สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 60
โรคนี้สามารถดูแลรักษาให้หายได้นะคะ แต่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปด้วย ขอแชร์ประสบการณ์ที่รักษาตัวเองมาหน่อยค่ะ เราทำแบบนี้แล้วหายขาดเลยค่ะ ตอนเป็นหนัก ๆ เราไปกายภาพบำบัดก่อนเลยค่ะ มันช่วยได้เยอะมาก เราเคยไปรักษาหลายที่แต่มาจบที่ Wellnex คลินิกค่ะ https://www.facebook.com/Wellnexclinic ที่นี่รักษาดี ไม่เลี้ยงไข้และราคาเบา ๆ ที่นี่มีนักกายภาพเค้าจะตรวจวิเคราะห์สาเหตุ นวดคลายกล้ามเนื้อ ผ่อนคลายฟีลเหมือนอยู่สปาเลยค่ะ เค้าสอนวิธียืดกล้ามเนื้อที่เราควรทำทุกวันด้วย (อันนี้ก็ดี ควรทำนะคะ) เพราะเราใช้ร่างกายเยอะก็ต้องดูแลเค้าดี ๆ หน่อยค่ะ หลังจากกายภาพจนอาการปวดแทบไม่มีแล้ว เราก็ดูแลตัวเองควบคู่ไปด้วยโดยการยืดกล้ามเนื้อทุกวันก่อนนอนตามที่นักกายภาพเคยสอนเรามา ตรงนี้ใช้เวลาไม่เยอะค่ะ แค่วันละ 5-10 นาทีเท่านั้น ตอนนี้หายขาดจากออฟฟิศซินโดรมแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ สู้ ๆ ค่ะ

ความคิดเห็นที่ 63
ขอมาแชร์เคสตัวเองให้ฟังนะคะ
ปวดบ่า สะบักแขน บางครั้งมือชาๆ มานานมาก ปวดขึ้นคอ กราม ขึ้นขมับ เคยปวดถึงฟัน แต่หมอฟันเอกซเรย์ฟันแล้วบอกไม่มีตรงไหนผุเลย
จุดที่ปวดตรงบ่ากับสะบักอยู่ลึกมากแบบอธิบายไม่ถูก ลึกแบบกดไม่ถึง รู้ว่ามีจุดเจ็บแต่จับไม่เจอ เป็นก้อนๆ ปุ่มๆ ไปทั่วบ่า ใครมาจับก็ว่าแข็งมาก
กลางคืนนอนหลับไม่สนิท กลางวันก็เอาแต่ขยับบ่า/แขน เสียบุคลิกมาก รักษามาทุกทาง แต่ไม่รู้สึกว่าได้ผลเลย
1.หมวดยา - กินยา ฉีดยา ทายา แปะแผ่น (มีแต่กลิ่นเมทอล จนกลบกลิ่นน้ำหอมหมดเลย)
2.หมวดอุปกรณ์ - หมอนนอน หมอนรองคอ รองหลัง รองก้น รองแขน และอีกมากมาย
3.นวดแผนไทยด้วยมือทองจองคิวยาก แต่ก็บรรเทาได้ 2 - 3 วัน / เอาจริงๆพอขับรถออกจากร้านนวดก็เริ่มปวดอีกแล้ว (หมอเก่งนะคะ แค่อาการเราอยู่ลึก และเป็นมากเกินนวดแผนไทยแล้ว)
4.กายภาพตาม รพ.(นอนแผ่นร้อน + อัลตราซาวด์แบบเฉพาะจุด) ตั้งใจไปต่อเนื่องจริงจังอยู่ 2 อาทิตย์ไม่รู้สึกว่ามีอะไรดีขึ้นเลย (เครียดกับการจองคิวและการเดินทางด้วย)
5.หมอบอกให้ขยับตัวทุกชั่วโมง ก็ไม่อินเพราะขยับไปก็ไม่เห็นจะมีอะไรขยับตามซักอย่าง เพราะมันติดไปหมด
6.บิดขี้เกียจคือไร ไม่รู้สึกว่าตัวขี้เกียจมันจะหลุดไปไหนได้เลย
อ่านมาถึงตรงนี้คิดว่าแบบไปออกกำลังกายสิ เอาตรงๆนะ ขี้เกียจ 5555 มีไปออกบ้างแต่ทำแล้วมันทุกข์กว่าไม่ทำ ยิ่งทำยิ่งปวด ยิ่งยืดเหยียดยิ่งปวด (เคยเดิน/วิ่งเสร็จแล้วซักพักปวดบ่า ปวดหัวมาก) เล่นโยคะก็ทำท่าตามได้ไม่เต็มที่
มีเพื่อนแนะนำให้ไปรักษาที่คลินิกเอกชนชื่อ Saldra Artua Clinic พอมาทำที่นี่ รักษาตามกระบวนของเขาเลย ให้ทำไรก็ทำ5555+ ครั้งแรกรู้สึกว่าดีขึ้น มันโดนและทุกครั้งที่มา การรักษาจะก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ มีการปรับใช้อุปกรณ์ที่เหมาะกับอาการที่เป็น ค่อยๆเลาะ / คลายการตึงตัวของกล้ามเนื้อ จุดเจ็บตรงสะบัก ต้นแขน แต่ต้นกำเนิดคือคอ (ที่ไม่เคยมีใครกล้าแตะ เพราะเป็นโซนที่อันตราย)
การรักษาจะครบองค์แบบคลายทั้งตัวและเน้นจุดต้นเหตุเช่นที่คอ อาการดีขึ้นเรื่อยๆ นอนหลับดีขึ้น ตั้งแต่ครั้งที่ 3 - 4 ได้มั้ง อารมณ์ดีเหมือนเดิม (เมื่อก่อนเสาร์ อาทิตย์จะหงุดหงิด ไม่อยากขยับตัวทำอะไร เพราะปวดหัว ปวดบ่า ปวดสะบัก ปวดแขน วุ้ยหงุดหงิด 5555)
ผลจากการรักษามาเดือนครึ่ง ประมาณ 12 ครั้ง อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง อาหารไหล่ห่อดีขึ้น เดิน/นั่ง หลังตรง บุคคลิกดีขึ้น นั่งพิงพนักเก้าอี้ได้ชิดขึ้น นอนหงายได้ นอนหลับได้ (หลับลึกได้นานขึ้น) รู้สึกร่างกายพร้อมที่จะออกกำลังกาย และพอสบายตัว อารมณ์ดี อะไรก็ดีไปหมดจริงๆ
อยากให้ลองดูค่ะ ดีขึ้นจริงๆ ได้ผลระยะยาว ขอแค่เคล็ดลับเดียวคือไปต่อเนื่อง ให้อัตราการคลายกล้ามเนื้อ ลัดเลาะไปทีละชั้น มากกว่าการตึงตัวเพิ่มจากการใช้งานในชีวิตประจำวันของเรา ลองติดต่อเจ้าหน้าที่ดู ให้รายละเอียดครบถ้วน ได้ความรู้กายภาพติดตัวด้วยค่ะ
(มีคนหลังไมค์มาถาม งั้นขออนุญาตแปะนะคะ http://www.saldraartuaclinic.com ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ค่ะ)
ปวดบ่า สะบักแขน บางครั้งมือชาๆ มานานมาก ปวดขึ้นคอ กราม ขึ้นขมับ เคยปวดถึงฟัน แต่หมอฟันเอกซเรย์ฟันแล้วบอกไม่มีตรงไหนผุเลย
จุดที่ปวดตรงบ่ากับสะบักอยู่ลึกมากแบบอธิบายไม่ถูก ลึกแบบกดไม่ถึง รู้ว่ามีจุดเจ็บแต่จับไม่เจอ เป็นก้อนๆ ปุ่มๆ ไปทั่วบ่า ใครมาจับก็ว่าแข็งมาก
กลางคืนนอนหลับไม่สนิท กลางวันก็เอาแต่ขยับบ่า/แขน เสียบุคลิกมาก รักษามาทุกทาง แต่ไม่รู้สึกว่าได้ผลเลย
1.หมวดยา - กินยา ฉีดยา ทายา แปะแผ่น (มีแต่กลิ่นเมทอล จนกลบกลิ่นน้ำหอมหมดเลย)
2.หมวดอุปกรณ์ - หมอนนอน หมอนรองคอ รองหลัง รองก้น รองแขน และอีกมากมาย
3.นวดแผนไทยด้วยมือทองจองคิวยาก แต่ก็บรรเทาได้ 2 - 3 วัน / เอาจริงๆพอขับรถออกจากร้านนวดก็เริ่มปวดอีกแล้ว (หมอเก่งนะคะ แค่อาการเราอยู่ลึก และเป็นมากเกินนวดแผนไทยแล้ว)
4.กายภาพตาม รพ.(นอนแผ่นร้อน + อัลตราซาวด์แบบเฉพาะจุด) ตั้งใจไปต่อเนื่องจริงจังอยู่ 2 อาทิตย์ไม่รู้สึกว่ามีอะไรดีขึ้นเลย (เครียดกับการจองคิวและการเดินทางด้วย)
5.หมอบอกให้ขยับตัวทุกชั่วโมง ก็ไม่อินเพราะขยับไปก็ไม่เห็นจะมีอะไรขยับตามซักอย่าง เพราะมันติดไปหมด
6.บิดขี้เกียจคือไร ไม่รู้สึกว่าตัวขี้เกียจมันจะหลุดไปไหนได้เลย
อ่านมาถึงตรงนี้คิดว่าแบบไปออกกำลังกายสิ เอาตรงๆนะ ขี้เกียจ 5555 มีไปออกบ้างแต่ทำแล้วมันทุกข์กว่าไม่ทำ ยิ่งทำยิ่งปวด ยิ่งยืดเหยียดยิ่งปวด (เคยเดิน/วิ่งเสร็จแล้วซักพักปวดบ่า ปวดหัวมาก) เล่นโยคะก็ทำท่าตามได้ไม่เต็มที่
มีเพื่อนแนะนำให้ไปรักษาที่คลินิกเอกชนชื่อ Saldra Artua Clinic พอมาทำที่นี่ รักษาตามกระบวนของเขาเลย ให้ทำไรก็ทำ5555+ ครั้งแรกรู้สึกว่าดีขึ้น มันโดนและทุกครั้งที่มา การรักษาจะก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ มีการปรับใช้อุปกรณ์ที่เหมาะกับอาการที่เป็น ค่อยๆเลาะ / คลายการตึงตัวของกล้ามเนื้อ จุดเจ็บตรงสะบัก ต้นแขน แต่ต้นกำเนิดคือคอ (ที่ไม่เคยมีใครกล้าแตะ เพราะเป็นโซนที่อันตราย)
การรักษาจะครบองค์แบบคลายทั้งตัวและเน้นจุดต้นเหตุเช่นที่คอ อาการดีขึ้นเรื่อยๆ นอนหลับดีขึ้น ตั้งแต่ครั้งที่ 3 - 4 ได้มั้ง อารมณ์ดีเหมือนเดิม (เมื่อก่อนเสาร์ อาทิตย์จะหงุดหงิด ไม่อยากขยับตัวทำอะไร เพราะปวดหัว ปวดบ่า ปวดสะบัก ปวดแขน วุ้ยหงุดหงิด 5555)
ผลจากการรักษามาเดือนครึ่ง ประมาณ 12 ครั้ง อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง อาหารไหล่ห่อดีขึ้น เดิน/นั่ง หลังตรง บุคคลิกดีขึ้น นั่งพิงพนักเก้าอี้ได้ชิดขึ้น นอนหงายได้ นอนหลับได้ (หลับลึกได้นานขึ้น) รู้สึกร่างกายพร้อมที่จะออกกำลังกาย และพอสบายตัว อารมณ์ดี อะไรก็ดีไปหมดจริงๆ
อยากให้ลองดูค่ะ ดีขึ้นจริงๆ ได้ผลระยะยาว ขอแค่เคล็ดลับเดียวคือไปต่อเนื่อง ให้อัตราการคลายกล้ามเนื้อ ลัดเลาะไปทีละชั้น มากกว่าการตึงตัวเพิ่มจากการใช้งานในชีวิตประจำวันของเรา ลองติดต่อเจ้าหน้าที่ดู ให้รายละเอียดครบถ้วน ได้ความรู้กายภาพติดตัวด้วยค่ะ
(มีคนหลังไมค์มาถาม งั้นขออนุญาตแปะนะคะ http://www.saldraartuaclinic.com ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ค่ะ)
ความคิดเห็นที่ 72
เรื่องแบบนี้จะเรียกว่ายังไงดี เราว่าหาหมอหรือไปนวด กินยาก็ช่วยได้ แต่คงไม่หายขาดนะถ้าเราไม่เปลี่ยนพฤติกรรมหลายๆอย่างเหมือนที่คอมเม้นอื่นๆ เช่น เรื่องท่าทางการนั่งทำงาน โต๊ะ เก้าอี้ การวางแขนและก้มหน้าเงยหน้า หรือแม้กระทั่งการเลือกกินอาหาร ความเครียดการพักผ่อน แต่ถ้า ณ วันนี้ คุณต้องการจะเปลี่ยนแปลงจริงๆ และอยากหาวิธีการบำบัดหรือรักษาอาการเพื่อให้ช่วงนี้อาการดีขึ้น และจะไม่กลับไปทำพฤติกรรมแบบเดิมซ้ำๆอีก ก็แนะนำการฝังเข็ม ครอบแก้วนะ เพราะวิธีนี้ช่วยเรื่องการบาดเจ็บหรืออาการปวดเมื่อย และคลายกล้ามเนื้อได้ดีเลย เราไปทำอยู่ช่วงนึงบอกเลยว่าสบายตัวมาก เหมือนหายแบบหายไปเลย เหมือนเราเป็นไข้แล้วเราหายไข้อ่ะ ดีขึ้นมาก
จากนั้นมาเราลงทุนเปลี่ยนเก้าอี้ที่นั่งทำงาน แล้วก็ซื้อโต๊ะที่มันปรับระดับได้มานั่งทำงานที่บ้าน เพราะอย่างเรา WFH นั่งทำงานนานๆ พอมีเวลาเดินบ้างเราก็เดินออกไปยืดเส้นยืดสาย ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้านบ้าง จะช่วยได้เยอะค่ะ เรารักษาที่ imi wellness แถวๆบางแคเลยค่ะ ซอยเพชรเกษม 94 ใกล้ๆบ้านเราเลย
จากนั้นมาเราลงทุนเปลี่ยนเก้าอี้ที่นั่งทำงาน แล้วก็ซื้อโต๊ะที่มันปรับระดับได้มานั่งทำงานที่บ้าน เพราะอย่างเรา WFH นั่งทำงานนานๆ พอมีเวลาเดินบ้างเราก็เดินออกไปยืดเส้นยืดสาย ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้านบ้าง จะช่วยได้เยอะค่ะ เรารักษาที่ imi wellness แถวๆบางแคเลยค่ะ ซอยเพชรเกษม 94 ใกล้ๆบ้านเราเลย
ความคิดเห็นที่ 71
ออฟฟิศซินโดรม ถ้าตอนแรกที่ยังเป็นไม่มาก สามารถหายได้จากการปรับพฤติกรรมนะคะ โรคนี้มันเกิดจากเรามีพฤติกรรมไม่ถูกต้อง ทำให้มีกลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรม แต่ถ้าปล่อยไว้นานๆ ไม่ยอมรักษาหรือปรับพฤติกรรม มันก็จะพัฒนาไปเป็นโรคอื่นที่รุนแรงได้
โดยเฉพาะโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อันนี้ก็ถือว่าเป็นโรคนึงในกลุ่มออฟฟิศซินโดรม ซึ่งตัวเราก็เคยเป็นค่ะ กว่าจะหายมาได้ทรมานแทบตาย โชคดีที่เลือกไปรักษาที่โรงพยาบาลเอสสไปน์ หมอบอกว่าเส้นประสาทยังโดนทับไปไม่มาก สามารถใช้วิธีจี้เลเซอร์เอาออกได้ การรักษาก็ไม่ยุ่งยากค่ะ หลังจี้เลเซอร์เสร็จเขาให้นอนโรงพยาบาลคืนนึง พอหลังทำเสร็จตื่นเช้ามา รู้สึกได้เลยว่าหายปวดหลังแล้ว จากนั้นก็กลับมาอยู่บ้าน ไม่กี่วันก็สามารถใช้ชีวิตทุกอย่างได้ตามปกติเลย หรือถ้าคนที่เป็นหนักมาก ถ้าจี้เลเซอร์ไม่ไ่ด้ ก็จะมีอีกวิธีหนึ่งเป็นการผ่าตัด โดยใช้วิธีส่องกล้องเอ็นโดสโคป อันนี้ไม่น่ากลัวเพราะแผลเล็กมากขนาดแผลเท่ากับหัวปากกาอ่ะ
คนเป็นออฟฟิศซินโดรมมารักษาที่นี่เยอะค่ะ เพราะอาการอื่นๆเกี่ยวกับออฟฟิศซินโดรมที่โรงพยาบาลนี้เขาก็มีให้คำแนะนำนะคะ ลองไปปรึกษาดูได้
โดยเฉพาะโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อันนี้ก็ถือว่าเป็นโรคนึงในกลุ่มออฟฟิศซินโดรม ซึ่งตัวเราก็เคยเป็นค่ะ กว่าจะหายมาได้ทรมานแทบตาย โชคดีที่เลือกไปรักษาที่โรงพยาบาลเอสสไปน์ หมอบอกว่าเส้นประสาทยังโดนทับไปไม่มาก สามารถใช้วิธีจี้เลเซอร์เอาออกได้ การรักษาก็ไม่ยุ่งยากค่ะ หลังจี้เลเซอร์เสร็จเขาให้นอนโรงพยาบาลคืนนึง พอหลังทำเสร็จตื่นเช้ามา รู้สึกได้เลยว่าหายปวดหลังแล้ว จากนั้นก็กลับมาอยู่บ้าน ไม่กี่วันก็สามารถใช้ชีวิตทุกอย่างได้ตามปกติเลย หรือถ้าคนที่เป็นหนักมาก ถ้าจี้เลเซอร์ไม่ไ่ด้ ก็จะมีอีกวิธีหนึ่งเป็นการผ่าตัด โดยใช้วิธีส่องกล้องเอ็นโดสโคป อันนี้ไม่น่ากลัวเพราะแผลเล็กมากขนาดแผลเท่ากับหัวปากกาอ่ะ
คนเป็นออฟฟิศซินโดรมมารักษาที่นี่เยอะค่ะ เพราะอาการอื่นๆเกี่ยวกับออฟฟิศซินโดรมที่โรงพยาบาลนี้เขาก็มีให้คำแนะนำนะคะ ลองไปปรึกษาดูได้
แสดงความคิดเห็น
ออฟฟิศซินโดรม รักษาที่ไหนหายขาด