หลังจากเมื่อคืน "สาวสอง ท่องเที่ยว" พักที่ The Blue sky KOH PAYAM ที่ทุกคนต่างขนามนามว่า Maldives Thailand วันนี้ "สาวสอง ท่องเที่ยว" จะมานอนอีกหนึ่งรีสอร์ทในเครือที่เค้าว่ากันว่าเป็น The Sorrento of Thailand นั่นคือ The Blue Sky RANONG
เมื่อเรือเข้าฝั่งแล้ว เจ้าหน้าที่คนเดิมที่มารับเราที่สนามบินในวันแรก ไปส่งยังท่าเรือเพื่อไปยังเกาะพยาม วันนี้เราชวนคุยบ้าง ทำให้พี่เค้าดูไม่ค่อยเกร็ง เพราะว่ามีแค่เราและน้องสาวเท่านั้นบนรถตู้ VIP ของรีสอร์ท เมื่อมาถึงรีสอร์ทก็ได้การต้อนรับอย่างดีไม่แพ้บนเกาะ พนักงานหญิงให้เราเลือกเมนูอาหารเย็นสำหรับคืนนี้ โดยที่นั่งยองๆ ที่พื้นตลอด โดยไม่ยืนค้ำหัวลูกค้า จากนั้นก็พาไปส่งที่ห้องพัก เราจองมาเป็นห้อง Seaview Suite (S.3) กับวิวทะเล 270 องศา

ออกจากห้องอาหารและส่วนต้อนรับมา เราจะต้องเดินผ่านสระว่ายน้ำส่วนกลาง

ผ่านบ้านพักแบบ Seaview Deluxe

ผ่านตุ๊กตานี้ไปก็จะถึงทางลงไปยังห้องพักของเรา

ห้องพักของเราจะอยู่ด้านในสุด เดินไกลสุด ส่วนตัวสุด มีที่นั่งรูปหัวใจอยู่ด้านหน้า

ถึงแล้ว เปิดประตูเข้าไปเลย

มืดไปหน่อย

เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา ก็จะเห็นเตียงนอนอันน่านอน นุ่มสบายแทบไม่อยากตื่นเลย ขวามือจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบเปิดโล่ง ซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องน้ำ

ถ่ายจากระเบียงห้องนอนไปยังเตียงนอน

ห้องนั่งเล่น

มุมทีวีในห้องนั่งเล่น

โต๊ะทำงานกับวิวทะเล

ชิงช้าที่ระเบียงห้องนั่งเล่น

ถ่ายจากชิงช้าเข้าไปในห้องนั่งเล่น

ห้องน้ำขนาดใหญ่ โทนสีขาวสะอาดตา

สามารถเปิดประตูเพื่อชมวิวทะเลได้

shower

จิบกาแฟยามบ่ายที่มุมนี้ มันช่างมีความสุขและชิลล์ได้อีกกับบรรยากาศแบบนี้

สำรวจห้องพักเสร็จแล้ว เดี๋ยวไปสำรวจรอบๆ รีสอร์ทกันต่อ เริ่มต้นด้วยการไปที่ Martini Hub สะพานไม้ที่ยื่นไปในทะเล

จากฮับ มองเข้าไปจะเห็นในส่วนของบ้านพัก ห้องของเราจะอยู่ขวาสุด

ที่นี่จะเป็นหาดหิน ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ

สระว่ายน้ำส่วนกลาง

บรรยากาศยามพระอาทิตย์ตก สุดแสนจะโรแมนติก

อาหารเย็นของเรา

บรรยากาศยามเช้า หมอกลงฝั่งพม่า มีชาวบ้านออกหาปลา บรรยากาศดีๆ ที่หาไม่ได้ในเมืองกรุง

อาหารเช้าของเรา

หลังจากทานม้อเช้าเสร็จ เราย่อยด้วยการว่ายน้ำในสระว่ายน้ำส่วนกลาง แล้วค่อยไปเก็บของเตรียมตัวไปเที่ยวต่อ

มื้อเที่ยงก่อนเช็คเอ้าท์
จากนั้นเราก็เดินทางต่อ one day tour กับเจ้าหน้าที่คนเดิม ด้วยรถตู้ VIP ที่มีลูกค้าแค่ 2 คน นั่นคือเรากับน้องสาวเท่านั้น ทริปวีไอพีจริงๆ คะ คราวนี้เจ้าหน้าที่ก็เริ่มบรรยายว่าวันนี้เราจะไปที่ไหนบ้าง ทำหน้าที่เป็นไกด์ด้วย พูดคุยมากขึ้นกว่า 2 วันที่แล้ว ทำให้เราก็รู้สึกผ่อนคลายไปด้วย ไม่เกร็ง สถานที่แรกก็คือให้เราแช่น้ำร้อนที่สยามฮ็อตสปา แต่ปัญหาคือทางสยามฮ็อตสปา ไม่อนุญาตให้พวกเราเข้าห้องฝั่งผู้หญิง ตอนแรกเราก็ไม่รู้หรอก แต่เห็นอาการของเจ้าหน้ารีสอร์ทดูเป็นกังวล พยามยามช่วยให้เราเข้าห้องฝั่งผู้หญิง เราก็เลยเข้าไปคุยว่าไม่เป็นไร เราเข้าใจ เป็นห้อง VIP ฝั่งผู้ชายก็ได้ ตกลงก็ตามนั้น

แช่สปาเสร็จ ก็เดินข้ามฝั่งมาชมบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน

จากนั้นก็ไปอีกบ่อน้ำร้อน ชื่อ บ่อน้ำร้อนพรรั้ง
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาไปช้อปปิ้ง และแวะให้อาหารปลาที่วัดบ้านหงาว

และปิดท้าย one day tour ที่ภูเขาหญ้า

ฝั่งตรงข้ามภูเขาหญ้า เราสามารถมองเห็นน้ำตกหงาวได้ในระยะไกล
จากนั้นเราเดินทางไปยังสนามบินระนองด้วยรถตู้ VIP คันเดิม เป็นทริปที่ตอนแรกรู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าไรหลังจากได้คุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย สนง.กรุงเทพ แต่พอได้ย่างก้าวเข้าสู่อาณาจักรของ The Blue Sky การต้อนรับและการบริการที่ดีเยียมของพนักงานทุกท่าน ความคิดที่อคติก็หายไป