สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็ขอให้ความเห็นบ้างนะครับ
มนุษย์เงินเดือนอย่างผม เงินเดือนออกมาก็โดนหักก่อนเลยก็คือภาษี ถัดมาก็ประกันสังคม
ส่วนในชีวิตประจำวันก็ต้องโดนภาษีจากการบริโภคอยู่แล้ว ซึ่งโดนกันทุกคน
แม้กระทั่งข้าวแกงที่กิน ไม่ได้เก็บภาษีโดยตรง แต่ก็มีภาษีแฝงไปในวัตถุดิบในการผลิดข้าวแกงของแม่ค้า ซึ่งก็เอามาคิดเป็นต้นทุน
แต่ในทางกลับกัน ผมแทบไม่ได้ใช้บริการของภาครัฐเลย มีเพียงต่ออายุบัตรประชาชนเท่านั้น ที่ได้รับบริการฟรี
ส่วนใบขับขี่ ก็มีค่าธรรมเนียม
ผมไปโอน+จำนองที่ดิน (พึ่งซื้อบ้านครับ) ก็เจอค่าธรรมเนียมจากกรมที่ดิน (ถือว่าเป็นภาษีไหม?) ค่าจดจำนอง 1%, ค่าอาการแสตมป์ 0.5%, ค่าโอน 2%
ต่อทะเบียนรถ ก็ต้องเสียภาษี
ทำหนังสือเดินทาง ก็มีค่าธรรมเนียม
อยู่บ้าน ก็มีภาษีเทศบาล เช่น ค่าขยะมูลฝอย
ติดต่อราชการส่วนใหญ่ก็จะเจอค่าธรรมเนียม มีน้อยมากๆที่ทำให้ฟรีๆ
ตำรวจ แจ้งความลงบันทึกประจำวัน ยังมีค่าคัดสำเนา
ฯลฯ
คือกำลังจะบอกว่า คนไทยเรา น่าจะเจอภาษี(ค่าธรรมเนียม)จากราชการ แทบทุกหน่วยงานอยู่แล้ว ซึ่งผมขอมองในมุมของผู้ใช้บริการ และผู้ที่จ่ายภาษีเงินได้ทุกๆเดือนว่า ผมรู้สึกว่าเจอภาษีซ้ำซ้อนค่อนข้างมาก และยังมองไม่เห็นสวัสดิการสังคมต่างๆที่คืนสู่ประชาชนอย่างชัดเจน อาทิเช่น รักษาฟรี แต่ผมก็ไม่ได้ใช้ ไม่ใช่เพราะไม่ป่วย แต่ผมอยู่ในโครงการประกันสังคมที่ต้องเสียเงินเพิ่มอีกต่างหาก และ/หรือ นโยบายอื่นๆที่ภาครัฐออกมา แต่มนุษย์เงินเดือนอย่างผมไม่ได้อยู่ในข่าย เช่น แจกเช็คช่วยชาติ รถคันแรก บ้านหลังแรก ฯลฯ ที่ต้องใช้งานภาษีส่วนรวมของประเทศ ส่วนตัวผมไม่ได้ค้านที่ใช้นโยบายเหล่านี้ เข้าใจว่าทุกรัฐบาลหวังดี ที่จะอัดฉีดเม็นเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ทุกวันนี้ที่ผ่านไป กลับถูกบั่นทอนจิตใจทุกครั้งที่เห็นข่าวการทุจริตของทางภาครัฐค่อนข้างมาก ทั้งข้าราชการๆเมือง และข้าราชการประจำ ทำให้รู้สึกไม่เคยปลี้มใจเลย ที่ต้องเสียภาษี และยิ่งมีข่าวว่าจะโดนเก็บภาษีเพิ่มในรูปแบบต่างๆที่กำลังจะออกมาอีก (เชื่อว่ามีหลายๆคนเห็นด้วยกับผมในเรื่องนี้)
ผมว่า ภาษี ถึงเวลาต้องปรับโครงสร้างทั้งระบบ
เสนอว่า พวกบริการจากภาครัฐฯ ควรจ่ายตามที่ได้ใช้จริงประโยชน์จริงๆ คนใช้ทรัพยากรมาก ใช้บริการภาครัฐมาก ก็ย่อมต้องจ่ายมาก ใช้วิธีเก็บแบบแฟร์ๆไปเลย ท่านไหนใช้บริการมากก็ต้องเจอค่าธรรมเนียมมาก หรือ ใครถือครองทรัพยากรของประเทศมาก ก็ต้องจ่ายมาก ฯลฯ
รวมถึงรายได้ข้าราชการ เช่น กรมขนส่ง กรมที่ดิน ฯลฯ มีรายได้จากค่าธรรมเนียม เงินเดือนของข้าราชาการในกรม ก็ควรหักเอาจากค่าธรรมเนียมที่ได้ แยกเป็นหน่วยงานไปเลยไม่ต้องมากินภาษีส่วนกลาง
ภาษีเหมาจ่าย(ภาษีที่ต้องยื่นแบบทุกปี) ส่วนนี้ควรไว้เป็นส่วนกลางไว้บริหารประเทศ เช่น เป็นสวัสดิการสังคมพื้นฐานการดำรงค์ชีวิต บริการจากภาครัฐที่มีให้ประชาชนฟรีๆ ฯลฯ รวมถึงให้โยบายที่มีประโยชน์ แต่ก็ต้องโปร่งใส มีมาตราฐานให้ประชาชนตรวจสอบได้
อย่างน้อยให้คนอย่างผมคนนึงรู้สึกว่า ภาษีที่จ่ายไปได้ถูกใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าจริงๆ เพราะกว่าจะทำงานได้เงินมาต้องเหนื่อย ต้องดิ้นรนต่อสู้ เงินเดือนออกสิ่งแรกที่โดนหักเลยก็คือ ภาษี ณ ทีจ่าย แน่นอนความหวังของคนจ่ายภาษีคือ เงินจ่ายไปมีประโยชน์ต่อประเทศเต็มๆจริงๆ
มนุษย์เงินเดือนอย่างผม เงินเดือนออกมาก็โดนหักก่อนเลยก็คือภาษี ถัดมาก็ประกันสังคม
ส่วนในชีวิตประจำวันก็ต้องโดนภาษีจากการบริโภคอยู่แล้ว ซึ่งโดนกันทุกคน
แม้กระทั่งข้าวแกงที่กิน ไม่ได้เก็บภาษีโดยตรง แต่ก็มีภาษีแฝงไปในวัตถุดิบในการผลิดข้าวแกงของแม่ค้า ซึ่งก็เอามาคิดเป็นต้นทุน
แต่ในทางกลับกัน ผมแทบไม่ได้ใช้บริการของภาครัฐเลย มีเพียงต่ออายุบัตรประชาชนเท่านั้น ที่ได้รับบริการฟรี
ส่วนใบขับขี่ ก็มีค่าธรรมเนียม
ผมไปโอน+จำนองที่ดิน (พึ่งซื้อบ้านครับ) ก็เจอค่าธรรมเนียมจากกรมที่ดิน (ถือว่าเป็นภาษีไหม?) ค่าจดจำนอง 1%, ค่าอาการแสตมป์ 0.5%, ค่าโอน 2%
ต่อทะเบียนรถ ก็ต้องเสียภาษี
ทำหนังสือเดินทาง ก็มีค่าธรรมเนียม
อยู่บ้าน ก็มีภาษีเทศบาล เช่น ค่าขยะมูลฝอย
ติดต่อราชการส่วนใหญ่ก็จะเจอค่าธรรมเนียม มีน้อยมากๆที่ทำให้ฟรีๆ
ตำรวจ แจ้งความลงบันทึกประจำวัน ยังมีค่าคัดสำเนา
ฯลฯ
คือกำลังจะบอกว่า คนไทยเรา น่าจะเจอภาษี(ค่าธรรมเนียม)จากราชการ แทบทุกหน่วยงานอยู่แล้ว ซึ่งผมขอมองในมุมของผู้ใช้บริการ และผู้ที่จ่ายภาษีเงินได้ทุกๆเดือนว่า ผมรู้สึกว่าเจอภาษีซ้ำซ้อนค่อนข้างมาก และยังมองไม่เห็นสวัสดิการสังคมต่างๆที่คืนสู่ประชาชนอย่างชัดเจน อาทิเช่น รักษาฟรี แต่ผมก็ไม่ได้ใช้ ไม่ใช่เพราะไม่ป่วย แต่ผมอยู่ในโครงการประกันสังคมที่ต้องเสียเงินเพิ่มอีกต่างหาก และ/หรือ นโยบายอื่นๆที่ภาครัฐออกมา แต่มนุษย์เงินเดือนอย่างผมไม่ได้อยู่ในข่าย เช่น แจกเช็คช่วยชาติ รถคันแรก บ้านหลังแรก ฯลฯ ที่ต้องใช้งานภาษีส่วนรวมของประเทศ ส่วนตัวผมไม่ได้ค้านที่ใช้นโยบายเหล่านี้ เข้าใจว่าทุกรัฐบาลหวังดี ที่จะอัดฉีดเม็นเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ทุกวันนี้ที่ผ่านไป กลับถูกบั่นทอนจิตใจทุกครั้งที่เห็นข่าวการทุจริตของทางภาครัฐค่อนข้างมาก ทั้งข้าราชการๆเมือง และข้าราชการประจำ ทำให้รู้สึกไม่เคยปลี้มใจเลย ที่ต้องเสียภาษี และยิ่งมีข่าวว่าจะโดนเก็บภาษีเพิ่มในรูปแบบต่างๆที่กำลังจะออกมาอีก (เชื่อว่ามีหลายๆคนเห็นด้วยกับผมในเรื่องนี้)
ผมว่า ภาษี ถึงเวลาต้องปรับโครงสร้างทั้งระบบ
เสนอว่า พวกบริการจากภาครัฐฯ ควรจ่ายตามที่ได้ใช้จริงประโยชน์จริงๆ คนใช้ทรัพยากรมาก ใช้บริการภาครัฐมาก ก็ย่อมต้องจ่ายมาก ใช้วิธีเก็บแบบแฟร์ๆไปเลย ท่านไหนใช้บริการมากก็ต้องเจอค่าธรรมเนียมมาก หรือ ใครถือครองทรัพยากรของประเทศมาก ก็ต้องจ่ายมาก ฯลฯ
รวมถึงรายได้ข้าราชการ เช่น กรมขนส่ง กรมที่ดิน ฯลฯ มีรายได้จากค่าธรรมเนียม เงินเดือนของข้าราชาการในกรม ก็ควรหักเอาจากค่าธรรมเนียมที่ได้ แยกเป็นหน่วยงานไปเลยไม่ต้องมากินภาษีส่วนกลาง
ภาษีเหมาจ่าย(ภาษีที่ต้องยื่นแบบทุกปี) ส่วนนี้ควรไว้เป็นส่วนกลางไว้บริหารประเทศ เช่น เป็นสวัสดิการสังคมพื้นฐานการดำรงค์ชีวิต บริการจากภาครัฐที่มีให้ประชาชนฟรีๆ ฯลฯ รวมถึงให้โยบายที่มีประโยชน์ แต่ก็ต้องโปร่งใส มีมาตราฐานให้ประชาชนตรวจสอบได้
อย่างน้อยให้คนอย่างผมคนนึงรู้สึกว่า ภาษีที่จ่ายไปได้ถูกใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าจริงๆ เพราะกว่าจะทำงานได้เงินมาต้องเหนื่อย ต้องดิ้นรนต่อสู้ เงินเดือนออกสิ่งแรกที่โดนหักเลยก็คือ ภาษี ณ ทีจ่าย แน่นอนความหวังของคนจ่ายภาษีคือ เงินจ่ายไปมีประโยชน์ต่อประเทศเต็มๆจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
คุณคิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง