สวัสดีคะเพื่อนๆ วันนี้มีเรื่องความรักมาเล่าให้ฟังคะ คือเรารู้จักกับพี่คนนึงในมหาวิทยาลัยเราให้นามสมมุติว่าเค้าชื่อเอ ตอนนั้นเราทำกิจกรรมด้วยกันเป็นครูรุ่นพี่สอนภาษาอังกฤษของทางมหาวิทยาลัยให้รุ่นน้อง เรากับพี่เอก็เพิ่งรู้จักกันครั้งแรกตั้งแต่ตอนนั้น ตอนนั้นเค้ามีแฟนอยู่แล้ว เรากับเค้ายังไม่คิดอะไรนอกจากเพื่อนร่วมงานกันคะ เราก็ทำงานกันไปสักพัก พอจบโครงการก็แยกย้ายกันไปเรียนคะ เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยอีกเป็นปี เพราะเรียนกันคนละคณะ จะเจอกันยากมาก จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง เราเป็นคนชวนเค้าไปทานขาวกลางวันคะแบบคนไม่ได้เจอกันนาน และแบบเพื่อนร่วมงานกัน ตอนแรกเราไม่คิดว่าเค้าจะมีเวลามาทานข้าวกับเราแต่ว่าเค้าบอกว่าว่างเลยเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้รู้จักเค้ามากขึ้นคะ เราได้คุยอะไรกันหลายเรื่องมากมาย คุยกันจนถามถึงเรื่องแฟนเค้าก็เล่าเรื่องให้เราฟังแบบละเอียดมากเลยคะ ว่าทำไมเลิกกัน เลิกกันตอนไหน แฟนคนเก่าดีไม่ดียังไง แล้วเค้าก็บอกว่าต่อจากนนี้ไม่อยากมีใครอีกแล้ว เพราะเ้คาเจ็บมามากจากคนเก่า เราก็นั้งฟังไป คุยกันจนร้านเกือบปิด เราก็แยกย้ายกันไป หลังจากนนั้นไม่รู้อะไรดลใจ อาจจะเป็นเพราะเราเริ่มชอบเค้าแล้วอะคะเลยส่งข้อความคุยกับเกือบทุกวัน เราว่าเค้าเป็นคนคุยสนุก เราคุยกันได้ทุกเรื่อง เราปรึกษาเอได้หมด ถึงขนาดเราเล่าเรื่องคนที่เราเคยแอบชอบทั้งหมดให้เค้าฟัง ตอนนั้นเรายอมรับว่าเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากการคุย เราแค่รู้สึกคุยกับเค้าเเล้วสบายใจ เค้าก็คุยกับเราอย่างเปิดอก ทั้งข้อดีข้อเสียของเค้า ความลับบางเรื่องของเค้า จนเราคุยกันในเฟสมาได้สักระยะ เค้าก็แท็กเกมเกมนึง มาบอกว่าเราเป็นเหมือนน้องสาวของเค้า เป็นเพื่อนสนิท เค้ายังเคยบอกว่าไม่เคยคุยกับใครแบบเปิดเผยอย่างงี้มาก่อน นอกจากเพื่อนสนิท บอกตรงๆตอนนั้นเรารู้สึกหมดหวังมาก เพราะเค้าบอกว่าเค้ามองเราเปมือนน้องสาวและเพื่อนสนิท มากไปกว่านั้นเราเคยคุยกับเค้าวันนึงในเฟส เค้าบอกว่าเค้าไม่อยากมีใครอีกแล้วหลังจากแฟนเก่าของเค้าคนก่อน แล้วเราก็แอบสงสัยเค้าว่าเค้าเป็นตุ๊ดหรือเปล่าเพราะเค้าทำท่าทางเหมือนมากแบบนุ่ทนิ่มเหมือนผู้หญิง เราเลยถามแบบอ้อมๆว่าพี่เป็นไหม เค้าตอบกลับมาว่า เค้าจะเป็นต่อเมื่อมีผู้หญิงคนอื่นพยายามเข้าหาเค้าพยายามจีบเค้า แต่จริงๆเค้าไม่ได้เป็น เรายิ่งเสียใจร้องไห้หนักมากตอนนั้น พร่ำเพ้ออยู่นาน คิดว่าคงไม่มีหวังแน่นอน เค้าเล่นพูดขนาดนี้ เค้าอาจจะไม่อยากคุยกับเราแล้วหลังจากนั่นเราก็ยังไม่ได้เลิกคุยกัน เรายังคุยกันบ้างเวลาเค้าไม่สบายใจเราก็คอยปลอบ คุยเล่นกันตลอด เค้าก็มากดไลมาคอมเม้นในเฟสบุ๊คของเรา เค้าเคยชวนเราครั้งหนึงเค้าบอหกว่าอยากเห็นเค้าเรียนเรียนไหมเดี่ยวคราวหน้าจะพาไปเที่ยวดูที่ๆเค้าเรียนเค้าบอกว่าว่าเพื่อนๆของเค้าต้องชอบเราแน่ๆแล้วเราก็ต้องชอบเพื่อนของเค้าแน่ๆ เราก็แบบแอบอมยินฟินนิดๆ เราเลยบอกว่าอยากไปดูเหมือนกันเลยบอกวันเวลาเค้าไป เราก็อุตส่าห์ไปนั้งรอ ต้องนาน เค้ามาตรงเวลาเปะ แต่ ว่า เค้ามาหาเราแล้วถามว่าอ้าวมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เรายังไม่ทันตอบ เค้าก็วิ่งไปกับกล่มเพื่อนของเค้า เรานึกว่าเค้าเดี่ยวจะกลับมาที่ไหนได้ไปเลย เราแบบอารมณ์เสียมากคะ ว่าทำไมเค้าทำแบบนี้ ก็งงว่ามาทักทำไม เราถามเค้าทีหลัง เค้าบอกว่าขอโทษเพราะลืมคะ เรางงเลยว่าทำไมลืมแล้วถามว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ แทนที่จะถามว่ามาทำไม เหตุการณ์นั้นงงมากเลยคะ เหตุการณ์ผ่านมาได้อีกสักพัก เราก็คุยกันต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเค้าชวนเราไปงานชุมนุมของเค้า เป็นงานประกาศราวัลคะ เราถามเค้าว่าชวนเราไปคงไม่เหมือนคราวก่อนนะที่เบี้ยวนัด เค้าบอกว่าคราวนี้เค้ามาแน่นอนคะเค้าสัญญาว่าไม่ลืม จำได้ตอนก่อนจะไปงงานเค้าบอกว่ารับรองว่าเราจะจำเค้าไม่ได้แน่นอน แต่พอมาเราก็ยังจำได้ ฮาๆ ไม่เห็นเปลี่ยนไปมากเลย สงสัยเค้าคิดว่าเค้าหล่อ เราก็ได้รู้จักเพื่อนๆของเค้ามากขึ้น ได้ใช่เวลาร่วมกับเค้า มีรูปคู่กับเค้ามากขึ้น เราสัมผัสได้ว่าเวลาเค้าหันหน้ามามองเรา ในตาเป็นประกายมากคะเค้าบอกว่าคราว เรารู้สึกเหมือนสายฟ้าเปรี้ยงมากลางใจ ตัวชาไปหมดเลยคะ เค้ายังบอกว่างานหน้าถ้ามีงานแบบนี้อีกเค้าจะชวนเรามาอีกคะ เราแบบฟินเลย
อันนั้นถือว่าเป็นงานแรกที่เค้าชวนไปคะ หลังจากนั้นเรามีความรู้สึกดีกับเค้ามากขึ้น แต่เราไม่รู้ว่าเค้าคิดยังไงกับเรา ผ่านมาสักหนึ่งอาทิตย์เค้าก็บอกว่าเค้าชวนเราไปเที่ยวห้างกันหลังสอบ เราเงียบไป เค้าเลยบอกว่ามีเพื่อนเค้าไปด้วยนะ เราเลยตอบโอเคคะ อันนี้เรายิ่งสนิทกับเพื่อนเค้ามากขึ้น และก็กับเค้าด้วย เราสังเกตว่าเค้าจะพยายามมาเดินข้างๆเราตลอด ทั้งๆที่บางทีเราแกล้งให้เค้าเข้าไปนั้งเก้าอี้ข้างในก่อนเพื่อเราจะได้นั้งที่อื่น แต่เค้ากลับบอกคนก่อนหน้าเราว่าไปนั้งที่อื่นดีกว่าจนเราต้องนั้งข้างๆเค้า เราก็สัมผัสได้อีกคะว่ามันมีอะไรแบบพิเศษมากกว่าคนอื่น โดยเฉพาะสายตาเค้าว่าเวลามองมา หลังจากนั้นเราก็ได้มีโอกาสไปร่วมงานอีกงานคะเป็นงานของชมรมเราเองคะเค้าเต็มใจสมัครมาคะอันนี้ แล้วทีนี้มันมีมิตติ้งก่อนวันจริงคะ วันนั้นเรายิ่งรู้สึกกับเค้ามาก และมากขึ้นไปอีก เราคุยกันมากขึ้น เค้าไปขับรถส่งเราที่หอคะวันนั้น หลังจากวันนั้นเรามีความรู้สึกสับสนกับตัวเองว่าเค้าชอบเราเหมือนกันหรือเปล่านะ เค้าเป็นเกย์หรือเปล่า มีคำถามมากมายในหัวคะ แล้วเวลาเราลงสถานะอะไรแบบเพ้อๆหน่อยน้องชายเค้าชอบมาคอมเม้นว่าเราคิดถึงใคร ชอบใคร พยายามให้เราตอบในสเตตัส เราก็บ่ายเบี่ยงมาตลอดคะ จนกระทั่งเราตัดสินใจไปปรับทุกข์กับเอคะ คนที่เราชอบ ปล บางคนอาจจะบอกว่าเราบ้าหรือเปล่าที่ไปปรับทุกกับคนที่เราแอบชอบเรื่องแอบชอบเค้า ขอบอกว่าบ้ามากคะ ห้าๆๆๆ
เราแกล้งถามเค้าไปว่า เราว่าเราชอบคนนึงๆแล้วแหละแต่ไม่กล้าบอกทำไงดี เค้าก็บอกว่าให้ถามไปว่า รู้สึกยังไงกับเราบ้าง แล้วเค้าก็บอกว่าถ้าเราเจอคนที่ใช่แล้วก็อย่าปล่อยไปนะ ลองบอกเขาคนคนนั้นไป ซึ่งจริงๆแล้วเป็นพี่นั้นแหละ แล้วเราจะถามยังไงหละคะ แบบตอนนั้นน้ำท่วมปากมากที่คนที่แนะนำเราให้บอกสารภาพรักคือคนที่เรากำลังปรึกษาอยู่และเป็นคนๆเดียวกับที่เราแอบชอบ ตอนนั้นแบบกรี้ด อึกอีดมาก เราบอกเค้าไปว่า เราบอกไม่ได้หรอกว่าชอบ พี่เค้าบอกว่าลองบอกไปเลย คนที่เราอยากสารภาพรักเค้าอาจจะแอบชอบเราเหมือนกันนะ เราแอบถามเค้าว่าแล้วพี่หละเปิดใจหรือยัง เพราะพี่ บอกว่าไม่อยากมีใครอีกแล้วแล้วก็จะทำตัวเป็นตุ๊ดๆด้วยถ้ามีผญเข้าใกล้ พี่เค้าพูดว่า ตอนนี้พี่คิดว่าพี่เจอคนที่ใช่แล้วหละ เราก็บอกว่าผญคนนั้นคงโชคดีมากเลยนะคะ เราก้แอบเศร้าว่าต้องไม่ใช่เราแน่ๆ แงๆ ตอนนั้นเราเลยถามพี่เค้าไปว่า พี่คิดยังไงกับหนูเหรอคะ พี่เค้าเงียบไปสักพัก แล้วก็ตอบกลับมาว่าเราเข้าใจเค้า เราฟังเค้าได้ทุกเรื่อง ใจเราสะอาดบริสุท และมีเมตตา และนั่นทำไมพี่ชอบเรา
ณ โมดม้นนั่นเราแบบอยากลอยออกนอกโลกและตบหน้าตัวเองดังๆว่ามันเป็นความจริงเหรอ พี่เค้าบอกว่าเค้าชอบเราแต่ไม่กล้าบอก หลังจากวันนั้นพี่เค้าบอกเราว่าพี่เค้าจะพิมถามเราแล้วว่าเรารู้สึกยังไงกับพี่ แต่เราพิมตัดหน้าพี่เค้าแค่วินาทีเดียว เค้าบอกว่าตอนที่เค้าเห็นคำถามเรา พี่เค้าร้องไห้ออกมาเลย เค้าบอกว่าเป็นคำถามที่เค้ารอมานานจากปากเรา เราแบบเราก็ร้องไห้เลยคะ ไม่คิดว่าเค้าจะรู้สึกกับเรามากขนาดนี้
เราสามารถ ทำให้เค้าพังกำแพงตังเองลงมาได้ขนาดนี้เลยหรือ เพราะก่อนหน้านั้นเค้าดูแย่และอกหักมากจริงๆ
คุณจะรู้สึกยังไงถ้าคนที่คุณแอบชอบมาบอกว่าชอบคุณเหมือนกัน
อันนั้นถือว่าเป็นงานแรกที่เค้าชวนไปคะ หลังจากนั้นเรามีความรู้สึกดีกับเค้ามากขึ้น แต่เราไม่รู้ว่าเค้าคิดยังไงกับเรา ผ่านมาสักหนึ่งอาทิตย์เค้าก็บอกว่าเค้าชวนเราไปเที่ยวห้างกันหลังสอบ เราเงียบไป เค้าเลยบอกว่ามีเพื่อนเค้าไปด้วยนะ เราเลยตอบโอเคคะ อันนี้เรายิ่งสนิทกับเพื่อนเค้ามากขึ้น และก็กับเค้าด้วย เราสังเกตว่าเค้าจะพยายามมาเดินข้างๆเราตลอด ทั้งๆที่บางทีเราแกล้งให้เค้าเข้าไปนั้งเก้าอี้ข้างในก่อนเพื่อเราจะได้นั้งที่อื่น แต่เค้ากลับบอกคนก่อนหน้าเราว่าไปนั้งที่อื่นดีกว่าจนเราต้องนั้งข้างๆเค้า เราก็สัมผัสได้อีกคะว่ามันมีอะไรแบบพิเศษมากกว่าคนอื่น โดยเฉพาะสายตาเค้าว่าเวลามองมา หลังจากนั้นเราก็ได้มีโอกาสไปร่วมงานอีกงานคะเป็นงานของชมรมเราเองคะเค้าเต็มใจสมัครมาคะอันนี้ แล้วทีนี้มันมีมิตติ้งก่อนวันจริงคะ วันนั้นเรายิ่งรู้สึกกับเค้ามาก และมากขึ้นไปอีก เราคุยกันมากขึ้น เค้าไปขับรถส่งเราที่หอคะวันนั้น หลังจากวันนั้นเรามีความรู้สึกสับสนกับตัวเองว่าเค้าชอบเราเหมือนกันหรือเปล่านะ เค้าเป็นเกย์หรือเปล่า มีคำถามมากมายในหัวคะ แล้วเวลาเราลงสถานะอะไรแบบเพ้อๆหน่อยน้องชายเค้าชอบมาคอมเม้นว่าเราคิดถึงใคร ชอบใคร พยายามให้เราตอบในสเตตัส เราก็บ่ายเบี่ยงมาตลอดคะ จนกระทั่งเราตัดสินใจไปปรับทุกข์กับเอคะ คนที่เราชอบ ปล บางคนอาจจะบอกว่าเราบ้าหรือเปล่าที่ไปปรับทุกกับคนที่เราแอบชอบเรื่องแอบชอบเค้า ขอบอกว่าบ้ามากคะ ห้าๆๆๆ
เราแกล้งถามเค้าไปว่า เราว่าเราชอบคนนึงๆแล้วแหละแต่ไม่กล้าบอกทำไงดี เค้าก็บอกว่าให้ถามไปว่า รู้สึกยังไงกับเราบ้าง แล้วเค้าก็บอกว่าถ้าเราเจอคนที่ใช่แล้วก็อย่าปล่อยไปนะ ลองบอกเขาคนคนนั้นไป ซึ่งจริงๆแล้วเป็นพี่นั้นแหละ แล้วเราจะถามยังไงหละคะ แบบตอนนั้นน้ำท่วมปากมากที่คนที่แนะนำเราให้บอกสารภาพรักคือคนที่เรากำลังปรึกษาอยู่และเป็นคนๆเดียวกับที่เราแอบชอบ ตอนนั้นแบบกรี้ด อึกอีดมาก เราบอกเค้าไปว่า เราบอกไม่ได้หรอกว่าชอบ พี่เค้าบอกว่าลองบอกไปเลย คนที่เราอยากสารภาพรักเค้าอาจจะแอบชอบเราเหมือนกันนะ เราแอบถามเค้าว่าแล้วพี่หละเปิดใจหรือยัง เพราะพี่ บอกว่าไม่อยากมีใครอีกแล้วแล้วก็จะทำตัวเป็นตุ๊ดๆด้วยถ้ามีผญเข้าใกล้ พี่เค้าพูดว่า ตอนนี้พี่คิดว่าพี่เจอคนที่ใช่แล้วหละ เราก็บอกว่าผญคนนั้นคงโชคดีมากเลยนะคะ เราก้แอบเศร้าว่าต้องไม่ใช่เราแน่ๆ แงๆ ตอนนั้นเราเลยถามพี่เค้าไปว่า พี่คิดยังไงกับหนูเหรอคะ พี่เค้าเงียบไปสักพัก แล้วก็ตอบกลับมาว่าเราเข้าใจเค้า เราฟังเค้าได้ทุกเรื่อง ใจเราสะอาดบริสุท และมีเมตตา และนั่นทำไมพี่ชอบเรา
ณ โมดม้นนั่นเราแบบอยากลอยออกนอกโลกและตบหน้าตัวเองดังๆว่ามันเป็นความจริงเหรอ พี่เค้าบอกว่าเค้าชอบเราแต่ไม่กล้าบอก หลังจากวันนั้นพี่เค้าบอกเราว่าพี่เค้าจะพิมถามเราแล้วว่าเรารู้สึกยังไงกับพี่ แต่เราพิมตัดหน้าพี่เค้าแค่วินาทีเดียว เค้าบอกว่าตอนที่เค้าเห็นคำถามเรา พี่เค้าร้องไห้ออกมาเลย เค้าบอกว่าเป็นคำถามที่เค้ารอมานานจากปากเรา เราแบบเราก็ร้องไห้เลยคะ ไม่คิดว่าเค้าจะรู้สึกกับเรามากขนาดนี้
เราสามารถ ทำให้เค้าพังกำแพงตังเองลงมาได้ขนาดนี้เลยหรือ เพราะก่อนหน้านั้นเค้าดูแย่และอกหักมากจริงๆ