สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้ที่สองที่ลงพันทิป คิดอยู่นานว่าจะลงพันทิปดีไหม กลัวคนรู้จักมาอ่าน มันแอบเขินเบาๆ 55
เป็นประสบการณ์ตอนที่ไปเที่ยวเกาหลีกับแม่ค่ะ ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่กระทู้รีวิว แค่อยากเก็บไว้เป็นความทรงจำ
การไปเที่ยวเกาหลีครั้งนี้เหมือนเป็นการฉลองจบ ม.6 ของ จขกท. เลยตั้งใจว่า’
อยากไปคนเดียว
อยากมีโมเมนต์แบบ Backpacker เที่ยวลุยเดี่ยวคนเดียวบ้าง (อิทธิพลมาจากการอ่านพันทิปด้วยส่วนหนึ่งค่ะ อิอิ)
ลืมบอกว่าไปช่วงเดือนมีนาคม2559 ไปเป็นเวลา 10วันค่ะ ทำงานพิเศษเก็บตังเอง ตอนจองตั๋วก็บอกแม่ แม่ก็โอเคให้ไป
แต่พอใกล้ๆไปจริงๆด้วยความที่แม่คงเป็นห่วงเลยขอไปด้วย เราก็ OK ไม่ขัดศรัทธา คิดว่าไปกับแม่ก็ดีเพราะทุกอย่างจะฟรี !! 5555
และต้องบอกก่อนว่านี่เป็นการไปต่างประเทศครั้งแรกของแม่เลยค่ะ เพราะปกติแม่จะทำงานตลอดเวลา
เราก็พยายามอ่านกระทู้รีวิวเที่ยวที่มีมากมายอยากให้แม่ประทับใจไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก อ่านจนไปเจอกระทู้ที่ทำให้ค่อนข้างกังวลคือ
ตม.เกาหลี เสียงลือเสียงเล่าอ้างค่อนข้างโด่งดังเรื่องกักคนไทยไว้ในห้องเย็น
เราก็โอเค หาข้อมูล พยายามทำข้อมูลต่างๆ เช่นกำหนดการเที่ยว ,ตั๋วเครื่องบินไปกลับ ,ใบจองที่พัก ฯลฯ เตรียมมากเท่าที่จะทำได้เผื่อติด ตม.
พอถึงวันที่บินดูแม่ตื่นเต้นมากกกก เราก็เข้าใจเพราะตอนที่ขึ้นเครื่องครั้งแรกก็ตื่นเต้นมากๆ55555
พอไปถึงสนามบินที่เกาหลีตอนที่ต้องผ่าน ตม.เราก็เข้าไปก่อนเลยค่ะ ก็ผ่านไม่มีปัญหาอะไร แต่พอมาถึงแม่ ตม.ดูพาสปอร์ต
เรานี่ยืนลุ้นใจแทบขาดกลัวแม่ติดตม. กลัวแม่เข้าห้องเย็น และก็เป็นแบบที่คิดจริงๆด้วยค่ะ
..แม่ติด ตม.ค่ะ !!!
เราก็แบบตกใจ ตายแล้วจะทำไงดี ตกใจมาก เราเลยเดินไปบอก ตม.คนนั้นเลยว่านี่แม่เรานะ เขาก็ทำหน้าแบบ ตกใจ งงๆ
ทีนี้เลยได้เข้าห้องเย็นคู่เลยค่ะ

เข้าไปเขาก็จะให้เราสแกนนิ้ว สแกนหน้า(ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่เขาถ่ายรูปที่หน้าเราอ่ะค่ะ)
แล้วก็จะมีผู้หญิงเกาหลีคนนึงที่พูดภาษาไทยได้ ท่าทางดูเขาอารมณ์ไม่ดีตลอดเวลาเลยค่ะ เขาก็ถามว่า มาทำอะไรที่เกาหลี
เราก็บอกว่า มาเที่ยวเกาหลีกับแม่ แล้วเราก็เอาเอกสารที่เตรียมมาทั้งหมดให้เขาดู เขาก็ดูพาสปอร์ตเราอยู่นานมาก
พอดูละก็ถาม ละเอียดมากกกกกก ก.ไก่ล้านตัว คุยกันเป็นภาษาไทยนะคะ รู้สึกตม.ผู้หญิงที่พูดไทยได้ดูเขาพูดอังกฤษไม่ได้นะคะ ถามแบบจะเที่ยวที่นี่ไปยังไง ค่ารถเท่าไหร่ แล้วตอนที่ไปเรามีแผนไปปูซานด้วย โอ้โหหห ละข้อมูลที่ปูซานค่อนข้างน้อย เขาก็ถามว่าค่ารถไปปูซานเท่าไหร่ ขึ้นที่ไหน ใช้เวลากี่ชั่วโมง ซึ่งเราก็จำไม่ค่อยได้ แล้วคำถามสุดท้ายคือ ‘คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม เราก็จิกหน้าบอกว่า เยสสสสสสส 55555
คือมั่นใจ มั่นหน้ามากว่าพูดได้ เราก็นึกว่าจะรอดที่ไหนได้ให้ไปนั่งรออีกห้องนึง เหมือนเป็นห้องที่รวมคน ประมาณนั้น .
ในห้องนั้นมีคนไทยประมาณ 5-6คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด ละก็มีคนสเปนด้วย (ฟังจากภาษาที่เขาพูด) นั่งสักพักเขาก็จะมีใบมาให้เซ็น ข้อมูลในใบประมาณว่า ชื่อ นามสกุล ที่พักในเกาหลี เงินสดที่เตรียมมา มีบัตรเครดิตไหม ถ้าจะขอตรวจข้อมูลการแชทหรือการคุยในมือถือได้ไหม ประมาณนี้ค่ะ
เราก็โอเคทุกอย่าง เพราะเราบริสุทธิ์ใจ มาเที่ยวจริงๆ ระหว่างรอแม่เราก็ถามคนไทยคนอื่นในห้องว่า มาอยู่นี่จะได้ออกเมื่อไหร่
เขาก็บอกว่า คนที่ได้เข้าห้องนี้คือถูกส่งกลับไทยทุกคน ไอที่กรอกไปไม่ได้ช่วยอะไร แม่เราก็ดูอารมณ์เสียนะคะ โวยวายนิดหน่อยแต่ไม่เสียงดังมากเหมือนบ่นๆ เราก็บอกแม่ทำตัวให้เป็นปกติสิ ถ้าโวยวายมันจะเหมือนเราร้อนตัว ส่วนเรานี่ใจแป้วไปเลย เศร้ามากถ้าเป็นแบบนั้น
สักพักก็มี ตม.ผู้ชายเรียกเราให้ไปคุย แต่ไม่ใช่ที่แรกที่คุยกับตม.ผู้หญิงนะคะ เขาก็เรียกเราไป แล้วคำถามแรกที่เจอคือ ‘คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม
เราก็แบบ แน่นอนได้สิ แล้วเขาก็เอาเก้าอี้มานั่งใกล้ๆเรา แบบหันหน้าเข้าหากันเลย แล้วเขาก็ดูพาสปอร์ตเรา ดูเอกสารที่เราเตรียมมา มองเหมือนจะถามอะไรสักอย่าง ตอนนั้นในใจนี่แบบกลัวมากว่าจะเจอคำถามแบบศัพท์อังกฤษยากๆแล้วตัวเองไม่รู้ คิดไปถึงขนาดนั้น55555 ต้องบอกเลยว่าจริงๆพูดอังกฤษได้แค่พอเอาตัวรอดนะคะ ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น จากนั้นก็คุยกันเป็นภาษาอังกฤษแล้วค่ะ ตอนที่เราไปตม.ผู้ชายพูดไทยไม่ได้นะคะ รู้สึกว่าทั้งห้องมีพูดไทยได้จริงๆคือตม.ผู้หญิง
ตม.ผู้ชาย “How many member in your family?”
เรา “4 members have my dad ,my mom ,my older brother n me ..oh and I have 1 dog.”
ตม.ผู้ชาย “What’s dog?” ละเขาก็ทำหน้า งง
เราก็บอก “Yesss I have 1 dog”
ตม.ผู้ชาย “What mean is dog ?” เราก็งงนี่ ตม.ไม่รู้จักหมาหรอวะ งง
“Emmmm dog โฮ่งๆ” (พยายามเห่าเผื่อเขาไม่เข้าใจ5555) เขาก็ยังทำหน้า งง
“Dog you know emm .. D O G” เราก็สะกดให้เขาฟัง ละก็พูด “Dog is animal it’s my pet.”
เขาก็ อ๋ออออออ หมา ละเขาก็ดูเขินๆ 5555 ละก็คุยเรื่องทั่วๆไปละค่ะ อารมณ์เหมือนชวนคุยเล่นประมาณนั้น
จำได้ว่าน่าจะคุยประมาณ15นาที รู้สึกว่าไม่นานนะคะ เพราะเหมือนคุยเล่น เราก็ไม่ค่อยเครียดมากเท่าไหร่เพราะมั่นใจว่าเรามาเที่ยว
พอคุยไปคำถามสุดท้ายที่เขาถามเราคือ คุณรู้ไหมว่าทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่(หมายถึงในห้องเย็นอ่ะค่ะ)
เราก็บอกว่า ไม่รู้ ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าพาสปอร์ตของฉันไม่มีปัญหา
เขาบอกว่า
คุณมาอยู่ที่นี่ เพราะคุณเป็นคนไทย ..เราก็หน้าเจื่อนๆเข้าใจนะคะว่าทำไมโดนมาอยู่ห้องเย็น5555
เขาก็บอกว่า คนไทยมาแบบผิดกฎหมายเยอะมาก จำเป็นต้องทำแบบนี้
เราก็บอกว่า ไม่เป็นไรเราเข้าใจ เขาก็บอกว่า ต้องขอโทษด้วยนะ แล้วเขาก็ขอคุยกับแม่เรา ซึ่งเราก็บอกว่าแม่เราพูดอังกฤษไม่ได้เลยนะ
เขาก็ให้แม่เรามานั่งข้างๆเรา เขาก็ย้ายไปนั่งอีกฝั่งนึง สแกนนิ้ว สแกนหน้าเรากับแม่ ดูๆพาสปอร์ตนิดหน่อย
ละก็ปล่อยไปแล้วเขาก็บอกเราว่า สัญญานะว่าจะต้องกลับไทย เราก็ อืมๆ แล้วเขาก็เดินไปช่วยถือกระเป๋าสะพาย ไปส่งที่หน้าประตู จบ.
*ปล. ระหว่างเดินออกจากห้องเย็นเห็นคนไทยเดินเข้ามาเยอะมากค่ะ ประมาณ 20 คนได้
**ปล.2 ที่เราผ่าน ตม.ง่ายอาจจะเป็นเพราะพาสปอร์ตเรามีวีซ่านักเรียนอิตาลี(เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนค่ะ) แล้วก็เคยไปดูไบ
แต่จากที่อ่านกระทู้มามันก็ไม่ได้การันตีว่าเราจะผ่านตม.เสมอไปนะคะ บางคนเที่ยวหลายที่ก็ยังโดน บางคนพาสปอร์คขาวดันผ่านเฉย
เตรียมตัวให้พร้อมดีที่สุด ส่วนแม่เราพาสปอร์ตสะอาดมากค่ะ เที่ยวเกาหลีที่แรก ถามว่าทำไมไปเกาหลี
คือจะไปเที่ยวแล้วก็จะไปงานแจกลายเซ็นของGOT7(วงบอยแบนด์ของเกาหลี มีคนไทยด้วยค่ะ

แล้วก็เราชอบดูซีรี่ส์เกาหลีค่ะ 55555
***ปล.3 ตม.ผู้ชายที่คุยด้วยน่ารักมาก อปป้ามากค่ะ โกรธไม่ลง 555555555555555555


สุดท้ายยยย ถ้าเราไปเที่ยวจริงๆไม่ต้องกลัวอะไรนะคะ เราบริสุทธิ์ใจจะไปเที่ยวไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ
ขอแค่เรา
เตรียมเอกสารให้พร้อม ตอบคำถามให้ได้แล้วก็
มีสติไม่ทำตัวเป็นกระตายตื่นตูม ไม่ต้องโวยวายก็ผ่านตม.ได้แล้วค่ะ
ที่ไปอ่านกระทู้ต่างๆเกี่ยวกับตม.เกาหลี ก็อย่าไปคิดมากนะคะ ส่วนคนที่คิดจะไปทำงานก็อย่าไปเลยค่ะ สงสารคนที่จะไปเที่ยวจริงๆ
แล้วที่หนีไปทำงานแบบผิดกฎหมายยังไงก็ต้องผ่านตม.อยู่ดี ยังไงก็โดนส่งกลับไทยค่ะ น้อยคนจริงๆที่จะผ่านเข้าไป
ส่วนคนที่จะไปเที่ยวเกาหลีใต้ ขอให้สนุกกับการเดินทางนะคะ
เมื่อแม่หนูติด ตม.ที่เกาหลี อ่านได้ไม่ดราม่าค่ะ
เป็นประสบการณ์ตอนที่ไปเที่ยวเกาหลีกับแม่ค่ะ ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่กระทู้รีวิว แค่อยากเก็บไว้เป็นความทรงจำ
การไปเที่ยวเกาหลีครั้งนี้เหมือนเป็นการฉลองจบ ม.6 ของ จขกท. เลยตั้งใจว่า’อยากไปคนเดียว
อยากมีโมเมนต์แบบ Backpacker เที่ยวลุยเดี่ยวคนเดียวบ้าง (อิทธิพลมาจากการอ่านพันทิปด้วยส่วนหนึ่งค่ะ อิอิ)
ลืมบอกว่าไปช่วงเดือนมีนาคม2559 ไปเป็นเวลา 10วันค่ะ ทำงานพิเศษเก็บตังเอง ตอนจองตั๋วก็บอกแม่ แม่ก็โอเคให้ไป
แต่พอใกล้ๆไปจริงๆด้วยความที่แม่คงเป็นห่วงเลยขอไปด้วย เราก็ OK ไม่ขัดศรัทธา คิดว่าไปกับแม่ก็ดีเพราะทุกอย่างจะฟรี !! 5555
และต้องบอกก่อนว่านี่เป็นการไปต่างประเทศครั้งแรกของแม่เลยค่ะ เพราะปกติแม่จะทำงานตลอดเวลา
เราก็พยายามอ่านกระทู้รีวิวเที่ยวที่มีมากมายอยากให้แม่ประทับใจไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก อ่านจนไปเจอกระทู้ที่ทำให้ค่อนข้างกังวลคือ
ตม.เกาหลี เสียงลือเสียงเล่าอ้างค่อนข้างโด่งดังเรื่องกักคนไทยไว้ในห้องเย็น
เราก็โอเค หาข้อมูล พยายามทำข้อมูลต่างๆ เช่นกำหนดการเที่ยว ,ตั๋วเครื่องบินไปกลับ ,ใบจองที่พัก ฯลฯ เตรียมมากเท่าที่จะทำได้เผื่อติด ตม.
พอถึงวันที่บินดูแม่ตื่นเต้นมากกกก เราก็เข้าใจเพราะตอนที่ขึ้นเครื่องครั้งแรกก็ตื่นเต้นมากๆ55555
พอไปถึงสนามบินที่เกาหลีตอนที่ต้องผ่าน ตม.เราก็เข้าไปก่อนเลยค่ะ ก็ผ่านไม่มีปัญหาอะไร แต่พอมาถึงแม่ ตม.ดูพาสปอร์ต
เรานี่ยืนลุ้นใจแทบขาดกลัวแม่ติดตม. กลัวแม่เข้าห้องเย็น และก็เป็นแบบที่คิดจริงๆด้วยค่ะ ..แม่ติด ตม.ค่ะ !!!
เราก็แบบตกใจ ตายแล้วจะทำไงดี ตกใจมาก เราเลยเดินไปบอก ตม.คนนั้นเลยว่านี่แม่เรานะ เขาก็ทำหน้าแบบ ตกใจ งงๆ
ทีนี้เลยได้เข้าห้องเย็นคู่เลยค่ะ
เข้าไปเขาก็จะให้เราสแกนนิ้ว สแกนหน้า(ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่เขาถ่ายรูปที่หน้าเราอ่ะค่ะ)
แล้วก็จะมีผู้หญิงเกาหลีคนนึงที่พูดภาษาไทยได้ ท่าทางดูเขาอารมณ์ไม่ดีตลอดเวลาเลยค่ะ เขาก็ถามว่า มาทำอะไรที่เกาหลี
เราก็บอกว่า มาเที่ยวเกาหลีกับแม่ แล้วเราก็เอาเอกสารที่เตรียมมาทั้งหมดให้เขาดู เขาก็ดูพาสปอร์ตเราอยู่นานมาก
พอดูละก็ถาม ละเอียดมากกกกกก ก.ไก่ล้านตัว คุยกันเป็นภาษาไทยนะคะ รู้สึกตม.ผู้หญิงที่พูดไทยได้ดูเขาพูดอังกฤษไม่ได้นะคะ ถามแบบจะเที่ยวที่นี่ไปยังไง ค่ารถเท่าไหร่ แล้วตอนที่ไปเรามีแผนไปปูซานด้วย โอ้โหหห ละข้อมูลที่ปูซานค่อนข้างน้อย เขาก็ถามว่าค่ารถไปปูซานเท่าไหร่ ขึ้นที่ไหน ใช้เวลากี่ชั่วโมง ซึ่งเราก็จำไม่ค่อยได้ แล้วคำถามสุดท้ายคือ ‘คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม เราก็จิกหน้าบอกว่า เยสสสสสสส 55555
คือมั่นใจ มั่นหน้ามากว่าพูดได้ เราก็นึกว่าจะรอดที่ไหนได้ให้ไปนั่งรออีกห้องนึง เหมือนเป็นห้องที่รวมคน ประมาณนั้น .
ในห้องนั้นมีคนไทยประมาณ 5-6คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด ละก็มีคนสเปนด้วย (ฟังจากภาษาที่เขาพูด) นั่งสักพักเขาก็จะมีใบมาให้เซ็น ข้อมูลในใบประมาณว่า ชื่อ นามสกุล ที่พักในเกาหลี เงินสดที่เตรียมมา มีบัตรเครดิตไหม ถ้าจะขอตรวจข้อมูลการแชทหรือการคุยในมือถือได้ไหม ประมาณนี้ค่ะ
เราก็โอเคทุกอย่าง เพราะเราบริสุทธิ์ใจ มาเที่ยวจริงๆ ระหว่างรอแม่เราก็ถามคนไทยคนอื่นในห้องว่า มาอยู่นี่จะได้ออกเมื่อไหร่
เขาก็บอกว่า คนที่ได้เข้าห้องนี้คือถูกส่งกลับไทยทุกคน ไอที่กรอกไปไม่ได้ช่วยอะไร แม่เราก็ดูอารมณ์เสียนะคะ โวยวายนิดหน่อยแต่ไม่เสียงดังมากเหมือนบ่นๆ เราก็บอกแม่ทำตัวให้เป็นปกติสิ ถ้าโวยวายมันจะเหมือนเราร้อนตัว ส่วนเรานี่ใจแป้วไปเลย เศร้ามากถ้าเป็นแบบนั้น
สักพักก็มี ตม.ผู้ชายเรียกเราให้ไปคุย แต่ไม่ใช่ที่แรกที่คุยกับตม.ผู้หญิงนะคะ เขาก็เรียกเราไป แล้วคำถามแรกที่เจอคือ ‘คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม
เราก็แบบ แน่นอนได้สิ แล้วเขาก็เอาเก้าอี้มานั่งใกล้ๆเรา แบบหันหน้าเข้าหากันเลย แล้วเขาก็ดูพาสปอร์ตเรา ดูเอกสารที่เราเตรียมมา มองเหมือนจะถามอะไรสักอย่าง ตอนนั้นในใจนี่แบบกลัวมากว่าจะเจอคำถามแบบศัพท์อังกฤษยากๆแล้วตัวเองไม่รู้ คิดไปถึงขนาดนั้น55555 ต้องบอกเลยว่าจริงๆพูดอังกฤษได้แค่พอเอาตัวรอดนะคะ ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น จากนั้นก็คุยกันเป็นภาษาอังกฤษแล้วค่ะ ตอนที่เราไปตม.ผู้ชายพูดไทยไม่ได้นะคะ รู้สึกว่าทั้งห้องมีพูดไทยได้จริงๆคือตม.ผู้หญิง
ตม.ผู้ชาย “How many member in your family?”
เรา “4 members have my dad ,my mom ,my older brother n me ..oh and I have 1 dog.”
ตม.ผู้ชาย “What’s dog?” ละเขาก็ทำหน้า งง
เราก็บอก “Yesss I have 1 dog”
ตม.ผู้ชาย “What mean is dog ?” เราก็งงนี่ ตม.ไม่รู้จักหมาหรอวะ งง
“Emmmm dog โฮ่งๆ” (พยายามเห่าเผื่อเขาไม่เข้าใจ5555) เขาก็ยังทำหน้า งง
“Dog you know emm .. D O G” เราก็สะกดให้เขาฟัง ละก็พูด “Dog is animal it’s my pet.”
เขาก็ อ๋ออออออ หมา ละเขาก็ดูเขินๆ 5555 ละก็คุยเรื่องทั่วๆไปละค่ะ อารมณ์เหมือนชวนคุยเล่นประมาณนั้น
จำได้ว่าน่าจะคุยประมาณ15นาที รู้สึกว่าไม่นานนะคะ เพราะเหมือนคุยเล่น เราก็ไม่ค่อยเครียดมากเท่าไหร่เพราะมั่นใจว่าเรามาเที่ยว
พอคุยไปคำถามสุดท้ายที่เขาถามเราคือ คุณรู้ไหมว่าทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่(หมายถึงในห้องเย็นอ่ะค่ะ)
เราก็บอกว่า ไม่รู้ ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าพาสปอร์ตของฉันไม่มีปัญหา
เขาบอกว่า คุณมาอยู่ที่นี่ เพราะคุณเป็นคนไทย ..เราก็หน้าเจื่อนๆเข้าใจนะคะว่าทำไมโดนมาอยู่ห้องเย็น5555
เขาก็บอกว่า คนไทยมาแบบผิดกฎหมายเยอะมาก จำเป็นต้องทำแบบนี้
เราก็บอกว่า ไม่เป็นไรเราเข้าใจ เขาก็บอกว่า ต้องขอโทษด้วยนะ แล้วเขาก็ขอคุยกับแม่เรา ซึ่งเราก็บอกว่าแม่เราพูดอังกฤษไม่ได้เลยนะ
เขาก็ให้แม่เรามานั่งข้างๆเรา เขาก็ย้ายไปนั่งอีกฝั่งนึง สแกนนิ้ว สแกนหน้าเรากับแม่ ดูๆพาสปอร์ตนิดหน่อย
ละก็ปล่อยไปแล้วเขาก็บอกเราว่า สัญญานะว่าจะต้องกลับไทย เราก็ อืมๆ แล้วเขาก็เดินไปช่วยถือกระเป๋าสะพาย ไปส่งที่หน้าประตู จบ.
*ปล. ระหว่างเดินออกจากห้องเย็นเห็นคนไทยเดินเข้ามาเยอะมากค่ะ ประมาณ 20 คนได้
**ปล.2 ที่เราผ่าน ตม.ง่ายอาจจะเป็นเพราะพาสปอร์ตเรามีวีซ่านักเรียนอิตาลี(เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนค่ะ) แล้วก็เคยไปดูไบ
แต่จากที่อ่านกระทู้มามันก็ไม่ได้การันตีว่าเราจะผ่านตม.เสมอไปนะคะ บางคนเที่ยวหลายที่ก็ยังโดน บางคนพาสปอร์คขาวดันผ่านเฉย
เตรียมตัวให้พร้อมดีที่สุด ส่วนแม่เราพาสปอร์ตสะอาดมากค่ะ เที่ยวเกาหลีที่แรก ถามว่าทำไมไปเกาหลี
คือจะไปเที่ยวแล้วก็จะไปงานแจกลายเซ็นของGOT7(วงบอยแบนด์ของเกาหลี มีคนไทยด้วยค่ะ
***ปล.3 ตม.ผู้ชายที่คุยด้วยน่ารักมาก อปป้ามากค่ะ โกรธไม่ลง 555555555555555555
สุดท้ายยยย ถ้าเราไปเที่ยวจริงๆไม่ต้องกลัวอะไรนะคะ เราบริสุทธิ์ใจจะไปเที่ยวไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ
ขอแค่เราเตรียมเอกสารให้พร้อม ตอบคำถามให้ได้แล้วก็มีสติไม่ทำตัวเป็นกระตายตื่นตูม ไม่ต้องโวยวายก็ผ่านตม.ได้แล้วค่ะ
ที่ไปอ่านกระทู้ต่างๆเกี่ยวกับตม.เกาหลี ก็อย่าไปคิดมากนะคะ ส่วนคนที่คิดจะไปทำงานก็อย่าไปเลยค่ะ สงสารคนที่จะไปเที่ยวจริงๆ
แล้วที่หนีไปทำงานแบบผิดกฎหมายยังไงก็ต้องผ่านตม.อยู่ดี ยังไงก็โดนส่งกลับไทยค่ะ น้อยคนจริงๆที่จะผ่านเข้าไป
ส่วนคนที่จะไปเที่ยวเกาหลีใต้ ขอให้สนุกกับการเดินทางนะคะ