รีวิว | Where to Invade Next | อวย (ต่างชาติ) ไส้แตก แหก (คนบ้านตัวเอง) ได้อีก



รีวิว | Where to Invade Next | อวยไส้แตก แหกได้อีก


เป็นสารคดีที่เปิดฉากอลังการเยี่ยงหนังแอ๊คชั่นของ Jerry Bruckheimer กับพล็อตแหวกแนวที่ตัวผู้กำกับ Michael Moore ขออาสาตะลุยโลก ฉกนโยบายแจ่มแจ๋วจากต่างชาติกลับมาใช้ในบ้านเกิด เรียกว่าหย่อนก้นนั่ง เบาะยังไม่ทันจะบุ๋ม Moore ก็กัดภาพลักษณ์นักบุกรุกของมาตุภูมิซะเยินละ ว่าคราวนี้ไม่ได้มาปล้นน้ำมัน แต่มาสืบเรื่องสำคัญที่ชาติควรใส่ใจ (บ้างสิโว้ย!)

หนังเป็น Postcard Movie คัดสรรนโยบายน้ำดีที่ดูแล้วอาจตาลุกวาวจากหลายประเทศ มาเป็นเส้นขนานเทียบกับเหตุการณ์ใน US บิ้วระดับความจริงจัง เริ่มจากเรื่องเบาหัว เช่น การลางานไม่อั้นของลูกจ้างอิตาเลียน อาหารโรงเรียนฝรั่งเศสคุณภาพคับแก้ว แล้วค่อย ๆ ขยายไปสู่เรื่องที่หนักขึ้น เช่น กฎหมายโปรตุเกสว่าด้วยการใช้ยาเสพติด และสิทธิสตรีเพศในตูนิเซีย

Moore ออกตัวแรงว่าภารกิจนี้ฮีมาเพื่อเก็บดอกไม้ ไม่เอาวัชพืช จึงได้เห็นการอวยต่างชาติจนไส้แตก เพื่อแหกหน้าอเมริกันชนให้พังยับ ช่วงแรกเราขัดใจกับความ ‘โลกสวย’ ของการนำเสนอเนื้อหาแบบ Selective เลือกเฉพาะสิ่งที่สอดรับกับโจทย์ที่ปักธงไว้ก่อนแล้วว่าจะแซะโดยไม่แนะนำบริบทอื่นให้รอบด้าน

แต่ดู ๆ ไปก็เซอร์ไพรส์เพราะหนังไม่ได้เปรียบเทียบตรงตัวเด๋อ ๆ เธอมี-ชั้นไม่มี แต่ยีเนื้อหาได้ลึกกว่านั้น เราอัศจรรย์กับทักษะการเชื่อมโยงของ Moore ที่เยี่ยมจนคนออกข้อสอบ GAT จะต้องกราบกราน เช่น การผูกเรื่องบทเรียนประวัติศาสตร์ยุคนาซีรุ่งโรจน์ที่ชาวเยอรมันต้องจดจำเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำ เข้ากับการชวนให้อเมริกันชนยอมรับตัวตนว่าประเทศเกิดมาจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และระบบทาส อีกตัวอย่างคือการลากเส้นโยงประเด็นมุมมองแบบผ่อนปรนต่อคนเสพยาของโปรตุเกส ที่อ้างว่าช่วยให้ Crime Rate ลดลง มาเทียบกับความเข้มข้นของบทลงโทษในอเมริกาที่พุ่งเป้าจับผู้ต้องหาผิวดำไปเป็นนักโทษค่าแรงต่ำทำงานในคุกให้บริษัทยักษ์ใหญ่ ฮื้ม! จินตนาการกว้างไกลได้อีก

นอกจากนี้หนังยังมองในมุมกว้าง ขยายจากจุดเริ่มต้นเรื่องหนึ่งไปสู่อีกเรื่องหนึ่งอย่างคาดไม่ถึง เช่น กำลังชวนคุยเรื่องความเท่าเทียมทางเพศอยู่ดี ๆ ก็สามารถโยงไปถึงการตีความคำสอนของมุสลิมในมุมใหม่ที่ช่วยให้บริหารประเทศอย่างมีจริยธรรม หรือสัดส่วนผู้นำหญิงที่มีมากในไอซ์แลนด์เปลี่ยนแปลง Dynamic ในที่ทำงาน ยกหลักฐานว่าพวกเธออาจบริหารองค์กรและประเทศได้ดีกว่าผู้ชาย เหมือนเป็นพรายกระซิบว่าเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยนี้ เลือก Hilary Clinton กันมั้ยยูว์! /คิดว่าเห็นอดีตนายกปูในหนังดั๊วะ

หนังใช้ประโยชน์จากผู้กำกับมากกว่าแค่ทักษะการกำกับ ซึ่งรู้ว่าสะกิดต่อมขำยังไงให้แม้แต่คนที่โดนด่าก็ต้องฮาไปด้วย บางครั้งเล่นง่ายใช้ Archive หนังเก่ามาเรียกเสียงหัวเราะ เหยาะด้วยมุขแสบคันผ่าน Fun Facts แทรกตลอดเรื่อง ด้วยความที่ Moore โด่งดังเป็นนักทำหนังเบอร์ใหญ่ ไปไหนคนก็แทบจะจัดขบวนบายศรีต้อนรับ เลยได้คนระดับ CEO บริษัทดังรวมทั้งนายกและรัฐมนตรีมาให้สัมภาษณ์ เพิ่มน้ำหนักให้กับหนังอีกแยะ แต่ไม่ปลื้ม ‘การแสดง’ ของ Moore ที่ทำหน้าช็อคกับทุกสิ่ง เพราะที่จริงลุงก็รู้อยู่แล้วป๊ะ ว่าตัวเองจะมาอวยอะไรเพื่อใช้แหกคนชาติตัวเอง หนูรู้ทัน!

ก็แอบคิดนะ ว่าหนังไม่ได้เกิดมาเพื่อแซะอย่างเดียว แต่คงหวังส่งเสริมให้ชาวอเมริกันสำเหนียกถึงความสำคัญของการขวนขวายเรียนรู้แม้จะอยู่ในตำแหน่ง (ที่คิดว่าตัวเอง) The Best แล้ว เพราะนโยบายดี ๆ ที่ต่างชาติใช้ ก็ได้มาจากUncle Sam แทบทั้งนั้น เราชอบฉากหญิงสาวกล่าวใส่กล้องว่า อเมริกาให้กำเนิดอาวุธเลิศที่สุดคือ Internet เพราะสามารถใช้เสาะหาความรู้ แต่พวกเธอมัวแต่ดู Kardashian Show (โง่จริง ๆ) ฮื้ม! โดนเหยียบหน้ายังไม่ชาเท่าเนี้ย

แม้เป้าหมายหนังจะพุ่งไปที่อเมริกา แต่ประเทศโลกที่สามสี่ห้าอย่างไทยแลนด์ก็ร่วมภารกิจเด็ดดอกไม้ได้ อาจบันดาลใจให้คิดหาวิธีหงายกะลา แล้วช่วยกันพัฒนาประเทศให้ดีขึ้น

เกรด | B+

Directed by Michael Moore

หนังเริ่มฉายวันนี้แบบจำกัดโรงในเครือ SF ดูรายละเอียดเพิ่มเติมน่าสนุกได้ที่ Documentary Club ผู้จัดจำหน่ายหนังหัวก้าวหน้าจ้ะ

ที่มา: https://www.facebook.com/jijabanang
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่