...เธอมากับฝน...( หรือว่ามันคือ " พรหมลิขิต " )

...ก่อนอื่นนะครับ ต้องขออภัยนะครับผมพึ่งเคยเล่นเป็นครั้งแรก มีคนเคยบอกผมว่าที่นี่เป็นโลกที่กว้างอีกโลกหนึ่งลองเป็นส่วนหนึ่งดูครับ
     ครับผมเรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ ได้มีฝนตกบริเวณที่ทำงาน หน้าที่ของผมคือรักษาความปลอดภัย จึงได้มีการใช้แผนควบคุมความปลอดภัยภัยของคุณลูกค้าโดยการปิดเส้นทางเดินบริเวณหน้าศูนย์การค้าสยามพารากอน ป้องกันการได้รับอันตรายจากพื้นที่มีลักษณะลื่น พอฝนเริ่มซาลง ก็ได้ทำการเปิดเส้นทาง และให้คุณลูกค้าใช้เส้นทางอย่างระมัดระวังโดยปกติ ช่วงเวลานั้นเองมีผญ.คนหนึ่งเดินเค้ามาหาผมและได้ถามผมว่า
   เธอ: เอ่อ ขอโทษนะคะ ที่นี่มีบริการแจกร่มให้แก่ลูกค้ามั้ยคะ
   ผม : ครับผม ขออภัยด้วยครับ ทางเราไม่ได้มีบริการแจกร่มให้กับคุณลูกค้าครับแต่จะมีบริการเครื่องจัดเก็บร่มอัตโนมัติบริเวณประตูทางเข้าครับผม
   เธอ:คือมีนักท่องเที่ยวต้องการใช้ร่มไป โรงแรมที่พักบริเวณใกล้อ่ะคะ
จากนั้นผมจึงเดินเข้าไปให้อธิบายและให้ความช่วยเหลือแก่ นักท่องเที่ยว 2 ท่าน แต่ด้วยตัวผมเองยอมรับเลยว่าเรื่องภาษาอังกฤษอ่อนด้อยมากครับ ผมพอจะพอฟังรู้เรื่องบ้างและจำใจความได้ ผมเลยตอบไปว่า
   ผม : ซอรี่ เซอร์.... อัมเบลล่า โด๊นแฮฟ
แบบว่าผมนี่ตอบแบบยิ้มๆเลย นักท่องเที่ยวทำหน้างงๆ เหมือนยังไม่เคลีย แต่แล้ว เธอคนนั้นได้ช่วยอธิบายให้คร่าว แล้วถามแหล่งซื้อร่ม แล้วช่วยพูดจนนักท่องเที่ยว เข้าใจและสามารถเดินทางไปต่อได้ ตอนแรกผมเข้าใจว่าเธอมาด้วยกันกับนักท่องเที่ยว แต่แท้จริงคือเธอช่วยนักท่องเที่ยวที่ต้องการความช่วยเหลือมาอีกที จุดนี้ผมละปลื้มเลย น่ารักแล้วยังมีน้ำใจอีก(คิดในใจและแอบชม^////^) จากนั้น
   ผม : ขอบคุญมากนะครับ ไม่ได้คุณช่วยคงแย่เลย
เธอยิ้มพงกหัวและไม่ได้ตอบอะไร แต่ในใจผมนี่...ลอยไปละ
   เธอ: เมื่อไหร่ฝนจะหยุดตกน่า
   ผม : อีกสักพักเลยหละครับแบบนี้ แล้วรีบกลับมั้ยหละครับ
   เธอ: คะ เดี๋ยวป๊ะเป็นห่วง ไม่เป็นไรคะเดี๋ยวค่อยเดินไปก็ได้ (ยิ้มที่มุมปาก)
   ผม : ครับผม งั้น ค่อยๆเดินนะครับระวังพื้นลื่นด้วย ^^
ณ เวลานั้นผมได้แต่มองเธอเดินจากไป ผมเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว ใจลึกๆก็นึกขอบคุณ และเสียใจที่ยังไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลย จากนั้นผมก็ต้องกลับไปประจำจุดเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อระหว่างเดินกลับ ผม ฉุดคิดหันกลับไปมอง โอ้ไม่... เธอเดินกลับมา มันเป็นภาพที่สวยงามมาก ท่ามกลางผู้คน ทุกอย่างดูช้าไปหมด ประกอบกับละอองฝนที่ร่วงลงมา ใบหน้าเธอขาวสว่าง มีละอองฝนติดนิดๆ ทั่วใบหน้า ปากชมพูอ่อนๆ ผมนี่ยืนมองค้างไปเลยหัวใจผมเต้นแต่ละครั้งผมได้ยินเสียงมันชัดมาก ( สำหรับผมมันเป็นโอกาสที่น้อยครั้งมากที่จะได้คุยแบบนี้นานๆ และเผลอใจไปแบบนี้ ยิ่งเราทำงานแบบนี้การคิดกับคุณลูกค้าที่มาใช้บริการยิ่งเป็นสิ่งไม่เหมาะ วันๆหนึ่งต้องเจอคนเป็น พันเป็นหมื่น ) พอมาถึงเธอถามว่า
   เธอ: ขอโทษนะคะ พอจะมีเส้นทางไปตรงที่ รถตู้แถว อังลีดูนังต์มั้ยคะ คือทางเส้นนี้มันไปไม่ได้อ่ะ ต้องลงอะคะ ><!!
   ผม : อ้าครับมีครับผม มีตรงเส้นทาง ลิ้ง2 สามารถไปได้ครับ งั้นทางนี้ ครับเดียวผมพาไป
   เธอ: อ่า ไม่เป็นไรค่ะ เกรงใจคะ เห็นทำงานอยู่
   ผม : ไม่เป็นไรครับ เดียวผมต้องไปตรวจจุดบริเวญนั้นพอดี (ใจจริงก็อยากไปส่งเค้านั้นหละ)
จากนั้นผมก็นำทางเธอเดินไป ระหว่างทางนั้น
   ผม : พูดภาษาอังกฤษเก่งนะครับเนี้ย
   เธอ: คะ ลงเรียนสถาบันเสริมภาษาอังกฤษอ่ะคะ เลยพูดได้ (พร้อมยิ้มที่มุมปาก)
   ผม : ผมนี่อังกฤษไม่เอาไหนเลย แต่ถ้าญี่ปุ่นนี้พอพูดได้บ้าง (เข้าทางภาษาแล้วกันดูท่าเธอน่าจะชอบ)
   เธอ: เก่งนะเนี้ย เค้าเคยลงตัว 1-2 ยากมากไม่รู้เรื่องเลย
   ผม: จริงนะครับ เอาจริงญี่ปุ่นง่ายกว่าอังกฤษอีก ผมไปเรียนที่นั้นมา 1 ปี 3 เดือน จากไม่รู้อะไร ตอนนี้ได้หละ ลองดูนะครับ ^^
เราคุยกันเพลิน จนผมมารู้ตัวว่าใกล้ถึงทางออกแล้ว มันชังเป็นทางเดินที่สั้นมา เป็นเวลาที่เร็วกว่า ในทุกๆวันที่ผมเดินมันนานและไกลกว่านี้  ละแล้วก็ถึงทางออก
   ผม : ครับ จากทางนี้เดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายใช้เส้นทางสกายวอร์คสามารถเดินไปได้ครับ
   เธอ: แล้วมันจะมีทางลง มั้ยคะ
   ผม : ครับตรงระหว่างสะพานลอยมันสามารถลงไปได้เลยครับ
   เธอ: ขอบคุณมากมาก นะคะ (รอบนี้เธอยิ้มกว้างมาก)
   ผม : ครับผม ยินดีนะครับ เดินทางกลับบ้านปลอดภัยนะครับ
สุดท้ายแล้วครั้งนี้ผมก็ทำได้เพียงแค่มองเธอเดินจากไป ชุดเสื้อยืดสีแดงเลือดหมู กางเกงขาสั้นเว้าสีดำกรมๆ กระเป๋าเซอร์ๆ ท่ามกลางเวลาที่ผู้คนกำลังเดินกลับบ้านเลิกงาน โดยที่ผมเองไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่ายืนยิ้ม เพราะด้วยหน้าที่กับเวลางาน ไม่สามารถทำได้ แม้แต่จะถามชื่อเธอ..ผมยังไม่กล้า ด้วยเกรงว่าจะไม่เหมาะสมและจะมีผลกระทบกับภาพลักษณ์ขององค์กร แต่อย่างน้อยผมดีใจนะ หัวใจผมไม่ได้เต้นแรงแบบนี้มานานแล้ว ผมยังยิ้มค้างอยู่เกือบชั่วโมงต่อจากนั้น ถ้าสิ่งนี้เป็นพรหมลิขิต ผมหวังว่าจะได้เจอเธอ ฝนต่อไปผมก็จะยังรอเธอ และได้เขียนเรื่องราวนี้อีก แต่ถ้ามันเป็นเพียงแค่ความบังเอิญ ความคงได้แค่เรื่องเพ้อ...ของผู้ชายคนหนึ่ง แบบนี้ไป.....เท่านั้น

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่