จ่อยกเลิกรถตู้โดยสาร สปท.ชี้เสี่ยง-อันตราย!
http://www.banmuang.co.th/news/crime/51965
https://goo.gl/iKqUk6
เศร้า!บรรดาญาติทยอยรับศพเหยื่อรถตู้มรณะแล้ว 6 ราย ส่วนที่เหลืออีก 5 รอญาตินำเอกสาร-หลักฐานพิสูจน์อัตลักษณ์มายืนยันก่อนมอบศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ด้านประธานกมธ.วิสามัญชุดขับเคลื่อนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนนสปท.เตรียมแถลงข่าว เกี่ยวกับภัยรถตู้โดยสารจันทร์นี้ที่สภาฯ จ่อยกเลิกนำรถตู้มาทำเป็นรถโดยสาร ชี้เสี่ยงอันตราย-ไม่เหมาะสม หลังเก็บข้อมูลไว้มากมาย
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 21.00 น. คืนวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารพลิกคว่ำไฟลุกท่วมคัน มีผู้โดยสารติดอยู่ในรถนับสิบราย ที่บริเวณมอเตอร์เวย์ 7 กม.62-63 ขาเข้ากรุงเทพฯ ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงพบว่ามีผู้โดยสารเสียชีวิตถึง 11 ราย และมีบาดเจ็บสาหัสอีก 4 ราย เร่งนำส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน โดยรถตู้ไหม้เสียหายทั้งคัน เบื้องต้นพบว่ามีผู้โดยสารมาทั้งหมด 15 คน พบว่ามี 9 คนถูกไฟคลอกเสียชีวิตในซากรถตู้ ที่เหลือถูกนำส่งโรงพยาบาล
มีรายงานว่ารถตู้คันดังกล่าวเกิดยางแตกจนเสียหลักฟาดกับขอบทางมอเตอร์เวย์แล้วตกลงไปที่ข้างทาง จนเกิดไฟลุกพรึ่บขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ผู้โดยสารบางส่วนหนีออกมาได้ แต่ส่วนใหญ่ติดอยู่ในซากรถที่ไฟท่วมจนเสียชีวิตอนาถ สำหรับรถตู้คันเกิดเหตุ ทะเบียนรถ ฮย 6423 กทม เป็นรถตู้เช่าเหมาคัน เดินทางจากระยอง มุ่งหน้า กทม. โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเป็นอาจารย์โรงเรียนแห่งหนึ่ง
จากการสอบถามเบื้องต้น ก่อนเกิดเหตุทางรถตู้คันดังกล่าวได้รับครูจากโรงเรียนคุ้มเกล้า สกอลา ย่านลาดกระบัง กทม. ไปทัศนศึกษาที่จังหวัดระยอง และกำลังจะเดินทางกลับ พอขับมาถึงที่เกิดเหตุคาดว่ายางรถอาจจะระเบิด ทำให้รถเสียหลักส่ายไปมา ไปชนแท่งแบริเออร์ จนเกิดไฟไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11 รายโดยในจำนวนนี้มีเด็กวัย 10 ขวบเสียชีวิตด้วย 1 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบว่า วันนี้ (11มิ.ย.) นายแพทย์ชุติเดช ตาบองครักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชลบุรี เปิดเผยว่าขณะนี้บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตได้นำเอกสารมายืนยันตัวบุคคล เพื่อขอรับศพผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลแล้วจำนวน 6 ศพ (เด็ก 1 ศพ ชาย 1 ศพหญิง 4 ศพ) ส่วนอีก 5 ศพ แม้ทางโรงพยาบาลจะทราบชื่อแล้ว แต่ก็จะต้องประสานญาติมายืนยันตัวบุคคลพิสูจน์อัตลักษณ์อีกครั้งก่อนจะส่งมอบให้นำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาได้
ด้าน น.ส.ณัฐชยา กุลชล อายุ 54 ปี ผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้บริเวณหลังและขา เสียหายประมาณร้อยละ 25 ของร่างกาย มีอาการไหล่ซ้ายหลุดแพทย์ยังคงเฝ้าระวังอาการอยู่ในห้องบาดแผลไฟไหม้และน้ำร้อนลวก โดยผู้บาดเจ็บยังคงรู้สึกตัวดี และผู้ป่วยมีสิทธิประกันสังคม รักษาที่โรงพยาบาลวิภาราม กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างประสานงานคาดว่าจะสามารถส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลวิภาราม ได้ในวันจันทร์นี้
วันเดียวกันนี้นายนิกร จำนง ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร ที่ถนนมอเตอร์เวย์จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 11 ราย เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า เป็นอุบัติเหตุทางถนนครั้งใหญ่ โดยทางกมธ.ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งก็เป็นไปตามที่กมธ.ได้ทำการศึกษาและมีข้อสรุปมาก่อนหน้านี้ว่า การใช้รถตู้เพื่อการโดยสารนั้นไม่มีความเหมาะสม และเสี่ยงอันตรายมาก เนื่องจากผู้โดยสารมีประตูเข้าออกเพียงทางเดียว
เมื่อเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำโดยที่ด้านประตูคว่ำลง จะทำให้ผู้โดยสารไม่สามารถหนีออกมาจากรถ หรือผู้อื่นไม่สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ และหากเป็นรถติดแก๊สหรือใช้เบนซินเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง โอกาสที่จะเกิดไฟไหม้คลอกผู้โดยสารที่ติดอยู่ภายในรถเสียชีวิตทั้งคัน ซึ่งเป็นไปได้สูงมาก ทางกมธ.ได้ทำการศึกษาเรื่องอุบัติเหตุในลักษณะดังกล่าวและอุบัติเหตุทางถนนอื่นๆ ไว้ตามสมควรแล้ว ทางกมธ.จะแถลงข่าวในเรื่องนี้ และภาพรวมของยุทธศาสตร์ความปลอดภัยทางถนน เพื่อเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สปท. รัฐบาล กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายนนี้ ที่ห้องประชุมกรรมาธิการ 219 อาคารรัฐสภา 2 เวลา 14.30 น.ต่อไป
มีรายงานแจ้งว่าคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) อาจจะเสนอให้มีการยกเลิกการอนุญาต ให้นำรถตู้มาใช้เป็นรถโดยสาร หรือหาแนวทางทำให้รถตู้มีความปลอดภัยมากกว่าที่เป็นอยู่
จ่อยกเลิก รถตู้โดยสาร สปท.ชี้เสี่ยง-อันตราย! - ทำให้รถตู้มีความปลอดภัย มากกว่าที่เป็นอยู่
http://www.banmuang.co.th/news/crime/51965
https://goo.gl/iKqUk6
เศร้า!บรรดาญาติทยอยรับศพเหยื่อรถตู้มรณะแล้ว 6 ราย ส่วนที่เหลืออีก 5 รอญาตินำเอกสาร-หลักฐานพิสูจน์อัตลักษณ์มายืนยันก่อนมอบศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ด้านประธานกมธ.วิสามัญชุดขับเคลื่อนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนนสปท.เตรียมแถลงข่าว เกี่ยวกับภัยรถตู้โดยสารจันทร์นี้ที่สภาฯ จ่อยกเลิกนำรถตู้มาทำเป็นรถโดยสาร ชี้เสี่ยงอันตราย-ไม่เหมาะสม หลังเก็บข้อมูลไว้มากมาย
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 21.00 น. คืนวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารพลิกคว่ำไฟลุกท่วมคัน มีผู้โดยสารติดอยู่ในรถนับสิบราย ที่บริเวณมอเตอร์เวย์ 7 กม.62-63 ขาเข้ากรุงเทพฯ ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงพบว่ามีผู้โดยสารเสียชีวิตถึง 11 ราย และมีบาดเจ็บสาหัสอีก 4 ราย เร่งนำส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน โดยรถตู้ไหม้เสียหายทั้งคัน เบื้องต้นพบว่ามีผู้โดยสารมาทั้งหมด 15 คน พบว่ามี 9 คนถูกไฟคลอกเสียชีวิตในซากรถตู้ ที่เหลือถูกนำส่งโรงพยาบาล
มีรายงานว่ารถตู้คันดังกล่าวเกิดยางแตกจนเสียหลักฟาดกับขอบทางมอเตอร์เวย์แล้วตกลงไปที่ข้างทาง จนเกิดไฟลุกพรึ่บขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ผู้โดยสารบางส่วนหนีออกมาได้ แต่ส่วนใหญ่ติดอยู่ในซากรถที่ไฟท่วมจนเสียชีวิตอนาถ สำหรับรถตู้คันเกิดเหตุ ทะเบียนรถ ฮย 6423 กทม เป็นรถตู้เช่าเหมาคัน เดินทางจากระยอง มุ่งหน้า กทม. โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเป็นอาจารย์โรงเรียนแห่งหนึ่ง
จากการสอบถามเบื้องต้น ก่อนเกิดเหตุทางรถตู้คันดังกล่าวได้รับครูจากโรงเรียนคุ้มเกล้า สกอลา ย่านลาดกระบัง กทม. ไปทัศนศึกษาที่จังหวัดระยอง และกำลังจะเดินทางกลับ พอขับมาถึงที่เกิดเหตุคาดว่ายางรถอาจจะระเบิด ทำให้รถเสียหลักส่ายไปมา ไปชนแท่งแบริเออร์ จนเกิดไฟไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11 รายโดยในจำนวนนี้มีเด็กวัย 10 ขวบเสียชีวิตด้วย 1 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบว่า วันนี้ (11มิ.ย.) นายแพทย์ชุติเดช ตาบองครักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชลบุรี เปิดเผยว่าขณะนี้บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตได้นำเอกสารมายืนยันตัวบุคคล เพื่อขอรับศพผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลแล้วจำนวน 6 ศพ (เด็ก 1 ศพ ชาย 1 ศพหญิง 4 ศพ) ส่วนอีก 5 ศพ แม้ทางโรงพยาบาลจะทราบชื่อแล้ว แต่ก็จะต้องประสานญาติมายืนยันตัวบุคคลพิสูจน์อัตลักษณ์อีกครั้งก่อนจะส่งมอบให้นำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาได้
ด้าน น.ส.ณัฐชยา กุลชล อายุ 54 ปี ผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้บริเวณหลังและขา เสียหายประมาณร้อยละ 25 ของร่างกาย มีอาการไหล่ซ้ายหลุดแพทย์ยังคงเฝ้าระวังอาการอยู่ในห้องบาดแผลไฟไหม้และน้ำร้อนลวก โดยผู้บาดเจ็บยังคงรู้สึกตัวดี และผู้ป่วยมีสิทธิประกันสังคม รักษาที่โรงพยาบาลวิภาราม กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างประสานงานคาดว่าจะสามารถส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลวิภาราม ได้ในวันจันทร์นี้
วันเดียวกันนี้นายนิกร จำนง ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร ที่ถนนมอเตอร์เวย์จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 11 ราย เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า เป็นอุบัติเหตุทางถนนครั้งใหญ่ โดยทางกมธ.ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งก็เป็นไปตามที่กมธ.ได้ทำการศึกษาและมีข้อสรุปมาก่อนหน้านี้ว่า การใช้รถตู้เพื่อการโดยสารนั้นไม่มีความเหมาะสม และเสี่ยงอันตรายมาก เนื่องจากผู้โดยสารมีประตูเข้าออกเพียงทางเดียว
เมื่อเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำโดยที่ด้านประตูคว่ำลง จะทำให้ผู้โดยสารไม่สามารถหนีออกมาจากรถ หรือผู้อื่นไม่สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ และหากเป็นรถติดแก๊สหรือใช้เบนซินเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง โอกาสที่จะเกิดไฟไหม้คลอกผู้โดยสารที่ติดอยู่ภายในรถเสียชีวิตทั้งคัน ซึ่งเป็นไปได้สูงมาก ทางกมธ.ได้ทำการศึกษาเรื่องอุบัติเหตุในลักษณะดังกล่าวและอุบัติเหตุทางถนนอื่นๆ ไว้ตามสมควรแล้ว ทางกมธ.จะแถลงข่าวในเรื่องนี้ และภาพรวมของยุทธศาสตร์ความปลอดภัยทางถนน เพื่อเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สปท. รัฐบาล กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายนนี้ ที่ห้องประชุมกรรมาธิการ 219 อาคารรัฐสภา 2 เวลา 14.30 น.ต่อไป
มีรายงานแจ้งว่าคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) อาจจะเสนอให้มีการยกเลิกการอนุญาต ให้นำรถตู้มาใช้เป็นรถโดยสาร หรือหาแนวทางทำให้รถตู้มีความปลอดภัยมากกว่าที่เป็นอยู่