EP 0 : เรื่องราวของผมกับไอซ์แลนด์
http://pantip.com/topic/35263996
มาต่อ EP 1 แล้วครับ ~
หลังจากที่ผมยืนยันว่าจะไปไอซ์แลนด์ โดยได้รับการยินยอมจากพ่อและแม่ (แบบไม่เต็มใจเท่าไหร่)
แม่ก็คุยปกติกับผมดีทุกอย่าง เพราะนางได้ปลงไว้แล้ว
ยกเว้นพ่อ...
ยังคงทำหน้าบูดหน้าบึ้ง จิกตา มองแรง ถามอะไรทีนึงก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงในสไตล์เพลง Metal Rock
ผมก็ต้องทำตัวไม่แคร์ (ทำไมเลวอีกแล้ว) ก็ถึงแคร์ไป ก็ไม่ได้ช่วยอยู่ดี เพราะทางเดียวที่จะทำให้พ่อกลับมาพูดกับผมดี ๆ ก็คงเป็นการล้มเลิกแผนการไปไอซ์แลนด์ ซึ่งยังไงผมก็ไม่ทำแน่นอน
ผมก็ไม่สนใจ และก้มหน้าก้มตา ทำเอกสารของ VSA ทำเอกสารของ SEEDS ไปเรื่อย ๆ ไปขอเอกสารนู่นนี่นั่น ที่อำเภอ ที่ธนาคาร ด้วยตัวเอง
ปกติจะมีพ่อจะไปช่วยจัดการให้ แต่คราวนี้นางแค่ขับรถไปส่งและละทิ้งผมไว้ ให้ผมจัดการทุกอย่างโดยลำพัง คงอยากทดสอบผมมั้ง ว่าจะช่วยเหลือตัวเองได้มั้ย แน่น๊อนน ! แค่นี้เอง ทำไมผมถึงจะทำไม่ได้
ถึงไม่เคยทำเอง ก็ไม่ได้หมายความว่า จะทำไม่เป็นนะฮะ
//หันไปมองกล้องสองแล้วจิกตายิ้มด้วยความมั่นใจแบบพี่เกด
หลังจากนั้น ก็ทำการทำเอกสารยื่นขอวีซ่า... มีเอกสารมากมายที่ผมต้องจัดการ ไม่ว่าจะเป็น หลักฐานทางการเงิน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน หลักฐานการจองที่พัก หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบิน ใบยินยอมการเดินทางออกนอกประเทศจากผู้ปกครอง (ในเดือนนั้นผมยังอายุ 17 เลยจำเป็นต้องขอ) บลา ๆ
จังหวัดของผมไม่มีสนามบิน เวลาจะเดินทางไปกรุงเทพฯ ต้องไปขึ้นเครื่องบินที่จังหวัดที่ใกล้ที่สุด นั่นก็คือเชียงราย ผมจึงต้องไปนอนเชียงรายก่อน 1 คืนที่บ้านญาติ และวันรุ่งเช้าก็เดินทางไปกรุงเทพฯ คนเดียว (เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไปกรุงเทพโดยลำพัง)
ดังนั้น เอกสารที่ต้องใช้ยื่นวีซ่าทุกอย่าง ผมต้องเตรียมให้พร้อม ก่อนจะไปนอนที่เชียงราย เพราะถ้าผมลืม... ก็ตายสิครับ
ระหว่างทางไปเชียงราย ผมก็พยายามนึกว่า ลืมอะไรรึเปล่าเนี่ย...
อุ้ย ลืมสมุดบัญชีแม่ ! มีแต่สำเนาสมุดบัญชี แต่ไม่มีสมุดฉบับจริง ก็เลยโทรไปถามพี่แพร์ ผู้ดูแลจัดการเรื่องวีซ่าให้กับอาสาสมัครของ VSA พี่แพร์ก็บอกว่า ถ้าแม่เซ็นรับรองสำเนาแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ.. โอเค โล่งอกไปหนึ่งเปราะ
มาถึงบ้านญาติ ก็ทำการ กินข้าว อาบน้ำ นอน ...
นอนไม่หลับ ไม่ชินกับสถานที่...
เลยหยิบโทรศัพท์มาเล่น พยายามหลับอีกครั้ง นอนไม่หลับอีก ลุกมาเล่นโทรศัพท์ต่อ วนลูปมาแบบนี้ ตั้งแต่สี่ทุ่มถึงตีสอง
ก่อนจะพยายามข่มตานอนอีกรอบ ก็เลย ไหน ๆ ขอเช็คเอกสารหน่อยสิว่าพร้อมมั้ย เช็คไปเช็คมา.... อืมมมมม ก็ครบนะ เอ แต่เหมือนขาดอะไรบางอย่าง...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
โอ้พระคุณรุนช่องสามเจ็ดห้าเก้าสิบเอ็ด !!
เอกสารยินยอมจากผู้ปกครอง !!!!!
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!


จากนั้นโศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้น ประดุจท้องฟ้าแปรปรวนวิปริตทันใด เทแฟ้มออกมากระจัดกระจาย หาเอกสารยินยอมจากผู้ปกครองเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
รู้สึกแพนิคมาก ๆ ไลน์ไปบ่นในกลุ่ม ไลน์หาเพื่อน หาพี่ ว่าจะทำยังไงดี พยายามโทรหาพี่แพร์ แต่ใครที่ไหนจะมารับโทรศัพท์ตอนตีสอง หรือจะโทรบอกพ่อ ให้ขับรถเอามาให้หน่อย แต่ก็ไม่อยากจะโดนบ่นจนหูชา ไม่อยากรบกวนด้วย คนกำลังหลับกำลังนอน โอ้ยยย จะทำยังไงดีนะ
จากนั้นผมก็ตระหนักได้ว่า...
วันที่ผมยื่นขอวีซ่า (31 มีนาคม) เป็นวันเกิดของผม ซึ่งผมมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์พอดี และการใช้เอกสารยินยอมจากผู้ปกครองนั้น ใช้เฉพาะในกรณีที่ผู้เดินทางมีอายุต่ำกว่า 18 ปีเท่านั้น
ผมจึงรู้สึก โอเคขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังไม่หายกังวล เพราะเราเพิ่งจะ 18 เอง ไม่ได้ 18 มานานแล้ว มันจะได้ป่ะวะ ก็คิดไปเรื่อยอยู่นั่นแหละครับ สรุปได้นอนแค่สองชั่วโมง...
ตอนเช้าก็บินไปกรุงเทพฯ ไปถึงก็ไปเจอพี่แพร์ จากนั้นกราบขอขมาพี่เค้าที่ลืมเอกสารยินยอมจากผู้ปกครอง... โชคดีที่ทุกครั้งที่ผมได้เอกสารอะไรมา พี่แพร์จะให้ผมสแกนแล้วส่งให้พี่แพร์ตลอด เพราะฉะนั้น ถือว่าอย่างน้อยก็มีเอกสารยินยอมจากผู้ปกครองฉบับสำเนาละกัน
THE BOY x ICELAND | EP 1 : เตรียมตัวออกเดินทาง
มาต่อ EP 1 แล้วครับ ~
หลังจากที่ผมยืนยันว่าจะไปไอซ์แลนด์ โดยได้รับการยินยอมจากพ่อและแม่ (แบบไม่เต็มใจเท่าไหร่)
แม่ก็คุยปกติกับผมดีทุกอย่าง เพราะนางได้ปลงไว้แล้ว
ยกเว้นพ่อ...
ยังคงทำหน้าบูดหน้าบึ้ง จิกตา มองแรง ถามอะไรทีนึงก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงในสไตล์เพลง Metal Rock
ผมก็ต้องทำตัวไม่แคร์ (ทำไมเลวอีกแล้ว) ก็ถึงแคร์ไป ก็ไม่ได้ช่วยอยู่ดี เพราะทางเดียวที่จะทำให้พ่อกลับมาพูดกับผมดี ๆ ก็คงเป็นการล้มเลิกแผนการไปไอซ์แลนด์ ซึ่งยังไงผมก็ไม่ทำแน่นอน
ผมก็ไม่สนใจ และก้มหน้าก้มตา ทำเอกสารของ VSA ทำเอกสารของ SEEDS ไปเรื่อย ๆ ไปขอเอกสารนู่นนี่นั่น ที่อำเภอ ที่ธนาคาร ด้วยตัวเอง
ปกติจะมีพ่อจะไปช่วยจัดการให้ แต่คราวนี้นางแค่ขับรถไปส่งและละทิ้งผมไว้ ให้ผมจัดการทุกอย่างโดยลำพัง คงอยากทดสอบผมมั้ง ว่าจะช่วยเหลือตัวเองได้มั้ย แน่น๊อนน ! แค่นี้เอง ทำไมผมถึงจะทำไม่ได้
ถึงไม่เคยทำเอง ก็ไม่ได้หมายความว่า จะทำไม่เป็นนะฮะ
//หันไปมองกล้องสองแล้วจิกตายิ้มด้วยความมั่นใจแบบพี่เกด
หลังจากนั้น ก็ทำการทำเอกสารยื่นขอวีซ่า... มีเอกสารมากมายที่ผมต้องจัดการ ไม่ว่าจะเป็น หลักฐานทางการเงิน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน หลักฐานการจองที่พัก หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบิน ใบยินยอมการเดินทางออกนอกประเทศจากผู้ปกครอง (ในเดือนนั้นผมยังอายุ 17 เลยจำเป็นต้องขอ) บลา ๆ
จังหวัดของผมไม่มีสนามบิน เวลาจะเดินทางไปกรุงเทพฯ ต้องไปขึ้นเครื่องบินที่จังหวัดที่ใกล้ที่สุด นั่นก็คือเชียงราย ผมจึงต้องไปนอนเชียงรายก่อน 1 คืนที่บ้านญาติ และวันรุ่งเช้าก็เดินทางไปกรุงเทพฯ คนเดียว (เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไปกรุงเทพโดยลำพัง)
ดังนั้น เอกสารที่ต้องใช้ยื่นวีซ่าทุกอย่าง ผมต้องเตรียมให้พร้อม ก่อนจะไปนอนที่เชียงราย เพราะถ้าผมลืม... ก็ตายสิครับ
ระหว่างทางไปเชียงราย ผมก็พยายามนึกว่า ลืมอะไรรึเปล่าเนี่ย...
อุ้ย ลืมสมุดบัญชีแม่ ! มีแต่สำเนาสมุดบัญชี แต่ไม่มีสมุดฉบับจริง ก็เลยโทรไปถามพี่แพร์ ผู้ดูแลจัดการเรื่องวีซ่าให้กับอาสาสมัครของ VSA พี่แพร์ก็บอกว่า ถ้าแม่เซ็นรับรองสำเนาแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ.. โอเค โล่งอกไปหนึ่งเปราะ
มาถึงบ้านญาติ ก็ทำการ กินข้าว อาบน้ำ นอน ...
นอนไม่หลับ ไม่ชินกับสถานที่...
เลยหยิบโทรศัพท์มาเล่น พยายามหลับอีกครั้ง นอนไม่หลับอีก ลุกมาเล่นโทรศัพท์ต่อ วนลูปมาแบบนี้ ตั้งแต่สี่ทุ่มถึงตีสอง
ก่อนจะพยายามข่มตานอนอีกรอบ ก็เลย ไหน ๆ ขอเช็คเอกสารหน่อยสิว่าพร้อมมั้ย เช็คไปเช็คมา.... อืมมมมม ก็ครบนะ เอ แต่เหมือนขาดอะไรบางอย่าง...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เอกสารยินยอมจากผู้ปกครอง !!!!!
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!
จากนั้นโศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้น ประดุจท้องฟ้าแปรปรวนวิปริตทันใด เทแฟ้มออกมากระจัดกระจาย หาเอกสารยินยอมจากผู้ปกครองเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
รู้สึกแพนิคมาก ๆ ไลน์ไปบ่นในกลุ่ม ไลน์หาเพื่อน หาพี่ ว่าจะทำยังไงดี พยายามโทรหาพี่แพร์ แต่ใครที่ไหนจะมารับโทรศัพท์ตอนตีสอง หรือจะโทรบอกพ่อ ให้ขับรถเอามาให้หน่อย แต่ก็ไม่อยากจะโดนบ่นจนหูชา ไม่อยากรบกวนด้วย คนกำลังหลับกำลังนอน โอ้ยยย จะทำยังไงดีนะ
จากนั้นผมก็ตระหนักได้ว่า...
วันที่ผมยื่นขอวีซ่า (31 มีนาคม) เป็นวันเกิดของผม ซึ่งผมมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์พอดี และการใช้เอกสารยินยอมจากผู้ปกครองนั้น ใช้เฉพาะในกรณีที่ผู้เดินทางมีอายุต่ำกว่า 18 ปีเท่านั้น
ผมจึงรู้สึก โอเคขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังไม่หายกังวล เพราะเราเพิ่งจะ 18 เอง ไม่ได้ 18 มานานแล้ว มันจะได้ป่ะวะ ก็คิดไปเรื่อยอยู่นั่นแหละครับ สรุปได้นอนแค่สองชั่วโมง...
ตอนเช้าก็บินไปกรุงเทพฯ ไปถึงก็ไปเจอพี่แพร์ จากนั้นกราบขอขมาพี่เค้าที่ลืมเอกสารยินยอมจากผู้ปกครอง... โชคดีที่ทุกครั้งที่ผมได้เอกสารอะไรมา พี่แพร์จะให้ผมสแกนแล้วส่งให้พี่แพร์ตลอด เพราะฉะนั้น ถือว่าอย่างน้อยก็มีเอกสารยินยอมจากผู้ปกครองฉบับสำเนาละกัน