สวัสดีค่ะ พึ่งเคยลงเล่าเรื่องราวครั้งแรกในชีวิต และใช้พันทิปครั้งแรกในชีวิตเช่นกัน ผิดถูกอย่างไร ขออภัย ณ ที่นี้ค่ะ
เรื่องเกิดขึ้น ณ ญี่ปุ่น.. ดินแดนปลาดิบ รูดซิปกระเป๋า จองตั๋วโปรได้เลยไม่เศร้า แบกกระเป๋าตามเพื่อนไปค่า ^^
ตอนที่ 1 : มัวแต่เล่นตัว จองตั๋วคนสุดท้าย อุ้ยว้ายตาย ได้โปรถูกสุด อิอิ
.. ใช่เลยค่ะ มัวแต่เล่นตัว เพื่อนก็อยากให้ไปด้วย เล่นตัวไปมาๆ ยอมจำนนทั้งเพื่อนและตั๋วในราคา 7400 บาท ไป-กลับ รวม นน. กระเป๋าค่ะ ถูกแบบนี้ก็ไม่ต้องสืบค่ะ Air Asia ไปช่วงมกราคมค่ะ เพื่อนไปก่อน 2 วัน (เพราะเค้าจองตั๋วกันนานแล้ว 555 )
สนามบินเดอนเมือง
ข้างๆ ก็ว่างยาว เป็นหางว่าวเลยค่ะ (แอบนอนยาวสามเบาะ)
กรอกข้อมูลค่ะ (หาตัวอย่างหรือคำแปลได้ตาม Pantip และ Google เลยค่ะ)
ตอนที่ 2 : ถึงแล้วนะคะ ญี่ปุ่น กับคุณด่าน ตม. (ถึงเวลาค่ำๆค่ะ ประมาณ 1 ทุ่มกว่า)
.. ตรงนี้ก็เกือบโดนเข้าห้องมืดค่ะ เพราะหลักสำคัญเป็นผู้หญิงไปคนเดียว ผมเผิมกระเซิงสุดค่ะ มีเป้ใหญ่ 1 ใบ และเล็กมากอีก 1 ใบ พอถึงคิวไม่ช้ารอค่ะ เดินไปอย่ามุ่งมั่น ด่านแรกพิจารณาสภาพเราประมาณ 1 นาที แล้วยิงคำถามภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่นค่ะ
ตม 1 : $%@!^&& (ฟังไม่ถนัด แต่ทำท่ามั่นใจแล้วตอบกลับ)
เรา : My friends
ตม 1 : $%@!^&& (ทำหน้างงและถามคำถามเดิม ..ส่วนเราฟังไม่ถนัด แต่ทำท่ามั่นใจแล้วตอบกลับอีก)
เรา : Travel (ยิ้มต่อแบบมั่นหน้า)
ตม 1 : $%@!^&& (ทำหน้างงเหมือนเดิม และถามคำถามเดิมอีกค่ะ ..ส่วนเราฟังไม่ถนัดเหมือนเดิม เพิ่มเติมความมั่นหน้าเริ่มลดลง 555)
เรา : Kaosan world Hotel (ยิ้มต่อแบบมั่นหน้า แต่ขาเริ่มอ่อน)
ตม 1 : $%@!^&& (ทำหน้างงหนักขึ้น และพูดช้าลง ..พร้อมคำถามเดิม)
เรา : Eight (ยังคงยิ้มต่อไป แบบซีดๆ 5555)
ตม 1 : What city do u go at Japan (ตรงนี้อาจพิมม์ไม่เหมือนเค้าพูด แต่คำถามที่เค้าจะถามคือ คุณไปเที่ยวเมืองอะไรบ้าง 5555 ตอนนี้หน้า ตม 1 เอือม และพูดช้ามากค่ะ)
เรา : อ๋อ (ตรงนี้เผลออ๋อเป็นภาษาไทยค่ะ 55) แล้วก็ตอบว่า โตเกียว (รู้สึกเหมือนประสบความสำเร็จในชีวิต)
ตม 1 : โอเค (จากนั้นก็มองสภาพเราอีก 30 วิ เหมือนนึกว่าจะถามอะไร แต่ก็คงได้คำตอบไปหมดแล้วในตอนต้น เลยให้ผ่านค่ะ 5555)
.. ชะนีน้อยไม่รีรอ เดินไปต่อ ตม.2 ด่านตรวจกระเป๋าค่ะ ซึ่งคิวก่อนหน้ากระเป๋าลากขนาดใหญ่ ตม.2 ให้เปิดเช็ค (นึกภาพตามค่ะ)กระเป๋าลากยกขึ้นโต๊ะนอนหงาย เปิดซิป ว้าวง่ายเห็นทุกอย่าง กลับมาที่ตัวเองค่ะ (นึกภาพตามอีกครั้งค่ะ) กระเป๋าเป้ทรงสี่เหลี่ยมอัดทุกอย่างตั้งแปรงสีฟันยันหมอนรองคอบนเครื่อง ถ้าได้เปิดคงต้องคว่ำมันแล้วเขย่าๆ กว่าจะเก็บเสร็จ โอ้โห!! ระทึกกว่า ตม.1 ..ถึงคิวละคะ ตม.2 เป็นคุณลุงหน้าตาเป็นพันทมิตรคุยดุจญาติมิตรรู้จักกันมานาน (ยิ้มใส่อย่างเดียวค่ะ ในหัวลุ้นมากจะต้องคว่ำเป้มั๊ยคะ 5555) ]
ตม.2 : มากับใครครับ (ภาษาอังกฤษนะคะ สกิลการฟังห่วยแล้ว สกิลแกรมม่าห่วยกว่าค่ะ 5555)
เรา : เพื่อนค่ะ
ตม.2 : เพื่อนอยู่ไหนละ (มองหาเพื่อน)
เรา : อธิบายสนุกสนานค่า เพื่อนมาถึงก่อนอย่างงี้อย่างงั้น
ตม.2 : ยืนฟังไปยิ้มไป แล้วพูดว่า "ขอดูกระเป๋าหน่อยครับ" (ทุกบทสนทนาภาษาอังกฤษนะคะ)
เรา : หยุดนิ่ง อึ้ง !! แต่ก็ตอบว่า "โอ.... เคค่า" (แบบว่าสภาพการพูดผิดไปมากจากคนเดิมเมื่อกี้ค่ะ 555)
ตม.2 : ยิ้ม ชี้ไปที่กระเป๋าเป้เล็กสีเหลืองสะท้อนแสงที่สะพายด้านหน้า
(โอ้โหตอนนั้นอยากจะบอกรักลุงเป็นภาษาญี่ปุ่นไทยอังกฤษ แต่ต้องเก็บอาการสุดๆ 55555 เราก็ลั้นลาเปิดทุกอย่างค่ะ ในนั้นก็มีแพลนเที่ยว ที่จดไว้ 1 วัน Booking โรงแรม ของจิปาถะ ขนมจากเมืองไทย แล้วลุงก็ขอดูเงินที่แลกมาด้วย แล้วก็ปิดท้าย เที่ยวให้สนุกครับ...)
Welcome to Japan ดินแดนปลาดิบ ก่อนเครื่องลง เวลาทุ่มกว่าๆค่ะ
ก่อนอื่นก็เดินตามเค้าไปเลยค่ะ (สนามบินนาริตะ)
ตอนที่ 3 : หาทางไปโรงแรม ด้วยวิธีถูกที่สุด กับ App Hyperdia Japan
.. ก่อนไปก็หาข้อมูลมาพอสมควรเลยค่ะ เพราะเดินทางคนเดียว และก็ไปถึงค่ำค่ะ เราซื้อซิมเล่น internet ในญี่ปุ่นราคาประหยัด 390 บาท 7 วัน ไปจากไทย ก็ช่วยได้มากยามเดินทางนี่แหละค่ะ ... จากนั้นก็หาที่ซื้อตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดินค่ะ (เราซื้อแบบรอบต่อรอบนะคะ ไม่มีเหมาอะไรทั้งนั้น 5555) ได้ตั๋วมาก็เดินตามชื่อ ช่องสถานี ไปรอรถไฟค่ะ ตอนนั้นเพื่อนก็เริ่มส่ง Line มาตามละ 5555 (พวกนางลุ้นกันมาก) พอรถไฟมาก็ขึ้นไปตามปกติค่ะ แต่จุดพีคคือ เดินทางแบบราคาตั๋วถูก ก็ต่อ ต่อ ต่อ ต่อ ต่อ ขบวนรถไฟ เปลี่ยนสถานีแบบวิ่งสนุกหยุดยืนเอ๋อระหว่างทางเลยค่ะ...
.. พอถึงที่ต้องเปลี่ยนสถานี ( Hyperdia จะมีระบุค่ะ ว่าต้องลงสถานีไหน เปลี่ยนตรงไหน) เอาละสิ โอ้โหเต็มไปหมด เหมือนในหนังที่ยืนอยู่แล้วมองทุกอย่างเคลื่อนที่ แต่ยืนเอ๋อได้แค่ไม่กี่วินะคะ เพราะรถไฟจะมาตรงเวลาและออกตรงเป๊ะ ถ้าไปไม่ทันก็ต้องเปลี่ยนแพลนกันตรงนั้น แต่ด้วยความกล้ามั่นหน้าเลยยึดคติว่า "ทางอยู่กับปาก" ถามเลยค่ะ ถูกใจใครก็วิ่งเข้าไปถามด้วยความสุภาพ (ถึงจะรีบแค่ไหนก็ตาม) ครั้งแรกก็วิ่งไป Excuse me ...... ? ตรงนี้ไม่มีใครตอบค่ะ ทุกคนเดินหนีด้วยความสุภาพ (ยืนอึ้งแปบ แล้วก็สบถในสมอง "คนญี่ปุ่นส่วนมากไม่พูดภาษาอังกฤษ" TT ) เริ่มใหม่ค่ะ Restart ระบบ จะไปไหนทีนี้ยื่นโทรศัพท์ให้เค้าดูเลยค่ะ ตรงภาษาญี่ปุ่น ทุกคนก็บอกค่ะ แต่อย่าดีใจไปค่ะ เพราะบางคนก็บอกผิด ต้องไปถามคนตรงนั้นอีกที โอ้โหแม่เจ้าคนละฝั่ง วิ่งกลับไปขาพันเลยค่ะ
.. ในที่สุดก็ถึงสถานีสุดท้าย เดินออกจากสถานีพร้อมควันออกปาก กับแบกกระเป๋าเป้ 10 โล เปิด map ที่โรงแรมให้มาค่ะ เราพักย่าน Asakusa เดินผ่านโคมยักษ์สีแดง และแล้วการเดินทางครั้งแรกในญี่ปุ่นก็รอดจนถึงโรงแรมค่ะ ถึงช้ากว่าเป้าหมายไปชั่วโมงกว่าเกือบสองชั่วโมง แต่คุ้มค่ะสนุกดี ได้คุยกับคนญี่ปุ่นไปเป็นสิบคน 55555
ตั๋วรถไฟจากสนามบินค่ะ ถ่ายส่งให้เพื่อนดูยืนยันว่า ฉันปรากฎตัวแล้ว
ตอนที่ 3.1 : Check in (โรงแรม) และฟินมากเจอคนไทย (เพราะนอนห้องรวม 12 เตียง เตียง 2 ชั้น)
.. ตอนนี้ขอเป็นตอนย่อยค่ะ .. เรานอนห้องรวมค่ะ เพราะห้องที่เพื่อนจองกันนั้น สำหรับ 4 ท่าน ซึ่งก็ครบพอดี (มัวแต่เล่นตัว 5555) รับกุญแจ ขึ้นลิฟท์ เปิดห้อง ว้าววว เจอคนไทย มากันเป็นสาว 2 คนค่ะ แต่พี่เค้าจะ check out ออกกันวันรุ่งขึ้นค่ะ ทักทายทำความรู้จักเสร็จ ก็เดินตรงเข้าไปสุดซ้ายมือชั้น 2 นำของวาง เตรียมตัวออกไปหาเพื่อน ลงบันได (เพราะขอจองนอนชั้นสองไว้ค่ะ) ตอนนั้นก็เวลาประมาณเกือบห้าทุ่มแล้ว เพื่อนรออยู่ห้างใกล้ๆโรงแรม ก่อนออกก็คุยกับพี่สาวคนไทยอีกเล็กน้อย ในขณะนั้นมีคนเปิดประตูมา เย้!! พี่ผู้ชายคนไทยอีกคน ก็ทักทายอีกค่ะ ด้วยความ friendly 5555 คุยไปมา เอ้า!! มา fight เดียวกันจ้า แต่..พี่เค้ามาถึงตั้งแต่สามทุ่ม ออกไปหาข้าวกินแล้ว อาบน้ำเสร็จแล้วกำลังจะนอน พี่เค้าค่อนข้างงงถึงงงที่สุดทำไมพึ่งมาถึง 5555 คือตอนนั้นถ้าเล่าให้ฟังพี่เค้าคงไม่ได้นอน เพื่อนที่รออยู่ก็น่าจะตบด้วย เลยยิ้มแหะๆ แล้วก็ออกไปหาเพื่อนค่ะ...
ตอนที่ 3.2 : พบเพื่อน หาอาหารกระทบกระเทือนกระเพาะ
.. ขอซอยย่อยอีกตอนค่ะ .. เดินตาม Location ที่นางแชร์กันให้ค่ะ เจอปั๊บ ทุกคนไม่ได้ดีใจค่ะ แต่ด่ากันคนละเสียง (ถึงช้ามาก รอนาน 5555) เราก็เล่า ๆๆๆ ให้ฟังและก็บอกว่า พอพูดถามทุกคนเสร็จ พอเราขอบคุณ คนญี่ปุ่นก็ดูงง มองหน้างง ๆ เพื่อนเลยถามว่า
เพื่อน : พูดกับเค้าว่าไร ทำไมเค้างง
เรา : พอเค้าชี้บอกทางเสร็จก็ขอบคุณเค้าไง
เพื่อน : พูดว่าไร
เรา : คัมซามิดา พร้อมก้มหัวไง
.. เพื่อนมองหน้ากัน และขำลั่นมาก
เรา : ทำไม มีไร ไม่ถูกหรอ
เพื่อน : อันนั้นมันภาษาเกาหลี !!!!
.. ขำลั่น พร้อมอึ้ง และอ๋อว่าแล้วทำไมเค้าทำหน้างงกันใหญ่ (คือหน้าก็ไม่เกาหลี พูดคัมซามีดาใส่เค้าอีก 5555) ..ขำสักพักใหญ่ก็เดินออกมาหาอะไรกินค่ะ (สิ่งที่คิดข้าวกล่องข้างทางญี่ปุ่นๆ ฟินแน่หิวมากด้วย) ... ภาพตัดมาที่ความเป็นจริงวันนั้นเปิดมื้อแรกในญี่ปุ่นด้วย 7-11 แล้วกลับโรงแรมค่ะ 5555
(ตอนต่อไป ตื่นเช้ากัน..ไปมันส์วันแรกคนเดียว)
บันทึกไม่ลับ :: ฉบับญี่ปุ่นนอกแพลน (แชร์ประสบการณ์ขำๆ ที่ไม่เคยมีอยู่ในแพลน)
เรื่องเกิดขึ้น ณ ญี่ปุ่น.. ดินแดนปลาดิบ รูดซิปกระเป๋า จองตั๋วโปรได้เลยไม่เศร้า แบกกระเป๋าตามเพื่อนไปค่า ^^
ตอนที่ 1 : มัวแต่เล่นตัว จองตั๋วคนสุดท้าย อุ้ยว้ายตาย ได้โปรถูกสุด อิอิ
.. ใช่เลยค่ะ มัวแต่เล่นตัว เพื่อนก็อยากให้ไปด้วย เล่นตัวไปมาๆ ยอมจำนนทั้งเพื่อนและตั๋วในราคา 7400 บาท ไป-กลับ รวม นน. กระเป๋าค่ะ ถูกแบบนี้ก็ไม่ต้องสืบค่ะ Air Asia ไปช่วงมกราคมค่ะ เพื่อนไปก่อน 2 วัน (เพราะเค้าจองตั๋วกันนานแล้ว 555 )
สนามบินเดอนเมือง
ข้างๆ ก็ว่างยาว เป็นหางว่าวเลยค่ะ (แอบนอนยาวสามเบาะ)
กรอกข้อมูลค่ะ (หาตัวอย่างหรือคำแปลได้ตาม Pantip และ Google เลยค่ะ)
ตอนที่ 2 : ถึงแล้วนะคะ ญี่ปุ่น กับคุณด่าน ตม. (ถึงเวลาค่ำๆค่ะ ประมาณ 1 ทุ่มกว่า)
.. ตรงนี้ก็เกือบโดนเข้าห้องมืดค่ะ เพราะหลักสำคัญเป็นผู้หญิงไปคนเดียว ผมเผิมกระเซิงสุดค่ะ มีเป้ใหญ่ 1 ใบ และเล็กมากอีก 1 ใบ พอถึงคิวไม่ช้ารอค่ะ เดินไปอย่ามุ่งมั่น ด่านแรกพิจารณาสภาพเราประมาณ 1 นาที แล้วยิงคำถามภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่นค่ะ
ตม 1 : $%@!^&& (ฟังไม่ถนัด แต่ทำท่ามั่นใจแล้วตอบกลับ)
เรา : My friends
ตม 1 : $%@!^&& (ทำหน้างงและถามคำถามเดิม ..ส่วนเราฟังไม่ถนัด แต่ทำท่ามั่นใจแล้วตอบกลับอีก)
เรา : Travel (ยิ้มต่อแบบมั่นหน้า)
ตม 1 : $%@!^&& (ทำหน้างงเหมือนเดิม และถามคำถามเดิมอีกค่ะ ..ส่วนเราฟังไม่ถนัดเหมือนเดิม เพิ่มเติมความมั่นหน้าเริ่มลดลง 555)
เรา : Kaosan world Hotel (ยิ้มต่อแบบมั่นหน้า แต่ขาเริ่มอ่อน)
ตม 1 : $%@!^&& (ทำหน้างงหนักขึ้น และพูดช้าลง ..พร้อมคำถามเดิม)
เรา : Eight (ยังคงยิ้มต่อไป แบบซีดๆ 5555)
ตม 1 : What city do u go at Japan (ตรงนี้อาจพิมม์ไม่เหมือนเค้าพูด แต่คำถามที่เค้าจะถามคือ คุณไปเที่ยวเมืองอะไรบ้าง 5555 ตอนนี้หน้า ตม 1 เอือม และพูดช้ามากค่ะ)
เรา : อ๋อ (ตรงนี้เผลออ๋อเป็นภาษาไทยค่ะ 55) แล้วก็ตอบว่า โตเกียว (รู้สึกเหมือนประสบความสำเร็จในชีวิต)
ตม 1 : โอเค (จากนั้นก็มองสภาพเราอีก 30 วิ เหมือนนึกว่าจะถามอะไร แต่ก็คงได้คำตอบไปหมดแล้วในตอนต้น เลยให้ผ่านค่ะ 5555)
.. ชะนีน้อยไม่รีรอ เดินไปต่อ ตม.2 ด่านตรวจกระเป๋าค่ะ ซึ่งคิวก่อนหน้ากระเป๋าลากขนาดใหญ่ ตม.2 ให้เปิดเช็ค (นึกภาพตามค่ะ)กระเป๋าลากยกขึ้นโต๊ะนอนหงาย เปิดซิป ว้าวง่ายเห็นทุกอย่าง กลับมาที่ตัวเองค่ะ (นึกภาพตามอีกครั้งค่ะ) กระเป๋าเป้ทรงสี่เหลี่ยมอัดทุกอย่างตั้งแปรงสีฟันยันหมอนรองคอบนเครื่อง ถ้าได้เปิดคงต้องคว่ำมันแล้วเขย่าๆ กว่าจะเก็บเสร็จ โอ้โห!! ระทึกกว่า ตม.1 ..ถึงคิวละคะ ตม.2 เป็นคุณลุงหน้าตาเป็นพันทมิตรคุยดุจญาติมิตรรู้จักกันมานาน (ยิ้มใส่อย่างเดียวค่ะ ในหัวลุ้นมากจะต้องคว่ำเป้มั๊ยคะ 5555) ]
ตม.2 : มากับใครครับ (ภาษาอังกฤษนะคะ สกิลการฟังห่วยแล้ว สกิลแกรมม่าห่วยกว่าค่ะ 5555)
เรา : เพื่อนค่ะ
ตม.2 : เพื่อนอยู่ไหนละ (มองหาเพื่อน)
เรา : อธิบายสนุกสนานค่า เพื่อนมาถึงก่อนอย่างงี้อย่างงั้น
ตม.2 : ยืนฟังไปยิ้มไป แล้วพูดว่า "ขอดูกระเป๋าหน่อยครับ" (ทุกบทสนทนาภาษาอังกฤษนะคะ)
เรา : หยุดนิ่ง อึ้ง !! แต่ก็ตอบว่า "โอ.... เคค่า" (แบบว่าสภาพการพูดผิดไปมากจากคนเดิมเมื่อกี้ค่ะ 555)
ตม.2 : ยิ้ม ชี้ไปที่กระเป๋าเป้เล็กสีเหลืองสะท้อนแสงที่สะพายด้านหน้า
(โอ้โหตอนนั้นอยากจะบอกรักลุงเป็นภาษาญี่ปุ่นไทยอังกฤษ แต่ต้องเก็บอาการสุดๆ 55555 เราก็ลั้นลาเปิดทุกอย่างค่ะ ในนั้นก็มีแพลนเที่ยว ที่จดไว้ 1 วัน Booking โรงแรม ของจิปาถะ ขนมจากเมืองไทย แล้วลุงก็ขอดูเงินที่แลกมาด้วย แล้วก็ปิดท้าย เที่ยวให้สนุกครับ...)
Welcome to Japan ดินแดนปลาดิบ ก่อนเครื่องลง เวลาทุ่มกว่าๆค่ะ
ก่อนอื่นก็เดินตามเค้าไปเลยค่ะ (สนามบินนาริตะ)
ตอนที่ 3 : หาทางไปโรงแรม ด้วยวิธีถูกที่สุด กับ App Hyperdia Japan
.. ก่อนไปก็หาข้อมูลมาพอสมควรเลยค่ะ เพราะเดินทางคนเดียว และก็ไปถึงค่ำค่ะ เราซื้อซิมเล่น internet ในญี่ปุ่นราคาประหยัด 390 บาท 7 วัน ไปจากไทย ก็ช่วยได้มากยามเดินทางนี่แหละค่ะ ... จากนั้นก็หาที่ซื้อตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดินค่ะ (เราซื้อแบบรอบต่อรอบนะคะ ไม่มีเหมาอะไรทั้งนั้น 5555) ได้ตั๋วมาก็เดินตามชื่อ ช่องสถานี ไปรอรถไฟค่ะ ตอนนั้นเพื่อนก็เริ่มส่ง Line มาตามละ 5555 (พวกนางลุ้นกันมาก) พอรถไฟมาก็ขึ้นไปตามปกติค่ะ แต่จุดพีคคือ เดินทางแบบราคาตั๋วถูก ก็ต่อ ต่อ ต่อ ต่อ ต่อ ขบวนรถไฟ เปลี่ยนสถานีแบบวิ่งสนุกหยุดยืนเอ๋อระหว่างทางเลยค่ะ...
.. พอถึงที่ต้องเปลี่ยนสถานี ( Hyperdia จะมีระบุค่ะ ว่าต้องลงสถานีไหน เปลี่ยนตรงไหน) เอาละสิ โอ้โหเต็มไปหมด เหมือนในหนังที่ยืนอยู่แล้วมองทุกอย่างเคลื่อนที่ แต่ยืนเอ๋อได้แค่ไม่กี่วินะคะ เพราะรถไฟจะมาตรงเวลาและออกตรงเป๊ะ ถ้าไปไม่ทันก็ต้องเปลี่ยนแพลนกันตรงนั้น แต่ด้วยความกล้ามั่นหน้าเลยยึดคติว่า "ทางอยู่กับปาก" ถามเลยค่ะ ถูกใจใครก็วิ่งเข้าไปถามด้วยความสุภาพ (ถึงจะรีบแค่ไหนก็ตาม) ครั้งแรกก็วิ่งไป Excuse me ...... ? ตรงนี้ไม่มีใครตอบค่ะ ทุกคนเดินหนีด้วยความสุภาพ (ยืนอึ้งแปบ แล้วก็สบถในสมอง "คนญี่ปุ่นส่วนมากไม่พูดภาษาอังกฤษ" TT ) เริ่มใหม่ค่ะ Restart ระบบ จะไปไหนทีนี้ยื่นโทรศัพท์ให้เค้าดูเลยค่ะ ตรงภาษาญี่ปุ่น ทุกคนก็บอกค่ะ แต่อย่าดีใจไปค่ะ เพราะบางคนก็บอกผิด ต้องไปถามคนตรงนั้นอีกที โอ้โหแม่เจ้าคนละฝั่ง วิ่งกลับไปขาพันเลยค่ะ
.. ในที่สุดก็ถึงสถานีสุดท้าย เดินออกจากสถานีพร้อมควันออกปาก กับแบกกระเป๋าเป้ 10 โล เปิด map ที่โรงแรมให้มาค่ะ เราพักย่าน Asakusa เดินผ่านโคมยักษ์สีแดง และแล้วการเดินทางครั้งแรกในญี่ปุ่นก็รอดจนถึงโรงแรมค่ะ ถึงช้ากว่าเป้าหมายไปชั่วโมงกว่าเกือบสองชั่วโมง แต่คุ้มค่ะสนุกดี ได้คุยกับคนญี่ปุ่นไปเป็นสิบคน 55555
ตั๋วรถไฟจากสนามบินค่ะ ถ่ายส่งให้เพื่อนดูยืนยันว่า ฉันปรากฎตัวแล้ว
ตอนที่ 3.1 : Check in (โรงแรม) และฟินมากเจอคนไทย (เพราะนอนห้องรวม 12 เตียง เตียง 2 ชั้น)
.. ตอนนี้ขอเป็นตอนย่อยค่ะ .. เรานอนห้องรวมค่ะ เพราะห้องที่เพื่อนจองกันนั้น สำหรับ 4 ท่าน ซึ่งก็ครบพอดี (มัวแต่เล่นตัว 5555) รับกุญแจ ขึ้นลิฟท์ เปิดห้อง ว้าววว เจอคนไทย มากันเป็นสาว 2 คนค่ะ แต่พี่เค้าจะ check out ออกกันวันรุ่งขึ้นค่ะ ทักทายทำความรู้จักเสร็จ ก็เดินตรงเข้าไปสุดซ้ายมือชั้น 2 นำของวาง เตรียมตัวออกไปหาเพื่อน ลงบันได (เพราะขอจองนอนชั้นสองไว้ค่ะ) ตอนนั้นก็เวลาประมาณเกือบห้าทุ่มแล้ว เพื่อนรออยู่ห้างใกล้ๆโรงแรม ก่อนออกก็คุยกับพี่สาวคนไทยอีกเล็กน้อย ในขณะนั้นมีคนเปิดประตูมา เย้!! พี่ผู้ชายคนไทยอีกคน ก็ทักทายอีกค่ะ ด้วยความ friendly 5555 คุยไปมา เอ้า!! มา fight เดียวกันจ้า แต่..พี่เค้ามาถึงตั้งแต่สามทุ่ม ออกไปหาข้าวกินแล้ว อาบน้ำเสร็จแล้วกำลังจะนอน พี่เค้าค่อนข้างงงถึงงงที่สุดทำไมพึ่งมาถึง 5555 คือตอนนั้นถ้าเล่าให้ฟังพี่เค้าคงไม่ได้นอน เพื่อนที่รออยู่ก็น่าจะตบด้วย เลยยิ้มแหะๆ แล้วก็ออกไปหาเพื่อนค่ะ...
ตอนที่ 3.2 : พบเพื่อน หาอาหารกระทบกระเทือนกระเพาะ
.. ขอซอยย่อยอีกตอนค่ะ .. เดินตาม Location ที่นางแชร์กันให้ค่ะ เจอปั๊บ ทุกคนไม่ได้ดีใจค่ะ แต่ด่ากันคนละเสียง (ถึงช้ามาก รอนาน 5555) เราก็เล่า ๆๆๆ ให้ฟังและก็บอกว่า พอพูดถามทุกคนเสร็จ พอเราขอบคุณ คนญี่ปุ่นก็ดูงง มองหน้างง ๆ เพื่อนเลยถามว่า
เพื่อน : พูดกับเค้าว่าไร ทำไมเค้างง
เรา : พอเค้าชี้บอกทางเสร็จก็ขอบคุณเค้าไง
เพื่อน : พูดว่าไร
เรา : คัมซามิดา พร้อมก้มหัวไง
.. เพื่อนมองหน้ากัน และขำลั่นมาก
เรา : ทำไม มีไร ไม่ถูกหรอ
เพื่อน : อันนั้นมันภาษาเกาหลี !!!!
.. ขำลั่น พร้อมอึ้ง และอ๋อว่าแล้วทำไมเค้าทำหน้างงกันใหญ่ (คือหน้าก็ไม่เกาหลี พูดคัมซามีดาใส่เค้าอีก 5555) ..ขำสักพักใหญ่ก็เดินออกมาหาอะไรกินค่ะ (สิ่งที่คิดข้าวกล่องข้างทางญี่ปุ่นๆ ฟินแน่หิวมากด้วย) ... ภาพตัดมาที่ความเป็นจริงวันนั้นเปิดมื้อแรกในญี่ปุ่นด้วย 7-11 แล้วกลับโรงแรมค่ะ 5555
(ตอนต่อไป ตื่นเช้ากัน..ไปมันส์วันแรกคนเดียว)