Lonely lady สวัสดี "เจียงใหม่" เจ้า : ผู้หญิงคนเดียวเที่ยวเชียงใหม่ไม่ง้อรถแดง

จุดประสงค์ของการเดินทางไปเที่ยว
คนเดียวในครั้งนี้
  - ช่วงเวลานี้ของปีที่แล้ว เป็นช่วงที่ทุกข์มากและชีวิตตกต่ำถึงขีดสุด ครบปีแล้วเลยอยาก
  Strong ขึ้นไปอีกขั้น!
  - Search หาการเที่ยวเชียงใหม่ในกระทู้ต่างๆ
  รวมทั้งถามเพื่อนที่อยู่เชียงใหม่
  ก็ไม่ค่อยเจอการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ
  เลยตั้งใจว่าอยากไปลองผิดลองถูกดู
  ว่าถ้าไม่เหมารถแดงเที่ยวเหมือนครั้งผ่านๆมาเนี่ย จะรอดมั้ย?
  - จะไม่ไปเที่ยวแถวดอยสุเทพ สวนสัตว์เชียงใหม่ และปาย เพราะเคยไปมาแล้วค่ะ

วิธีการเดินทางคนเดียว
  - เลือกโรงแรมที่รั้วรอบขอบชิด
  และควรติดขนส่งสาธารณะ
  เพื่อเดินทางไปที่ต่างๆโดยไม่ต้องเสียเวลาค่ะ
  จขกท.เลือกโรงแรมใกล้ขนส่งช้างเผือก
  แบบสามารถเดินถึงค่ะ
  (ขนส่งช้างเผือกเป็นท่ารถที่เดินทางไปต่างอำเภอ)
  - ศึกษาเส้นทางก่อนไปให้ดีๆ
  วางแผนไปคร่าวๆว่าในแต่ละวันจะไปที่ไหนบ้าง
  เดินทางคร่าวๆยังไง
  ใช้เวลาที่ละประมาณเท่าไหร่
  เพื่อคุมเวลาไม่ให้กลับมาที่พักค่ำจนเกินไป


การเดินทางของผู้หญิง Strong
  ** จขกท. เป็นคนที่ออกกำลังกายต่อเนื่อง
ถ้าใครที่ไม่ Strong ทางด้านการเดิน วิ่ง
หรือเหนื่อยง่าย
ไม่แนะนำให้เที่ยวแบบนี้นะคะ **

วันแรก
  ถึงเชียงใหม่ประมาณสายๆค่ะ
  จากนั้นนั่งรถ BTTS หรือรถตู้บ้านถวาย
  เข้าเช็คอินโรงแรมที่จองไว้
  ค่ารถ 30 บาทเท่านั้นค่ะ
  (ถ้าเป็นรถแดงจะราคา 120-200 บาทค่ะ)
  เบอร์ติดต่อ 093-1301911
  เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/รถตู้บ้านถวาย-Taxi-535318279953637/?fref=ts

  พอเก็บของที่ห้องแล้ว
  ก็ออกเดินทางไปกินบุปเฟต์เค้กที่
  โรงแรมดาราเทวี โลดค่ะ

  เดินออกจากโรงแรมไปขนส่งช้างเผือก
  จริงๆไม่เคยมาและไม่รู้ว่าอยู่ไหนหรอกค่ะ
  แต่ Google map ช่วยเราได้ 555

  พอถึงขนส่งช้างเผือกปุ๊บ
  ก็นั่งรถสีเหลืองที่เขียนว่า
  ไป "สันกำแพง"
  บอกคนขับว่าไป "วัดบวกครกหลวง"
  
  ถึงแล้วค่ะ วัดบวกครกหลวง
  
  

  จากนั้นเดินเข้าไปในซอยข้างวัดไม่ไกล
  ก็จะถึงโรงแรมดาราเทวีค่ะ

  ในส่วนของบุปเฟต์ขนมหวานจะอยู่ด้านหน้า
  ข้างประตูทางเข้าโรงแรมเลย

  ส่วนของเค้กช็อปจะอยู่ข้างในค่ะ

  บุปเฟต์ดาราเทวีหัวละ 550 บาท
  มีเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
  เพื่อความชัวร์โทรถามเค้าก่อนได้ค่ะ
  เบอร์ 053-888888

  ข้อแตกต่างระหว่าง บุปเฟต์เค้ก
  กับ เค้กช็อป คือ บุปเฟต์เค้ก
  จะไม่มีเอแคลร์ และ เค้กบางอย่าง
  ที่ขายในเค้กช้อปค่ะ  
  
  
  
  
  ส่วนที่นั่งกินบุปเฟต์ขนมหวานจะมี 2 โซน
  คือ ในห้องแอร์ และ Open-air สามารถบอกพนักงานได้ตั้งแต่ตอนโทรจองค่ะ
  
  

  หลังจากกินบุปเฟต์เสร็จ
  ก็เดินทางไปกาด(ตลาด)วโรรสหรือกาดหลวง

  ไปขึ้นรถเหลืองตรงปากซอยเหมือนเดิม
  แต่ครั้งนี้โบกฝั่งวัดบวกครกหลวงเลย

  ตรงกาดวโรรสจะมีของกิน เสื้อผ้า เครื่องประดับ
  ของฝาก สไตล์ชาวเหนือ ราคาไม่แพง
  ให้ Shopping กัน
  

  จากนั้นก็ไปนั่งรถเหลืองกลับแถวช้างเผือก
  เพื่อไปเที่ยวในเมือง

  เดินไปขึ้นรถเหลืองที่ร้านทอง โอ้ว จิ้น เฮง
  อันนี้ จขกท. ถามคนแถวนั้นมา
  แต่ก็ไม่รู้ว่าเดินไปตรงไหนอยู่ดี
  ไม่ต้องกลัว เปิด Google map ค่ะ
  ถึงเลย รู้เรื่อง 555
  
  พอกลับมาถึงสถานีขนส่งช้างเผือกตอนเย็น
  ก็เดินเที่ยวในเมืองต่อเลยค่ะ

  ไปไหว้อนุสาวรีย์ท้าว 3 กษัตริย์ในเมืองก่อน
  ถาม Google ค่ะ เดินตามนั้นเลย มันไม่ได้ไกลมาก
  
  จากนั้นก็ไปวัดพระสิงห์ค่ะ
  วันที่ไปมีเวียนเทียนพอดี
  ก็เลยไปเวียนกับเค้ามาด้วยค่ะ
  รู้สึกดี มีสิริมงคล
  
  
  

  จากนั้นก็เดินวนไปค่ะ เดินไปถนนคนเดินวัวลาย
  ปกติมันจะเป็นถนนคนเดินวันเสาร์
  แล้วไปต่อด้วยถนนคนเดินท่าแพ  

  แต่ จขกท. ไปเดินวันศุกร์
  เพราะวันเสาร์ต้องไปที่อื่น
  มันก็มีร้านขายของ ร้านกาแฟบ้างประปราย
  มาจบลงที่ประตูท่าแพค่ะ
  
  
  จขกท. เอาขาตั้งมือถือมาค่ะ ชอบแบบไม่ Selfie
  รู้สึกว่ามันเห็นวิวมากกว่า  

  จากนั้นพอถ่ายรูปคู่ประตูท่าแพเสร็จ
  ก็เดินกลับช้างเผือกค่ะ
  เดินวนรอบเมืองเชียงใหม่ครบ 1 รอบพอดี
  คืนนี้นอนหลับสบายยยยยยยยยย


  วันที่สอง
  ตื่นเช้าเพื่อเดินทางไป
  สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
  
  ขึ้นรถเหลืองที่อาเขตช้างเผือกเหมือนเดิม
  สังเกตง่ายๆถ้าเจอที่เค้าเลี้ยงม้ากันเยอะๆ
  นั่นแปลว่าใกล้ถึงที่ว่าการอำเภอแม่ริมค่ะ

  จากนั้นรถจะขับขึ้นเขาสักพักก็จะถึง
  สวนพฤกษศาสตร์
  ระยะทางรวม 4.2 km
  แต่มันไม่ใช่ทางลาด มันเป็นทางขึ้นและลงเขาค่ะ

  ตอนแรกคิดว่าเค้าจะมีรถรางให้บริการ
  แต่รถรางเป็นของเอกชน
  จะให้บริการแค่ตอนลูกค้าเยอะ
  เพราะฉะนั้น ก็ต้องเดินวนไปค่ะ!
  จุดที่แนะนำคือ สวนเทิดพระเกียรติในหลวง
  ทางเดินลอยฟ้า  และ เรือนกระจกค่ะ
  
  
  
  
  

  แทน แท๊น อย่าลืมถ่ายรูปมุมมหาชนค่ะ
  

  ถ้าเดินไม่ต้องกลัวว่าจะเก็บมุมสวยๆได้ไม่ครบ
  แนะนำให้พกแผนที่ที่เจ้าหน้าที่แจกให้ตอนซื้อตั๋วติดตัวเพราะได้ใช้ตลอด
  
  การเดินรอบสวนจะเหนื่อยช่วง 1.2-1.4 km. แรก
  ที่เดินขึ้นเขาไป ทางเดินลอยฟ้าค่ะ
  จากนั้นบอกเลยว่า สบายยยยย!

  พอเดินวนครบรวบที่สวนพฤกษศาสตร์แล้ว
  ก็ออกมาโบกรถเหลืองหน้าสวนไปม่อนแจ่ม
  บอกเค้าว่าลงหน้าปากทางขึ้นม่อนแจ่ม

  ลืมบอกแถวนี้มีคุ้มเสือด้วยนะ
  ถ้าใครสนใจแวะไปได้

  พอถึงทางขึ้นม่อนแจ่มปุ๊บ
  ก็จะเจอร้านขายแคนตาลูปตรงปากทาง  
  ถามพี่เค้าว่าเหมามอไซค์ชาวบ้านแถวนี้
  ขึ้นดอยเท่าไหร่

ไปเจอพี่ป๋องร้านติดกันให้ราคาขึ้นพร้อมลง
150 บาท ไปเที่ยวม่อนแจ่ม และบ้านม่อนม่วน
แถมขากลับยังใจดี
ถามว่าจะแวะเล่นโซน Adventure ด้วยมั้ย
คงต้องขอบายค่ะพี่
ถ้ามาคนเดียว แล้วยังไปเล่นอะไร Adventure อีก
มันก็คงจะ Strong เกินไปร้าววววส์
ไว้ค่อยครั้งหน้ามากับเพื่อนดีกว่า .... เอ๊ะ!
หรือจะมากับแฟนดี (ถ้าหาได้นะ) 555

  
  
  
  
  
  
  
จากนั้นนั่งรถเหลืองเข้าเมือง
แวะไปร้าน อาข่า อาม่า ของคุณ ลี จือปา  
ข้างธนาคารกรุงไทยวัดพระสิงห์
และเดินไปเที่ยวแถวนิมมานต์ต่อ
กะจะไปร้าน Cafe Ristr8to แต่วันนั้นร้านปิด
เลยกินร้าน โรตี "กู" ข้างๆแทน

อิ่มแล้วเดินกลับช้างเผือก
ผ่านทางเซ็นทรัลแอร์พอร์ต
  
ใครยังไม่รู้จัก ลี จือปา ดูได้จากลิงค์นี้ค่ะ
  https://www.youtube.com/watch?v=--UhvbVWP18
  
เมนูนี้เป็น Signature ร้านเค้าค่ะ
  


  วันที่สาม
  วันที่สามเน้นสบายๆ
  โดยจอง One day tour ไปดอยอินทนนท์ไว้
  แล้วกลับค่อยกลับ กทม. ค่ะ
  
  จขกท. เช็คเอ้าท์ออกจาก รร. แต่เช้าเลย
  แล้วฝากกระเป๋าไว้ท้ายรถตู้ทัวร์ค่ะ
  จากนั้นทัวร์ก็จะพาเราไปเที่ยวน้ำตกวชิรธาร
  ดอยอินทนนท์ พระมหาธาตุนภเมทนีดล
  นภพลภูมิสิริ

  นอกจากนั้นเค้ายังเลี้ยงข้าวกลางวันด้วย 1 มื้อ
  ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับคนที่เที่ยวคนเดียว

  
  
  
  
  

  จากนั้นกลับถึงในเมืองประมาณ 5 โมงเย็น
  แวะเจอเพื่อนที่เซ็นทรัลแอร์พอร์ต

  เพื่อนพาไปกินร้าน "โอ้ กะ จู้"
  ก็เป็นอันเสร็จสิ้นภาระกิจการเที่ยวคนเดียว
  ด้วยการเจอเพื่อนซักที ถือว่าจบอย่างสวยงามค่ะ 555

  
  
  
  สำหรับ จขกท. การเที่ยวครั้งนี้
  ได้ไปทุกที่ตามที่ตั้งใจไว้
  รวมทั้งได้ประสบการณ์มากมาย
  หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์
  สำหรับทุกคนบ้างไม่มากก็น้อย
  " กินข้าวคนเดียวให้เป็น เดินเล่นคนเดียวให้ได้ "
  สวัสดีค่ะ