เป็นกระทู้รีวิว หรือ จะเรียกว่ากระทู้คำถามดี เอาเป็นว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังแล้วกันนะคะ
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา พี่ที่เราสนิทสนมคนนึงได้พาคุณแม่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ด้วยความที่คุณแม่อายุเยอะแล้ว จึงอยากเลือกทัวร์ที่คิดว่าน่าจะสบายที่สุด ยอดจ่ายแพงกว่า เพื่อซื้อบริการที่คาดหวังว่าน่าจะประทับใจ จนได้มาตกลงปลงใจกับบริษัททัวร์ S.B.A.Travel ในสนนราคา 6x,xxx บาท/คน เวลา 5 วัน เรียกได้ว่าแพงกว่าเจ้าอื่นๆ ทั่วๆไปถึง 30% ถามว่ารู้ไหมว่าแพงกว่า พี่เค้ารู้ทั้งรู้ แต่ด้วยความที่คิดว่าอยากได้ทัวร์ดีๆ ไปเลยจึงยอมซื้ออย่างไม่ลังเล
พอถึงวันไปเที่ยว ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร จวบจนกระทั่งวันกลับวันสุดท้ายทางทัวร์พาไปแวะชอปปิ้ง รุ่นพี่เราเค้าก็เลยซื้อรองเท้า โอนิซึกะจำนวน 2 คู่ รุ่นตามนี้
หลังจากชอปกันเสร็จก็หอบหิ้วรองเท้ากล่องใหญ่เบิ้มขึ้นรถทัวร์มา โดยมีไกด์ ลูกทัวร์ หลายๆคนเห็น เพราะแต่ละคนก็มีเม้าท์มอยกันประสาคนไทยไปเที่ยวว่าใครซื้ออะไร อย่างไร พอรถออกจากแหล่งชอปปิ้งก็พาไปแวะทานข้าว ซึ่งโดยปกติการลงไปทานข้าว โดยมากก็จะลงไปแต่ตัวและกระเป๋าติดตัวใบเล็กๆ ไหม คงไม่มีใครหอบหิ้วสิ่งที่ชอปปิ้งใหญ่ยักษ์ลงไปด้วยป่ะ เพราะไหนๆ ก็ขึ้นชื่อว่ามากับทัวร์เกรดพรีเมี่ยม
แต่ปรากฏว่าพอหลังจากกินข้าวเสร็จ ขึ้นรถมาเพื่อเดินทางไปสนามบิน พอถึงสนามบินปรากฏว่าถุงรองเท้าหาย!!!
ทุกคนก็ช่วยกันหา หาบนรถ ถามไถ่สมาขิกทัวร์อย่างไรก็ไม่เจอ จนถึงเวลาเครื่องออก ก็ต้องกลับมาด้วยความเจ็บใจ โดยทางทัวร์ก็ได้แจ้งว่าจะติดตามให้
หลังจากกลับมา ก็ได้พยายามติดต่อทางทัวร์โดยตลอดว่าหาพบไหม อย่างไร และจะมีมาตรการเยียวยาอย่างไร เพราะรองเท้าซื้อจริง หายจริง มีทั้งพยานบุคคล ใบเสร็จ ทางทัวร์ก็ได้เสนอการเยียวยาโดยการจะชดเชยค่ารองเท้าให้ 1 คู่ ซึ่งทางพี่เราบอกไปว่าไม่โอเคเพราะ ได้เงินมาก็ใช่จะหาซื้อรองเท้ารุ่นนี้ได้ในไทย และต่อให้หาซื้อได้ก็ไม่ใช่ราคานี้ และรองเท้าที่หายคือหาย 2 คู่ และมีวลีเด็ดจากเจ้าหน้าทีทัวร์ที่มาต่อรองกับเราว่า
" ถ้าลูกทัวร์ทำซื้อโรเล็กซ์แล้วทำหายทางทัวร์ไม่ต้องรับผิดชอบค่าโรเล็กซ์เหรอ"
ซึ่งไม่รู้ว่าเทียบกล่องรองเท้า 2 กล่อง กับ นาฬิกาโรเล็กซ์ได้อย่างไร เพราะถ้าลูกทัวร์ซื้อนาฬิกา แหวนเพชร หรือ ของมูลค่าสูงๆอย่างนั้น คงไม่มีใครวางทิ้งในรถแน่ อีกทั้งขนาดสินค้าพวกเครื่องประดับ นาฬิกา มันก็ไม่ได้ใหญ่เกินพกพาที่จะติดตัวไป แต่นี่กล่องรองเท้า 2 กล่อง จะให้หอบหิ้วไปกินข้าวในร้านอาหารด้วย ถ้าต้องหอบหิ้วของทุกอย่าง โดยไม่สามารถทิ้งไว้บนรถทัวร์ได้แล้วจะต้องซื้อทัวร์ทำไม ไป Backpack ไม่ดีกว่าเหรอ ประหยัดกว่าตั้งเยอะ ที่ยอมจ่ายแพงก็เพราะต้องการซื้อ Service ซื้อความสบายไม่ใช่เหรอ พี่เราจึงเสนอให้ทางทัวร์ว่าในเมื่อคุณมีทริปทุกสัปดาห์ ขอให้คุณซื้อมาคืนได้หรือไม่ หรือมีแนวทางไหนที่ดีกว่าการคืนเงินค่ารองเท้า 1 คู่ ( ในราคาตามใบเสร็จญี่ปุ่น ) ไหม
หลังจากนั้นปรากฏว่าทางทัวร์กลับโยนเรื่องกันไปมา ผลัดกันมาคุย พี่เค้าขอคุยกับผู้จัดการก็มีการเวียนกันมาเป็นผู้จัดการ ว่าง่ายๆ หาตัวคนรับผิดชอบไม่ได้สักที จนในที่สุดก็ขาดการติดต่อ ไม่รับสาย หายไปกับสายลม จนพี่เราต้องตามแบบนี้
ขนาดขู่ก็แล้วก็ยังไม่แคร์ ไม่สนใจ ไม่ติดต่อกลับใดๆ ในเมื่อตามกับบริษัทฯทัวร์ไม่ได้ โทรไปไม่รับ เมลไปไม่ตอบ พี่เราก็เลยตามในไลน์กรุ๊ปกับทางไกด์ ก็ได้ความตามนี้
จากนั้นไลน์กรุ๊ปของทัวร์ก็โดนลบทิ้งหลังจากนั้น
นับมาได้เกือบ 2 เดือนกับการตามเรื่อง ไร้ซึ่งการติดต่อกลับ ในที่สุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อนอีกคนไปเที่ยวญี่ปุ่น จึงได้ฝากไปซื้อปรากฏว่า สามารถหาซื้อได้แค่คู่เดียว เพราะอีกคู่หาซื้อไม่มีแล้ว
สรุปต้องเสียเงินค่ารองเท้า 3 คู่ เพือได้แค่คู่เดียว แถมต้องซื้อทัวร์ในราคาแพงแต่ได้เซอร์วิสและความปลอดภัยในราคาต่ำ
ถือว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังนะคะ ว่าอย่าคาดหวังว่าทัวร์แพงๆ จะมีคุณภาพและความรับผิดชอบดีตามราคา เพราะบางทีทุกอย่างมันก็สวนทางกันฉะนั้นเอยยยย
[CR] รองเท้าหายบนรถทัวร์ ในทัวร์ญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม กับความรับผิดชอบที่เงียบงัน
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา พี่ที่เราสนิทสนมคนนึงได้พาคุณแม่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ด้วยความที่คุณแม่อายุเยอะแล้ว จึงอยากเลือกทัวร์ที่คิดว่าน่าจะสบายที่สุด ยอดจ่ายแพงกว่า เพื่อซื้อบริการที่คาดหวังว่าน่าจะประทับใจ จนได้มาตกลงปลงใจกับบริษัททัวร์ S.B.A.Travel ในสนนราคา 6x,xxx บาท/คน เวลา 5 วัน เรียกได้ว่าแพงกว่าเจ้าอื่นๆ ทั่วๆไปถึง 30% ถามว่ารู้ไหมว่าแพงกว่า พี่เค้ารู้ทั้งรู้ แต่ด้วยความที่คิดว่าอยากได้ทัวร์ดีๆ ไปเลยจึงยอมซื้ออย่างไม่ลังเล
พอถึงวันไปเที่ยว ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร จวบจนกระทั่งวันกลับวันสุดท้ายทางทัวร์พาไปแวะชอปปิ้ง รุ่นพี่เราเค้าก็เลยซื้อรองเท้า โอนิซึกะจำนวน 2 คู่ รุ่นตามนี้
หลังจากชอปกันเสร็จก็หอบหิ้วรองเท้ากล่องใหญ่เบิ้มขึ้นรถทัวร์มา โดยมีไกด์ ลูกทัวร์ หลายๆคนเห็น เพราะแต่ละคนก็มีเม้าท์มอยกันประสาคนไทยไปเที่ยวว่าใครซื้ออะไร อย่างไร พอรถออกจากแหล่งชอปปิ้งก็พาไปแวะทานข้าว ซึ่งโดยปกติการลงไปทานข้าว โดยมากก็จะลงไปแต่ตัวและกระเป๋าติดตัวใบเล็กๆ ไหม คงไม่มีใครหอบหิ้วสิ่งที่ชอปปิ้งใหญ่ยักษ์ลงไปด้วยป่ะ เพราะไหนๆ ก็ขึ้นชื่อว่ามากับทัวร์เกรดพรีเมี่ยม
แต่ปรากฏว่าพอหลังจากกินข้าวเสร็จ ขึ้นรถมาเพื่อเดินทางไปสนามบิน พอถึงสนามบินปรากฏว่าถุงรองเท้าหาย!!!
ทุกคนก็ช่วยกันหา หาบนรถ ถามไถ่สมาขิกทัวร์อย่างไรก็ไม่เจอ จนถึงเวลาเครื่องออก ก็ต้องกลับมาด้วยความเจ็บใจ โดยทางทัวร์ก็ได้แจ้งว่าจะติดตามให้
หลังจากกลับมา ก็ได้พยายามติดต่อทางทัวร์โดยตลอดว่าหาพบไหม อย่างไร และจะมีมาตรการเยียวยาอย่างไร เพราะรองเท้าซื้อจริง หายจริง มีทั้งพยานบุคคล ใบเสร็จ ทางทัวร์ก็ได้เสนอการเยียวยาโดยการจะชดเชยค่ารองเท้าให้ 1 คู่ ซึ่งทางพี่เราบอกไปว่าไม่โอเคเพราะ ได้เงินมาก็ใช่จะหาซื้อรองเท้ารุ่นนี้ได้ในไทย และต่อให้หาซื้อได้ก็ไม่ใช่ราคานี้ และรองเท้าที่หายคือหาย 2 คู่ และมีวลีเด็ดจากเจ้าหน้าทีทัวร์ที่มาต่อรองกับเราว่า
" ถ้าลูกทัวร์ทำซื้อโรเล็กซ์แล้วทำหายทางทัวร์ไม่ต้องรับผิดชอบค่าโรเล็กซ์เหรอ"
ซึ่งไม่รู้ว่าเทียบกล่องรองเท้า 2 กล่อง กับ นาฬิกาโรเล็กซ์ได้อย่างไร เพราะถ้าลูกทัวร์ซื้อนาฬิกา แหวนเพชร หรือ ของมูลค่าสูงๆอย่างนั้น คงไม่มีใครวางทิ้งในรถแน่ อีกทั้งขนาดสินค้าพวกเครื่องประดับ นาฬิกา มันก็ไม่ได้ใหญ่เกินพกพาที่จะติดตัวไป แต่นี่กล่องรองเท้า 2 กล่อง จะให้หอบหิ้วไปกินข้าวในร้านอาหารด้วย ถ้าต้องหอบหิ้วของทุกอย่าง โดยไม่สามารถทิ้งไว้บนรถทัวร์ได้แล้วจะต้องซื้อทัวร์ทำไม ไป Backpack ไม่ดีกว่าเหรอ ประหยัดกว่าตั้งเยอะ ที่ยอมจ่ายแพงก็เพราะต้องการซื้อ Service ซื้อความสบายไม่ใช่เหรอ พี่เราจึงเสนอให้ทางทัวร์ว่าในเมื่อคุณมีทริปทุกสัปดาห์ ขอให้คุณซื้อมาคืนได้หรือไม่ หรือมีแนวทางไหนที่ดีกว่าการคืนเงินค่ารองเท้า 1 คู่ ( ในราคาตามใบเสร็จญี่ปุ่น ) ไหม
หลังจากนั้นปรากฏว่าทางทัวร์กลับโยนเรื่องกันไปมา ผลัดกันมาคุย พี่เค้าขอคุยกับผู้จัดการก็มีการเวียนกันมาเป็นผู้จัดการ ว่าง่ายๆ หาตัวคนรับผิดชอบไม่ได้สักที จนในที่สุดก็ขาดการติดต่อ ไม่รับสาย หายไปกับสายลม จนพี่เราต้องตามแบบนี้
ขนาดขู่ก็แล้วก็ยังไม่แคร์ ไม่สนใจ ไม่ติดต่อกลับใดๆ ในเมื่อตามกับบริษัทฯทัวร์ไม่ได้ โทรไปไม่รับ เมลไปไม่ตอบ พี่เราก็เลยตามในไลน์กรุ๊ปกับทางไกด์ ก็ได้ความตามนี้
จากนั้นไลน์กรุ๊ปของทัวร์ก็โดนลบทิ้งหลังจากนั้น
นับมาได้เกือบ 2 เดือนกับการตามเรื่อง ไร้ซึ่งการติดต่อกลับ ในที่สุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อนอีกคนไปเที่ยวญี่ปุ่น จึงได้ฝากไปซื้อปรากฏว่า สามารถหาซื้อได้แค่คู่เดียว เพราะอีกคู่หาซื้อไม่มีแล้ว
สรุปต้องเสียเงินค่ารองเท้า 3 คู่ เพือได้แค่คู่เดียว แถมต้องซื้อทัวร์ในราคาแพงแต่ได้เซอร์วิสและความปลอดภัยในราคาต่ำ
ถือว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังนะคะ ว่าอย่าคาดหวังว่าทัวร์แพงๆ จะมีคุณภาพและความรับผิดชอบดีตามราคา เพราะบางทีทุกอย่างมันก็สวนทางกันฉะนั้นเอยยยย