรีวัฒนประภา" 7.9 พันล้านบาท สำหรับซื้อหุ้นสัดส่วน 39% ส่วนที่เหลือในการทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ จะใช้เงินกู้จากธนาคารไทยพาณิชย์
??- หวังถือหุ้นมากกว่า 50% หลังทำเทนเดอร์ฯ แต่ขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นว่าจะขายออกมาหรือไม่
??- คาดว่าจะคุ้มเงินลงทุน 7.9 พันล้านบาท ภายใน 7-8 ปี จากเงินปันผลที่จะได้รับจากการดำเนินธุรกิจของ AAV ซึ่งหลังจากนี้ความร่วมมือระหว่างกลุ่มคิง เพาเวอร์ และ AAV จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง
??- นายธรรศพลฐ์ ระบุว่าราคาซื้อขายหุ้นที่ 4.20 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสมกับพื้นฐานธุรกิจ และเป็นราคาที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย แม้ต่ำกว่าบุ๊คแวลูที่ 4.36 บาท/หุ้นก็ตาม โดยเชื่อว่าผลประเมินของ IFA ก่อนทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ จะใหล้เคียงกับราคาดังกล่าว
??"ราคานี้ถือว่าเหมาะสมจากการพูดคุยทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งใช้เวลาประเมินหลายเดือน อย่ามองที่ราคากระดานหรือบุ๊คแวลู เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ต้องดูว่าหลังดีลนี้จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญต่อธุรกิจในอนาคต นอกจากนี้ยังมีเกณฑ์ของกรมการบินพลเรือนว่าผู้ถือหุ้นต้องมีบุคคลธรรมดา และถือหุ้นรวมกันไม่ต่ำกว่า 50% ทำให้การขายยกล็อตทำได้ยาก ราคาจึงต้องมีดิสเคาท์"
??"AAV มาถึงจุดสูงสุดในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งถ้าผมถือต่อก็เป็นแค่กระดาษใบหนึ่งเท่านั้น การขายหุ้นออกจะทำให้เราได้พาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งมาก มีเครือข่ายกว้างขวางทั้งในแล้วต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ซึ่งเป็นฐานสำคัญต่อการท่องเที่ยว และเป็นตลาดที่เราจะเข้าไปขยายธุรกิจ " ธรรศพลฐ์ กล่าว
??- คาดว่าหลังกลุ่มนายวิชัย เข้าถือหุ้นใหญ่ จะช่วยรักษาอัตราการเติบโตของรายได้ และจำนวนผู้โดยสารเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 20%
??- นายธรรศพลฐ์ พร้อมทีมผู้บริหาร จะยังนั่งบริหารงานต่ออย่างน้อยอีก 5 ปี ส่วนเงินที่ได้จากการขายหุ้น ขอไม่เปิดเผยว่าจะนำไปทำอะไร
??- แจงการขายหุ้นครั้งนี้เป็นการตกลงส่วนตัวกับนาย วิชัย ดังนั้นจึงไม่ได้แจ้งต่อคณะกรรมการบริษัท ให้เปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์
??"ผมเพิ่งตกลงกับคุณวิชัยเสร็จเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเห็นว่าเป็นการขายหุ้นในส่วนที่ผมและครอบครัวถืออยู่ ไม่เกี่ยวกับบริษัท ซึ่งหลังจากนั้น ก็ได้มีการซื้อขายเกิดขึ้นในวันจันทร์ และแจ้งตลาดหลักทรัพย์ตอนเย็น"
??- สัปดาห์หน้าจะมีการหารือระหว่างผู้ถือหุ้นใหม่และฝ่ายบริหาร สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตต่อไป
??- อยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า การขายหุ้นครั้งนี้ ไม่ใช่การทิ้งหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตของผลประกอบการ เพื่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นที่มากขึ้นในอนาคต
??- ด้านนายอัยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ซึ่งเป็นบุตรชายนายวิชัย ซึ่งจะเป็นตัวแทนนั่งกรรมการ AAV เชื่อมั่นว่าหลังจากความร่วมมือกับกลุ่มคิงเพาเวอร์ ทั้งในด้านการเจาะตลาดลูกค้าจีน และความร่วมมือในด้านดิวตี้ฟรี จะสามารถสร้างกำไร AAV ให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยมองว่าแม้คู่แข่งสายการบินต้นทุนต่ำจะมีมาก แต่ตลาดยังโตได้อีก
??- ล่าสุดเวลาประมาณ 14.31 น. หุ้น AAV อยู่ที่ 6.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 4.17%
รายงาน โดย ศราพงค์ นันติวงค์
เรียบเรียง โดย ดาริน ปริญญากุล
อีเมล์. darin@efinancethai.com
อนุมัติ โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน