[CR] [CR] อย่าไปกลัวเวลาที่ฟ้าไม่เป็นใจ ~ แบกเป้ ฝ่าฝน ตามรอยทางรถไฟสายมรณะ ลุยสังขละบุรี !! (รูปเยอะ เปลืองสามจี)

คำขึ้นต้นตามประเพณี
สวัสดี นี่เป็นรีวิวของเราครั้งแรก และเป็นการเที่ยวคนเดียวครั้งแรกของเราด้วย ฝากตัวด้วยนะครับ
ขออนุญาตแท็กห้อง Sony ด้วยนะครับ อยากให้พี่ๆช่างภาพมาวิจารณ์การถ่ายภาพ ถ้าผิดกฎหรือไม่สมควรแท็กก็ขออภัยนะครับ



รีวิวนี้แบ่งออกเป็น 5 บทนะ
บทนำ : ทำไมถึงไปเที่ยวครั้งนี้
บทที่หนึ่ง : ออกเดินทาง
บทที่สอง : แตกต่าง เหมือนกัน (เรียนรู้วัฒนธรรมมอญ พม่า)
บทที่สาม : Throw up your arms into the sky, You and I (เรียนรู้ประวัติศาสตร์เส้นทางรถไฟสายมรณะ)
บทที่สี่ : อย่าไปคิดว่ามันเป็นวันสุดท้าย (ปั่นจักรยานเที่ยวในเมือกาญจน์แบบชิวๆ)

เริ่ม !!!

บทนำ

"ยินดีด้วยนะคะ น้องได้งานแล้ว เริ่มงานวันที่ 1 กค. นะคะ แล้วเจอกันค่ะ"

สวัสดี

เราเป็นเด็กจบใหม่

มีเวลาว่าง 1 เดือนก่อนการเริ่มทำงาน

เราจึงตัดสินใจใช้เวลา 1 เดือนนี้เที่ยวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนการเข้าสู่วัยทำงานอย่างเต็มตัว
เดือนมิถุนายน จึงเป็น Gap month ของเรา

"แต่มิถุนาฯมัน low season นะ จะมีที่ให้เที่ยวหรอ"
"รถก็ไม่มี จะเที่ยวได้ทั่วถึงหรอ"
นี่เป็น 2 ข้อจำกัดสำคัญครับ ทำให้เราต้องหาข้อมูลที่เที่ยวที่เหมาะกับการเที่ยวในฤดูฝน และไม่ต้องมีรถก็เที่ยวได้
ซึ่งคำตอบของสมการนี้ คือ ...

"สั ง ข ล ะ บุ รี"

หลังจากการหาข้อมูล เราจึงได้กำหนดตารางเที่ยวคร่าวๆดังนี้

ตารางการเที่ยว
5 June 2016 : นั่งรถไฟนำเที่ยวไปสถานีน้ำตก และต่อรถจากสถานีน้ำตกไปสังขละฯ
6 June 2016 : นั่งรถไปด่านเจดีย์สามองค์และเที่ยวฝั่งพม่า แล้วกลับมาเที่ยวฝั่งมอญ
7 June 2016 : นั่งรถกลับตัวเมืองกาญจน์ โดยแวะเที่ยวที่ช่องเขาขาด
8 June 2016 : เที่ยวในตัวเมืองกาญจน์ และกลับ กทม. โดยรถไฟฟรี
อุปกรณ์การชักภาพที่ใช้
- Sony a6000 + Kit Lens 16-50mm (จริงๆเอาเลยส์ fixed 50 1.8 ไปด้วย แต่ไม่ได้ใช้เลย 5555)
- Iphone 4s
สิ่งที่ต้องห้ามลืมเอาไป
- ยากันยุง
- อุปกรณ์การกันแดดตามความถนัดแต่ละคน เช่น ร่ม หมวก ครีมกันแดด
งบประมาณ
- ไม่ได้ตั้งเอาไว้
- แต่ตอนจบใช้ไป 3,800 บาท

ถ้าพร้อมแล้ว ...
ลุย